ตอนที่ 131 สืบข้อมูล
1/
ตอนที่ 131 สืบข้อมูล
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 131 สืบข้อมูล
ตนที่ 131 สืบข้อมูล ต้องสืบให้ชัดเจนว่าเรื่องราวทั้งมวลสรุปแล้วเป็นมาอย่างไรกันแน่ แน่นอนว่าจะต้องหาท่านเยว่ให้ได้ เพียงแต่ว่านางเคยไปคุกใต้น้ำมาแล้ว พิจารณาจากโครงสร้างของคุกใต้น้ำนั่น เห็นได้ชัดว่านั่นคือธารมรณะเป็นแน่ ปราศจากทางออกและไร้ซึ่งทางเข้า เกรงว่ามีเสื้อเกราะแบบพิเศษอันนี้ก็ไม่สามารถเข้าไปได้เสียแล้วสิ “ศิษย์พี่ ถึงแม้เสื้อเกราะจะกันน้ำได้ แต่ก็ไม่สามารถจัดเตรียมออกซิเจนทดแทนอากาศให้คนหายใจ ก็บอกไปแล้วอย่างไรว่าโครงสร้างของคุกใต้น้ำไม่มีทั้งทางเข้าและทางออก เกรงว่าเสื้อเกราะนี้จะมหัศจรรย์เพียงใดก็คงยากเกินความสามารถเสียแล้ว” หลินซินเยียนกล่าวถึงความคลางแคลงใจ สดับฟังนางกล่าวเช่นนี้ เซียวฝานก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาฉับพลัน “ศิษย์น้องหนอศิษย์น้อง เจ้านี่ช่างทำให้ข้าประหลาดใจดีแท้ ไม่ผิดดังเจ้าว่า ถ้ามีเพียงแค่เสื้อเกราะ เกรงว่าพวกเราเข้าไปในใต้น้ำก็จะจมตาย ฉะนั้นพวกข้ายังทำเจ้านี่ขึ้นมา...” ภายใต้การส่งสัญญาณของเซียวฝาน อู๋อี้นำเอาถุงหนังแพะจากตู้ข้างหลังออกมา ถุงนั่นสูงประมาณครึ่งลำตัวคน ปากถุงกลับไม่ได้มีขนาดใหญ่ ลักษณะค่อนข้างเหมือนกับลูกโป่งขนาดยักษ์ “ใช่แล้ว ศิษย์น้องที่เจ้ากล่าวถึงอากาศเมื่อสักครู่นี้หมายความว่าอย่างไร” อู๋อี้ชูถุงใบนั้นพลางกล่าวถามหลินซินเยียน หลินซินเยียนกระตุกยิ้มมุมปาก ไม่รู้ว่าจะอธิบายศัพท์คำนี้ว่าอย่างไรดี ทว่าภายในใจลึกๆ กลับนึกแอบประหลาดใจกับความหลักแหลมของเซียวฝานและอู๋อี้ สามารถกล่าวได้ว่าเวลาและสถานที่แบบนี้ความรู้เกี่ยวกับกายภาพนั้นไร้ซึ่งความเจริญก็ว่าได้ พวกเขาไม่รู้ว่าออกซิเจนคืออะไร หากแต่กลับรู้ว่ามนุษย์ใช้ของสิ่งใดในการดำรงชีวิต จึงสามารถประดิษฐ์ถุงเก็บอากาศไว้สำหรับหายใจขึ้นมาได้ “ก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก กล่าวคือข้าไม่รู้ว่าควรพูดเช่นไรจึงจะนิยามศัพท์คำนี้ได้ เอาเป็นว่าใต้น้ำลึกมนุษย์ขาดอากาศหายใจตายข้อนี้ถูกต้องแล้ว” “โอ้ ข้อนี้พวกข้ารู้แน่อยู่แล้ว เจ้าดูเถิดพวกที่ว่ายน้ำเก่งๆ เหล่านั้น ขอเพียงคาบแท่งฟางข้าวสีอันเดียวก็สามารถอยู่ใต้น้ำลึกได้เป็นเวลานาน พวกข้าคิดว่าหลักการก็ควรจะเป็นเช่นเดียวกันนี้แล นอกจากนี้เมื่อคืนวานข้ากับศิษย์พี่ได้ไปทดสอบที่ลำธารทั้งคืน แค่พกเจ้าถุงนี่ก็สามารถอยู่ในน้ำได้ครึ่งค่อนยาม” อู๋อี้กล่าวอธิบาย เซียวฝานพยักศีรษะพร้อมมองหลินซินเยียนพลางกล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น ที่เจ้าพูดถึงปัญหาของโครงสร้างคุกใต้น้ำพวกข้าเองก็เคยขบคิดกันอย่างละเอียดแล้ว ที่เจ้าเห็นนั้นเป็นโครงสร้างคุกใต้น้ำในปัจจุบัน แต่ว่าคุกใต้น้ำนั้นสร้างหลังจากที่อวิ๋นเทียนสี่ได้ขึ้นเป็นประมุขแล้ว ตอนที่สร้างครั้งแรก ข้าและอู๋อี้ล้วนยังเป็นเด็กเจ็ดแปดขวบ ตอนที่พวกเขาสร้างคุกใต้น้ำพวกข้าแอบวิ่งไปสอดส่อง น้ำพวกนั้นเป็นน้ำตกที่ไหลเข้ามาจากหลังเขา” “ไหลเข้ามา เช่นนั้นก็ต้องมีทางเข้าสิ” นัยน์ตาหลินซินเยียนทอประกาย ใบหน้าก็ฉายแววเปล่งปลั่ง “ไม่ผิด เพียงแต่หลังจากที่น้ำไหลเข้าแล้วทางเข้าก็ถูกปิดลง พวกข้าทั้งสองล้วนแต่มิใช่ผู้มีวิทยายุทธขั้นสูง ฉะนั้นแล้วทำได้เพียงอาศัยเสื้อเกราะชนิดพิเศษนี้ดำผุดดำว่ายเข้าไปในบ่อน้ำยะเยือกนั่น จากนั้นจึงกระเทาะเจ้าประตูทางเข้าที่ถูกปิดตายนั่นออกเสียแล้วค่อยเข้าไป” นี่ก็คือแผนการของเซียวฝานและอู๋อี้ ฟังดูแล้วแทบจะปราศจากปัญหาใดๆ หลักการก็นับว่าใช้ได้ทีเดียว “เพียงแค่เวลานี้เป็นกลางวัน หากว่าเป็นยามอัสดง พวกข้าคงสามารถไปพบท่านผู้เฒ่าได้ในทันที” อู๋อี้ถอนหายใจหนึ่งเฮือก นัยน์ตาพลันหรี่แววลง หลินซินเยียนสภาพจิตใจหนักหน่วง พลางคิดว่าท่านเยว่ถูกจองจำในคุกใต้น้ำนั่นคงจะเป็นหนึ่งวันที่เวลาอันแสนทรมาน สภาพจิตใจก็เลวร้าย บาดแผลบริเวณสะบักไหล่ของท่านผู้เฒ่าก็ยังมิได้ทาหยูกยา สภาพไร้สมรรถนะกระนั้น โลหิตสดๆ ไหลออกมาไม่ขาดสาย เช่นนี้แล้วจะเกิดอาการหมดสติเพราะเสียเลือดมากไปหรือไม่ จะมีภยันตรายต่อชีวิตหรือไม่ คิดดังนี้แล้ว ความว้าวุ่นใจของนางยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทว่านางเห็นสีหน้าซีดเผือดอย่างคนอดหลับอดนอนของเซียวฝานและอู๋อี้ กลับต้องข่มความกระสับกระส่ายของตนลง “ศิษย์พี่ คืนวานท่านทั้งสองยังมิได้หลับเลยทั้งคืน รีบไปพักผ่อนเถิด หลังจากพักเอาแรงเสร็จแล้วตอนเย็นจะได้มีพละกำลัง ข้าจะไปสืบถามทางด้านเฝิงซื่อไห่ดูสักหน่อยว่าจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่” “เวลาเช่นนี้พวกข้าจะข่มตาหลับลงได้อย่างไรกันเล่า” อู๋อี้ส่ายศีรษะ เซียวฝานตบผวัะเข้าที่ศีรษะของเขาทันควัน พร้อมโพล่งขึ้นว่า “นอนไม่หลับก็ต้องนอน หากอดหลับอดนอนจนล้มป่วยจะทำอย่างไร มิเป็นการเสียแรงเปล่าหรอกหรือ ไปเถิด ตอนนี้อยู่ที่นี่ก็ไร้ประโยชน์” เซียวฝานหันไปทางหลินซินเยียนให้ผงกศีรษะ พลางดันให้อู๋อี้กลับห้อง ทว่าหลินซินเยียนไม่รีบร้อนออกจากห้องทำงาน มิหนำซ้ำยังตรวจสอบชุดเกราะดำน้ำแบบพิเศษเหล่านั้นอย่างใส่ใจ พร้อมนำเอาหนังสัตว์แห้งที่ค่อนข้างมีความแข็งแรงออกมาประดิษฐ์รองเท้าซึ่งคล้ายคลึงกับรองเท้าดำน้ำของจริง เสร็จเรื่องเหล่านี้แล้ว นางจึงค่อยออกจากห้องทำงานไปหาเฝิงซื่อไห่ อาจเป็นเพราะจุดมุ่งหมายที่อวิ๋นเทียนสี่หน่วงเหนี่ยวท่านเยว่ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว ฉะนั้นสองสามวันมานี้บรรยากาศตึงเครียดภายในศาลาความลับแห่งสวรรค์จึงค่อยทุเลาลงบ้าง เมืองฝางก็เริ่มทะยอยมีกิจกรรมของเหล่าสานุศิษย์ หลินซินเยียนตัดผ่านเมืองฝางมาถึงสวนพฤกษ์ของเฝิงซื่อไห่ บ่าวรับใช้ภายในสวนบอกว่าเขาไปโรงสุราของเมืองฝางแล้ว หลินซินเยียนทำได้เพียงจำเป็นต้องกลับไปที่เมืองฝางอีกครั้ง เนื่องจากเป็นยามกลางวัน ผู้คนภายในโรงสุราจึงไม่มากนัก ไม่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่นั่งร่ำสุราอยู่ข้างใน หลินซินเยียนเจอตัวเฝิงซื่อไห่ที่เมาหัวราน้ำกำลังดื่มน้ำจัณฑ์อยู่ที่มุมร้าน นางเหลือบมองสีท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะผ่านหัววันไปแท้ๆ มิน่าเชื่อว่าจะเมาจนอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ “แม่นาง ท่านมารับพี่ซื่อไห่ใช่หรือไม่” เด็กรับใช้ในโรงเหล้าเห็นหลินซินเยียนยืนอยู่ข้างหลังเฝิงซื่อไห่ รีบกุลีกุจอเดินเข้ามาหา หลินซินเยียนชี้ไปยังคนที่นอนฟุบอยู่ พลางถามขึ้น “เขามาตั้งแต่เช้าเลยหรือ” “เช้าอะไรกันเล่า เขามาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ดื่มไม่หยุดจนกระทั่งตอนนี้ ค่าเหล่าก็ยังไม่จ่าย พวกข้าเรียกเขากลับถูกระเบิดอารมณ์ใส่และทำลายข้าวของอีก นี่ก็คนศาลาความลับแห่งสวรรค์กันเองทั้งนั้น มิใช่คนนอกเสียเมื่อไหร่ ปกติพี่ซื่อไห่มิใช่คนเช่นนี้ ฉะนั้นพวกข้าก็มิสามารถทำอะไรได้ รอเพียงเขาตื่นขึ้นมาเองแล้วค่อยว่ากัน” เด็กรับใช้มีสีหน้ากระอักกระอ่วน ผู้คนในเมืองฝางแห่งนี้ล้วนแต่รู้จักมักจี่กันดี ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่มิใช่เมืองภายนอก ที่นี่คือศาลาความลับแห่งสวรรค์ เป็นสถานที่ที่อยู่ในหุบเขาลึก คาดว่าเด็กรับใช้ในโรงเหล้าก็เป็นคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์นี่เอง หลินซินเยียนพยักหน้า ล้วงเอาเงินสองเหรียญออกจากอกเสื้อยื่นให้กับเด็กรับใช้ “อ่ะนี่ เงินนี่เจ้าเก็บไว้เสีย หากเกินก็มิต้องทอน แค่อยากรบกวนเจ้าช่วยข้านำตัวเขากลับไปส่งด้วยกันสักหน่อย ข้าเป็นสาวเป็นแซ่ ไปส่งเขาเพียงลำพังเกรงว่าจะไม่เหมาะ” “ได้สิ เรื่องแค่นี้แน่นอนว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” เด็กรับใช้รับเงินเหรียญมา เงินพวกนี้มากกว่าค่าเหล้าอยู่โข ที่เหลือเขาสามารถเก็บไว้เองไม่น้อยเชียว ดังนั้นช่วยเหลือเรื่องแค่นี้ก็คิดเสียว่าขายแรงไปก็แล้วกัน ภายใต้การช่วยเหลือของเด็กรับใช้โรงเหล้า ทั้งสองจึงนำตัวเฝิงซื่อไห่ที่เมาเละเทะกลับมาส่งที่สวนพฤกษ์ของเขาได้ บ่าวภายในสวนของเขาออกมาต้อนรับ เห็นสภาพเมาหัวราน้ำของเฝิงซื่อไห่แล้วส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจหนึ่งเฮือก “อั๊ยยะ มิทราบว่าท่านซื่อไห่เป็นอะไรไป หลายวันมานี้ล้วนเมาหมดสภาพเช่นนี้ตลอด แต่ก็มิยักได้ยินท่านเอ่ยถึงเรื่องไม่สมปรารถนาใดๆ เลย” หลังจากที่มาส่งถึงนี่แล้วเด็กรับใช้โรงเหล้าก็จากไปทันที หลินซินเยียนเดินตามบ่าวเข้าไปนำตัวคนไปส่งถึงในห้อง บ่าวถอดรองเท้าถุงเท้าให้เฝิงซื่อไห่วางเก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้วจึงยิ้มให้กับหลินซินเยียนพลางกล่าว “มาส่งท่านซื่อไห่ถึงที่นับเป็นการลำบากแม่นางแล้วแท้ๆ หากรู้ก่อนว่าท่านเมาเช่นนี้แล้วล่ะก็ ข้าก็คงไปรับท่านกลับมาด้วยตนเอง” “มิเป็นไรหรอก แค่เรื่องเล็กน้อย” หลินซินเยียนแย้มรอยยิ้มอ่อนโยน แสร้งถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “สรุปแล้วท่านซื่อไห่กลายเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 131 สืบข้อมูล
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A