ตอนที่ 57 รสนิยมของคนชั้นสูง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 57 รสนิยมของคนชั้นสูง
ต๭นที่ 57 รสนิยมของคนชั้นสูง “ไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอันใดรึ?”นักพรตหญิงน้อยที่มาเปิดประตูน่าจะมีอายุ 20 กว่าปี เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นักพรตหญิงที่ดูสาวและอ่อนโยนเช่นนี้ ทำให้จินมู่ตกตะลึงจนลืมตัวไปชั่วขณะ “เอ่อ คืออย่างนี้ขอรับ เสื้อผ้าของน้องสาวข้าคนนี้โดนฝนจนเปียกโชกไปหมด ท่านดู…ที่หน้าประตูนี้มีแต่บุรุษ น้องสาวของข้ารู้สึกเขินอาย เลยอยากจะขอเข้าไปหลบฝนข้างในวัดนี้ได้หรือไม่ หากได้ล่ะก็ ช่วยหาเสื้อผ้าสะอาดๆ ให้นางเปลี่ยนด้วยจะดีมาเลย” จินมู่กลัวว่านักพรตหญิงจะปฏิเสธ จึงหยิบตั๋วเงินออกมาจากในเสื้อและยื่นส่งไปให้ “แน่นอนว่าพวกเราไม่เอาเปรียบ นี่คือเงินบริจาคของข้า ” เมื่อนักพรตหญิงได้ฟังที่เขาพูด ในหน้าที่อ่อนโยนก็จางหายไปทันที คล้ายกับหมดความอดทน พอมองไปที่จำนวนเงินบนตั๋วเงินก็เริ่มรู้สึกลังเลขึ้นมา นางหันหน้าไปมองหลินซีนเยียน ความลังเลที่หลงเหลือบนใบหน้าก็หายไปหมดแล้ว “ได้ งั้นเชิญแม่นางเข้าไปมาก่อนเถิด”นักพรตหญิงเอ่ยด้วยวาจาอ่อนโยน จินมู่รีบเรียกให้หลินซีนเยียนเข้าไปข้างในวัดลัทธิเต๋า หลินซีนเยียนหนาวจนปากม่วงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงเดินผ่านจินมู่เข้าไปในวัด ส่วนจินมู่ก็จูงมืออี้เซิงกำลังจะเตรียมตามเข้าไป แต่ถูกนักพรตหญิงห้ามเอาไว้ “ทั้ง 2 ท่านช้าก่อน!” “ทำไมรึ?”จินมู่ทำหน้าขรึม เสียงที่เอ่ยขึ้นเห็นได้ชัดว่าไม่พอใจอย่างมาก “บุรุษทั้ง 2 ท่านไม่สามารถเข้ามาได้ ต้องขอภัยด้วยพวกท่านด้วย วัดลัทธิเต๋าของพวกเราล้วนมีแต่นักพรตหญิง ในยามที่ฟ้าสางเช่นนี้ หากมีบุรุษเข้ามาในวัด เกรงว่า… ” จินมู่ที่เตรียมจะเข้าไปรู้สึกลังเลไปสักพัก เขาจูงมืออี้เซิงอยู่มายืนที่หน้าประตู“เอาอย่างนั้นก็ได้ พวกข้าจะรออยู่ที่หน้าประตู รบกวนนักพรตหญิงช่วยดูแลน้องสาวของข้าด้วย” “ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”นักพรตหญิงรับตั๋วเงินพร้อมส่งเสียงตอบรับ จินมู่คล้ายกับยังไม่วางใจ จึงไปกำชับกับหลินซีนเยียน “เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดๆ ก่อน หากว่ากลัวก็ให้หาพวกเราที่หน้าประตูได้ ข้ารออยู่ที่หน้าประตูนี้ตลอด” หลินซีนเยียนไม่ได้พูดอะไร ส่วนนักพรตหญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินที่จินมู่พูดก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “พี่ชายท่านนี้ ในวัดของพวกเราไม่ใช่ถ้ำเสือซะหน่อย แม่นางท่านนี้ก็โตแล้ว หากอยู่ในวัดของพวกเราแล้วนางจะหายไปรึ? ” “ต้องขออภัยนักพรตหญิงด้วย พี่ใหญ่ของข้าเพียงแค่ขี้ขลาดไปเท่านั้น”หลินซีนเยียนพูดจาขบขันแล้วพยักหน้าให้จินมู่ หลังจากที่นักพรตหญิงน้อยปิดประตูลง แล้วเดินนำหลินซีนเยียนเข้าไปข้างใน นักพรตหญิงน้อยบอกว่าเดินผ่านไป 3 ประตูก็จะถึงที่พักของเธอ เมื่อเดินเข้าไปข้างใน หลินซีนเยียนก็เกิดฉงนใจขึ้นมา นี่เป็นเวลากลางวัน แต่ในวัดนี้กลับไม่ได้ยินนักพรตหญิงท่องคัมภีร์เต๋าและก็ไม่เห็นนักพรตหญิงทำความสะอาดเลยสักคน หรือว่าวัดลัทธิเต๋าของที่นี่ ไม่ได้เข้มงวดเรื่องความสะอาดเหรอ? “ในวัดแห่งนี้ไม่มีคนอยู่เลยรึ?”หลินซีนเยียนทนไม่ได้จึงเอ่ยปากถามนักพรตหญิงจากด้านหลังออกไป “มีคนเยอะจะตาย อย่าดูถูกวัดของพวกเราเลยเชียว พวกเราพี่น้องยังมีอีก 20 กว่าคน เพียงแต่ตอนนี้ฝนตกหนัก พวกนางน่าจะพักผ่อนอยู่ด้านหลัง”นักพรตหญิงน้อยเดินไปพูดไป ไม่ทันไรก็มาถึงห้องหนึ่ง นางผลักประตูแล้วเดินเข้าไป จากนั้นก็กวักมือเรียกหลินซีนเยียน “ที่นี่มีห้องว่างอยู่ เจ้าเข้ามารออยู่ในนี้ก่อน ข้าจะไปนำเสื้อผ้ามาให้เจ้าเปลี่ยน” หลินซีนเยียนส่งเสียงตอบกลับ เธอเข้ามาในห้องแล้วหาเก้าอี้นั่ง นักพรตเต๋าออกมาจากในห้องแล้วก็เดินไปข้างใน ตอนที่จะไปได้พูดขึ้นว่า “ลมฝนอาจจะแรง ข้าจะปิดประตูห้องให้เจ้า กันไม่ได้น้ำฝนกระเด็นสาดเข้าไปในห้อง ของที่อยู่ในห้องจะได้ไม่เย็นชื้น” “ขอบคุณท่าน”หลินซีนเยียนตอบกลับ เธอนั่งถูมือให้ความอบอุ่นบนเก้าอี้เพราะว่าทั้งตัวเปียกชื้นไปหมด และเพิ่งจะโดนลมพัดมาไปนาน คราวนี้จึงรู้สึกหนาวจนปากสั่น เธอถูมือไปสักพักก็หยุดชะงักทันที ในใจของเธอนึกภาพหนึ่งได้ ภาพที่นักพรตหญิงคนนั้นได้ปิดประตูให้เธอ ที่มือของนักพรตหญิงคนนั้นทั้งขาวและนุ่มมาก นักพรตหญิงที่ไหนเขาเป็นแบบนี้กัน? เธอรู้สึกหวาดผวา รีบเดินไปที่ริมประตูแล้วผลักประตูออกไปอย่างแรง แต่กลับได้ยินเสียงโซ่ดังเคร้งคร้างมาจากนอกประตู! ประตูนี้มีคนล็อคมาจากข้างนอก! ตอนที่เธอเข้ามาในวัดนี่ก็รู้สึกแปลกๆ แล้ว นักพรตหญิงที่ไหนเห็นเงินแล้วแสดงอาการดีอกดีใจขนาดนั้น?คิดมาถึงตอนนี้ เกรงว่านักพรตหญิงคนนั้นต้องมีอะไรไม่ชอบพากลแน่!แล้วยัง เรียกนักพรตหญิงคนอื่นว่า ‘พี่น้อง’อีก! “ฉันมันโง่จริงๆ !”หลินซีนเยียนด่าตัวเองอย่างรู้สึกผิด แล้วใช้มือตีหัวของตนเองอย่างแรงหลายครั้ง ฝนตกอย่างนี้ สงสัยสมองไม่จะทำงานก็ได้? เธอเดินไปเดินมาในห้องอยู่หลายรอบ ในห้องนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แค่จะหาของมาทำเป็นอาวุธป้องกันตัวยังไม่ได้เลย ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากนอกประตู ฟังจากเสียงคนที่มาต้องไม่ใช่แค่ 1 คน ในสถานการณ์ฉุกละหุกแบบนี้ เธอร้อนรนอย่างมาก เมื่อเธอเห็นถ้วยน้ำชาที่อยู่ตรงมุม เธอจึงโยนถ้วยน้ำชาลงพื้นจนมันแตกเป็นเศษถ้วย แล้วเธอก็รีบหยิบมันซ่อนไว้ในกระโปรง ด้านนอกประตูมีเสียงผู้หญิงคุยกันดังขึ้น “เจ้าว่านางเด็กนั้นสวยงั้นรึ?” “ใช่แล้ว เดี๋ยวเจ้าเห็นเองก็จะรู้ รับรองว่าสวยกว่าพวกพี่น้องของเราที่นี่อีก ไม่ต้องเอ่ยถึงบุรุษเลย แค่สตรีเห็นกันเองก็อดไม่ได้ที่จะอยากไปลูบคลำ” “หากเป็นอย่างที่เจ้าจริงก็คงดี เฮอ วันนี้จะรู้ได้ยังไงว่าจะมีนายท่านที่ปรนนิบัติยากมาคนหนึ่ง พี่น้องหลายคนเขาก็ไม่ชอบแล้ว!แต่ว่าฐานะของคนผู้นั้น พวกเราก็ไม่อาจไปมีเรื่องด้วยได้ วันนี้ฝนตกหนักแขกก็ยังอยู่กัน คนผู้นั้นก็ไม่คิดที่จะไปซะด้วย ตอนนี้ข้าจะไปหาคนที่ทำให้เขาพอใจได้ที่ไหนกัน? หากเขาไม่พอใจล่ะก็ คงจะทำลายข้าวของของเราที่นี่พังหมดแน่!” “พี่ไม่ต้องกังวลไปนะ หากพี่เห็นสตรีในห้องก็จะรู้เอง บุรุษทั่วไปต้องพอใจเป็นอย่างแน่ เพียงแต่ว่าสตรีผู้นั้นต้องไม่ยอมเชื่อฟังพวกเราโดยง่ายดาย…” “หากนางไม่อยากเชื่อฟังก็ไม่ต้องเชื่อฟังอย่างงั้นรึ? สำหรับสตรีที่ไม่ยอมฟังล่ะก็ ข้ามีวิธีจัดการ” ผู้หญิงที่ยืนคุยกันอย่างโอ้อวดที่หน้าประตูโดยไม่สนใจคนในห้องเลยสักนิด บางทีคำพูดนี้อาจจะเจตใจให้คนในห้องได้ยิน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปอธิบายให้ยุ่งยาก สำหรับพวกนางแล้ว คนในห้องเป็นเพียงเนื้ออยู่บนเขียงไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเสียงได้ดังเข้ามาในห้องนี้ หลินซีนเยียนจะไม่เข้าใจเรื่องที่นักพรตหญิงพูดคุยที่ไหนกัน หลายวันที่ผ่านก็ได้ยินสาวใช้ในจวนอ๋องหลายคนที่พูดนินทากัน พวกนางพูดว่าตอนนี้เหล่าคุณชายที่มีอิทธิพลมีรสนิยมแปลกๆ ไม่เพียงแต่ชื่นชอบสตรีที่หอโคมเขียว แต่ยังชอบอะไรที่ทำให้เร้าใจด้วย พอคิดมาถึงตรงนี้ ในวัดลัทธิเต๋าคงจะมาเล่นเป็นนักพรตหญิงกัน และก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้มีอิทธิพลเหล่านั้นอีกด้วย ผู้หญิงที่อยู่หน้าห้อง เมื่อได้ยินเสียงของแตกจากในห้อง ก็รีบปลดโซ่ออกแล้วผลักประตูเข้ามา เห็นว่าหลินซีนเยียนยังยืนอยู่ดี พวกนางก็ถอนหายใจกันอย่างโล่งกัน “แหม ที่แท้ก็เป็นสาวงามนี่เอง”นักพรตหญิงแก่มองใบหน้าของหลินซีนเยียน สีหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
已经是最新一章了
加载中