ตอนที่ 50 ขัดแย้งกับเจ้านาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 50 ขัดแย้งกับเจ้านาย
ต๭นที่ 50 ขัดแย้งกับเจ้านาย โม่จื่อเฟิงโบกมือตอบรับ จึงหันมามองยังหลินซินเยียน “คุกเข่า!” หลินซินเยียนตกตะลึง กัดเรียวริมฝีปากยืนนิ่งไม่ขยับ “เจ้าน่าจะรู้ว่าเจ้าทำความผิดใหญ่หลวงอะไรไปบ้าง?” โม่จื่อเฟิงกล่าวด้วยความเย็นชา นัยย์ตาราวกับผืนน้ำแข็ง หลินซินเยียนยืนอยู่ ณ ตรงกลางห้องโถง ดวงตามองไปยังบุรุษที่สั่งให้นางคุกเข่าด้านหน้าด้วยความเฉยเมย พลันตอบด้วยน้ำเสียงอันแข็งกระด้าง "ไม่ทราบเพคะ!" โม่จื่อเฟิงแค่นเสียงเย็น นัยย์ตายิ่งยิ่งเยียบ นิ้วมือของเขากำลังเคาะโต๊ะเบาๆส่งเสียงดังคมชัด แต่ทว่าภายใต้สภาพแวดล้อมที่เงียบสงัดเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้ทำให้จิตใจผู้คนตามมาด้วยความตึงเครียด "ท่านแม่ทัพน้อยจีเหิงเป็นหลานชายของท่านแม่ทัพผู้เฒ่าจี ได้ยินว่าวันเจ้าทำร้ายแม่ทัพน้อยจีเหิงในสวนงั้นหรือ?" หลินซินเยียนกลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าไก่อ่อนอายุ17-18ปีผู้นี้มีตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพ นางจึงยิ้มเยาะออกมา "ท่านอ๋องกล่าวผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่เคยทำร้ายท่านแม่ทัพน้อยจีเหิง หม่อมฉันเพียงลงมือกับเจ้าหนุ่มอ่อนแอที่ไม่รู้จักมารยาทและไม่รู้จักให้เกียรติเท่านั้นเองเพคะ อย่างไรกัน ท่านแม่ทัพน้อยจีเหิงกับเจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนเดียวกันงั้นหรือเพคะ?" การเอ่ยวาจาเช่นนี้ ยิ่งประสบความสำเร็จในการทำให้จีเหิงโกรธจนร้อนเป็นไฟ ที่แท้เขาในสายตานางเป็นเจ้าหนุ่มอ่อนแองั้นหรือ? จีเหิงโกรธจนหน้าซีดเผือดพลันชี้ตัวหลินซินเยียน กลับกล่าวเสียงสูงกับโม่จื่อเฟิง "ท่านอ๋อง นังเด็กนี่ช่างล่วงเกินเสียจริง ท่านอ๋องได้โปรดเห็นแก่มิตรภาพของท่านปู่เถิดพะยะค่ะ มอบนังเด็กสาวนี่ส่งให้กับข้า เจ้าคนดื้อรั้นดื้อด้านเช่นนี้ข้าจะลงมือสั่งสอนเองพะยะค่ะ!" เพียงแค่เด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้น ในมุมมองของเขา อู่เซวียนอ๋องไม่มีเหตุผลที่จะไม่ตกลง สกุลใหญ่โตส่งมอบสาวใช้ไม่กี่คน นับเป็นเรื่องปกติ "นี่มัน อ่า..."โม่จื่อเฟิงส่งน้ำเสียงออกมาและมองไปที่หลินซินเยียน พลันถามด้วยเสียงอันเบาราวกับปุยเมฆ "เจ้าว่าเปิ่นหวางจะมอบตัวเจ้าให้แก่แม่ทัพน้อยจีเหิงหรือเปล่าล่ะ? เปิ่นหวางและท่านแม่ทัพผู้เฒ่าจีนั้นเป็นสหายกันมานาน ถ้าหากเพราะสาวใช้เช่นเจ้าที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจ กลับได้ไม่คุ้มเสียอยู่บ้าง" "ท่านอ๋องจะตัดสินใจอย่างไรแล้วเหตุใดจึงต้องถามหม่อมฉันล่ะเพคะ?" ถ้าหากความคิดเห็นของนางมีประโยชน์อย่างว่า นางก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสถานะอันต่ำต้อยเช่นนี้หรอก คนมีสติปัญญาอย่างนาง ทำไมจะไม่รู้ว่าโม่จื่อเฟิงคิดอะไรอยู่ ไม่มีอะไรมากกว่าความผิดพลาดอันเลวร้ายที่ได้กระทำลงไปและต้องการจะเห็นฉากที่นางอ้อนวอนขอความเมตตา "อ้อ?" โม่จื่อเฟิงแสร้งมองจีเหิงด้วยท่าทีลำบากใจ "แม่ทัพน้อยจีเหิง ท่านดูท่าทีที่นางปฏิบัติกับเปิ่นหวางถึงกระนั้นก็ยังเป็นเช่นเดิม แม้จะไม่ใช่คนสนิท ถ้าหากปะทะเข้ากับท่านแม่ทัพผู้เฒ่าจี เช่นนั้นก็จะเป็นความผิดของเปิ่นหวาง" โม่จื่อเฟิงถอนหายใจ ส่ายหน้าด้วยท่าทีลำบาก จีเหิงเองก็ไม่ใช่คนโง่เขลา เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็รับรู้แล้วว่านี่คือการปฏิเสธอย่างสุภาพของโม่จื่อเฟิง เขาตกใจอยู่บ้าง เอ่ยถามด้วยความสงสัย "พี่จื่อโม่ สาวรับใช้นี้คือสตรีของท่าน?" เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้เรียกว่าท่านอ๋อง แต่กลับเรียกว่าพี่จื่อโม่ ความแตกต่างในการเรียกทำให้โม่จื่อเฟิงรู้ นี่คือประโยคที่เขาถามในฐานะน้องชาย จีเหิงนับถือโม่จื่อเฟิงอย่างมากนับตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะโม่จื่อเฟิงและปู่ของเขามีความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้นเขาจึงมักจะติดสอยห้อยตามอยู่เสมอ เรียกพี่จื่อโม่ พี่จื่อโม่ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อโตขึ้นทุกคนล้วนเป็นผู้มีสถานะและชื่อเสียง ดังนั้นจึงเปลี่ยนจากการเรียกโม่จื่อเฟิงเป็นท่านอ๋อง “อืม สาวใช้อุ่นเตียงของเปิ่นหวาง” โม่จื่อเฟิงอกผายยอมรับ จีเหิงประหลาดใจจนแทบสิ้นลมไปครู่หนึ่ง ถึงแม้เป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียง ทว่าตั้งแต่ที่เขาติดตามข้างกายโม่จื่อเฟิงตั้งแต่เล็ก จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าข้างกายโม่จื่อเฟิงนั้นแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีสตรีเป็นตัวเป็นตนมาก่อน ถึงแม้ภายนอกจะแพร่ข่าวลือว่าอู่เซวียนอ๋องเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ผ่านสตรีเป็นร้อยเป็นพัน แต่เขารู้ว่าสตรีเหล่านั้นเป็นเพียงแค่บุพเพสันนิวาสหยาดน้ำค้างเท่านั้น ไม่เคยมีสตรีใดที่จะสามารถเหลืออยู่ข้างกายโม่จื่อเฟิง ดังนั้น สาวใช้อุ่นเตียงกับสตรีที่อยู่ข้างกายเขาได้เป็นเวลานาน สุดท้ายแล้วการดำรงอยู่นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดวงตาของจีเหิงมีความหดหู่อยู่บ้าง รอยยิ้มที่เปลี่ยนมีความฝืน "ถ้าหากเป็นสตรีของพี่จื่อโม่ ข้าคงไม่สามารถนำไปได้ ที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ข้าผิดไปแล้ว พี่จื่อโม่ ท่านปู่คงกำลังรอข้ากลับไปทานอาหารมื้อเย็น ข้าต้องขอตัวก่อน วันหลังจะมาเยี่ยมเยียนใหม่" จื่อเหิงกล่าวจบ ก็ลุกทำการคารวะแก่โมจื่อเฟิง มีความรู้สึกที่จะหลบหนีเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะออกเดิน กระทั่งยังไม่กล้าไปเหลือบมองหลินซินเยียน เมื่อเห็นเขาจากไปด้วยความชุลมุนเช่นนี้ สีหน้าโม่จื่อเฟิงในฐานะเจ้าบ้านค่อนข้างมืดครึ้ม นิ้วมือของเขาเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ สายตาเคลื่อนไปมองยังร่างของหลินซินเยียนที่กำลังยืนอยู่ “เจ้า ทำ ดี!” เขากล่าวออกมาสามคำด้วยความโกรธที่เก็บซ่อนเอาไว้ หลินซินเยียนไม่ได้กล่าวอะไร นางรู้ว่านางเพิ่งจะก้าวร้าวเขาต่อหน้าผู้อื่น ความทุกข์ทรมานนี้จะต้องขาดไปไม่ได้ แต่ทว่านางไม่เสียใจ ให้นางคุกเข่ายอมรับผิดแก่คนผู้หนึ่งโดยไม่ไตร่ตรอง นางจึงปฏิเสธในสิ่งที่นางไม่สามารถทำได้ "ภายในหนึ่งวัน ได้ยั่วยุสองในสามเผด็จการน้อยแห่งเมืองเฟิ่งชี เปิ่นหวางควรจะกล่าวว่าเจ้าโชคดีหรือมีความสามารถกันแน่?" โม่จื่อเฟิงแค่นเสียงเย็น หลินซินเยียนเงยหน้าด้วยความประหลาดใจ นางกลับคิดไม่ถึงว่าจีเหิงจะเป็นหนึ่งในสามเผด็จการน้อย นอกจากเจ้าอารมณ์ไปนิดหน่อย แต่ที่จริงแล้วจีเหิงก็ไม่นับว่าเผด็จการมากนัก "ทหารเข้ามา!" โม่จื่อเฟิงเห็นท่าทางของนางเหมือนหมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อน* หัวคิ้วก็ยิ่งขมวดแน่นยิ่งขึ้น (死猪不怕开水烫 หมูตายไม่กลัวน้ำร้อน เป็นคำเปรียบเทียบว่า มีท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน ไม่แยแส ไม่รู้สึกผิด เป็นต้น) เมื่อจินมู่รับคำบัญชาเข้ามาในห้องโถง โม่จื่อเฟิงจึงรับสั่งว่า "นำคนไปมอบให้กุ้ยหมัวมัวอบรมสั่งสอนให้ดี ก่อความวุ่นวาย ไม่เพียงแต่ไม่รู้สำนึกยังกล้าก้าวร้าวเปิ่นหวาง! ในจวนอู่เซวียนอ๋อง ไม่เคยเก็บคนที่ไม่รู้กฎเอาไว้" จินมู่ตกตะลึง บนใบหน้ามีความกังวล "ฝ่าพระบาททรงต้องการมีกระแสรับสั่งแก่กุ้ยหมัวมัวสักประโยคไหมพะยะค่ะ กระหม่อมเกรงว่ากุ้ยหมัวมัวจะไม่สามารถแยกแยะหนักเบาได้...." "สาวใช้อุ่นเตียงนางหนึ่งเท่านั้น มีอะไรต้องหนักต้องเบา เหลือลมหายใจไว้ก็พอแล้ว" โม่จื่อเฟิงโบกมือไล่ไม่กล่าวให้มากความ จินมู่แข็งใจไปลากตัวหลินซินเยียน "ไม่ลำบากหัวหน้าจินมู่ ข้าเดินไปเองได้" หลินซินเยียนถอนหายใจ เดินตามหลังจินมู่อย่างว่างาย ใช่แล้ว นางมันก็แค่สาวใช้อุ่นเตียงเท่านั้น เหอะๆ... ทาสหญิงในจวนอู่เซวียนอ๋องส่งคืนผู้ดูแลกุ้ยหมัวมัว หากทาสชายส่งคืนผู้ดูแล ส่วนเหล่าองครักษ์โดยปฏิบัติคือฟังคำสั่งของจินมู่ ดังนั้นในยามที่หลินซินเยียนถูกส่งกลับไปเผชิญหน้ากับกุ้ยหมัวมัว สีหน้าของกุ้ยหมัวมัวดูน่าเกลียดถึงที่สุด "หลายปีมานี้ที่ข้าผู้เฒ่าช่วยท่านอ๋องจัดการงานหลังบ้าน ยังไม่เคยเห็นทาสที่กล้าโต้แย้งกับนายท่าน! เจ้าเป็นตัวอะไร? ถึงกล้าต่อปากต่อคำกับนายท่าน? ทำให้ท่านอ๋องเข้าใจว่าข้ากุ้ยหมัวมัวไม่สามารถสั่งสอนคนได้!" กุ้ยหมัวมัวโกรธจนหน้าแดง ไม่รอให้มู่จินจากไปก็ปรี่เข้าไปชี้หน้าด่าหลินซินเยียน มู่จินที่กำลังเตรียมตัวจะกลับพลันได้ยินกุ้ยหมัวมัวนั้นเกิดโทสะอย่างแท้จริง จึงครุ่นคิดแล้วหันกายกลับมา "กุ้ยหมัวมัว จะดีหรือชั่วก็เป็นคนข้างกายท่านอ๋อง กุ้ยมัวหมัวจะสั่งสอนบทเรียนแก่นางอย่าได้ทำร่างบาดเจ็บ..." “หัวหน้าจินมู่! ผู้เฒ่าจะจำไว้!” กุ้ยหมัวมัวตัดบทของเขา เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการฟังคำพูดของเขาอีก จึงเรียกหญิงรับใช้อาวุโสข้างกายสองคนมาลากหลินซินเยียนเข้าห้องเก็บฟืน
已经是最新一章了
加载中