ตอนที่84 ไปท้าทายด้วยตนเอง
1/
ตอนที่84 ไปท้าทายด้วยตนเอง
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่84 ไปท้าทายด้วยตนเอง
ตนที่84 ไปท้าทายด้วยตนเอง “ฟังจากที่คุณชายกล่าว เหมือนท่านจะรู้จักศาลาความลับแห่งสวรรค์ดี?” หลินซินเยียนยิ้มบางด้วยความถ่อมตน อู่ฉือดึงนางมายังข้างๆ “ไม่สามารถกล่าวได้ว่ารู้จักดี แต่สกุลของข้าก็นับว่าเป็นผู้บัญชาการทหาร เคยติดต่อค้าขายกับศาลาความลับแห่งสวรรค์ ข้าเคยเห็นของที่พวกเขาทำขึ้นมา ภายใต้สววรค์ การดำรงอยู่ของเทพมีอยู่จริงในบรรดาช่างฝีมือของพวกเขา” “โอ้ คำกล่าวเช่นนี้ แน่นอนว่าผู้ที่ท้าประลองคงไม่อาจจะชนะได้ แต่ข้ากลับรู้สึกว่า กำลังที่แท้จริงของศาลาความลับแห่งสวรรค์แม้จะร้ายกาจ แต่ในการประลองแบบนี้ แน่นอนว่าผู้ที่มาตอบรับการท้าประลองย่อมไม่ใช่ช่างฝีมือที่เก่งกาจของศาลาความลับแห่งสวรรค์ ดังนั้นคนท้าประลองผู้นั้นไม่จำเป็นต้องมีโอกาส ข้ากลับรู้สึกว่าอาจจะชนะก็ได้” คำกล่าวของหลินซินเยียนนั้นวิเคราะห์ได้อย่างชาญฉลาดจนทำให้อู่ฉือต้องตะลึง เขาครุ่นคิดอย่างระมัดระวังจึงพบว่าผู้นี้วิเคราะห์ออกมาได้อย่างถูกต้อง ถ้าหากว่าผู้ที่มาตอบรับคำท้าประลองของศาลาความลับแห่งสวรรค์ไม่ใช่คนเก่งกาจอะไร เช่นนั้นคนที่ท้าประลองผู้นั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีโอกาส เห็นท่าทีของเขามีความผ่อนคลาย หลินซินเยียนจึงกล่าวต่อว่า "คุณชายไม่สู้ไปเดิมพันด้วยกันกับข้า ไม่แน่ว่าหากโชคดีพวกเราอาจจะชนะขึ้นมาจริงๆก็เป็นได้?" ไม่รู้ว่าคำพูดใดของหลินซินเยียนได้กระตุกใจเขา เขาลังเลอยู่เล็กน้อยแต่ก็ตอบตกลงอย่างไม่คาดคิด เดินตามนางมายังจุดลงเดิมพันด้วยกัน สำหรับตัวอู่ฉือผู้นี้ กล่าวกันตามจริงแล้วหลินซินเยียนกลับไม่ได้รังเกียจ แม้ครั้งแรกที่เผชิญหน้ากัน เขาติดตามข้างกายฮูเหยียนหลิวหยุนช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ แต่ในทุกช่วงเวลาสำคัญเขากลับไม่ได้ลงมือเหี้ยมโหด คนเลวในหมู่คนดีทำให้ผู้คนรังเกียจ แต่ทว่าคนที่ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นในหมู่คนเลวกลับสามารถสร้างความประทับใจบางส่วน นี่เป็นอีกด้านของความไม่ยุติธรรมในมนุษย์ อย่างไรก็ตามคนเราน่ะ ไม่ยุติธรรมนักหรอก เป็นเพราะว่าคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่สามารถวัดทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ ต้องมีเลือด มีเนื้อ มีความรู้สึกจึงจะเป็นคน “หนึ่งพันตำลึง?” คนรับพนันรับตั๋วเงินของอู่ฉือมา พลันตกตะลึง จึงได้ถามอีกครั้งด้วยความไม่มั่นใจ “คุณชายท่านต้องการลงเดิมพันฝั่งคนท้าประลองหนึ่งพันตำลึงจริงๆหรือ?” “ถูกต้อง ลงเดิมพันไปซะ” อู่ฉือให้ตอบเขาอย่างแน่วแน่ เหลือบมองไปยังคนที่อยู่ข้างๆโดยไม่ทันตั้งใจ คนผู้นี้เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากสตรีผู้นั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดราวกับว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้านี้ช่างเหมือนกับสตรีผู้นั้นเสียจริง การกระทำในทุกครั้งเหนือความคาดหมายอยู่เสมอ คนรับพนันเห็นท่าทีการตัดสินใจของเขาจึงไม่ได้เร้าหรืออีก สุดท้ายแล้วพวกเขาดูเหมือนพวกโง่เง่าที่เอาเงินตำลึงมาประเคนให้เจ้าของบ่อนพนัน เล่นเดิมพันแบบนี้ ยิ่งพวกเขาได้รับเยอะเถ้าแก่ก็ยิ่งพอใจ ในเมื่อลงเดิมพันที่บ่อนแล้ว ก็ไปศาลาเฟิงอีดูผลลัพธ์ที่ท่านสมัครใจเถอะ หลังจากที่คนทั้งสองออกมาจากบ่อนพนัน อู่ฉือเป็นฝ่ายเชิญหลินซินเยียนไปยังศาลาเฟิงอีด้วยกัน เดิมทีหลินซินเยียนคิดจะปฏิเสธ แต่ลังเลชั่วครู่แต่พลันนึกได้ว่าอู่ฉือเป็นบุตรชายของอู่หนิงโหว อู่หนิงโหวเองก็เป็นขุนศึกโดยชาติกำเนิด หากในอนาคตนางต้องการเข้าสู่กิจการด้านการสร้างอาวุธจริงๆ ไม่แน่ว่าคนผู้นี้ก็พอมีด้านที่จะเป็นประโยชน์ ดังนั้นจึงตอบรับคำชวนนี้ไป อู่ฉือนั้นมีรถม้า คนทั้งสองจึงนั่งรถม้าโดยสารไปยังศาลาเฟิงอี บนรถม้านั้นคนทั้งสองได้สนทนากันหลายประโยค หลินซินเยียนบอกกับอู่ฉือว่า นางชื่อเยว่อู๋เหิน เป็นคนทางใต้มาพึ่งพาอาศัยญาติที่เมืองเฟิ่งชี อีกทั้งการค้าขายทางบ้านยังเกี่ยวข้องกับการผลิตสร้างอาวุธ ในยามที่ทั้งสองมาถึงศาลาเฟิงอี เวลานัดหมายการประลองยังห่างถึงครึ่งชั่วยาม แต่ทว่าศาลาเฟิงอีได้แน่นขนัดไปด้วยฝูงชน ศาลาเฟิงอีเดิมที่อยู่บนพื้นที่โล่งกว้างระหว่างภูเขาทั้งสอง ล้อมรอบไปด้วยต้นพลัมมากมาย บังเอิญเป็นฤดูดอกพลัมบานพอดี ทัศนียภาพรอบๆไม่อาจกล่าวได้ว่า ไม่งดงาม แต่ ณ เวลานี้ บนพื้นที่ที่เคยโล่งไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังนั่งบ้างยืนบ้าง แม้แต่ภูเขาทั้งสองด้านก็ยังมองเห็นศีรษะผู้คนอยู่รำไร เมื่อหลินซินเยียนลงจากหลังม้าก็ถูกภาพเบื้องหน้าสายตาขู่ขวัญ นางดูแคลนความกระตือรือร้นของประชากรเมืองเฟิ่งชีที่มาดูความสนุก นึกไม่ถึงว่า"โลกแห่งความบันเทิง"ในสังคมยุคโบราณจะร้อนแรงขนาดนี้ มีสักกี่คนที่จะมีอิทธิพลต่ออิทธิพลของความคิดเห็นของผู้คนจำนวนมหาศาล “ดูเหมือนพวกเราจะมาช้าไป เกรงว่าจะหาที่ดีๆไม่ได้เสียแล้ว” หลินซินเยียนรั้งมุมปาก จริงๆแล้วสิ่งที่นางอยากจะพูดคือ คนเยอะขนาดนี้ นางจะเบียดเสียดไปถึงด้านหน้าเพื่อร่วมการประลองได้อย่างไร อู่ฉือกลับไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เดิมทีก็มีคนรออยู่ก่อนแล้ว หลังจากที่พบเขาก็มีบ่าวสองนายเข้ามาเบิกทางให้กับเขาทันที หลังจากนั้นก็นำทางพวกเขามาจนถึงตำแหน่งที่มีระยะใกล้กับศาลาเฟิงอีที่สุด สิ่งที่ทำให้หลินซินเยียนตะลึงอ้าปากค้างอีกครั้งคือ เดิมศาลาเฟิงอีเป็นศาลาโดดๆ แต่เพื่อตอบสนองเหล่าแขกผู้มีเกียรติท่ามกลางกลุ่มคนที่มาร่วมชม นึกไม่ถึงว่าจะมีคนย้ายโต๊ะเก้าอี้มาอยู่ก่อนแล้ว บนโต๊ะยังจัดวางขนมและชาอ่อน กลับให้ความรู้สึกเหมือนเป็นงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์อย่างหนึ่ง บางทีอาจเป็นพลังแฝงจากการให้อภัยของหลินซินเยียน จึงอดไม่ได้ที่จะสูดมุมปาก “อู๋เหิน เชิญนั่งด้านนี้” บ่าวของอู่ฉือได้เช่าโต๊ะไวเให้เขาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นอู่ฉือจึงเรียกนางให้มานั่งลง หลินซินเยียนตามมานั่งด้วยความงงๆ เป็นอีกครั้งที่รู้สึกว่าการติดตามมาพร้อมกับอู่ฉือครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ฉลาด ถ้าหากไม่เป็นเขา อย่าพูดถึงเรื่องที่จะได้นั่งเลย ภายในรัศมีสิบจั้งของศาลาเฟิงอีนี้ อาศัยแค่ร่างเล็กๆของนางก็เบียดเข้ามาไม่ได้แล้ว อู่ฉือรินชาให้หลินซินเยียน หลินซินเยียนยิ้มพลางกล่าวขอบใจ เมื่อมองไปในศาลาเฟิงอี มีสองคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว หนึ่งในนั้นยังเป็นคนคุ้นเคยของนาง อินฉีและไต้ซือนั่งอยู่ในศาลาเฟิงอีที่ดูเหมือนเพลิดเพลินกับการสนทนา คนทั้งสองไม่เพียงแต่ส่งเสียงหัวเราะกลมเกลียวอยู่หลายครั้ง แต่พวกเขายังมองออกไปยังกลุ่มคนรอบนอกเป็นครั้งคราว ราวกับกำลังรอใครบางคนอยู่ หลินซินเยียนขมวดคิ้วมุ่น อย่างไรก้คิดไม่ถึงว่าอินฉีจะมาปรากฎตัวที่นี่ คนมีความสามารถที่อายุยังน้อยและตัวตนอยู่ในตำแหน่งที่สูง บุคคลเช่นนี้ นางไม่แน่ใจว่าเขาจะไม่พบการปลอมตัวของนาง ในวันนี้ผู้ท้าประลองและศาลาความลับแห่งสวรรค์ที่ถูกท้าประลองล้วนยังไม่มีใครปรากฎตัว บรรดาผู้ชมที่อยู่รอบๆเองก็รอด้วยความหงุดหงิดอย่างมากเสียเรี่ยวแรงเพื่อมาดูนัดนี้ ถ้าหากคนของทั้งสองฝ่ายไม่มีใครมา ก็คงจะเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่เสียแล้ว “คนของศาลาความลับแห่งสวรรค์มาแล้ว!” ในฝูงชน ไม่ทราบว่าใครเป็นคนตะโกนเสียงดังลั่น ภายในเวลาอันรวดเร็ว นึกไม่ถึงเลยว่าฝูงชนที่มุงดูอยู่รอบๆก็เริ่มเปิดทางสายหนึ่งขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ หลังจากนั้น ก็เห็นคุณชายตัวน้อยร่างบางในชุดสีเขียวผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ คุณชายชุดเขียวยังสวมหน้ากากไว้ เผยให้เห็นเพียงดวงตากลมใหญ่ ด้านหลังของนางยังติดตามด้วยบุรุษร่างกายสูงใหญ่คนหนึ่ง ทว่าบุรุษผู้นั้นสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบของบ่าว รูปลักษณ์ภายนอกไม่โดดเด่น ฉะนั้นจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คน คุณชายชุดเขียวอ่อนหรือเทียนหยุนชิงเดินเข้ามาในศาลาเฟิงอี มองไปทางไต้ซือและมองไปที่อินฉี ในดวงตาเผยประกายความประหลาดใจ จู่ๆก็ถูกความโกรธเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว สีหน้าของนางดิ่งลง ตะโกนชี้อินฉีพลันกล่าว "เจ้าเป็นผู้ท้าประลองกับศาลาความลับแห่งสวรรค์ของพวกเราในวันนี้งั้นหรือ? เป็นเจ้าที่กล่าวว่าคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ล้วนขี้ขลาด?"
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่84 ไปท้าทายด้วยตนเอง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A