ตอนที่98 จะไม่ทรยศแน่นอน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่98 จะไม่ทรยศแน่นอน
ต๭นที่98 จะไม่ทรยศแน่นอน หลินซินเยียนเห็นคนจำนวนหนึ่งกำลังตีกัน ก็หัวเราะเสียงเย็น และถือโอกาสตอนที่เกิดปัญหาหนีออกมาเงียบๆ ไม่มีใครสังเกตเห็นตอนที่นางหนีออกมา คนตระกูลหนานกงสนใจแต่หนานกงฉี หัวใจของพนักงานทุกคนก็อยู่ที่ท่านชายอู๋ ดังนั้น ตอนนี้หลินซินเยียนหนีออกมานี่ช่างง่ายดายเหลือเกิน “ไม่ใช่คนวิปริตหรือ ตีคนตายนี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่หรือ” หนานกงฉีใช้เท้าเหยียบอยู่บนแผ่นหลังของคุณชายอู๋ แล้วก็เหยียบอีกที แล้วท่านชายอู๋คนนั้นก็กระอักเลือดสดๆออกมา อารมณ์โกรธของคุณชายอู๋ลดลงแล้ว ไม่มีแรงที่จะพูด ทางด้านของผู้จัดการนั้นใบหน้าของเขากูถูกถีบด้วยเหมือนคนใกล้ตาย “ได้โปรดเถิดท่านผู้ยิ่งใหญ่ หยุดมือเถิด นี่เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านตระกูลอู๋ เกิดเรื่องเช่นนี้ ก่อเรื่องให้คนผู้นั้นในวัง พวกเราอาจจะถูกฝังเป็นศพกันหมด” “คนผู้นั้นในวังหรือ” หนานกงถิง คนที่เป็นพี่คนโตของตระกูลหนานกงตกใจค้าง หัวคิ้วขมวดแน่น ถามผู้จัดการว่า “เจ้าพูดอะไร พูดออกมาให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้” พวกเขาตระกูลหนานกงรวยล้นฟ้าก็จริง แต่แค่พูดถึงเรื่องรวยก็ไม่อาจไปต่อกรกับเรื่องในวัง แย่จริงที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเชื้อพระวงศ์ พวกเขาตระกูลหนานกงก็ยากที่จะถอนตัว “นางสนมเอกที่ร่ำรวยมิใช่มาจากตระกูลอู๋หรอกหรือ นางสนม นางสนมอู๋ไง คุณชายอู่ท่านนี้เป็นน้องชายของนางสนมอู๋ ท่านชายตระกูลอู๋ตัวคนเดียว ดังนั้น พวกท่านเบามือหน่อยเถิด ไม่เช่นนั้นพวกข้าต้องตายแน่” ผู้จัดการล้มลุกคลุกคลานเข้าไปกอดขาของหนานกงฉีไว้ เมื่อหนานกงฉีได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ก็ยกขาออก “ไปให้พ้น ในเมื่อร่างของเขาสำคัญเช่นนี้ ทำไมเมื่อครู่ไม่พูด ทำไมรึ เจ้าอยากจะทำร้ายตระกูลหนานกงหรือ” ผู้จัดการล้มกองอยู่กับพื้น กระอักเลือดออกมาเช่นกัน เขาเองก็รู้สึกกล้ำกลืน เขาไม่มีโอกาสที่จะพูดต่างหาก พวกท่านมาถึงก็ต่อยตีกันเลย ไม่ให้เวลาเขาได้อธิบายเลย หนานกงฉีเพิ่งจะรับการโน้มน้าวจากหนานกงถิงและหนานกงเหยียน ทั้งสองคนเพิ่งจะประมือกัน ยิ่งเห็นคุณชายอู๋ที่กองอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด “ทำไมยังไม่รีบไปตามหมอมา”ในช่วงเวลาคับขันนี้ คนที่มีสติมากที่สุดก็คือหนานกงถิง รีบกำชับให้คนไปตามหมอมา และให้ผู้อารักขาสองคนไปพยุงท่านชายอู๋ ผู้อารักขาทั้งสองคนพยุงเอวขของท่านชายอู๋ขึ้นมา แต่เมื่อทั้งสองคนลุกขึ้นกลับพบว่าร่างของท่านชายอู๋ทรุดฮวบและไม่มีสติแล้ว หัวใจของหนานกงถิงตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว ยื่นมือไปอังที่จมูกของท่านชายอู๋ แล้วก็ถอยหลังหนึ่งก้าว “ตาย ตายแล้ว” ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ตีตายก็คือตีตาย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยตีคนตาย แค่ให้ตั๋วเงินปิดปากไปก็จบ แค่เพียงแสดงตัวว่าเป็นคนรวย แค่นี้ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่ว่าท่านชายอู๋ที่เป็นลูกชายคนเดียวนี่สิ “พี่ใหญ่ ทำอย่างไรดี ถ้าหากเป็นคนบ้านตระกูลอู๋จริง งั้นพวกเราก็เป็นคนก่อเรื่องนะสิ” เวลานี้ หนานกงฉีเองก็ไม่กล้าวางใจ โกรธแค้นจนเค้นเสียงต่ำ “เป็นความผิดของเจ้าเด็กน่าตายคนนั้น เอ๊ะ เจ้านั่นมันหายไปไหนแล้วละ” พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่าภายในห้องนี้ไม่เหลือแม้แต่เงาของหลินซินเยียน ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ แม้แต่คนโง่ก็ยังมองออกว่ามีลับลมคมใน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลายเป็นมีดในมือผู้อื่น มีดที่ถูกยืมไปใช้ฆ่าคนเสียแล้ว “เป็นเช่นนี้จริงๆด้วย ข้าจะต้องข้าไอ้เด็กนั่นให้ได้ ” หนานกงฉีถีบผู้อารักขาสองคนที่อยู่ข้างกายเขา ผู้อารักขาสองคนกุมหัวเข่าแต่ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสีย “ตอนนี้พูดเช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้พวกเราต้องแก้ไขปัญหาที่อยู่ข้างหน้าก่อนคือท่านชายอู๋ที่ตายแล้ว” หนานกงเหยียนเองก็กลุ้มใจ ได้แต่ฝากความหวังไว้กับพี่คนโต หนานกงถิง หนานกงถิงก็กลัดกลุ้ม เขาเดินไปเดินมาในห้อง แล้วกัดฟัน “ตอนนี้ทำตามแผนนี้ไปก่อน ขอเพียงแค่ข่าวที่ว่าคุณชายอู๋หลงเป็นชายรักชายจริงถูกแพร่ออกไป ถ้าหากเขาตายในที่แบบนี้ นางสนมที่อยู่ในวังก็คงจำเป็นที่จะไม่กล้าออกเสียงอะไรมาก” เมื่อหนานกงฉีและหนานกงเหยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าเป็นแผนการที่ไม่เลวเลย ทั้งหมดช่วยกันวางแผนและหาคนออกไปทำตามแผนทันที เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ป้ายประกาศบนถนนใหญ่ที่อยู่ในเมืองเฟิ่งซีก็มีใบประกาศมาติด ว่า บุตรชายคนเดียวของตระกูลอู๋แห่งถนนตะวันออกนั้นเป็นชายรักชาย และยังชอบเที่ยวผู้ชายด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่ตายบนร่างของเด็กหนุ่ม คนที่เดินผ่านไปมาเห็นว่าข่าวนี้มีมูลมีที่มา และยังมีเด็กหนุ่มที่เคยปรนนิบัติท่านชายอู๋มายืนยันว่าเคยถูกท่านชายอู๋ทรมาน สายตาของคนใต้ฟ้าก็เห็นเป็นพยานแล้วว่าเขาตายอย่างฉับพลันขณะกำลังมั่วโลกีย์ ในเมื่อมีหลักฐานเยอะ คนให้ปากคำก็เยอะ ดังนั้นข่าวนี้ก็ทำให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเฟิ่งซีนั้นได้รับรู้ บางคนพอรู้ข่าวก็แทบจะบอกว่าคนเช่นนี้ตายไปก็ดีแล้ว เมื่อได้ยินเรื่องนี้จากปากของหลี่หลง หลินซินเยียนก็คลี่ยิ้ม เมื่อยามโพล้เพล้ บนท้องฟ้ามีแสงสายัณห์ นางก็นั่งชงชาอยู่ในห้อง หลี่หลงบอกข่าวทั้งหมดให้หลินซินเยียนฟังเสร็จก็คุกเข่าอยู่ข้างหน้านาง “แม่นางแก้แค้นให้พ่อแทนข้าแล้ว ท่านเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของข้าหลี่หลง ขอเพียงแค่แม่นางหลินเอ่ยปาก ข้าก็จะยอมทำทุกอย่างเพื่อท่านแม้ข้าตายก็ยินยอม ” หลินซินเยียนได้ยินเขาพูดเช่นนี้ สายตาที่มองทอดออกไปที่แสนไกลก็มองกลับมา สีหน้าของนางยังคงแสดงว่าไม่ต้องใส่ใจอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แค่ยกมือขึ้นปรามแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าตาย แม่กับน้องชายเจ้าจะทำอย่างไร ลุกขึ้นมา ข้าทำเช่นนี้ไม่ได้ทำเพื่อเจ้า แต่ทำเพื่อความสบายใจของข้า แต่ว่าเจ้าจะต้องลงโทษความผิดของบ้านตระกูลอู๋ เพียงแค่ว่ามู่เจียงทำเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว เจ้าที่เป็นผู้ชายคนเดียวของบ้านต้องทำงานหาเงินเลี้ยงปากท้องของคนในครอบครัว ถ้าหากว่าเจ้ายินดี ก็มาเป็นผู้อารักขาของข้า ” จากการสังเกตของนาง นางรู้สึกว่าหลี่หลงคนนี้เป็นคนที่มีสติปัญญา อย่างน้อยที่สุดความฉลาดปราดเปรื่องของเขาก็จะสามารถลดความวุ่นวายลงไปได้ หลี่หลงชะงักงัน แล้วเงยหน้าขึ้นมองนาง หลินซินเยียนพูดอีกว่า “แน่นอนว่าข้าต้องให้ค่าแรงเจ้า ภายหลังเจ้าและเอ้อร์ยาก็จะได้รับเงินเดือน เงินเดือนนี้จะสามารถเลี้ยงดูครอบครัวเจ้าได้ ถ้าหากว่าเจ้ามีคนรู้ใจเมื่อใด ก็ให้ข้าเตรียมเงินของขวัญไว้ให้เจ้าไปขอผู้หญิงแต่งงานได้” “ข้า หลี่หลงยินยอม” หลี่หลงเอาหัวโขกพื้นแรงๆหลายครั้ง “เพียงเพราะว่าข้าไม่รู้หนังสือ ข้าเพียงขายร่างของข้าให้แม่นางเขียน เมื่อเขียนเสร็จข้าจะกดพิมพ์มือเอง” หลินซินเยียนหุบยิ้มแล้วส่ายหัว “ไม่ต้องขายร่างของเจ้า เจ้าก็คือเจ้า ไม่ใช่ข้ารับใช้ของข้า ข้าแค่ให้เจ้ามาทำงานกับข้าก็เท่านั้น” ทาสรับใช้หรือ นางไม่อยากมอบคำนี้ให้กับชายผู้นี้เลย นางจะอยากให้ผู้อื่นมาเป็นทาสรับใช้ของนางไปเพื่ออะไรกัน ถึงอย่างไรมุมมองของคนทั้งโลกก็ต่างจากนางอยู่แล้ว แต่ว่านางก็ยังดึงดันที่จะคงความตั้งใจเดิมของนางไว้อยู่ “ไม่ต้องขายร่างกายแล้วจะยังได้รับค่าแรงอยู่หรือ” หลี่หลงเป็นผู้ชายอกสามศอก เพียงชั่วพริบตาเดียวในดองตาของเขาก็ชื้นขึ้น เขาโขกหัวกับพื้นอีกรอบ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ข้าหลี่หลงของสาบานต่อฟ้า ชีวิตนี้ จะไม่หักหลังแม่นางเด็ดขาด” คำสาบานเอ๋ย....... หลินซินเยียนได้ยินแล้ว นางก็ยิ้มบางๆไม่ได้พูดอะไรต่อเลย 
已经是最新一章了
加载中