ตอนที่ 86 เปลี่ยนคนชั่วคราว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 86 เปลี่ยนคนชั่วคราว
ต๭นที่ 86 เปลี่ยนคนชั่วคราว ลือกันว่าอินฉีที่เป็นอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่ฉลาดเฉลียวมากที่สุด กลยุทธ์ที่ไร้เทียวทาน ผู้คนที่ได้เห็นล้วนตกตะลึงอย่างยิ่ง ถ้าหากเขาเห็นแก่คำของผู้เยาว์คนนี้ เช่นนั้นตัวผู้เยาว์คนนี้ย่อมมีพรสวรรค์อันโดดเด่นอย่างแน่นอน ผู้เยาว์คนนี้เกรงว่าไม่ง่ายที่จะจัดการ เขาอยากจะเตือนน้องสาวตน ทว่าในขณะที่กำลังคิดจะดึงชุดของนาง กลับเห็นเทียนหยุนชิงเดินออกไปเสียแล้ว “ใต้เท้าอิน เชิญท่านกล่าว ว่าพวกเราจะแข่งขันกันอย่างไร?” หยุนชิงใส่คำถามด้วยความโมโห อินฉีลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน แต่กลับไม่สนใจคำถามของนาง อีกทั้งยังเดินไปด้านหน้าศาลาเฟิงอี กล่าวเสียงดังชัดเจนกับฝูงชนที่มามุงดูอยู่รอบๆ "ข้าอินฉี แม้มิได้ตั้งใจจะพัวพันกับการแข่งขันนัดนี้ ทว่าคนจากทั้งสองฝ่ายได้เชิญข้าออกมาตั้งคำถามเพื่อแสดงความยุติธรรม ข้ารู้สึกว่าหาได้ยากอย่างแท้จริงที่จะได้เห็นการแข่งขันเช่นนี้ในอาณาจักรหนานเยว่ เช่นนั้นข้าก็จะไม่หลบเลี่ยงในการเป็นผู้รับรองครั้งนี้ เมื่อข้าได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ข้าคิดว่าในเมื่อสิ่งที่ศาลาความลับแห่งสวรรค์เชี่ยวชาญมากที่สุดเมื่อเทียบในการประดิษฐ์แล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกเราไม่สู้ให้โจทย์พวกเขาโดยการประดิษฐ์อาวุธเล่า” เขากล่าวในขณะที่เดินไปยังด้านหน้าของศาลาเฟิงอี หยิบสาลี่สองลูกขึ้นมาจากโต๊ะตัวหนึ่ง ชูมือขึ้นกล่าว "ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะให้คุณชายทั้งสองท่านนี้ทำการแข่งขันภายในหนึ่งชั่วยาม สร้างอาวุธที่ทำลายสาลี่นี้ พลังทำลายของใครรุนแรง ของใครแม่นยำ คนนั้นก็คือผู้ชนะ ทุกคนคิดว่าวิธีนี้ดีหรือไม่?" นี่คือจุดที่อินฉีแตกต่างจากข้าราชสำนักคนอื่นๆ ภายใต้ระบบศักดินา เขาเรียนรู้ที่จะขอคำปรึกษาความคิดเห็นของคนธรรมดาทั่วไป สำหรับข้าราชสำนักที่เต็มใจจะขอความคิดเห็นจากตน ประชาชนยิ่งให้การสนับสนุนและชื่นชมอย่างแน่นอน เขาสามารถได้รับหัวใจความชื่นชมจากนักวิชาการเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาโชคลาภ เมื่อผู้ชมได้ยินอัครเสนาบดีถามไถ่ความคิดเห็นของตน ยังต้องกล่าวอันใดอีก จึงรีบตะโกนตอบทันที "ดี! ดี! ดี!" ฝูงชนหลายร้อยคนที่มามุงดูต่างตะโกนตกลงพร้อมๆกัน การแข่งนัดนี้ทำให้ผู้คนเลือดเดือดพล่าน ในช่วงเวลานั้น หลินซินเยียนดูเหมือนจะเห็นความแตกต่างในตัวอินฉี แต่เดิมเข้าใจว่าบุรุษผู้สง่างามที่มีกลิ่นอายความเป็นความเป็นนักวิชาการเข้มข้น ทว่าเมื่อเปลี่ยนท่าทางได้กลายเป็นปีศาจแสนอันตรายต่อทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต บางทีเขาอาจจะเป็นปีศาจอยู่แล้ว เพียงแค่อำพรางตัวเองได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนเข้าใจว่าเขาเป็นเพียงมนุษย์ที่ไร้พิษภัยผู้หนึ่งเท่านั้น ในเมื่อทุกคนต่างเห็นพ้องกับวิธีนี้ หลินซินเยียนก็ไม่แสดงความเห็นแต่อย่างใด “การประดิษฐ์อาวุธไฉนเลยจะเป็นเรื่องที่ง่ายเช่นนี้? ไม่เพียงแค่ต้องเป็นเครื่องมือเฉพาะทาง ยังต้องใช้วัตถุดิบพิเศษ ทำอาวุธหนึ่งชิ้นออกมาภายในสองชั่วยาม สิ่งที่ทำออกมาจะเรียกว่าอาวุธได้หรือ?” เทียนหยุนชิงดูเหมือจจะไม่พอใจกับวิธีนี้ หลินซินเยียนส่ายศีรษะพลางถอนหายใจกล่าว “ในเมื่อคุณชายเป็นคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ จะยึดติดกับการทำอาวุธที่จำเป็นจะต้องใช้วัตถุดิบและเครื่องมือพิเศษได้อย่างไร? อาวุธก็ดี ของมีคมก็ดี เพียงแค่ต้องเป็นสิ่งที่มีแรงทำลายล้างในเวลาใดเวลาหนึ่งก็สามารถกลายเป็นอาวุธได้ การแข่งขันครั้งนี้ทำให้พวกเราทำลายลูกสาลี่ ซึ่งสาลี่กลับไม่ใช่วัตถุที่แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ ฉะนั้นอาวุธที่สามารถทำลายลูกสาลี่ได้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุเหล็กกล้า สองชั่วยามทำอาวุธที่เรียบง่ายสักชิ้นข้ารู้สึกว่าเพียงพอแล้ว ถ้าหากท่านคิดว่าไม่พอ ควรยอมรับความพ่ายแพ้โดยดี” นางกลับคิดไม่ถึงว่าคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์จะกล่าวออกมาเช่นนี้ นี่นางคาดหวังกับศาลาความลับแห่งสวรรค์สูงเกินไปงั้นหรือ? เทียนหยุนชิงถูกกล่าวเช่นนี้ก็เกิดโทสะจนหน้าแดง กำลังจะกล่าวถึงทฤษฏีของนางอยู่พอดีกลับถูกบุรุษที่อยู่ด้านหลังดึงแขนไว้อย่างกระทันหัน เขากระซิบที่ข้างหูนาง "ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เขาพูดถูกต้อง ตอนนี้ถ้าหากเจ้ายังคิดจะรักษาหน้าตนเองอยู่ก็ต้องยอมรับวิธีการแข่งขันนี้ หลังจากนั้นค่อยเอาชนะนาง" เทียนหยุนชิงไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ในเวลานี้นางยังคงยินยอมเชื่อมั่นพี่ชายแท้ๆของตน นางพลันกัดฟันตอบ “ได้! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ตกลงแข่งตามนี้!” ในเมื่อทั้งสองฝั่งล้วนเห็นด้วย การแข่งขันก็นับว่าเริ่มขึ้นแล้ว อินฉีให้คนจุดธูปไว้ที่ด้านข้างเพื่อบันทึกเวลา การทดสอบของคนทั้งสองเริ่มชุลมุนขึ้นแล้ว เทียนหยุนชิงในตอนแรกนั้นยังสับสน ไม่รู้ว่าตนควรใช้สิ่งใดมาทำอาวุธ สุดท้ายแล้วบุรุษที่อยู่ด้านหลังถอนหายใจออกมา บุรุษผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น คือเทียนหยุนจือพี่ชายแท้ๆของนางนั่นเอง เดิมทีเขาไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาสอดเรื่องนี้ แต่เมื่อเห็นท่าทางของหลินซินเยียนแล้ว เขากลับรู้สึกว่าเทียนหยุนชิงยังไม่ใช่คู่มือของนาง แต่เขาไม่อาจเห็นชื่อเสียงของศาลาความลับแห่งสวรรค์ถูกลำลายลง ดังนั้นในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เขาจึงต้องสอดมือช่วย เขาเดินกลับไปตามทางที่เขามา ด้วยความพยายามอยู่ชั่วครู่ก็นำกล่องใบหนึ่งออกมาจากรถม้าของตนเอง กล่องใบนั้นมีความคล้ายคลึงกับกล่องยาของหมอยาจีนทั่วๆไป เมื่อเขาเปิดออกมากลับทำให้เบื้องหน้าสว่างไสวขึ้น นึกไม่ถึงว่าภายในกล่องนั้นบรรจุไว้ด้วยเครื่องมือขนาดเล็กที่หน้าตาแปลกประหลาดจำนวนหนึ่ง ยังมีวัสดุโลหะเล็กละเอียดอีกจำนวนหนึ่ง วัตถุดิบไม่มาก ทว่าสำหรับการสร้างสิ่งบางอย่างเพื่อทำลายลูกสาลี่ก็นับว่าเหลือเฟือแล้ว ในยามที่ฝูงชนเห็นฉากนี้ ก็ส่งเสียงโห่ร้องปะทุขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับพวกเขาสองคนนี้สมกับที่เป็นเป็นคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ ดูซะสิ แม้แต่เครื่องมือก็พิเศษซะขนาดนี้ ในสายตาของพวกเขาแล้วชัยชนะดูเหมือนจะเป็นของศาลาความลับแห่งสวรรค์ตั้งแต่ต้น หลินซินเยียนกลับไม่รีบร้อน เพียงเหลือบมองด้วยสายตาเรียบเฉย หลังจากนั้นก็เริ่มรวบรวมสิ่งของที่มีประโยชน์สำหรับตนที่อยู่โดยรอบศาลาเฟิงอี โชคดีที่วันนี้คนจำนวนมากแห่กันมาที่นี่ หลายคนยังได้พกพาของกระจุกกระจิกติดตัวมาบางส่วน ในขณะที่นางถามคนเหล่านั้นเพื่อยืมบางสิ่ง ทุกคนล้วนใจกว้างอย่างมาก เทียนหยุนจือหันมองไปทางนางโดยที่ไม่ตั้งใจ นึกไม่ถึงว่าเห็นหลินซินเยียนถามเด็กคนหนึ่งเพื่อจะเอาถังหูลู่ครึ่งไม้(ผลไม้เคลือบน้ำตาลเสียบไม้) ยังซื้อสร้อยข้อมือเงินที่ได้เปลี่ยนเป็นสีดำไปแล้วจากข้อมือของหญิงชรา ถามนายพรานที่ดูคึกคักเพื่อเอาลวดเหล็กอีกหลายเส้น.... ขณะที่มองนางกำลังหาของอย่างยุ่งเหยิงที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างอาวุธเลย เทียนหยุนชิงจึงทำท่าทางดูถูก พลันแค่นเสียงเย็นกล่าว "เป็นพวกไม่ถึงขั้นอย่างที่คาด จะใช้ของเลอะเทอะเหล่านั้นสร้างออกมาได้งั้นรึ? คนคงหัวเราะจนฟันหัก" แต่ทว่า สีหน้าของเทียนหยุนจือกลับยิ่งมืดครึ้ม สำหรับคำกล่าวของเทียนหยุนชิง เขาได้แต่ส่ายศีรษะอย่างจนใจ น้องสาวผู้นี้ของเขากลับไม่มีพรสวรรค์ในด้านการสร้างอาวุธ เนื่องจากถูกตามใจจนเสียคนตั้งแต่ยังเล็ก ดังนั้นท่านพ่อท่านแม่ของเขาจึงให้นางติดตามเขามาเมืองเฟิ่งชีเพื่อเปิดหูเปิดตาท่องโลกภายนอก กล่าวกันว่า เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า คนผู้หนึ่งที่สามารถใช้ของพื้นๆสร้างออกมาเป็นอาวุธได้ กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่น่ากลัว เพราะนั่นหมายความว่านางสามารถสร้างสิ่งของเพื่อปกป้องตนเองหรือฆ่าศัตรูได้ทุกที่ทุกเวลา เทียนหยุนจือลังเล ถ้าหากให้เทียนหยุนชิงสร้างอาวุธนี้ โอกาสที่จะพ่ายแพ้ก็มากเกินไป ถ้าหากในเวลานี้เปลี่ยนเป็นตนที่ลงแข่งละก็... ทว่าความคิดของเขายังไม่ทันจะมีโอกาสนำออกมาใช้จริง อินฉีพลันก้าวมาถึงเบื้องหน้าของเขา ดวงตาอันแหลมคมคู่หนึ่งของอินฉีกำลังมองเขา มุมปากเหมือนกำลังหัวเราะโดยที่ไม่มีเสียง "น้องชายท่านนี้ เป็นคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์เหมือนกันสินะ" อินฉีไม่ได้ถามเขา แต่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ เขาไม่รอคำตอบของเทียนหยุนจือ จึงกล่าวต่ออีกว่า "แต่ว่า ในเมื่อการแข่งขันเริ่มไปแล้ว จะเปลี่ยนคนกระทันหันนั้น คงเกรงว่าศาลาความลับแห่งสวรรค์เองก็หน้ไม่อายสินะ ในเมื่อประจันหน้ากันแล้วก็ต้องท้าทายความกล้าหาญจนถึงท้ายที่สุด น้องชายว่า..ข้าพูดถูกหรือไม่?"
已经是最新一章了
加载中