ตอนที่ 75 ไม่อยากให้พี่สาวโดนรังแก
1/
ตอนที่ 75 ไม่อยากให้พี่สาวโดนรังแก
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 75 ไม่อยากให้พี่สาวโดนรังแก
ตนที่ 75 ไม่อยากให้พี่สาวโดนรังแก เมื่อได้ฟังที่สะใภ้เหล่าหลี่พูด สีหน้าของหลินซีนเยียนก็เริ่มไม่สู้ดี เธอจีงยิ้มให้อย่างเก้อเขิน “ ขอบคุณในความหวังดีของสะใภ้หลี่ แต่ท่านพ่อท่านแม่ของข้าได้จากโลกนี้ไปแล้ว ข้าได้ไว้ทุกข์อยู่ 3 ปี ดังนั้นจึงไม่สามารถเอ่ยถึงงานมงคลได้ ” “อ๋อ แบบนี้นี่เอง ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร รอเจ้าไว้ทุกข์เสร็จก่อน แล้วค่อยเอ่ยถึงก็ยังทัน” หลังจากที่สะใภ้เหล่าหลี่เอ่ยประโยคนี้ก็ได้ขอลากลับก่อน เมื่อหลินซีนเยียนเอ่ยขอบคุณอีกครั้งก็ไปส่งทั้งสองคน ประตูหน้าบ้านปิดลง หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา สะใภ้เหล่าหลี่นี่ช่างกระตือรือร้นเสียจริง “คุณหนู แล้วขนมเทียน….” เอ้อร์ยาลังเลที่จะถาม หลินซีนเยียนยิ้ม “พวกเจ้ากินเถอะ” เมื่อได้รับอนุญาต เอ้อร์ยาก็รีบหยิบขนมที่ห้ออยู่ในถุงออกมากิน นางอยากจะเรียกอี้เซิงมากินด้วยกัน แต่เห็นอี้เซิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำหน้าไม่พอใจ “พี่ หากไม่มีคนผู้นั้น พี่ก็สามารถแต่งกับคนดีๆได้” อี้เซิงรู้สึกเสียใจแทนเธอ หลินซีนเยียนยกมือขึ้นมาแล้วจิ้มไปบนกลางนะหว่างคิ้วของเขา “อี้เซิง เจ้าเพิ่งจะ 6 ขวบ ทำไมถึงเหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กนัก จะว่าไป ข้าไม่คิดที่จะออกเรือน รอเจ้าอายุครบ 18 ป เมื่อเจ้าได้เติบใหญ่แล้ว ข้าก็จะออกบวชเป็นภิกษุณี” อี้เซิงเงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้พูดเล่น เขาจึงจับมือของหลินซีนเยียน “พี่ ทำไมต้องเป็นภิกษูณีด้วย พี่ ท่านต้องออกเรือนนะ ต้องมีคนยอมแต่งกับพี่แน่” “อี้เซิง ทำไมสตรีต้องออกเรือนด้วย?” หลินซีนเยียนเห็นว่าเขาร้อนรน ก็เริ่มรู้สึกสงสัยทันที ใบหน้าของอี้เซิงซีดขาว ทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างเศร้าโศก “ท่านแม่ของข้า เพราะว่าแต่งออกเรือนไม่ได้จึงโดนคนในหมู่บ้านรังแก ข้าไม่อยากให้พี่ต้องโดนรังแกเพราะไม่มีคนพึ่งพา...” หลินซีนเยียนถอนหายใจ แล้วดึงเขามาสู่อ้อมอก ตบหลังของเชาเบาๆ “เรื่องนั้นมันก็ผ่านไปแล้ว ท่านแม่ของเจ้าโดนรังแกก็ไม่ใช่ความผิดของนาง แต่เป็นความผิดของคนที่รังแกท่านแม่ของเจ้า พวกเราต้องไม่ใช้ความผิดของคนอื่นมาลงโทษตัวเอง แบบนี้มันจะไม่ยุติธรรมสำหรับเรา รู้หรือไม่?” อี้เซิงไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เขาเหมือนจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ แต่ก็เชื่อว่าในสิ่งที่หลินซีนเยียนพูดล้วนถูกต้องทั้งหมด เอ้อร์ยากินขนมเทียนไป มองไปยั้งทั้งสองคน จู่ๆก็ร้องอย่างตกใจขึ้นมา “ท่านแม่ของอี้เซิงไม่ใช่ท่านแม่ของคุณหนูหรอกหรือ? พวกท่าน....ไม่ใช่พี่น้องกันหรือ?” สีหน้าที่ดูตกใจมากเกินไปของนางทำให้หลินซีนเยียนหัวเราะออกมา “ถูกต้อง อี้เซิงไม่ใช่น้องชายแท้ๆของข้า แต่เขาก็เหมือนน้องชายแท้ๆของข้า ก็เช่นเดียวกับเจ้า เพียงแค่เจ้าเต็มใจ เจ้าก็เรียกข้าว่าพี่สาวได้เหมือนกัน ข้าก็จะเป็นพี่สาวแท้ๆให้กับเจ้า” “พี่สาว...” จู่ๆเอ้อร์ยาก็ปล่อยโฮออกมาทันที เพียงแต่ในชั่วขณะหนึ่งนางก็ตั้งสติแล้วส่ายหน้า “ไม่ได้เจ้าคะ ข้าเป็นบ่าว ไม่สามารถให้คุณหนูเป็นพี่สาวของข้าได้” หลังจากที่กล่าวจบ เอ้อร์ยาก็หอบถุงขนมเทียนแล้วหันหลังวิ่งจากไป หลินซีนเยียนมองแผ่นหลังของนางที่วิ่งจากไปก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เอ้อร์ยาคนนี้ถึงอายุจะไม่มาก แต่กลับให้ความรู้สึกว่านางโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว นางเป็นสาวน้อยที่โตมาจากในชนบทจริงๆหรือ? เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ประตูหน้าบ้านก็มีเสียงเคาะดังขึ้น หลัวจากที่เอ้อร์ยาจัดโต๊ะเสร็จแล้วก็เดินไปเปิดประตู เห็นเด็กชายที่น่าเอ็นดูวิ่งพรวดเข้ามา เด็กคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นลูกชายของสะใภ้เหล่าหลี่ที่เป็นเพื่อนบ้าน หลินซีนเยียนพาอี้เซิงมานั่งลงนั่งเตรียมจะทานข้าว ก็มีเด็กผู้ชายวิ่งพรวดเข้ามาหา เขาเจาะจงวิ่งไปตรงหน้าของอี้เซิง หยิบลูกอมมาจากกระเป๋าแล้ววางลงตรงหน้าของอี้เซิง “ข้าชื่อว่าหูเอ๋อร์ เจ้าอยากไปดูการแข่งเรือมังกรด้วยกันกับข้าหรือไม่? หากเจ้าจะไปกับข้า ข้าจะให้เจ้ากินลูกอมนี่ ” อี้เซิงมองเขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันหน้าหนีไป ท่าทางของอี้เซิงทำให้หูเอ๋อร์รู้สึกน้อยใจจึงเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อหลินซีนเยียนเห็นก็เอ่ยขึ้น “อี้เซิง พวกเราไปดูการแข่งเรือกันเถอะ ข้าไม่เคยดูการแข่งเรือมาก่อน มีคนไปเยอะก็ยิ่งสนุกดีออก เอ้อร์ยา เจ้าอยากไปหรือไม่?” พอเอ้อร์ยาได้ยินก็รับพยักหน้าทันที “อยากไปเจ้าคะ!” ตาของหูเอ๋อร์ก็เบิกโพลงจ้องไปที่หลินซีนเยียน รอยยิ้มนั้นดูจริงใจมากกว่าท่านแม่ของตนเสียอีก อี้เซิงก็พยักหน้า หลินซีนเยียนหัวเราะ หลังจากชวนหูเอ๋อร์มาทานข้าวเช้าด้วยกันก็พาเด็กทั้งสามคนออกจากบ้าน พอเดินไปสักระยะหนึ่ง จู่ๆเธอก็เรียกสติคืนมา อายุของตัวเองในตอนนี้ไม่ใช่ 16-17 ปีเหรอ เอ้อร์ยาอายุก็ 13-14 ปี หูเอ๋อร์กับอี้เซิงก็ 6 ขวบกว่า เมื่อพวกเธอเดินออกจากบ้าน ทำไมถึงดูเหมือนเป็นแก๊งหมีน้อยจอมซนที่ชวนกันออกเดินเที่ยวยังไงยังงั้น เมืองเฟิ่งซีมีแม่น้ำอยู่ 1 สายชื่อว่าแม่น้ำหลี สืบเนื่องมาจากตั้งแต่ยุคแรกของสถาปนาแคว้นหนานเยว่ องค์ปฐมจักรพรรดิทรงล่องเรือในแม่น้ำและได้พบกับสตรีที่เขารักมากที่สุดในชีวิต แต่น่าเสียดาย สตรีนางนั้นเพิ่งจะได้รับความโปรดปรานก็ป่วยตายทันที องค์ปฐมจักรพรรดิทรงเสียพระทัยมากจึงไปตัดพ้ออยู่ริมที่แม่น้ำสายนี้ทุกวัน แต่หญิงงามได้จากไปแล้วไม่อาจหวนคืนกลับมา ดังนั้นองค์ปฐมจักรพรรดิจึงตั้งชื่อแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำหลีที่แปลว่าลาจาก ตรงริมแม่น้ำหลีมีโรงน้ำชาตั้งอยู่มากมาย หลินซีนเยียนพาเด็กทั้ง 3 เข้าไปหนึ่งในโรงน้ำชาเหล่านั้น เลือกที่นั่งชั้นสองอยู่ติดกับหน้าต่าง เมื่อมองจากมุมนี้แล้วสามารถมองเห็นเรือแข่งที่ลอยอยู่บนผิวน้ำได้พอดิบพอดี นักเล่านิทานของโรงน้ำชาเพิ่งจะเล่าตำนานขององค์ปฐมจักรพรรดิอยู่พอดี เมื่อหลินซีนเยียนได้ฟังก็อดไม่ได้ที่แค่นหัวเราะ หญิงสาว “ถูกส่งเข้าวัง ชีวิตดั่งจมสู่ก้นทะเล”สตรีที่มีฐานะธรรมดาเช่นนั้นเมื่อเข้าวังแล้ว ยังจะมีชีวิตอย่างสงบสุขหรือ? มันก็เพียงแต่ทัศนียภาพภายนอกเท่านั้น “เจ้าของร้าน ขอโต๊ะชั้นสองติดหน้าต่างด้วยโต๊ะหนึ่ง”มีเสียงแข็งกระด้างดังขึ้นมาจากหน้าประตูของโรงน้ำชา เจ้าของร้านที่กำลังดีดลูกคิดเงยหน้าขึ้นมามอง เห็นเป็นคุณชายสวมชุดผ้าแพร 2 คน จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมาทันที“เอ่อ แขกทั้งสองท่าน ต้องขอโทษจริงๆ ที่นั่งติดข้างหน้าต่างตอนนี้ไม่มีเหลือแล้ว หากท่านไม่ถือสาอะไร เอาที่นั่งในห้องโถงใหญ่จะดีหรือไม่?” “พวกเรามีเงิน!”ชายผู้นั้นก็เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง ทำให้เจ้าของร้านเริ่มมีสีหน้าลำบาก ในขณะที่เจ้าของร้านไม่รู้ว่าเอาใจแขกทั้ง 2 ท่านนี้อย่างไร ก็ได้ยินเสียงคุณชายอีกคนเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องแล้ว ข้ามีเพื่อนอยู่ที่นี่ พวกเราไปขอร่วมโต๊ะก็ได้ ”พอเอ่ยขึ้นเขาก็เดินขึ้นไปชั้นสองทันที หลินซีนเยียนที่กำลังถือถ้วยชาอยู่ก็เห็นอินฉีกับจิ้นฉู่เดินขึ้นบันไดมา เธอก็ลุกขึ้นแล้วย่อตัวทำความเคารพ “แม่นางหลินก็มาชมการแข่งเรือหรือ?”ไม่ใช่อินฉีเอ่ยทักขึ้นก่อน กลับเป็นจิ้นฉู่ที่ดูกระตือรือร้น หลินซีนเยียนพยักหน้า และรู้สึกชื่นชมคนอย่างจิ้นฉู่ที่มีนิสัยตรงไปตรงมาเช่นนี้ “แม่นางหลิน โต๊ะที่นั่งติดหน้าต่างเต็มหมดแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ หากว่าพวกเราสองคนขอร่วมโต๊ะด้วย?”อินฉีประสานมือคำนับแล้วเอ่ยถาม “ใต้เท้าอินเป็นผู้มีพระคุณของซีนเยียน ไหนเลยจะต้องเกรงใจขนาดนี้ เพียงแค่ใต้เท้าอินไม่ถือสาก็พอแล้ว” หลินซีนเยียนผายมือเชื้อเชิญ อินฉีได้นั่งลงฝั่งตรงข้ามเธออย่างสง่าผ่าเผยแล้วเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นก็ขอบคุณแม่นางหลิน” “จริงด้วย ทำไมใต้เท้าอินถึงมีอารมณ์สุนทรีย์มาชมการแข่งด้วยหรือ?”หลินซีนเยียนรินชาให้อินฉีพรางเอ่ยถามไปด้วย ตั้งแต่เห็นหลินซีนเยียน รอยยิ้มบนใบหน้าของอินฉีก็ไม่หุบลงเลย “ไม่ปกปิดแล้วกัน เรือที่แข่งในวันนี้ก็มีเรือจากจวนมหาเสนาบดีของข้าด้วย ดังนั้นจึงต้องมาชมสักหน่อย ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 75 ไม่อยากให้พี่สาวโดนรังแก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A