ตอนที่ 42 ให้นางค่อยๆตายไป
1/
ตอนที่ 42 ให้นางค่อยๆตายไป
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 42 ให้นางค่อยๆตายไป
ตนที่ 42 ให้นางค่อยๆตายไป “อ๊ะ! เสื้อแยกจากปากบาดแผล ดึงเนื้อหนังบางส่วนหลุดออก ความเจ็บปวดทำให้หลินซินหยานอดที่จะพ่นเสียงลมหายใจออกมาไม่ได้ เพียงแค่ชั่วครู่ ทั่วทั้งร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น “น่าอายเสียจริง” โม่จื่อเฟิงมองเลือดที่ชุ่มบนแผ่นหลังด้วยความรังเกียจ ทว่านิ้วมือเรียวยาวกลับค่อยๆยกขึ้น ลูบปากบาดแผลฉกรรจ์อย่างแผ่วเบา “ถ้าหากหลงเหลือรอบแผลเป็น คราวหลังเจ้าจะอุ่นเตียงให้เปิ่นหวางได้อย่างไร กุ้ยหมัวมัวนี่ช่างมิรู้ความยั้งมือ" หลินซินเยียนเจ็บจนมิสามารถเอ่ยวาจาใดๆออกมา ก็หันไปแล้ว ดวงตาก็มิต้องมองเห็นอย่างชัดเจน นางรู้สึกว่าคนข้างกายนั้นได้ออกไปจากผืนฟูกแล้ว จึงได้ทอดถอนหายใจ เข้าใจว่าปากบาดแผลฉกรรจ์นี้คงทำให้เขารำคาญใจ บางที ผู้ชายหน้าไหนกันที่สามารถร่วมรักกับเธอได้ในขณะที่มีเลือดโชกชุ่ม? นอกจากพวกโรคจิต ถ้าหากบาดแผลนี้สามารถยับยั้งเหตุที่เขาจะสังหารนางได้ นางก็คงจะทำให้ตนเองมีบาดแผลเต็มทั่วร่างไปตั้งนานแล้ว “อย่างไรกัน เปิ่นหวางแค่ไม่แตะต้องตัวเจ้า ถึงกับต้องดีใจขนาดนี้เชียวหรือ?” เสียงของโม่จื่อเฟิงปรากฎขึ้นที่ข้างหูของนางอย่างฉับพลัน เธอลืมตาขึ้นก็มิรู้เห็นว่าเมื่อใดที่เขานั้นได้กลับเข้ามาอีกครั้ง สีหน้าดีใจของนางมันเด่นชัดขนาดนั้นเชียวหรือ? “เปล่าเพคะ ท่านอ๋องทรงทอดพระเนตรผิดไป” ถึงตายก็อย่าได้ยอมรับผิด จึงจะเป็นหนทางในการรักษาชีวิต โม่จื่อเฟิงนั่งลงบนฟูกนุ่มอีกครั้ง “อย่า่งงั้นหรือ แต่ทว่า เจ้าอาจจะต้องผิดหวังเสียแล้ว” ยังไม่ทันจะเข้าใจถึงความหมายของเขา หลินซินเยียนก็รู้สึกว่าบนแผ่นหลังของตนมีความเย็นค่อยๆซึมซาบ นางหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าจะเห็นโม่จื่อเฟิงถือตลับยาและลูบไปบนปากแปลของนาง บุรุษผู้นี้ กำลังทายาให้นาง ทายาให้ด้วยตนเอง เป็นไปได้จริงหรือ? ไม่ว่าผู้อื่นนั้นจะเชื่อหรือไม่ แต่หลินซินหยานนั้นไม่เชื่อ การกระทำของโมจื่อเฟิงนั้นอบอุ่นอย่างมาก นิ้วเรียวยาวและปลายนิ้วอันอบอุ่นนั้นประทับบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางอย่างชัดเจน ปลายนิ้วของเขาราวกับสัมผัสจากเปลวไฟศักดิ์สิทธิ และทุกที่จะมีไอร้อนแปลกประหลาด ยาตลับนั้นเห็นได้ชัดว่ามีความเย็น แต่ปลายนิ้วของเขานั้นร้อนระอุราวกลับเปลวไฟ เมื่อความรู้สึกร้อนกับเย็นมาเจอกันทำให้ประสาทสัมผัสของหลินซินหยานทรมานอย่างแท้จริง นางได้แต่ภาวนาอย่างเงียบๆ เพื่อความเจ็บปวดทรมานเช่นนี้สิ้นสุดลงเร็วกว่านี้อีกหน่อย ทันใดนั้น นางก็รู้สึกได้ว่าปลายนิ้วอันร้อนระอุได้เลื่อนไปตามแผ่นหลังของนาง นึกไม่ถึงว่าจะลงมาถึงเอวอรชรของนาง เส้นประสาททั่วทั้งร่างนั้นตื่นตัว หันกลับไปมองโดยสัญชาติญาณ เมื่อได้เห็น ทำให้นางตกใจจนกลืนน้ำลาย ดวงตาของโม่จื่อเฟิง กล่าวได้ว่ามันคือความใคร่ชัดๆ。 “บุรุษ ก็ยังคงเป็น…” หลินซินหยานกล่าวยังไม่ทันจบ ทว่ากลับถูกปิดปากด้วยบุรุษจอมเผด็จการ ปลายนิ้วที่เขาควรจะต้องทายาให้กลับยัดเขามาในปากของนาง นางขยะแขยงจนอยากจะอาเจียน เขากลับยิ้มอย่างเยือกเย็นและฉีกเสื้อผ้าที่หลงเหลือของนางออก ร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยความร้อน นางจึงได้ตระหนักคืนนี้เกรงว่าคงมิสามารถข่มตานอนได้ ฮึ่ม บุรุษเอ๋ย โดยเฉพาะบุรุษที่ใช้ร่างกายส่วนล่างแทนสมองเช่นนี้ นางเองก็ไร้เรี่ยวแรงจะกล่าว ค่ำคืน ที่ใช้เวลาท่ามกลางความเศร้าโศก รุ่งเช้าของวัดถัดมา หลินซินเยียนนอนลืมตาตื่นบนผืนฟูก ภายในห้องไร้เงาของโม่จื่อเฟิง ทว่าเรือนร่างท่อนบนของนางไร้อาภรณ์ หลังจากที่บุรุษผู้นั้นเกิดความใคร่ ที่แท้นั้นทิ้งให้นางนอนตากลมเปลือยเปล่าอยู่ที่นี่ แท้จริงแล้วเขาเป็นบุรุษไร้เมตตาผู้หนึ่ง สีหน้าหลินซินเยียนยิ่งขาวซีด ฝืนความเจ็บปวดลุกขึ้นมาจากฟูกแล้วหยิบเสื้อผ้าของนางขึ้นมาดู เสื้อผ้านั้นได้ถูกฉีดกระชากไปแล้ว มิสามารถจะสวมใส่ได้อีก สรุปแล้วนางมิสามารถเปลือยกายออกไปได้? เมื่อพินิจดู ก็มิรู้จะควรทำอย่างไร จึงฟังเสียงสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกประตู “ท่านหลินซินเยียนใช่หรือไม่เจ้าคะ?” ที่แท้ก็มีสาวใช้เฝ้าหน้าห้องอยู่ตลอด เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง สาวใช้จึงจะเอ่ยถาม “อืม” เมื่อหลินซินหยานตอบกลับ หญิงรับใช้ก็ดันประตูเข้ามา ภายในมือยังมีชุดเสื้อผ้าสะอาด ในยามที่หญิงรับใช้เข้ามาก็ก้มศีรษะตลอด ไม่มีการหันไปมองหลินซินหยานด้วยความชาญฉลาด เพียงแค่หลังจากที่นำเสื้อผ้าวางไว้บนโต๊ะด้านข้างก็ได้หันกายกลับไป หลินซินหยานถอนหายใจ หยิบเสื้อผ้านำขึ้นมาสวมใส่ นางอดที่จะคิดไม่ได้ ผู้คนนั้นไม่ใช่ว่าจะสามารถค่อยๆเคยชินกับการถูกทารุณกรรม อย่างเช่นครั้งแรกในตอนที่นางถูกโม่จื่อเฟิงรังแก นางยังต่อต้าน ยังรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทั่งแทบต้องการจะฆ่าเขา แต่ในยามนี้ หลังจากที่ถูกรังแก นางกลับสามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างสงบ เช่นนี้เรียกว่าต้มกบในน้ำอุ่นหรือไม่? (เป็นคำเปรียบเทียบ ทำให้ตายใจ) นางยิ้มเย็น ออกจากห้องหลังจากที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เพิ่งเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าวก็เผชิญหน้ากุ้ยหมัวมัว ที่นำหญิงรับใช้อาวุโสที่ท่าทางไม่เป็นมิตรเดินเข้ามา กุ้ยหมัวมัวยืนขวางอยู่เบื้องหน้าของหลินซินหยาน “อย่าได้รีบไป ดื่มยาเสียก่อน” กุ้ยหมัวมัวรับถ้วยยาจากมือหญิงรับใช้อาวุโสที่อยู่ข้างกาย แล้วยื่นส่งให้หลินซินหยานโดยตรง “อย่าได้คิดไร้สาระ รีบดื่มซะ มันทำให้ข้าเหน็ดเหนื่อยเปลืองแรง” “ฮึ่ม” หลินซินเยียนส่งเสียงฮึมฮัม ในขณะที่รับถ้วยยามาถือก็รีบดื่่มลงไปอย่างรวดเร็ว ความเด็ดขาดความมุ่งมั่นของนางนั้นกลับทำให้กุ้ยหมัวมัวตกตะลึง “ท่านวางใจเถิด ถึงแม้สตรีทั่วทั้งใต้หล้าต้องการทายาทของเขา แต่ทว่าข้ากลับมิอดอยากเพียงนั้น” เมื่อกล่าวจบ หลินซินหยานลูบคราบยาที่หลงเหลือตรงมุมปาก เดินผ่านกุ้ยหมัวมัวและออกไปจากที่แห่งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสภาพอากาศเมืองเฟิ่งชีกับเขตชายแดน แน่นอนว่าย่อมต้องดีกว่ามาก แม้จะเป็นในฤดูหนาว แต่กลับไม่ได้หนาวเย็นมากนัก สามวันติดต่อกัน ที่หลินซินเยียนอาศัยอยู่ในห้องตนเองอย่างสงบสุข โม่จื่อเฟิงส่งคนมามอบแบบร่างอาวุธหน้าไม้พร้อมกับป้ายคำสั่งออกนอกจวน ทั้งยังกำชับฝากให้คนมาบอก ถ้าหากนางมีความจำเป็นจะต้องใช้เงินก็สามารถมาเบิกที่คลังของจวนอ๋องได้ หลินซินหยานถือป้ายคำสั่งพลิกดูไปมาอยู่นาน สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ? หลอกกันหรือเปล่าเนี่ย? วันนี้ ในที่สุดนางได้วาดเค้าโครงชิ้นส่วนประกอบตามแบบร่างหน้าไม้ขึ้นมา เพียงแต่ไม่มีเครื่องมือ ซึ่งหากไม่มีเครื่องมือก็ไม่อาจที่จะทำงานได้ดี เมื่อนางได้ใคร่ครวญ จึงถือป้ายคำสั่งไปคลังจวนอ๋องเบิกเงินมาหนึ่งร้อยสองตำลึง ในขณะที่นางเตรียมจะออกจากจวน มู่เหอกลับปรากฎตัวขึ้นอย่างกระทันหัน นางรู้ สามารถให้นางมีอิสระเข้าออกจวนอ๋องได้ที่ไหนกัน? “แม่นางหลิน ในเมืองเฟิ่งชีมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน ท่านเป็นสตรีนางหนึ่งที่ไร้ผู้ติดตาม จะให้คนวางใจได้อย่างไร” มู่เหอกล่าวด้วยวาจาอันชอบธรรม แต่หลินซินเยียนกลับไม่ได้พูด จะอย่างไรเธอก็ไมไ่ด้เตรียมใจ กับการปรากฎตัวของผู้ติดตามคนนี้อย่างกระทันหันก็ช่างมันเถอะ อีกทั้งอี้เซิงยังอยู่ในจวนอ๋อง ถึงเธอคิดอยากจะหนีก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ มีคนติดตามก็ถือว่ามีไกด์เพิ่มแล้วกัน เมืองเฟิ่งชีเป็นเมืองหลวงของหนานเยว่ ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองชายแดนแล้วไม่รู้ว่าเจริญกว่าตั้งกี่เท่า หลินซินเยียนในฐานะที่เป็นชนพื้นเมืองสมัยใหม่ สำหรับเมืองหลวงโบราณยังคงปรารถนาที่จะเที่ยวชม ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รีบร้อน อาศัยในช่วงเวลาที่อากาศดี จึงเริ่มเดินผ่อนคลายไปตามท้องถนน “แม่นางหลิน ถนนสายนั้นเป็นอัญหมณีและเครื่องหยก เหล่านายหญิงผู้ร่ำรวยในเมืองเฟิ่งชีล้วนนิยมไปเยี่ยมชมที่นั่น หากท่านชอบข้าน้อยจะพาท่านไปชมดีไหมขอรับ?” มู่เหอนั้นเฉลียวฉลาด ทำทางให้กับหลินซินเยียนอย่างสนุกสนาน หลินซินเยียนพยักศีรษะและเดินตามเขาไป เมื่อเดินมาถึงปากทางถนนจึงได้ยินเสียงกรีดร้องในฝูงชน เธอตั้งตัวไม่ทัน ก็ได้ยินเสียงมู่เหอตะโกนจากด้านข้าง "ระวัง"
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 42 ให้นางค่อยๆตายไป
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A