ตอนที่ 27 หยกที่คุ้นเคย
1/
ตอนที่ 27 หยกที่คุ้นเคย
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 27 หยกที่คุ้นเคย
ตนที่ 27 หยกที่คุ้นเคย “ภาพลายปัก?”โม่จื่อฟงแสยะยิ้มที่มุมปาก ยิ่งทำให้คนคาดเดาได้ยาก นิ้วเรียวยาวของเขาพลิกภาพวาดอย่างสบายใจ “ภาพวาดนี้ไม่เหมือนกับภาพลายปักของเจ้า มีบางอย่างที่ผู้หญิงไม่ควรลอง ” เขากำลังดูถูกนาง ในใจของหลินซีนเยียนรู้สึกเจ็บปวดนิดๆ โดยเฉพาะตอนที่เขาออกปากพูดจาดูถูกต่อหน้าผู้หญิง ยิ่งทำให้นางไม่อยากจะยอมรับ แม้นางจะไม่ได้เรียกร้องให้ฐานะทางสังคมของชายและหญิงเท่าเทียมกันในยุคสมัยนี้ แต่อย่างน้อย นางก็สามารถทำให้ตนเองไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นได้ “ หากเป็นเช่นนั้น ท่านอ๋อง เรามาพนันกันดีหรือไม่?”หลินซีนเยียนเลิกนวดขาให้เขา แล้วรินน้ำชาให้ตนเองอย่างพอใจ เมื่อโม่จื่อฟงได้ยินก็เหมือนกับรู้สึกสนใจ“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ว่ามา เจ้าอยากได้อะไร? ”เขาคิดว่า นางต้องการทำเพื่อให้ตนเองได้บรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่าง ถึงหยิบภาพวาดมาให้ดู เช่นนี้ก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ได้โยนมาให้ หลินซีนเยียนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เพียงยิ้มเล็กน้อย แล้วเข้ามาใกล้เขา“ที่จริงแล้วง่ายมาก ข้าคนนี้ชื่นชอบเงิน สำหรับท่านอ๋องแล้วคงไม่ได้ขาดเงินเท่าไร เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจะลองประกอบภาพวาดนี้ ถึงภาพมันจะขาดไปหลายส่วน หากข้าประกอบมันเข้ากันได้ ท่านอ๋องต้องให้เงินข้าสัก หนึ่งพันเหรียญ ดีหรือไม่?” “หนึ่งพันเหรียญ?เจ้านี่กล้าไม่ใช่น้อย เป็นแค่สาวใช้อุ่นเตียง เงินเดือนเดือนหนึ่งก็ได้แค่ 1 เหรียญ หนึ่งพันเหรียญนี่เพียงพอสำหรับครอบครัวธรรมดาใช้ได้ทั้งชาติ”โม่จื่อฟงไม่ได้ตอบตกลงนางทันที หลินซีนเยียนยักไหล่ ราวกับคาดเดาการโต้ตอบของเขาได้“ท่านอ๋อง แม้ข้าจะไม่รู้ว่าภาพวาดนี้ใช้ทำอะไร แต่ทำให้ท่านอ๋องอู่เสวียนสนใจได้ มันต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่ หากข้าช่วยท่านเล็กๆ น้อยๆ ได้ สำหรับท่านแล้ว เกรงว่าคุณค่าของมันคงไม่ใช่แค่หนึ่งพันเหรียญ ถึงอย่างไรท่านก็ไม่ได้ขาดเหลืออะไร เหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยด้วย? ” ในรถม้า เกิดความเงียบอีกครั้ง ทั้งสองคนจ้องมองอีกฝ่าย ไม่มีใครพูดอะไร ผ่านไปเนิ่นนาน โม่จื่อฟงก็ยิ้ม เขายื่นมือมาเชยคางของหลินซีนเยียน แล้วเอาหน้าเข้าไปใกล้ ลมหายใจที่สัมผัสตรงริมฝีปากของนาง เพียงฟังที่เขากำลังพูด“ได้ เปิ่นหวางจะให้เจ้าลองทำ” “พูดแล้วไม่คืนคำ!”หลินซีนเยียนตบมือเขาออก แล้วหยิบภาพวาดนั้นพลิกไปพลิกมาดู นางตั้งใจทำอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะคุ้นเคยกับงานในชาติก่อน ตอนดูภาพวาดก็ต้องดูอย่างละเอียดเพื่อวัดขนาดของภาพวาด ถึงสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานของนางทุกคนในทำงานอยู่ในห้องทดลองกันตลอดทั้งวันทั้งคืน เช่นนั้น ตอนที่นางใช้มือสัมผัสภาพวาด บุคลิกของนางก็ค่อยๆ เปลี่ยน การเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้นางไม่ทันสังเกตว่า โม่จื่อฟงที่อยู่ข้างๆ ได้ส่งสายตามองอย่างเคร่งขรึม เขาใช้นิ้วเคาะตรงขอบหน้าต่างในรถม้า ลมพัดผ่านจนผ้าม่านเลิกขึ้นเล็กน้อย ทำให้มีลมหนาวได้เล็ดลอดผ่านเข้ามา ในรถม้าถึงจะอบอุ่น แต่เพราะลมหนาวนั้น อุณหภูมิก็ลดลงอย่างมาก โม่จื่อฟงขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าหลินซีนเยียนที่ตกอยู่ในโลกของตนเองกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยสักนิด บนตัวของนางสวมผ้าแพรบาง แม้จมูกเริ่มแดงก่ำ แต่ก็ยังสูดลมหายใจและดูภาพวาดต่อไป “จินมู่”โม่จื่อฟงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็เลิกม่านขึ้นเรียกคนที่อยู่ข้างรถม้า “ท่านอ๋องมีอะไรจะรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ?”จินมู่ขี่ม้าเข้ามาหา เด็กชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาก็สวมเสื้อผ้าบาง หนาวจนแก้มแดงก่ำ เมื่อผ้าม่านเปิดขึ้น เด็กชายก็มองเข้าไปในรถม้าอย่างไม่วางตา ตอนที่เห็นเพียงโม่จื่อฟง แต่กลับไม่เห็นหลินซีนเยียน จึงแสดงความผิดหวังออกมา “พอถึงเมืองแล้ว หาคนพาพวกนางไปซื้อชุดกี่ตัวในเมืองด้วย”โม่จื่อฟงพูดอย่างจริงจัง จินมู่ตะลึงงัน อ๋องอู่เสวียนรู้สึกเป็นห่วงเสื้อผ้าของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไร ?แต่ไหนแต่ไรมาก็มีคนเป็นห่วงเพียงแต่เขา! “ทำไม อยากให้เปิ่นหวางพูดอีกรอบรึ?”โม่จื่อฟงส่งเสียงเย็นชาอย่างรู้สึกไม่พอใจออกมา “ข้าน้อยทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ พอถึงเมืองจะรีบไปจัดการทันที!”จินมู่รีบตอบกลับ และเก็บอาการตกใจเมื่อครู่นี้ โม่จื่อฟงยังไม่ได้ละสายตาจากนอกหน้าต่าง ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของหลินซีนเยียนดังมาก “ท่านอ๋อง ท่านดูนี่ ข้าประกอบได้ถูกหรือไม่?” เดิมทีโม่จื่อฟงก็ไม่ได้หวังว่าหลินซีนเยียนจะทำได้ ทักษะการประดิษฐ์อาวุธยากเกินไปสำหรับคนทั่วไป สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ที่เขารับปากนางเพราะคิดจะเยาะเย้ยนาง เมื่อนางทำไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลินซีนเยียนกล้าทำจริงๆ “เปิ่นหวางคิดว่าเจ้าเพียงทำขอไปที... ”ในปากคำว่า‘เปิ่นหวาง’2 คำยังไม่ได้พูด ทันใดนั้นสายตาก็หยุดชะงักไปที่ภาพวาดที่อยู่ตรงหน้าของเขา เนิ่นนานก็ยังไม่คืนสติ อ๋องอู่เสวียนผู้ที่ช่ำชองในการรบ ยามเผชิญศึกกับศัตรูนับหมื่นกลับไม่เคยแสดงอาการตกตะลึงออกมา ไม่เสียทีที่เธอเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธระดับนานาชาติ “ท่านคิดว่าข้าประกอบถูกหรือไม่?”หลินซีนเยียนเห็นเขาไม่ตอบอะไรกลับมา จึงถามไปอย่างยิ้มๆ โม่จื่อฟงไอกระแอมหนึ่งทีแล้วปล่อยผ้าม่านในรถม้าลง เขาหยิบภาพวาดขึ้นมาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่งสายตาอย่างรู้สึกสงสัยออกมา“เป็นเจ้าประกอบมันเองจริงรึ?” หลินซีนเยียนพยักหน้า ถอนหายใจแล้วเอ่ย“ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าในรถม้ายังมีคนที่ 3 รึ?” “นี่มันเป็นไปไม่ได้!”โม่จื่อฟงจ้องนางด้วยสายตาเย็นชา สายตาแบบนี้ทำให้คนขนลุกอย่างอดไม่ได้ บางทีหลินซีนเยียนเคยเห็นสภาพน่าอนาถของเขาในป่าแล้ว ถึงตอนนี้เขาเกรี้ยวกราดแค่ไหน นางก็ไม่ตกใจเลยสักนิด “มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้?ข้าก็บอกไปแล้ว ข้าเก่งเรื่องภาพลายปัก แม้สิ่งนี้จะไม่เหมือนกับภาพลายปักนัก แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก ภาพวาดนี้ เมื่อทำได้แล้ว อย่างอื่นมันก็ทำได้ แต่เดิมมันก็เหมือนกันอยู่แล้วไม่ใช่รึ? ” เธอพูดจาฉะฉานแต่ที่จริงในใจกลับตื่นกลัว หลังจากที่ประกอบภาพวาดได้ เธอก็คาดเดาไว้แล้วว่าการออกแบบนี้ มันต้องยอดเยี่ยมเป็นอย่างแน่ แต่พรสวรรค์ของเธอก็สามารถมองกลไกการประดิษฐ์อาวุธหน้าไม้นี้ออกมาได้ง่ายดาย แต่ก็ไม่อาจเรียกว่าง่าย หากไม่ลองทำก็ไม่มีทางรู้ได้ ทว่าคำพูดนี้ หลินซีนเยียนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถบอกกับโม่จื่อฟงได้ ผ่านไปสักพัก โม่จื่อฟงถึงจะพยักหน้า เขาเก็บภาพวาด และเก็บอาการตกตะลึงบนหน้า“เจ้าพูดมาก็มีเหตุผลอยู่หลายส่วน ภาพวาดของเจ้า ประกอบได้ดียิ่งนัก เดี๋ยวข้าจะให้จินมู่ส่งเงินหนึ่งพันเหรียญให้เจ้า” “เดี๋ยวคือตอนไหนรึ?”เมื่อไม่ได้เห็นเงิน หลินซีนเยียนก็ไม่วางใจ เรื่องพวกนี้ไม่อาจเลื่อนเวลาออกไปได้ อีกอย่างอารมณ์ของอ๋องอู่เสวียนก็ไม่แน่นอน ยากที่จะเชื่อถือได้ หากเป็นไปได้ นางก็อยากให้เงินถึงมือก่อน ท่าทางใจร้อนของนางดูน่าขบขัน ทันใดนั้นโม่จื่อฟงก็เกิดความคิดอยากจะเห็นนางทำหน้ารู้สึกผิดซะหน่อย เขาจึงล้วงหยกออกมาจากในเสื้อแล้วส่งให้นาง“บนตัวเปิ่นหวางไม่มีเงิน หยกนี่มีค่าอย่างมาก ส่งให้เจ้าก่อนแล้วกัน เอาเปรียบเจ้าแล้ว ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 27 หยกที่คุ้นเคย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A