ตอนที่ 163 เขามาแล้ว
1/
ตอนที่ 163 เขามาแล้ว
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 163 เขามาแล้ว
ตนที่ 163 เขามาแล้ว ไม่กี่ชีวิตที่อยู่นอกรถม้าเห็นเจ้านายบันดาลโทสะ พวกเขามองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทั้งหมดทั้งมวลล้วนก้มหัวหมอบต่ำไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง “คืนวานก็ปลุกปั่นเรื่องมาแล้ว กว่าจะปลอบขวัญคนในจินหู่ปางให้สงบลงได้ ปัจจุบันเดาว่าสถานะพวกเราถูกเปิดเผยแล้ว หากว่าวันนี้ยามเช้าพวกเราไม่ย้ายทัพ ไม่แน่ว่าพวกเราอาจหนีไม่ได้แล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ว่าค่อนข้างจะหลักแหลมหรอกรึ แม้แต่เรื่องแค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือไร!” หมิงฉีโกรธเป็นอย่างมาก น่าเสียดายว่าเสียงตะโกนของเขานั้นไม่กี่คนที่อยู่นอกรถม้าล้วนไม่กล้าตอบรับ เขาสบถเสียงเย็น ก่อนจะเริกม่านขึ้นแล้วลงจากรถม้า เขาตรงไปยังสวนข้างหลังของเรือนพักแขก ก็เห็นหลินซินเยียนกำลังถือผ้าเช็ดตัวให้แก่เฉินซาน วินาทีนั้น เขาระเบิดหัวเราะด้วยความโทโส “ดูเหมือนว่าสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อคืนวานจะเป็นเรื่องจริง ไร้การแบ่งแยกชายหญิงโดยสิ้นเชิง ช่างไม่เหมือนสาวสะพรั่งบริสุทธิ์ผุดผ่อง” หลินซินเยียนหันกลับไป เหลือบมองเขาแวบเดียวก่อนจะนำเอาผ้าขนหนูที่ใช้แล้วแช่ลงไปในน้ำร้อนอีกครั้ง พลางเอ่ยถามอย่างมิได้ส่ใจ “องค์ชายหมิงเหตุใดจึงกลับมา มิใช่ว่าต้องรีบย้ายทัพรึ” หมิงฉีจับหมับเข้าที่ข้อมือของนาง ถอนหายใจหนึ่งเฮือก “เอาเถิด ข้าจะเอาตัวเขาไปด้วย” หลินซินเยียนมองเขาด้วยสายตาพิศวง ก้มหน้าต่ำขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง อันตรายของการที่นางอยู่ที่นี่นั้นมากมายเหลือนแสน หากว่าสามารถนำตัวเฉินซานไปด้วยกันได้ เช่นนั้นนางก็มิบังควรอ้างสิทธิ์ มิอาจทำเรื่องที่จะพาตัวเองไปตกอยู่ในอันตรายสินะ “ดี” นางเอ่ยเพียงหนึ่งคำ หมิงฉีกลับพ่นลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ หลินซินเยียนไม่มีทางล่วงรู้ นี่คือครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ยอมอ่อนข้อให้กับผู้หญิง หลินซินเยียนอยากจะสะบัดข้อมือของเขาออก ทว่าเขาจับไว้แน่นเหลือเกิน ถูลู่ถูกังนางออกมาข้างนอก เมื่อมาถึงประตูเรือนพักแขก หมิงฉีสั่งให้คนจำนวนหนึ่งไปพาเฉินซานออกมาด้วย คนจำนวนนั้นล้วนตกใจมาก บางคนถึงกับลุกพรวดขึ้นมาร้องเตือนอย่างรวดเร็วว “นายท่าน รถม้ามีเพียงหนึ่งคันเท่านั้น อีกอย่างเฉินซานได้รับบาดเจ็บ หากนำเขาไปด้วย การเดินทางของพวกเราอาจล่าช้าขึ้นมากนะขอรับ” “คำสั่งของข้าตกเป็นที่ข้อกังขาของพวกเจ้าไม่กี่คนนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” หมิงฉีเอ่ยอย่างเย็นเยียบก่อนจะเหวี่ยงตัวหลินซินเยียนเข้าไปในรถม้า จากนั้นครู่ต่อมา เฉินซานก็ถูกนำตัวขึ้นรถม้า เดิมทีรถม้าโอ่อ่ากว้างขวางแต่เนื่องจากบรรทุกบุคคลทั้งสามจึงเปลี่ยนเป็นคับแน่นขึ้นมาเล็กน้อย หมิงฉีแนบหน้าที่ฉายแววไม่สบอารมณ์กับแท่นนอน ทำเพียงจ้องหลินซินเยียนด้วยสายตาไม่พออกพอใจ หลินซินเยียนก็ไม่ได้สนใจ แค่จับจ้องด้วยสายตานั้นฆ่าคนไม่ได้หรอก ฉะนั้นนางจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็นแววตาประดุจคมกริชของเขา เมื่อยามที่พระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นเส้นขอบฟ้า ขบวนคนก็มาถึงจุดตรวจคนที่หน้าประตูเมือง นอกจากประตูบานนี้ก็เป็นดินแดนของอาณาจักรเป่ยหมิงแล้ว ก็ไม่ทราบว่าหมิงฉีไปทำเอกสารจากแห่งหนใด ทุกครั้งที่ต้องผ่านจุดตรวจพวกเขาก็ผ่านได้อย่างง่ายดายนัก แทบจะไม่มีใครขึ้นมาตรวจบนรถม้าเลยสักแวบเดียว ข้อนี้ยิ่งทำให้หลินซินเยียนอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา สถานะของหมิงฉีน่าจะเป็นคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตของอาณาจักรเป่ยหมิงผู้มีตำแหน่งใหญ่โตของอาณาจักรเป่ยหมิงนั้นกลับมีอำนาจพิเศษในแคว้นหนานเยว่ เช่นนั้นเบื้องหลังของเขาจะต้องมีอำนาจของคนใหญ่โตในแคว้นหนานเยว่คอยหนุนหลังเป็นแน่ นางอดนึกถึงเมื่อก่อนยามที่อยู่เมืองเฟิ่งชีเคยได้ยินคนกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไม่ได้ ว่ากันว่าเป่ยหมิงกับหนานเยว่ถึงแม้จะแลดูสามัคคีปรองดอง ทว่านั่นก็เป็นด้านที่ใหญ่ เส้นแบ่งแดนระหว่างสองแคว้นนั้นความจริงแล้วมิได้แบ่งขาดชัดเจน ฉะนั้นสองแคว้นก็มิได้มีสัมพันธไมตรีดีงามถึงขนาดว่าผู้มีอิทธิพลของทั้งสองฝ่ายจะเข้านอกออกในฝ่ายตรงข้ามได้ เช่นนั้นก็เหลือความเป็นไปได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น...ไส้ศึกภายใน เพียงแต่ ผู้มีอิทธิพลที่ร่วมมือหมิงฉีผู้นั้นจะเป็นใครกัน ข้อกังขาของหลินซินเยียนไม่มีใครตอบแทนนางได้ อีกอย่างนางก็มิได้ใส่ใจการเมืองพวกนี้สักเท่าใดนัก หลังจากที่ขบวนคนออกจากจุดตรวจแล้ว หลินซินเยียนเริกม่านรถขึ้นมองแวบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ ตึกรามมโหฬารค่อยๆ ปรากฏในทัศนวิสัย ในที่สุดนางก็ออกมาแล้ว ออกจากอณาเขตอำนาจของโม่จื่อเฟิง จากมาครั้งนี้ ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสได้กลับไปอีกครั้งหรือไม่ แต่ว่า นางรู้...รอจนกว่าทุกอย่างกลับสู่ความสงบ รอจนกว่ายามที่นางแข็งแกร่งมากพอ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพราะว่ายังมีเซียวฝานที่รอพวกเขาให้กลับไปช่วยเหลืออยู่ “ศิษย์พี่ ท่านจะต้องอยู่รอดจนกว่าพวกเขาจะกลับไปให้ได้” เสียงของนางปลิดปลวไปกับสายลม ทว่า เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในขณะนั้น ยามที่หลินซินเยียนกำลังจะลดม่านรถลงนั่นเอง ทิศทางของประตูเมืองที่ไกลออกไปมีเสียงฝีเท้าของม้าดังเข้าม้า ทันใดนั้นพลม้ากว่าร้อยนายก็รุดหน้าเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว กองทัพพลม้าเหล่านั้นมาอย่างกะทันหัน ขณะที่นางปราศจากปฏิกิริยาตอบสนอง คนที่นำทัพก็มาปรากฏอยู่ในสายตาของนางแล้ว นางตกใจ อุทานดวยความตกใจเล็กน้อย ผู้นำทัพคนนั้น...ที่แท้ก็คือโม่จื่อเฟิง หลินซินเยียนตกใจจนสีหน้าเปล่ยนเป็นขาวซีดทันใด แม้แต่ข้อมือของตนกำลังสั่นระริกก็ไม่รับรู้ใดๆ อาจเพราะหมิงฉีที่อยู่ด้านข้างสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของนาง จึงคว้าหมับเข้าสองมือที่สั่นระริกของนาง หมิงฉีเหลือบมองยังข้างนอกหน้าต่าง ยามที่มองเห็นผู้คนที่กำลังใกล้เข้ามาจากสถานที่ไกลๆ สีหน้าก็มีแวววิตก พลางสบถเสียงต่ำออกมาสามคำ “อู่เซวียนอ๋อง” หลินซินเยียนได้ยินสามคำนี้จึงดึงสติสัมปชัญญะกลับมา มองแววตาของหมิงฉีกลับยิ่งเพิ่มข้อกังขาขึ้น หมิงฉีเคยเห็นโม่จื่อเฟิง...เช่นนั้นสถานะของหมิงฉีอาจจะสูงกว่าที่นางจินตนการเอาไว้มากโข “เจ้ากลัวเขารึ” หมิงฉีบีบมือของหลินซินเยียนเอาไว้ สายตาคมกริบขึ้นมา “เจ้ากับเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร” “ข้า...” หลินซินเยียนเอ่ยออกมา น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว นึกอยากกลัวสิ่งใด กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มเอ่ยเช่นไรดี “พูดความจริง ไม่เช่นนั้นข้าจะทิ้งเจ้าออกนอกรถม้าเสีย เพื่อผู้หญิงนางหนึ่งเช่นเจ้า ทำให้พวกเราแสร้งเป็นเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกเสียจากเจ้าจะให้คำอธิบายอันเป็นที่น่าพอใจแก่ข้า” หมิงฉีมิได้คลายข้อมือของนาง กลับยิ่งจับแน่นมากกว่าเดิม อาจเพราะพละกำลังของเขามากขึ้นกว่าเดิม ข้อมือของหลินซินเยียนปรากฏรอยจ้ำแดงขึ้นมามันใด หลินซินเยียนขบปากล่าง วิงวอนด้วยความน่าสงสารอย่างอดไม่ได้ “ข้าเป็นนางบำเรอของเขา” หมิงฉีตกใจจนคลายข้อมือของนาง “ฉะนั้นเจ้าถึงบอกว่าเจ้าไม่ใช่สาวพรหมจรรย์ ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง เฮอๆ ที่แท้เจ้าก็เป็นผู้หญิงของกษัตริย์แห่งศาสตรา ช่างน่าขันยิ่งนัก” ใช่แล้ว นางเป็นผู้หญิงของกษัตริย์แห่งศาสตรา ชั่วชีวิตนี้ล้วนหนีออกจากกำมือของเขามิได้ ในสายตาของกษัตริย์แห่งศาสตราผู้สูงส่ง นางคงเป็นได้แค่เครื่องมือระบายการมณ์ ไม่...เขาพูด เขาชอบนางอยู่ไม่น้อย แต่ว่าความชอบของเขา ก็เป็นเพียงการให้สถานะต้องห้ามแก่นาง ให้นางได้มีอากาสสนองเขาก็เท่านั้น แต่ว่า นางเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่มีลมหายใจ มีเลือดมีเนื้อมีความรู้สึก นางมิใช่ทาส และก็ไม่อยากกลายเป็นทาสของเขา นางต้องการอิสรภาพ...ในการมีชีวิตอยู่ ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าที่ยิ่งดังถนัดหูเข้ามา สีหน้าของหลินซินเยียนก็ยิ่งซีดเผือด เสียงฝีเท้าอาชาเหล่านั้นราวกับว่าย่ำเหยียบลงบนขั้วหัวใจของนางในทุกๆ ย่าง ทำให้หัวใจของนางเจ็บแสบทรมาน แม้แต่วิญญาณก็สั่นไหวร้าวรานไม่หยุด ไม่ นางไม่อยากถูกเขาจับตัวไปเป็นทาสเช่นนี้ แม้ว่าความหวังอันน้อยนิด นางก็ไม่เต็มใจปล่อยวาง “หมิงฉี ข้าขอร้อง ช่วยข้าด้วย” หากว่าการวิงวอนได้ผลล่ะก็...นางเต็มใจปลดปล่อยศักดิ์ศรีอันไร้ค่าของตน “ช่วยเจ้า เหตุใดต้องช่วย” หมิงฉีแสยะยิ้มเย็น รูม่านตาฉายแววชั่วร้ายกระพรือเพื่อม
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 163 เขามาแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A