ตอนที่18 ช่วยข้าเรื่องหนึ่ง
1/
ตอนที่18 ช่วยข้าเรื่องหนึ่ง
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่18 ช่วยข้าเรื่องหนึ่ง
ตนที่18 ช่วยข้าเรื่องหนึ่ง “บ่าวไม่ได้หนี บ่าวแค่คิดถึงท่าน เลยออกมาตามหาท่าน”หลินซีนเยียนรู้สึกเสี่ยวสันหลัง เริ่มมีเหงื่อออก ใบหน้าของนางยังคงยิ้มไม่หุบ แต่ในหัวกำลังคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้อย่างสุดชีวิต “บ่าว...”โม่จื่อฟงยิ้มอย่างดีใจ“ที่แท้เจ้ายังรู้ว่าเป็นเพียงแค่บ่าวของเปิ่นหวาง...” หลินซีนเยียนยิ้มเก้อ รู้สึกว่ามือที่จับลำคอของตนเองเริ่มจะบีบแน่นขึ้น ตอนนี้แผ่นหลังได้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อ๋องอู่เสวียนเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก สำหรับเขาแล้ว ชีวิตของนางเป็นเพียงใบหญ้า แค่ขยับนิ้วมือก็เด็ดออกมาอย่างง่ายดาย ใช่แล้ว เมื่อก่อนตอนที่อยู่หอพัก ยัยทอมนั่นเคยพูดกับนางว่า “ตอนที่ผู้ชายชวนทะเลาะ วิธีที่ดีที่สุด คือใช้ปากประกบปากของเขา หลังจากนั้น ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว...” เพียงแต่ ใช้ปากประกบปากของโม่จื่อฟง? หลินซีนเยียนมองไปที่ปากของเขาอย่างไม่รู้ตัว ปากที่บางของเขา ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มคล้ายกับหยก นางกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว หายใจลึกๆ ๆ ในที่สุดก็กัดฟัน และยื่นหน้าไปประกบปากของเขา สาม... สอง... หนึ่ง... ริมปากแดงที่ประกบกันเพียงชั่วครู่ ในที่สุดนางก็หยุด จะให้นางบังคับฝืนจูบผู้ชาย คงเป็นเรื่องที่ยากเกินไป “เจ้า จะทำอะไรต้องทำให้ถึงที่สุด!” น้ำเสียงของโม่จื่อฟงเต็มไปด้วยความเศร้า สักพัก เขาก็กัดปากของนาง การกระทำของเขาโหดเหี้ยมมาก พอปากประกบก็ทำให้ปากของนางเลือดออกซิบๆ เขากลับไม่สนใจความรู้สึกของนาง เพียงบังคับสอดแทรกเข้าไปในปากของนาง กลิ่นคาวเลือดในปาก ยิ่งนานกลิ่นยิ่งแรงขึ้น ในช่วงขณะนั้น ในหัวของหลินซีนเยียนว่างเปล่า ตอนที่รอจังหวะตอบโต้กลับไป โม่จื่อฟงก็นอนทับร่างนางทันที ในรถม้า เกิดมรสุมแห่งการเล้าโลมขึ้น นอกรถม้า จินมู่ที่ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครม ถอนหายใจอย่างยอมรับชะตากรรม หลังจากนั้นก็สั่งให้องครักษ์ทั้งหมดยืนห่างออกไปสิบจั้ง ขบวนรถม้าสิบกว่าคัน หยุดนิ่งอยู่กลางถนนอย่างแปลกประหลาด รถม้าคันหนึ่งที่อยู่แถวหน้า ในระยะสิบจั้ง ไม่มีคนยืนล้อมรถม้าคันนั้นเลยคนเดียว ในระยะสิบจั้งออกไปกลับมีกลุ่มองครักษ์ยืนเรียงแถวติดกัน ในรถม้าที่อยู่กลางขบวน เซียวฉางเยว่ที่สวมชุดผ้าลายปักสีแดง เปิดม่านออกมาดู เห็นขบวนรถม้าหยุดจึงสอบถามองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ“ข้างหน้าเกิดเรื่องอะไรรึ?เหตุใดถึงหยุด ไม่เคลื่อนขบวน?” องครักษ์คนนั้นส่ายหน้า ถึงแม้จะทราบ ก็ไม่มีคำตอบให้นาง เซียวฉางเยว่สีหน้ายังคงปกติ เพียงหันไปหาเซียวอวิ๋นฉินที่อยู่ข้างๆ “อวิ๋นฉิน เจ้าลองไปดูสิ ว่าข้างหน้าเกิดเรื่องอะไร” “ได้”เซียวอวิ๋นฉินตอบรับ สาวใช้ประคองนางลงจากรถม้า แล้วเดินไปข้างหน้าขบวน ผ่านไปไม่นาน เซียวอวิ๋นฉินก็กลับมา ตอนที่เดินกลับมา ฝีเท้าเร่งรีบกว่าตอนไป พร้อมมีสีหน้าไม่ค่อยดี “ เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าถึงอารมณ์เสียอย่างนี้?”เซียวฉางเยว่ขมวดคิ้ว ในน้ำเสียงแสดงถึงความใจร้อนอยู่สองส่วน เซียวอวิ๋นฉินขึ้นรถม้า และกระซิบที่ข้างหูของเซียวฉางเยว่ ใบหน้าของเซียวฉางเยว่เริ่มบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าดุร้าย “ไม่ เป็นไปไม่ได้!เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร?นี่มันกลางถนนนะ มีผู้คนมากมายผ่านไปมา เขา เขาจะกล้าได้อย่างไร...”เซียวเยว่ฉางโกรธจนตัวสั่น สองมือกำแน่น ที่นิ้วมือของนางเริ่มขาวซีดไร้เส้นเลือดฝาด “ข้าก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขาจะทำ ไร้ศีลธรรมยิ่งนัก!น่า น่าไม่อาย...” เซียวอวิ๋นฉินยังพูดไม่จบ ก็ถูกเซียวฉางเยว่เอามือปิดปาก“ห้ามพูดเหลวไหล!ไม่เห็นรึ ว่าที่นี่คือที่ไหน!” เซียวอวิ๋นฉินโดนปิดปาก แต่ในสายตาแสดงถึงความโกรธเคือง เพียงไม่รู้ว่าในความลำเอียงนี้ มีความจริงใจอยู่หลายส่วน“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำอะไรได้?หรือจะให้ดูนางจิ้งจอกนั่นกับท่านอ๋องทำเรื่องบัดสีกลางถนนรึ?” เซียวฉางเยว่ไม่ได้พูดอะไร ผ่านไปสักพัก กัดฟันแน่นและเปิดปากพูด“ไป พวกเราไปดูกัน!” สายลมพัดไม่แรง แต่กลับรู้สึกหนาวเย็น สายลมพัดผ่านช่องเล็กของม่านเข้ามาในรถม้า กลิ่นหอมไม้จันทร์ในรถม้าล้วนฟุ้งกระจายไปทั่ว บุรุษลุกขึ้นจากบนร่างของสตรี จัดเสื้อคลุมของตนเองอย่างไม่รีบร้อน ผ่านไปไม่นาน เขาก็เปลี่ยนมาเป็นอ๋องอู่เสวียนโม่จื่อฟงผู้สูงศักดิ์ท่านนั้น หลินซีนเยียนรู้สึกหนาวจึงนั่งขดตัว สายตามองลงไปยังเศษเสื้อผ้าที่โดนฉีกขาดอยู่รอบๆ ตัว ใบหน้าเริ่มโกรธจนเขียว ชายผู้นี้พอเข้าสู่ช่วงลึกซึ้งมักจะฉีกเสื้อผ้าบนตัวของนางขาดจนหมด ตอนนี้ เสื้อผ้าของนางไม่มีจะสวมใส่แล้ว นางกัดฟัน อดทนในความเจ็บปวดบนร่างกาย และลุกขึ้นมานั่งพิงตรงมุมอย่างระมัดระวัง บนใบหน้ายังไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย“ ท่านอ๋อง ท่านอยากจะให้ข้าอวดเรือนร่างเปลือยเปล่าเดินลงจากรถม้าอย่างงั้นรึ? ” โม่จื่อฟงนั่งพิงข้างหน้าต่างอย่างเกียจคร้าน สีหน้าแสดงออกถึงความพึงพอใจที่ได้ปลดปล่อยความปรารถนา บางทีเมื่อได้ความพึงพอใจ พฤติกรรมชั่วร้ายของเขาได้ลดหย่อนลงมาน้อย เขามองไปที่นาง ขมวดคิ้วแล้วมองไปยังรอยฟกช้ำที่น่ากลัวบนทั่วร่างของนาง แค่พริบตาเดียว คิ้วของเขาก็คลายออก“เจ้าไม่ต้องลง พอถึงอี้ก่วนแล้ว จะมีคนนำชุดมาให้เจ้า ” อี้ก่วน คือ เป็นที่พักม้าและสถานเป็นที่พักผ่อนของคนในราชสำนัก “ท่านอ๋อง...”เสียงใสๆ ของหลินซีนเยียน ตอนที่พูดกลับรู้สึกว่าคอแห้งจนมีเสียงแหบ“ท่านช่วยข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่?” “ช่วยรึ?”โม่จื่อฟงรู้สึกว่าน่าขัน“ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาต่อรองถึงมาขอให้ข้าช่วย?ฐานะของบ่าวคนหนึ่ง?ทำไมเปิ่นหวางต้องช่วยเจ้า? ” หลินซีนเยียนรู้ว่าขอความช่วยเหลือจากโม่จื่อฟงราวกับไปขอหนังกับเสือ แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นจึงมาขอให้เขาช่วย “เพียงท่านอ๋องรับปากจะช่วยข้า ต่อไปข้าจะยอมเป็นคนของท่านอ๋อง จากนี้ไปจะซื่อสัตย์กับท่านเพียงผู้เดียว นอกจากท่านอ๋องจะเบื่อข้า มิเช่นนั้นข้าจะหนีไปจากท่าน!” “เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีรอดรึ?”โม่จื่อฟงพูดเสียงเย็นชา หลินซีนเยียนมีสีหน้าขาวซีด แต่ไม่มีอาการตื่นกลัว “หนีไม่รอด แต่ตายได้ หรือว่าข้าไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะตายรึ?หรือว่าท่านอ๋องอยากครอบครองร่างศพข้า? ท่านอ๋อง ข้าเพียงขอให้ท่านช่วยข้า ข้าขอให้ท่านช่วยจัดการเรื่องหนึ่ง จากนี้ไป ข้าจะยินยอมเป็นทาส!” “ยินยอมเป็นทาส...”โม่จื่อฟงพูดพึมพำ ทันใดนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นถาม“ลองว่ามา เรื่องอะไร?” หลินซีนเยียนได้ยินที่เขาถาม ใบหน้าก็แสดงความดีอกดีใจ“สำหรับท่านอ๋องแล้ว ถือเป็นเรื่องเล็กมาก จวนที่อยู่ตรงทางโค้งข้างหน้า คหบดีหลิวได้ซื้อเด็กชายคนหนึ่งไป ข้าอยากให้ท่านอ๋องช่วยเด็กชายคนนั้น” “เด็กชาย?”โม่จื่อฟงไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพียงใช้นิ้วเคาะที่ไม้ลายฉลุบนหน้าต่างเบาๆ“เด็กชายคนนั้นเป็นอะไรกับเจ้า?คู่ควรกับที่เจ้ายอมสละตนเองไปช่วยหรือไม่?” หลินซีนเยียนอยากจะพูดว่าไม่เคยเจอหน้ามาก่อน แต่นางเปลี่ยนคำพูดใหม่“เป็นน้องชายที่พลัดพรากจากกันมาหลายปี น้องชายแท้ๆ!” ตามสัญชาตญาณที่ขี้สงสัยของโม่จื่อฟง ไม่เชื่อนางจะยอมสละตนเองเพื่อช่วยเด็กแปลกหน้าคนหนึ่งแน่ๆ ก่อนจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ไม่สู้ให้คำตอบที่เขาต้องการดีกว่า
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่18 ช่วยข้าเรื่องหนึ่ง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A