ตอนที่ 106 จับกลุ่มเอง
1/
ตอนที่ 106 จับกลุ่มเอง
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 106 จับกลุ่มเอง
ตนที่ 106 จับกลุ่มเอง บุรุษชุดดำคนนั้นรับบัตรเชิญจากนางไป หลังจากนั้นก็มองตราประทับที่อยู่บนจดหมาย หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที ท่าทางของเขาผันเปลี่ยนไปร้อยแปดครั้ง โค้งหลังทำความเคารพหลินซินเยียนแล้วผายมือเชิญนางเข้าไป “ไม่ทราบว่าแม่นางเป็นลูกศิษย์ที่รับเลือกเข้ามาอย่างถูกต้อง โปรดแม่นางอภัยให้ข้าด้วย เชิญด้านใน” หลินซินเยียนพยักหน้าเบาๆ เดินหลังตรงเข้าไปยังกลางโรงเตี๊ยม เมื่อนางเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยมก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาอย่างพินิจพิเคราะห์จากทั่วทุกสารทิศ ในสายตาเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นสีหน้าที่ปะปนได้ด้วยความตกตะลึงทั้งหมด มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นสายตาของการดูถูก “ปีนี้ศาลาความลับแห่งสวรรค์เกิดอะไรขึ้นหรือ เหตุใดจึงยอมให้ผู้หญิงเข้าร่วมการคัดเลือกลูกศิษย์ พวกผู้หญิงเขาอยู่บ้านปักผ้า ปรนนิบัติผู้ชายก็พอแล้ว ยังออกมาปรากฏตัวออกงานสังคมอีก ไม่สำรวมเลยจริงๆ” “ไม่ใช่หรอก แต่ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นแค่มองก็รู้ว่าเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยง ท่านมองหน้านางสิ ช่วงตัวของนางเป็นแบบที่ผู้ชายชอบ บางทีผู้อาวุโสของศาลาความลับแห่งสวรรค์อาจจะมองในตัวคนนี้ ดังนั้นจึง.....” “พี่ชายท่านนี้พูดมาก็มีเหตุผล มีเหตุผล” “ไม่รู้ว่ารอผู้อาวุโสเล่นสนุกจนพอใจแล้วจะเหลือเข้าปากพวกเราไหม.....” “เจ้าอย่าพูด อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะ ได้ยินมาว่าศาลาความลับแห่งสวรรค์ขอแค่เพียงมีความสามารถจริงๆ รางวัลต่างๆเพียงแค่ท่านอาจจะคิดไม่ถึง ไม่มีอะไรที่พวกเขาให้ไม่ได้หรอก” ช่วงเวลาที่เสียงของคำสนทนาต่างๆนั้นไม่ได้มีความหมายทำให้หลินซินเยียนพะว้าพะวังได้ หลินซินเยียนเองก็ไม่ได้ใส่ใจ มองแต่เหมือนไม่มองสายตาของคนเหล่านั้น นางเลือกที่นั่งที่อยู่มุมห้อง ทั้งสองคนนั่งลง ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ่อร์นำอาหารมาให้ อาหารเป็นของที่ศาลาความลับแห่งสวรรค์ได้จัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นไม่ต้องรอให้พวกนางสั่งอาหาร ทั้งอาหารว่างและอาหารจานหลักก็ถูกส่งมายังโต๊ะของพวกนางแล้ว เอ่อร์ยาพุ้ยข้าวไปหลายคำ อดไม่ได้ที่จะกระซิบ “แม่นาง พวกเราจะต้องไปศาลาความลับแห่งสวรรค์กับเจ้าพวกผู้ชายหยาบคายเช่นนี้จริงๆหรือ” “หยาบคายหรือ” หลินซินเยียนกวาดตามองคนที่พูดเหล่านั้น นางย่นคิ้ว ถอนหายใจพูดว่า “ก็ใช่ ปกติอยู่กับเจ้าคนชั้นหนึ่งอย่างโม่จื่อเฟิงแล้ว ยิ่งพูดถึงคนพวกนี้นั้นไม่อยู่ในสายตาข้าหรอก” แต่ว่าหลังจากพูดจบ นางก็ลดหน้าลง เหตุใดนางจะต้องพูดถึงเจ้าคนประสาทน่าตายคนนั้น ยังดีที่เอ่อร์ยาไม่ได้รู้สึกว่าที่นางพูดนั้นไม่เหมาะสม กลับพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่า “แม่นาง เจ้าพวกนั้นพูดจาไม่น่าฟังเลยเสียจริง” “ไม่เป็นไร เจ้าคิดว่าไม่น่าฟังก็จงจำใบหน้าของพวกเขาไว้ให้ดี เมื่อไหร่ที่มีโอกาสข้าจะไม่ละเว้นสักคน สายน้ำบนภูเขาสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปมา ชีวิตหนึ่งชีวิตนั้นยังแสนยาวนาน ไม่มีใครรับรองได้ว่าจะพบเจอกับอะไร” หลินซินเยียนก็ไม่ได้ใส่ใจ ทำเพียงแค่รักษาเวลาในการทานข้าว หากนางเดาไม่ผิด เมื่อคนมาใกล้เต็มแล้ว คนจากหอความลับก็จะมาพูดถึงวิธีการคัดเลือกลูกศิษย์ “อ่า แม่นาง ข้าจะจำไว้ให้ขึ้นใจเลย” เอ่อร์ยาจ้องคนเหล่านั้นด้วยสายโหดเหี้ยมราวกับว่าจะฝังใบหน้าของคนเหล่านั้นเข้าไปในสมองของตน หลินซินเยียนเห็นนางตั้งใจขนาดนั้นเพื่อตัวเองก็เลยหัวเราะออกมา โดยไม่คาดคิดเลยว่ารอยยิ้มของนางจะเข้าไปถึงดวงตาสีดำคู่หนึ่งที่ลึกซึ้งคู่หนึ่งจากที่ไกลๆนั้น เป็นแววตาที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง เมื่อรอเวลาไปประมาณหนึ่งถ้วยชาแล้ว บุรุษชุดดำเห็นคนมาถึงจำนวนมากแล้ว ก็เดินมาตรงหน้าของหลินซินเยียน พูดข้างๆหูของนางว่า “แม่นาง เนื่องจากท่านเป็นลูกศิษย์ของผู้คัดเลือกแล้วเพราะฉะนั้นท่านไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการคัดเลือกแล้ว แต่ด้วยเพราะภาพลักษณ์ของท่านนั้นเป็นจุดเด่น เพื่อจะที่จะไม่ก่อให้เกิดความไม่พอใจของผู้อื่นดังนั้นจึงยังต้องเชิญท่านดำเนินการอย่างเงียบๆ ท่านแค่เดินเข้าไปในลานประลองก็พอ” “เออ.......” ยังมีเรื่องดีๆแบบนี้อยู่อีกหรือ หลินซินเยียนไม่คิดเลยว่าจะมีการดำเนินการเช่นนี้อยู่ ดูแล้ว นางสามารถมีชื่อของนางอยู่ในรายชื่อก่อนแล้วก็ได้หรือ “เอาละ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณพี่ชายมาก” บุรุษชุดดำพยักหน้า ถึงจะเดินไปด้านหน้าโรงเตี๊ยมประสานมือสองข้างแล้วพูด “ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ ทุกท่านที่มาในวันนี้ก็เพื่อที่จะมาเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์ของศาลาความลับแห่งสวรรค์ ดูเหมือนว่าตอนนี้คนจะมากันครบแล้ว ข้าจะประกาศกฎกติกาของการคัดเลือกศิษย์ในครั้งนี้ให้ฟัง อีกสักครู่พวกท่านจะถูกคลุมหน้าและถูกพาไปไปรวมตัวกันที่หุบเขา ที่หุบเขามีเล่ห์กลกระจายอยู่ทั่วไป หลังจากนั้นพวกท่านก็สามารถรวมกลุ่มกันได้อย่างอิสระ แต่ละกลุ่มได้ไม่เกินห้าคน ใครที่สามารถออกจากด่านกองกำลังที่สิบของหุบเขาได้ก็จะถือว่าผ่านด่านแรกของการคัดเลือกศิษย์แล้ว จำไว้ให้ดี เวลาที่พวกท่านมีคือเวลาแค่สองชั่วยามเท่านั้น เมื่อเลยเวลาสองชั่วยามไป ถ้าหากไม่สามารถออกจากด่านได้ครบทั้งสิบด่าน คนที่ออกจากด่านทั้งสิบของหุบเขานี้ไม่ได้ก็จะถือว่าขาดคุณสมบัติในการถูกคัดเลือกเป็นศิษย์” บุรุษชุดดำเพิ่งจะพูดจบ ภายในโรงเตี๊ยมก็เกิดความชุลมุน วิธีการคัดเลือกแบบนี้ทำให้คนเกิดคึกคักเดือดพล่านขึ้นมา ถึงอย่างไรในการคัดเลือกศิษย์นี้ แรกเริ่มก็ให้พวกเขาจัดกลุ่มกันได้อย่างเสรี สามารถมาเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์ของศาลาความลับแห่งสวรรค์นั้น ทุกคนล้วนเป็นช่างที่โดดเด่น ภายในนั้นมีสองคนที่เป็นช่างเงินที่มีคุณวุฒิเพียบพร้อม การดำเนินการครั้งนี้ สำหรับคนที่มีชื่อเสียงในสังคมก็รู้กันหมด ดังนั้นเพียงแต่ตกใจเล็กน้อยที่ทุกคนขยับเข้าหาเขาทั้งสอง เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ผู้มีฝีมือที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนก็จัดกลุ่มทัพของตัวเองเรียบร้อย และทั้งสองคนก็เป็นหัวหน้ากลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัย และคนจำนวนนั้นที่พูดฉีกหน้าหลินซินเยียนก็เป็นสมาชิกในกลุ่มนั้นด้วย หลินซินเยียนมองอย่างเอ้อระเหยไปทางนั้น ถามเอ่อร์ยาที่อยู่ข้างกายโดยไม่รู้ตัวว่า “ดูแล้วอีกไม่นานจะสวรรค์มอบโอกาสแก้แค้นให้พวกเรานะ” “เอ๋” เอ่อร์ยาไม่เข้าใจ แต่เนื่องด้วยมีคนรอบๆเยอะ นางที่ไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะถามมาก คนที่เหลือเห็นคนที่แข็งแรงถูกเลือกเข้ากลุ่มไปหมดแล้ว ก็รีบเลือกคนที่ยังนับว่ามีศักยภาพอยู่ การจับกลุ่มให้แข็งแกร่งก็จะเป็นเช่นนั้น ไม่มีใครยอมให้กลุ่มของตัวเองมีคนที่ด้อยกว่าตัวเองเยอะทำให้เป็นตัวถ่วง ครึ่งชั่วยามผ่านไป คนเกือบทั้งหมดก็มีกลุ่มเป็นของตัวเองแล้ว เหลือเพียงแค่หลินซินเยียนคนเดียวที่อยู่ในซอกมุม ดื่มชาคนเดียวโดดๆ อากัปกริยาของนางนุ่มนวลราวกับว่าไม่มีความไม่เต็มใจหรือความย่อท้อใดๆ อาจจะเป็นเพราะอย่างไรนางก็มีชื่ออยู่ภายในแล้วยังจะต้องกลัวอะไรอีก เพียงแต่คนอื่นไม่รู้ถึงกำลังของนาง เห็นนางตัวคนเดียวแบบนี้ เห็นนางครั้งแรกพวกเขาก็หัวเราะเยาะนางแล้ว “ข้าจะบอกให้นะ ผู้หญิงที่อยู่บ้านปักผ้าไปนะก็ดีแล้ว มาอวดดีเข้าร่วมทำไม ใครมารวมกลุ่มกับผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่พาตัวเองไปหาเส้นทางแห่งความตายรึ” “อัยหยา ไม่แน่ว่าทุกคนที่มานั้นเพื่อคัดเลือกบุรุษเสมอไป อยู่ที่บ้านจะได้พบเจอบุรุษที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้รึ” “ฮ่าฮ่า....” คนกลุ่มนั้นหัวเราะอย่างลืมตัว ทำให้คนรอบๆหัวเราะด้วยเช่นกัน ภายใต้เสียงหัวเราะเยาะของคนกลุ่มนั้นนั้น มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ทรงพลังลุกขึ้นช้าๆแล้วเดินมาตรงหน้าของหลินซินเยียนโดยไม่แยแสเสียงหัวเราะของคนเหล่านั้น เขาพูดว่า “ข้าจะไปหุบเขากับท่าน” เสียงของเขาไม่ดังแต่มันก็ทำให้ทุกคนได้ยิน ทุกคนงงงวย คนที่เคยหัวเราะเยาะก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับเงียบลง เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเด็กหนุ่มคนที่หลินซินเยียนเลี้ยงข้าวไปมื้อหนึ่งนั่นเอง “ข้าเคยบอกแล้วไง ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ข้าจะชดใช้ให้แม่นาง อีกสักครู่แม่นางตามข้ามาก็พอข้ารับรองว่าท่านจะไปถึงขั้นแรกอย่างราบรื่นแน่นอน” เด็กหนุ่มคนนั้นเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ในตาของเขาไม่ซับซ้อนเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่ดูไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 106 จับกลุ่มเอง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A