ตอนที่ 151 รีบทำเวลา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 151 รีบทำเวลา
ต๭นที่ 151 รีบทำเวลา เธอคิดว่า ความเงียบของเธอจะทำให้เขาโกรธเคือง แม้ภายใจของเธอจะแหลกสลายราวกับเศษแก้วที่แตกละเอียดแล้ว แต่เธอก็บอกตนเองว่าไม่สนใจ แต่ว่า โม่จื่อเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็กอดเธอแน่นกว่าเดิม “ เปิ่นหวางรู้ว่าเจ้าไม่เชื่อ! แม้แต่เปิ่นหวางเองก็ไม่คิดว่าวันนี้ สุราทุกแก้วที่ได้ดื่ม ในหัวของเปิ่นหวางได้ปรากฏภาพของเจ้าที่กำลังพร่ำบ่นเปิ่นหวางว่าไม่ได้มอบตำแหน่งให้เจ้า... ” หลินซีนเยียนหันหน้ามาเขา ริมฝีปากของเขาอยู่เหนือหน้าผากของเธอ ลมหายใจที่อบอวลไปด้วยกลิ่นสุรา เธอขมวดคิ้วแล้วอยากจะบอกเขาไปว่า สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ตำแหน่ง แต่ว่า กลิ่นสุราของอบอวลอยู่นั้นทำให้เธอหายใจไม่ค่อยสะดวก คำพูดที่อยู่ในใจกลับไม่ไดพูดออกมา เขาดื่มสุราไปเยอะขนาดนี้ ไม่ว่าเธอพูดอะไร เขาจะฟังเข้าใจเหรอ? เธอไม่อยากพูดกับคนเมาสักเท่าไร เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เอ่ยอะไร โม่จื่อเฟิงก็ถอนหายใจยาว จากนั้นก็ประทับจุมพิตไปบนหน้าผากของเธอ “ ช่างเถิด! รอผ่านวันเหล่านี้ไปก่อน เปิ่นหวางก็จะรับเจ้ากลับจวน แม้จะไม่สามารถมอบตำแหน่งพระชายาได้ แต่เป็นพระสนมที่ถูกทำนองคลองธรรม คนผู้นั้นน่าจะปิดตาข้างเดียว ” เสียงที่เขาพูดยิ่งเบาลงเรื่อยๆ ราวกับเบื่อหน่าย ผ่านไปสักพักเสียงนั้นก็หายไป หลินซีนเยียนเบิกตาโพลง คำพูดที่น่าสะเทือนใจที่เขาเพิ่งจะพูดออกมาว่า เขาจะพาเธอกลับจวนอ๋อง แล้วให้เธอเป็นพระสนม? พระสนม? มุมปากของเธอแสยะยิ้มเย้ยหยัน ที่แท้เขาปฏิบัติต่อเธอไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่เป็นเพียงแค่พระสนมคนหนึ่ง..... เธอรู้สึกว่ามันตลก เลยหัวเราะออกมาจริงๆ เพียงแค่หัวเราะและก็หัวเราะ ในดวงตาก็มีน้ำตาไหลออกมา “ หัวเราะอะไร ดีใจขนาดนั้นเลยหรือ? ” โม่จื่อเฟิงไม่ได้หลับตา เขายังคงประทับจุมพิตอยู่บนหน้าผากของเธออยู่ แล้วก็หัวเราะออกมา “ เจ้าควรจะดีใจ เพราะเจ้าได้มีตำแหน่งอยู่ในใจของเปิ่นหวางแล้วโดยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เจ้าต้องดีใจอยู่แล้ว จะมีสตรีคนไหนที่ได้ยินคำพูดนี้แล้วจะไม่ดีใจ? ” เมื่อโม่จื่อเฟิงพูดไปพูดมาก็ผลอยหลับไป ลมหายใจที่สงบและมั่นคงของโม่จื่อเฟิงที่อยู่เหนือศีรษะ เสียงหัวเราะของหลินซีนเยียนยังไม่หยุด รวมถึงน้ำตาที่ยังคงไหลริน ผู้ชายคนนี้บอกว่าเธอมีตำแหน่งอยู่ในใจของเขา ยังมีเรื่องอะไรที่น่าขำอีกไหมเนี่ย? ผู้ชายที่เป็นจอมเผด็จการต้องการครอบครองร่างกายทั้งหมดของเธอผู้นี้ กลับพูดว่าเขาแคร์เธอ? มีอะไรที่น่าขำกว่านี้ไหม! ในค่ำคืนนี้ โม่จื่อเฟิงกับหลินซีนเยียนเพียงนอนอยู่บนเตียง แต่ในค่ำคืนนี้ระหว่างทั้งสองไม่ได้เกิดคลื่นลมมรสุมอะไร แต่ไม่รู้ว่าทำไมหลินซีนเยียนกลับรู้สึกเหนื่อยกว่าเรื่องในค่ำคืนก่อนมาก ยามที่ท้องฟ้าสว่าง เมื่อโม่จื่อเฟิงตื่นขึ้นแล้วเห็นหลินซีนเยียนที่กำลังนอนอยู่ สายตาของเขาดูสับสนไปสักพัก จากนั้นก็เอ่ยเสียงต่ำออกมาว่า “สมควรตาย!” หลังจากที่สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ออกไปโดยที่ไม่เอ่ยอะไรอีกเลย เมื่อเขาเพิ่งจะเดินออกจากประตูไป หลินซีนเยียนก็ลืมตาขึ้นมา ที่มุมปากปรากฏรอยยิ้มเย็นชาออกมา หลังจากที่เขาได้สติแล้วก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่มาที่นี่ในเมื่อคืนนี้สินะ ดูเหมือนว่าเมื่อคืนที่เธอไม่ได้พูดอะไรออกไปก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว พูดกับคนเมาไปก็ไม่มีความหมายอะไร จินมู่ที่รออยู่ในลานบ้านมาทั้งคืน เมื่อเห็นโม่จื่อเฟิงเดินออกมาก็รีบเดินเข้าไปหาทันที “ จินมู่! เปิ่นหวางเลี้ยงเจ้าไปเพื่ออะไร? เมื่อคืนทำไมเจ้าไม่ห้ามไม่ให้มาที่นี่ห๊ะ?” โม่จื่อเฟิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้วต่อว่า จินมู่ตกใจจนคุกเข่าลงไปทันที จินมู่เงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ “ ท่านอ๋อง ท่านเป็นเจ้านาย เมื่อคืนท่านบอกว่าท่านไม่ได้เมา ข้าน้อยห้ามแล้วก็ห้ามไม่อยู่! แต่หลายปีมานี้ ท่านไม่เคยดื่มจนเมา ดังนั้นข้าน้อยคิดว่าเมื่อคืนท่านก็....” “หุบปาก!”สีหน้าของโม่จื่อเฟิงมืดครึ้มลงอย่างมาก “ ตอนนี้เจ้าหาข้ออ้างได้เก่งจริงๆ เปิ่นหวางไม่มีสติ หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่าเมื่อคืนเป็นงานสมรสของเปิ่นหวาง! ” “ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว!” จินมู่ก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดตลบตะแลงหรืออธิบายอะไรอีก โม่จื่อเฟิงแค่นเสียง สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไป จินมู่รีบลุกขึ้นแล้วเดินตามออกไป ในห้อง หลินซีนเยียนได้ยินที่ทั้งสองคนพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ เมื่อน้ำตาได้ไหลจนหมดแล้ว ในเวลานี้เธอเพียงแสยะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ช่างเถอะ นี่เป็นโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อคืนเป็นเพียงความฝันที่สวยงามเท่านั้น ยามบ่ายวันนี้ ที่ปรึกษาหัวหน้าองค์รักษ์อาณาจักรเป่ยหมิงได้มาที่หน้าประตู ผู้ชายคนนั้นอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างหน้าตาไม่ถือว่าดีมาก แต่กลับดูสง่าผ่าเผยมาก อู๋อี้รอรับเขาอยู่เรือน หลังจากที่ทั้งสองคนคุยธุระกันเสร็จ คนผู้นั้นจากไป จากนั้นอู๋อี้ก็นำข่าวไปบอกหลินซีนเยียนที่อยู่ในห้อง “ศิษย์น้อง! สำเร็จแล้ว!” อู๋อี้นั่งลงบบนเก้าอี้อย่างตื่นเต้นแล้วพูดกับหลินซีนเยียน เมื่อเห็นว่าเธอตาแดง ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด “ว่าอย่างไรบ้าง? เมื่อไรพวกเราจะได้ไปหรือ?” หลินซีนเยียนทำเป็นร่าเริงขึ้น พยายามทำให้ตัวเองไม่ได้รู้สึกโศกเศร้า อู๋อี้เอ่ยต่อ “ ที่แท้หัวหน้าองค์รักษ์อาณาจักรเป่ยหมิงไม่ได้มางานสมรสของอู่เซวียนอ๋องด้วยตนเอง ว่ากันว่าในขณะนี้สถานการณ์การเมืองภายในอาณาจักรเป่ยหมิงกำลังเปลี่ยนแปลง ดังนั้นหัวหน้าองค์รักษ์แคว้นผู้นั้นจำเป็นต้องอยู่ในแคว้น เดิมทีก็ไม่ได้มา และไม่รู้ว่าที่ปรึกษาผู้นั้นเกี่ยวข้องอะไรกับหัวหน้าองค์รักษ์แคว้นด้วย ในเมื่อตอบกลับมาเร็วขนาดนี้ หัวหน้าองค์รักษ์แคว้นผู้นั้นคงจะยอมรับเงื่อนไขของพวกเราแล้ว จะพาพวกเราไปอาณาจักรเป่ยหมิง จากนั้นก็สร้างอาวุธให้กับเขา เขาจะปกป้องพวกเราให้ปลอดภัย” หลินซีนเยียนพยักหน้า เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านั้น ภายในใจก็มีความคิดอะไร แต่กลับไม่ได้เอ่ยออกไป เพียงแต่ถามอีกว่า “เช่นนั้นแล้วพวกเขาได้บอกหรือไม่ว่าจะพาพวกเราไปตอนไหน?” “น่าจะภายใน 2-3 วันนี้ พอถึงเวลานั้นพวกเขาจะหาคนมาปลอมตัวเป็นพวกเราเพื่อตบตาคนของอู่เซวียนอ๋อง จากนั้นพวกเราก็ตามพวกเขาไป กลัวแค่ว่าโม่จื่อเฟิงจะมาที่นี่ทุกวัน เช่นนั้นแล้วพวกเขาคงจะไม่สามารถถ่วงเวลาได้มากนัก และไม่รู้ว่าในเวลาสั้นๆนี้พวกเราจะหนีออกจากแคว้นหนานเยว่ได้หรือไม่ ?” อู๋อี้เอ่ยอย่างกังวล อู๋อี้กังวลที่จะไม่สามารถแก้ปัญหาที่ยากได้ หลินซีนเยียนครุ่นคิด จากนั้นก็พูดกับอู๋อี้ว่า “ ศิษย์พี่ บางทีพวกเราไม่ต้องกังวลว่าใน 2-3 วันนี้โม่จื่อเฟิงจะมาที่นี่เลย” “ทำไมหรือ?” อู๋อี้รู้สึกไม่เข้าใจ หลินซีนเยียนแค่นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “ เมื่อวานเป็นงานสมรสที่ยิ่งใหญ่ แต่โม่จื่อเฟิงกลับมาหาข้าที่นี่ เจ้าคิดว่าเซียวฉางเยว่จะอดทนได้จริงๆ ถึงนางจะอดทนได้ แต่มหาเสนาบดีเซียวเฉิงเหอที่อยู่เบื้องหลังของนางจะอดทนได้หรือ?” ในขณะนั้นอู๋อี้ก็เข้าใจในทันที พยักหน้าไม่หยุด “ จริงด้วย! 2-3 วันนี้โม่จื่อเฟิงไม่มาที่นี่ได้ นับว่าเป็นสวรรค์ที่ช่วยพวกเรา! ” “ หวังว่าจะมาได้ทันกาล ข้าเพียงกังวลว่าเมื่อคืนที่โม่จื่อเฟิงมาที่นี่ เซียวฉางเยว่ต้องสืบหาสตรีของเขาที่อยู่นอกบ้าน บางทีอาจจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถสืบหาที่นี่เจอ หากก่อนที่นางจะหาพวกเราเจอ พวกเราก็คงไม่สามารถหนีไปได้ล่ะก็ นางคงไม่ยอมหย่าแน่ โม่จื่อเฟิงอาจจะเก็บข้าไว้เพื่อทำให้เซียวฉางเยว่โกรธเคือง คนข้างกายข้าคงจะ.... ” หลินซีนเยียนถอดหายใจ แล้วคิ้วก็ขมวดเข้าหากัน 
已经是最新一章了
加载中