ตอนที่155ค้างแรมที่กลางเขา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่155ค้างแรมที่กลางเขา
ต๭นที่155ค้างแรมที่กลางเขา ร่างกายของหลินซีนเยียนเพิ่งจะหายดีเมื่อมานั่งอยู่บนหลังม้าที่ควบทะยานไป2ชั่วยามก็รู้สึกทรมานอย่างมากเกรงว่าจะเกิดเรื่องเข้าจริงๆ “ซุนหลี่”หลินซีนเยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับหมดแรง เมื่อซุนหลี่ได้ยินเสียงของนางก็ผ่อนความเร็วของม้าลงแล้วก็ได้ยินเสียงของหลินซีนเยียนเอ่ยอีกว่า“พวกเราหาที่พักก่อนเถอะร่างกายของข้าเหนื่อยจนทนไม่ไหวแล้ว” ซุนหลี่พยักหน้าแล้วหยุดม้าจากนั้นก็กระโดดลงจากหลังม้าแล้วยื่นมือไปประคองเธอลงมาพอเขามองก็เห็นสีหน้าของหลินซีนเยียนไร้เลือดฝาดในท่ามกลางความมืดเช่นนั้นราวกับเป็นผีหน้าขาวก็ไม่ปาน “แม่นางท่านควรจะเอ่ยให้เร็วกว่านี้”ซุนหลี่ตกใจสีหน้าของเธอคิดว่าเธอรับลมหนาวในตอนกลางคืนไม่ไหวก็รีบดึงน้ำเต้าที่ใส่เหล้าออกมาจากเอว“แม่นางท่านดื่มเหล้าสักหน่อยเถอะเหล้าช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นดื่มสักหน่อยก็จะดีขึ้นเอง” หลินซีนเยียนส่ายหน้า“ร่างกายของข้าดื่มเหล้าไม่ได้มีน้ำเปล่าหรือไม่?” ซุนหลี่พยักหน้าแล้วไปหยิบกระบอกน้ำบนอานม้ามาเขาประคองหลินซีนเยียนนั่งพิงก้อนหินที่อยู่ข้างๆจากนั้นก็เปิดฝาของกระบอกน้ำให้แล้วส่งให้นาง หลินซีนเยียนดื่มน้ำหลายอึกน้ำเย็นมากเมื่อดื่มเข้าไปทำให้ในท้องรู้สึกไม่สบายเท่าไรแต่เธอต้องบังคับให้ดื่มลงไปเพื่อดับความความกระหายเธอนั่งอยู่สักพักค่อยๆเอ่ยเสียงออกมา“ซุนหลี่ข้าว่าพวกเราหาที่พักใกล้ๆแถวนี้เถอะแล้วค่อยออกเดินทางต่อ” “แต่ท่านหนานกงบอกแล้วอย่างน้อยคืนนี้พวกเราต้องข้ามผ่าน3เมืองมิเช่นนั้นก็ยากที่ตามไปทัน”ใบหน้าของซุนหลี่รู้สึกลำบากใจ“หากว่าแม่นางจะอดทนอีกสักหน่อยได้หรือไม่?ข้าจะขี่ม้าให้ช้าลง” หลินซีนเยียนถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเดิมเธอก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผลแต่ก็ไม่เป็นคนที่อวดอ้างว่าตัวเองเก่งเธอรู้ดีว่าร่างกายของเธอทนต่อไปไม่ไหวแล้วเธออดทนได้แต่เด็กในท้องล่ะจะอดทนได้ไหม?ถ้าจะอวดอ้างว่าตัวเองเก่งแล้วอาจจะมาเสียใจทีหลังเอางั้นเธอยอมเลือกทางอื่นยังจะดีกว่า “เอาเช่นนี้ดีหรือไม่พวกเราหาบ้านของชาวนาแถวนี้ให้ข้าได้ไปพักผ่อนที่นั่นแม้ข้าจะจำทางไม่ได้แต่ก็ไม่ใช่คนขี้หลงขี้ลืมข้าจะไปรวมตัวกับพวกเจ้าที่อาณาจักรเป่ยหมิงด้วยตนเองเพียงแต่รบกวนท่านช่วยหลอกล้อทหารที่ตามมาให้ข้าก็พอ” “แม่นางเอ่ยเช่นนี้ได้อย่างไรเดิมเรื่องนี้มันเป็นหน้าที่ของข้าเพียงให้ท่านอยู่ที่นี่ต่อหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น......”ซุนหลี่ไม่กล้าพลั้งปากเอ่ยออกไป “ไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกร่างของของข้าจะวิ่งได้ไกลแค่ไหนกันเชียว?ยังมีเจ้าช่วยหลอกล้อทหารไปให้ข้าก็ปลอดภัยแล้วไม่ใช่หรือ?วางใจเถอะข้าโตแล้วไม่ทำให้ตนเองหายไปไหนหรอกหากเจ้าไม่ไหวจริงๆหลังจากที่หลอกล้อทหารที่ตามมาได้แล้วก็ยังกลับมารับข้าได้ไม่ใช่หรือ?” หลินซีนเยียนรู้มาตลอดว่าตนเองเป็นคนที่ถนัดในการพูดโน้มน้าวใจคนซุนหลี่คนนี้เป็นคนซื่อตรงเมื่อฟังที่เธอพูดราวเช่นนี้แล้วราวกับว่ามีเหตุผลอยู่บ้างเขาก็พยักหน้าตอบรับ หลังจากที่พักผ่อนไปสักพัหซุนหลี่ก็พยุงหลินซีนเยียนขึ้นหลังม้าแล้วทั้งสองคนก็เดินไปบนถนนเส้นสายเล็กเมื่อมองไปยังกลางภูเขาที่อยู่ไกลๆคล้ายกับว่ามีแสงไฟ ซุนหลี่ก็ซ่อนม้าไว้ในป่าที่อยู่ข้างทางจากนั้นก็พาหลินซีนเยียนเดินไปขึ้นเขาไป เมื่อเห็นแสงไฟกลางภูเขาลูกนั้นในระยะใกล้ถนนขึ้นภูเขาขรุขระอย่างมากพอเดินไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆทั้งสองคนก็เห็นบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่งด้วยอาการเหนื่อยหอบ เมื่อเห็นในบ้านหลังนั้นมีแสงไฟย่อมต้องมีคนอื่นแน่นอนซุนหลี่เดินเข้าไปเคาะที่ประตูสักพักประตูก็เปิดออกมีชายชราสวมเสื้อคลุมขนสัตว์เดินออกมาตอนที่พวกเขาเปิดประตูออกในมือก็ถือมีดล่าสัตว์ด้วยเมื่อเขาเห็นว่ามีคนแปลกหน้ายืนอยู่ด้านนอกใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย “พวกเจ้าเป็นใครดึกดื่นขนาดนี้มาหาพวกเราจะทำอะไรหรือ?”ชายชราคนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นนายพราน ซุนหลี่รีบอธิบานทันที“พวกข้าแค่ผ่านมาแต่น้องสาวของข้าร่างกายไม่ค่อยดีทางข้างหน้าไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าก็มีที่พักหรือไม่แค่อยากจะขอค้างแรมที่บ้านของท่านจะได้หรือไม่ท่านวางใจเถอะน้องสาวของข้าไม่ได้อยู่อย่างไร้ประโยชน์พวกข้าจะจ่ายเงินตามราคาโรงเตี๊ยมก็แล้วกันท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง?” “ไอ้แก่ใครมาหรือ?”นายพรานคนนั้นยังไม่ได้ตอบก็เห็นมีหญิงชราคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องหญิงชราคนนั้นไม่ได้มีอาการตกใจเหมือนกับนายพรานเมื่อเห็นทั้งสองคนยืนอยู่หน้าประตูใบหน้าจะฉีกยิ้มไปด้วยอบอุ่น นายพรานคนนั้นหันไปพูดกับหญิงชราใบหน้าจากที่ตกใจก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที“บอกว่าจะมาค้างแรมน่ะ” “เช่นนั้นแล้วเจ้าจะยืนบังหน้าประตูอยู่ทำไม?ดึกดื่นขนาดนี้แล้วออกมาจากนอกบ้านมันไม่ใช่เรื่องง่ายพวกเขาอยากค้างก็ให้พวกเขาค้างไปสิถึงยังไงก็ยังเลือกห้องว่างอยู่”หญิงชราบอกว่านายพรานหลบไปยืนข้างๆ นายพรานคนนั้นถึงจะถอยหลังไปแต่ใบหน้าก็ยังรู้สึกกังวล“แม่นางคนนั้นร่างกายอ่อนแอดูไม่น่าเป็นอันตรายอะไรแต่ว่าเจ้าหนุ่มนั้นเหมือนจะเป็นวรยุทธ์ข้ากังวลว่าจะไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก” หญิงชรากำลังจะต่อว่านายพรานเมื่อได้ยินซุนหลี่เอ่ยขึ้น“ท่านลุงท่านเข้าใจผิดแล้วข้ามีธุระด่วนคงไม่ได้พักอยู่ที่นี่มีเพียงแค่น้องสาวของข้าที่ร่างกายเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะเดินทางได้แค่ขอให้นางอยู่ที่นี่สักคืนหนึ่งข้ายังต้องรีบออกทางเดินต่อ” เมื่อนายพรานคนนั้นได้ยิน“หากเป็นเช่นนั้นเช่นนั้นก็ให้นางค้างที่นี่คืนหนึ่ง” ซุนหลี่พยักหน้าแล้วส่งเงินให้นายพรานแต่นายพรานกับหญิงได้ก็โบกมือปัดพร้อมกันหมายถึงไม่ต้องการเงิน “ก็แค่ค้างคืนหนึ่งจะให้เงินทำไมเล่าข้าเห็นว่าสีหน้าแม่นางซีดขาวขนาดนี้ต้องไม่สบายอย่างแน่นอนพวกข้าสองผัวเมียถึงจะเป็นคนบนภูเขาก็ไม่ใช่คนละโมบโลภมากอะไร”หญิงชรากวักมือเรียกหลินซีนเยียนเข้ามาในบ้าน ซุนหลี่ยังอยากจะพูดอะไรหลินซีนเยียนกลับส่ายหน้าให้เขา“ข้าเห็นว่าพวกเขาล้วนเป็นคนดีเจ้าไม่ต้องเกรงใจหรอกยังต้องรีบออกเดินต่อไม่ใช่หรือ” ซุนหลี่คิดครุ่นพวกเขาล่าช้าไปมากแล้วดังนั้นก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากหลังจากที่กล่าวสองผัวเมียชราแล้วก็จากไปทันที หญิงชราพาหลินซีนเยียนไปห้องว่างที่อยู่ข้างๆเตียงในห้องนั้นสะอาดอย่างมากหญิงชราบอกว่านี่เป็นห้องของบุตรชายของนางแต่เมื่อ2วันก่อนพวกเขาได้ล่าเสือได้ตัวหนึ่งดังนั้นบุตรชายของนางจึงนำเสือตัวนั้นไปขายในเมืองเมื่อขายได้แล้วถึงจะกลับมา เมื่อได้สนทนากับหญิงชราแล้วหลินซีนเยียนก็รู้ว่าเทือกเขาของที่นี่เป็นเทือกเขาใหญ่ที่สุดที่อยู่ติดกับเมืองหลวงเนื่องจากเป็นที่สูงชันในป่าก็มีสัตว์ป่าดุร้ายมากมายดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่พวกขุนนางระดับสูงมาล่าสัตว์กันเยอะมากเพราะว่ามีสัตว์ป่าชุกชุมดังนั้นในกลางเขาจึงไม่มีหมู่บ้านมีเพียงบ้านของนายพรานที่แยกตัวกันอยู่ ครอบครัวของพวกเขาอยู่กินบนภูเขาราวกับล่าสัตว์เพื่อประทังชีวิตทั้งชีวิตอาศัยอยู่แต่ในกลางป่ากลางเขาดังนั้นจึงมีคนผ่านมาน้อยบางครั้งนายพรายแก่กับบุตรชายของเขาต้องไปขายของในตัวเมืองอยู่หลายวันหญิงชราเป็นผู้หญิงที่ต้องอยู่กลางป่ากลางเขาคนเดียวเป็นเวลานานยากกว่าจะได้พบเจอผู้คนดังนั้นเมื่อเจอหลินซีนเยียนก็แสดงอาการกระตืนรือร้นออกมา หญิงชราพูดเก่งมากนางพูดคุยกับหลินซีนเยียนเป็นเวลานานจนกระทั่งเห็นหนังตาของหลินซีนเยียนจะปิดด้วยสีหน้าที่ขาวซีดมาเป็นเวลานานนางจึงกำชับให้เธอกลับห้องไปพักผ่อน หญิงชราพาหลินซีนเยียนไปนอนบนเตียงทันทีเมื่อตัวถึงเตียงหัวถึงหมอนเธอก็นอนหลับใหลไปทันที เมื่อหลับใหลก็ได้กินเวลาไปจนถึงเที่ยงวันในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่หลินซีนเยียนลืมตาตื่นขึ้นมาก็เดินออกมาที่นอกบ้านเห็นหญิงชราผ่าฟืนอยู่ในลานบ้านเมื่อหญิงชราเห็นหลินซีนเยียนก็ยิ้มให้ทันที“สาวน้อยตื่นแล้วหรือดูเหมือนว่าจะเหนื่อยจริงๆนอนหลับยันเที่ยงวันเลย” หญิงชราไม่ได้เยาะเย้ยเลยแม้แต่น้อยในตอนที่เอ่ยพูดล้วนมาใจจริงนางลุกขึ้นแล้วใช้มือปัดบนเสื้อผ้าจากนั้นก็เดินไปที่ห้องครัว“ต้องหิวไส้กิ่วแน่ข้าเหลือข้าวต้มให้เจ้าอยู่หน่อยเจ้ารอก่อนเดี๋ยวข้าจะตักไปให้เจ้ากลางเขาไม่เหมือนกับในเมืองไม่อะไรของดีให้กินหรอกมีข้าวต้มโรยผักนิดหน่อยสาวน้อยอย่าเลือกกินเลยร่างกายของเจ้าอ่อนแอต้องกินให้มากหน่อย” “อื้มข้าไม่เลือกกินโดยปกติแล้วก็ชอบกินข้าวต้ม”หลินซีนเยียนรู้สึกดีที่หญิงชราผู้นี้เป็นคนเรียบง่ายและตรงไปตรงมาดังนั้นเธอจึงยิ้มออกมาจากใจอย่างงดงาม หญิงชราตักข้าวต้มมาให้เมื่อเห็นอรอยยิ้มที่งดงามของหญิงสาวในขณะที่แสงแดดได้ส่องลงมาพอดีนางชะงักไม่ชั่วขณะหนึ่ง“สาวน้อยเจ้านี่รูปโฉมงามยิ่งนักทั้งชีวิตข้าไม่เคยเห็นคนที่งดงามเช่นเจ้าเลย” หลินซีนเยียนหัวเราะออกมาแล้วเอ่ยขอบคุณหญิงชราจากนั้นก็รับข้าวต้มในมือของนางมา อาหารโดยธรรมชาตินั้นถือว่าดีไม่ว่าข้าวต้มโรยผักเพียงมีกลิ่นหอมที่สดใหม่อย่างมากอยู่ก็ตามหลินซีนเยียนกินข้าวต้มจนหมดโดยทันทีเธอลุกขึ้นแล้วถือชามไปล้างในห้องครัวในขณะนั้นก็เห็นคนที่วิ่งออกมาจากในป่าอย่างรวดเร็วคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นนายพรานคนนั้น ใบหน้าตื่นตระหนกของนายพรานอยู่ในขณะนั้นบนหลังได้แบกคนผู้หนึ่งอยู่เขาวิ่งมาแล้วก็ตะโกนเสียงดังลั่น“ยายแก่รีบมาช่วยเร็วเร็วเข้า!” เมื่อเห็นใบหน้าที่ร้อนใจของเขาหญิงชราก็รีบวิ่งเข้าไปหาหลินซีนเยียนก็วางชามแล้ววิ่งไปทางนั้นด้วย “มามาช่วยพาคนผู้นี้วางลงก่อน”ในขณะนายพรานพูดอยู่หญิงชรากับหลินซีนเยียนก็ช่วยเขาพาคนที่อยู่บนหลังลงมา หลังจากที่วางคนผู้นั้นลงแล้วหลินซีนเยียนก็เห็นว่าเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาถือว่าหล่อเหลามากแต่ทั้งตัวได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจึงทำให้คนรับรู้ถึงแรงกดดันที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของเขา เสื้อผ้าบนร่างของชายหนุ่มถือว่ามีคุณภาพดีอย่างมากแค่มองดูก็รู้ทันทีเลยต้องไม่ใช่เนื้อผ้าที่คนธรรมดาเขาใช้กันส่วนท้องและส่วนแขนของเขาได้รับบาดเจ็บราวกับเป็นบาดแผลจากสัตว์ป่าชิ้นส่วนเนื้อหนังของเขาถูกฉีกขาดจนสามารถมองเห็นกระดูกได้อยู่แล้วมีฟันแหลมคมที่กัดจนจมเคี้ยวอย่างเอาเป็นเอาตายทะลุไปยังกระดูกของเขาราวกับเขาได้บาดเจ็บมาแล้วในช่วงเวลาหนึ่งเสื้อผ้าท่อนบนของเขาเลอะไปด้วยเลือดสดตอนนี้สีหน้าของเขาไร้เลือดฝาดเห็นได้ชัดว่าเสียเลือดไปมาก “บาดแผลของเขาหากยังไม่ได้รับการรักษาเกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”หลินซีนเยียนมองไปฉากนองเลือดแบบนี้โดยที่ไม่มีสีหน้าตื่นตระหนกเธอกลับใจเย็นอย่างมากทำให้นายพรานที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถือในทางกลับกันหญิงชราคนนั้นพอเห็นภาพที่โหดร้ายตรงหน้าก็ตกใจจนถอยหลังหนีออกไปหลายก้าว 
已经是最新一章了
加载中