ตอนที่44 ปล่อยมือไปสู้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่44 ปล่อยมือไปสู้
ต๭นที่44 ปล่อยมือไปสู้ หลินซินเยียนยังไม่ทันหันร่างกลับ มู่เหอก็ก้าวนำขึ้นเบื้องหน้าของนาง หลิวหลีแค่นเสียงเย็น หันกลับไปออดอ้อนกับฮูเหยียนหลิวหยุน “องค์ชาย เมื่อคืนวานมิใช่องค์ชายกล่าวว่าหม่อมฉันเป็นสตรีซึ่งงามที่สุดในใต้หล้ามิใช่หรือเพคะ เช่นไรวันนี้จึงเปลี่ยนพระทัยเสียแล้ว หลิวหลีมิยินยอมนะเพคะ ท่านโปรดดูให้ถี่ถ้วน เป็นหม่อมฉันที่ดูดีหรือนางที่ดูดีกันแน่เพคะ” ฮูเหยียนหลิวหยุนขี่ม้าวนรอบอยู่เบื้องหน้าของหลินซินเยียน และขวางทางของนางไว้ เขามองดูนางและมองดูหลิวหลี “ข้าองค์นั้นยังไม่สามารถบอกได้ ถ้าเช่นไรพวกเจ้าถอดเสื้อผ้าให้ข้าดูได้ชัดเจนดีหรือไม่?” คำพูดที่น่ารังเกียจเช่นนี้ ถูกเขากล่าวออกมาอย่างไร้ศีลธรรม ณ กลางถนน เหล่าคุณชายที่อยู่ด้านหลังพลันหัวเราะขึ้นมาเสียงดังลั่น หลิวหลีกลับดูเหมือนจะชินกับคำหยอกล้อของเขา กระทั่งใบหน้าก็มิได้เปลี่ยนสีแต่กลับกลอกตา แส้ในมือถูกกระตุ้นด้วยความมุ่งร้าย “องค์ชาย ท่านคงร้ายกาจที่สุดแล้ว” “บุรุษไม่ร้าย สตรีไม่รัก ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบที่ข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างเลวทรามที่สุดหรือ?” ฮูเหยียนหลิวหยุนรูปงามมาแต่กำเนิด ดวงตาคมเฉี่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์สะกด ในยามที่เขากล่าววาจาเข้าไปใกล้เบื้องหน้าหลิวหลี ทำให้หลิวลียิ้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์ "ช่างหยาบคาย! ท่านองค์ชาย ความคิดของท่านหม่อมฉันว่าไม่เลวเลย สตรีที่เกิดมาหน้าตาสะสวยนับว่าไม่น้อย แต่ทว่าที่รูปร่างดีผิวดีนั้น กลับไม่ใช่หญิงงามทุกคนที่จะมีได้ ท่านอยากชม หม่อมฉันหลิวหลีก็อยากที่จะชมเพคะ บนถนนสายนี้ หากองค์ชายไม่สะดวกลงมือ หรือจะให้หลิวหลีลงแรงแทนเพคะ" หลิวหลีกล่าวในขณะที่กำลังยกแส้ขึ้นมา กระตุกเข้าหาหลินซินเยียนอย่างมุ่งร้าย แส้สายนั้นเป็นการจงใจเฆี่ยนเพื่อฉีกกระฉากเสื้อผ้าหลินซินเยียน กล้าทำเรื่องเช่นนี้อย่างเปิดเผย หลิวหลีนั้นใจกล้าไม่เบา ทว่าความกล้าของนางนั้นย่อมมีการพึ่งพา หลินซินเยียนยิ้มเย็น ผู้คุ้มกะลาหัวของหลิวหลีกลับไม่ใช่น้อย มู่เหอเดิมที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของหลิ่วลั่วเยียน ดังนั้นในตอนที่แส้โจมตีเข้ามา จึงปะทะเข้ากับหน้าเขาโดยตรง เด็กอายุสิบปีกว่ากลับไม่มีความหวาดกลัว อีกทั้งยังจับแส้ให้หยุดด้วยมือเปล่า หลังจากที่กระชากด้วยความดุดัน นึกไม่ถึงว่าจะดึงหลิวหลีลงจากหลังม้า “เจ้าเด็กรับใช้! เจ้ากล้า!” ฮูเหยียนหลิวหยุนตะโกนลั่น เหินกายมารับหลิวลีที่กำลังจะร่วงหล่นไว้ในอ้อมอก ยังไม่ลืมที่จะเข้าไปเตะมู่เหอ วรยุทธ์มู่เหอไม่เลว หลบหลีกการโจมตีของเขา “ย่าห์ ยังกล้าหลบเท้าของข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ!” ฮูเหยียนหลิวหยุนจ้องด้วยความโกรธแค้น “พวกเจ้ารออะไรกันอยู่ ลงมือให้สาหัสเดี๋ยวนี้!” “พะยะค่ะ พวกเราไม่เคยได้ลงมือมาเสียนาน!” อู่ฉือเริ่มออกนำกวักมือเรียกเหล่าผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังทยอยกระโดดลงจากหลังม้ามาล้อมมู่เหอ มู่เหอคุ้มกันหลินซินเยียนที่อยู่ด้านหลังอย่างระมัดระวัง พลางถอยไปพูดไป "แม่นาง ข้าจะถ่วงพวกมันไว้สักครู่ ท่านจงรีบหนีไป" “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ เจ้าจะถ่วงพวกมันไว้อย่างไร? พวกมันจะได้ทุบตีเจ้าตายน่ะสิ” หนุ่มน้อยรายนี้มักจะอยู่เบื้องหน้าตนเพื่อปกป้องอยู่เสมอ บางครั้ง แม้กระทั่งนางเองก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมกระต่ายน้อยสีขาวที่ใสซื่อบริสุทธิ์เช่นนี้จึงโม่จื่อเฟิงหน้าซื่อใจคดเยี่ยงนั้นได้ “แม่นาง ข้ามาเพื่อคุ้มครองท่าน แน่นอนว่าชีวิตท่านย่อมต้องสำคัญที่สุด ข้าไม่เป็นไร” มู่เหอย่ำกระทืบเท้าพลันพลุ่งเข้าใส่กลุ่มคุณชายเหล่านั้น หลินซินเยียนรั้งไว้ไม่ทัน เห็นมู่เหอได้เข้าประทะฝีมือเข้ากับเหล่าคุณชาย สองกำปั้นยากที่จะต่อกรกับสี่มือ ต่อให้วรยุทธ์มู่เหอไม่ได้อ่อนแอ แต่เด็กหนุ่มที่มีศักยภาพเหล่านี้ได้เคยฝึกฝนพิเศษมาแต่วัยเยาว์ ไม่ว่าผู้ใดก็ฝีมือมิใช่เล่น ทว่าการต่อสู้ในชั่วพริบตานั้นมู่เหอก็ถูกทุบตีล้มลงกับพื้น ภายใต้การถูกรุมล้อม หลายคนเพิ่มรัวกำปั้นฉับพลัน โดยไม่สนว่าเรี่ยวแรงในการลงมือนั้นอาจจะสามารถฆ่าคนตายได้ “พวกเจ้าหยุดมือ!” หลินซินเยียนตะโกนขึ้นทันควัน แต่ทว่าไม่มีผู้ใดสนใจนาง นางกัดฟันพลันวิ่งไปยังเบื้องหน้าของฮูเหยียนหลิวหยุนด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับตะโกน "รีบสั่งให้พวกเขาหยุดมือ!" นางทราบดี เพียงแค่ฮูเหยียนหลิวหยุนเอ่ยปาก คนเหล่านี้จึงจะเชื่อฟัง “ข้าไม่หยุด! กล้าดีอย่างไรมารังแกผู้หญิงของข้า ชีวิตน้อยๆของมันยังถูกไปด้วยซ้ำ” ฮูเหยียนหลิวหยุนแค่นเสียงเย็น จึงผละจากหลิวหลีที่กำลังกอดครั้นแล้วจึงยื่นมือมาเชยคาของนาง “หรือไม่ เจ้าตามมากับข้า แล้วข้าค่อยพิจารณาปล่อยเขาไปดีหรือไม่?” “มารดาแกเถอะ! พ่องสิ!” หลินซินเยียนปัดมือที่ไม่เหมาะสมของเขาออก บนใบหน้าสาดประกายความแข็งกร้าว นางไม่ถอยแต่กลับเข้ามาใกล้ ด้วยเคล็ดลับที่ผู้หญิงทุกคนชอบใช้ โดยการใช้เข่าทิ่มไปยังส่วนที่เปราะบางมากที่สุดของผู้ชาย การเคลื่อนไหวท่าทางเช่นนี้น่าอนาจารเป็นที่สุด เหล่าสตรีในสังคมแห่งนี้ไม่สามารถที่จะใช้เคล็ดลับได้กับตรงส่วนนั้นของบุรุษ อย่าว่าแต่การใช้ร่างกายไปทิ่มโดยตรงเลย แม้กระทั่งจะมองก็ยังมองไปตรงส่วนนั้นตรงๆก็ยังไม่ได้ ดังนั้น ฮูเหยียนหลิวหยุนจึงไม่มีทางจะคิดได้ว่านางจะโจมตีอย่างหยาบกระด้างเช่นนี้ เพราะฉะนั้นในระว่างช่วงนั้นเขาจึงคิดไม่ถึงว่านางจะลอบโจมตี “อู้ววว” ฮูเหยียนหลิวหยุนเหงื่อไหลเย็นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กุมท่อนล่างพลันสะดุ้งด้วยความวิตก ในยามที่มองหลินซินเยียนอีกครั้ง สายตาได้เต็มไปด้วยจิตสังหาร น่าเสียดายที่เขายังคงดูถูกหลินซินเยียน ในช่วงที่เขายังไม่ทันตอบโต้ หลินซินเยียนเคลื่อนมาตามติด นางโจมตีไปครั้งเดียวยังไม่พอ มือทั้งสองยังกดจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาแล้วจึงดึงร่างเขาต่ำลงหลังจากนั้นเข่าของนางก็สวนเข้าไปในส่วนที่เปราะบางที่สุดของเขาเป็นครั้งที่สอง “บอกให้พวกเขาหยุดมือ ไม่อย่างนั้นข้ารับประกันได้เลยว่าถ้าทิ่มเข้าไปครั้งต่อไป ชั่วชีวิตนี้เจ้าจะเป็นได้แค่ขันที!” นี่คือการคุกคามของลับ หลินซินเยียนอธิบายได้อย่างไม่ต้องสงสัย “เจ้ากล้า!” “เจ้าก็ลองดูว่าข้ากล้าหรือไม่?!” ไม่อาจรับได้ เลือกอย่างไรก็น่าตายทั้งสิ้น เช่นนั้นก็ต้องปล่อยไป สุนัขแตกตื่นยังกระโดดข้ามกำแพงได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่มีชีวิตอยู่ (ปล่อยมือจากหม้อแตกไม่อาจทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้ ไร้ซึ่งทางเลือกใดๆ ทำได้แค่ปล่อยให้เป็นไป ยอมรับชะตากรรม) ฮูเหยียนหลิวหยุนขบกรามจ้องมองนาง เห็นนางสีหน้าจริงจังที่ดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น เขาพลันตระหนกว่านางนั้นสามารถทำได้อย่างที่กล่าว ใบหน้าเขาบิดเบือน แต่ทว่าท้ายที่สุดยังได้คำรามเสียงต่ำสั่ง "หยุดมือ!" คุณชายเหล่านั้นผงกศีรษะขึ้นหันกลับไปขณะที่กำลังทุบตี เห็นสตรีบ้านๆอย่างหลินซินหยานนึกไม่ถึงว่าได้ใช้เข่าทิ่มเข้าที่ส่วนสำคัญของฮูเหยียนหลิวหยุน การแสดงออกบนใบหน้าของหลายๆคนได้บ่งบอกว่าแปลกประหลาดใจอย่างมาก โดยเฉพาะอู่ฉือ ในยามที่มองหลินซินเยียน ภายในดวงตามีประกายความชื่นชมอย่างปิดไม่มิด ถึงแม้ว่าหลายคนแสดงออกถึงความประหลาดใจ ทว่าผู้ฉลาดล้วนไม่เอ่ยปาก แต่กลับถอยไปยังด้านข้าง มู่เหอถูกทุบตีจนใบหน้าปูดบวมเขียวช้ำ ในขณะที่หลายคนกำลังถอยออกจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปข้างกายหลินซินเยียน ครั้นเห็นการเคลื่อนไหวอันน่าแปลกประหลาดของนาง จึงได้กล่าวขึ้นด้วยความตกใจ “มะ แม่นาง ท่านไปแตะต้องตรงส่วน..ส่วนนั้นของบุรุษได้อย่างไร” ถ้าหากท่านอ๋องของเขารู้เขา จะพรากชีวิตน้อยๆของเขาไปด้วยโทสะหรือไม่? หลินซินเยียนถอนลมหายใจ ไม่ได้คาดหวังว่าจะสามารถหาคนที่เข้าใจความคิดของนางได้ในที่แห่งนี้ และนางเองก็ขี้เกียจจะอธิบาย กระนั้นจึงได้กล่าวกับฮูเหยียนหลิวหยุน "เจ้าสาบานว่าจะปล่อยพวกเราไป แล้วข้าจะปล่อยเจ้า" ฮูเหยียนหลิวหยุนขลาดกลัว จึงรีบพยักหน้าตอบรับโดยไม่คิด “ข้าสาบาน ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป” 
已经是最新一章了
加载中