ตอนที่ 31 ขึ้นเรือโจรสลัด
1/
ตอนที่ 31 ขึ้นเรือโจรสลัด
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 31 ขึ้นเรือโจรสลัด
ตอนที่ 31 ขึ้นเรือโจรสลัด จู่ๆก็อยากจะโทรศัพท์หาเขาขึ้นมา และก็จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเก็บเบอร์โทรศัพท์ของเขาไว้เลย แต่ว่าเมื่อคืน มันชัดเจนว่าเธอได้โทรศัพท์หาเขาแล้ว คิดถึงตรงนี้ เพ็ญนีติ์จึงรีบเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา และดูไปยังข้อมูลสมุดโทรศัพท์ ก็ไม่รู้ว่าหมายเลขเบอร์โทรทางลัดของเธอนั้นต่างเปลี่ยนไปเหมือนกันหมด นั่นก็คือเบอร์ของปุริม เธอใช้นิ้วจิ้มลงไปเบาๆ เธอเพียงแค่อยากจะได้ยินเสียงของเขาเท่านั้น และทันใดนั้น “เพ็ญนีติ์ ผมเอง” เขารับสายขึ้นมา เสียงทุ้มนุ่มเบาๆก็ดังขึ้น “อ่าปุริม ฉันอยากเจอคุณค่ะ” ตอนนี้ เธอไม่ใช่เพียงแต่อยากได้ยินเสียงของเขาเท่านั้น แม้แต่คนของเขาเธอเองก็อยากจะเห็น “เลิกเรียนแล้วหรือยัง” “อืม เลิกเรียนแล้ว วันนี้เรียนเสร็จแล้วล่ะ” “ถ้าอย่างนั้นก็ออกมาได้สิ” “ได้ คุณเลิกงานกี่โมง" เธอเดินไปคุยโทรศัพท์กับเขาไป "คุณเลิกเรียนผมก็เลิกงาน" ในใจแอบหวานนะเนี่ย ไม่ว่าจะจริงหรือหลอกเธอก็ชอบที่เขาพูดแบบนี้ “ตอนเย็นฉันจะต้มบะหมี่ให้คุณทานแล้วกันค่ะ “เยี่ยมเลย” “เพ็ญนีติ์ คู่หมั้นของเธอมาแล้ว” ขณะที่กำลังพูดอยู่ จู่ๆเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งของเธอก็พูดขึ้นด้วยความอิจฉาริษยา” “อ่า อยู่ไหนล่ะ” เพ็ญนีติ์ดูสับสนเล็กน้อย “BMW น่ะ จอดอยู่ตรงประตูใหญ่ของโรงเรียนอ่ะ ถ้าเธอยังไม่ไปอีก ทั้งโรงเรียนก็จะเจี๊ยวจ๊าวกันหมดแน่” “ปุริม ใช่คุณหรือเปล่าคะ” เธอถามกลับไปด้วยความประหลาดใจ และรีบวิ่งไปที่ประตูโรงเรียนทันที ที่ประตูโรงเรียน น่าจะเป็นจุดรวมตัวที่สามารถให้ทุกคนมารวมตัวกันได้ ฝูงชนด้านในสามชั้นด้านนอกสามชั้น ปุริมเขากลัวว่าชื่อเสียงและอำนาจจะไม่ใหญ่โต จึงใช้ดอกกุหลาบแดงและกุหลาบเหลืองทั้งสองชนิดนี้สร้างเป็นกำแพงดอกไม้ บนกำแพงดอกไม้มีตัวอักษรมงคลหกตัวใหญ่ๆว่า : “เพ็ญนีติ์ ผมรักคุณ” นั่นคือเกรงว่าคงจะเป็นตัวอักษรที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันเหมือนเป็นการเรียกรวมตัวแบบหนึ่งเลย ความสวยงามนั้นทำให้จิตใจของเพ็ญนีติ์ลอยไปยังกำแพงดอกไม้นั่นแล้ว ผู้คนต่างหลีกทางให้ เมื่อเพ็ญนีติ์เดินเข้ามาช้าๆ ปุริมก็กำลังยืนพิงรถ BMW คันหรูสีดำเงาวับรออยู่แล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ และกางเกงยีนส์สีเดียวกัน ทั้งหล่อเหลาและเท่ห์จนสาวๆที่อยู่รอบๆอดที่จะกรี๊ดกันไม่ได้เลย เพ็ญนีติ์ดูตกใจมาก และจ้องมองเขานิ่งๆ ราวกับโดนมนเสน่ห์ให้ลุ่มหลงในตัวเขา นานมากแล้ว เธอถูกจำรูญตามใจมาตลอด เป็นเพราะความโปรดปรานของจำรูญ มันจึงทำให้เธอโหยหาความอบอุ่นเมื่ออยู่กับเขา แต่ความฝันของเธอกับจำรูญก็ถูกปลุกให้ผุดขึ้นมาและแตกสลายไปในทันทีเมื่อเห็นจำรูญกอดจูบอยู่กับญาณินท์ แววตาสดใสที่มองเธอเดินมายังรถ BMW ปุริมผิวปากขึ้นมาเสียงดัง หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางอันสง่า ร่างกายเปรียบดั่งเสือดาวเดินผ่านส่วนโค้งอันสวยงามตรงเบื้องหน้าของทุกคน จากนั้น เขาก็เอื้อมมือไปออกไปเปิดประตูให้ฉัน “เพ็ญนีติ์ ไปดินเนอร์ด้วยกันนะครับ” เสียงของเขาไพเราะเสนาะหูน่าดึงดูด ไม่มีร่องการของการสรรค์สร้าง ราวกับว่าเขานั้นเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของเธอมาหลายปี และมันจะเป็นการลบล้างการทรยศของจำรูญที่มีต่อเธอในความรู้สึกของคนอื่นๆอีกด้วย และนำพาเธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเขา เท้าทั้งสองเดินเข้าไปหาเขาราวกับโดนมนต์สะกดไว้ จู่ๆเธอก็ได้พบว่าชายหนุ่มสุดเท่ห์คนนี้ก็มีความน่ารักๆอยู่นิดหน่อย ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นกายของชายหนุ่มที่จะทำให้ผู้คนได้รู้สึกตื่นเต้นๆ เธอแทบจะไม่รู้เลยว่ามือของเธอถูกเขาจับเอาไว้ เธอรู้เพียงแต่ว่ามีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดให้เธอไปนั่งยังที่นั่งข้างคนขับ เธอเอนกายลงนั่ง จนในที่สุดรถก็ขับออกไปจากมหาวิทยาลัยดรัล สิ่งที่เธอได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงกรี๊ดของเหล่านักเรียนที่นอกหน้าต่างรถนั่น แต่เป็นเสี่ยงของปุริมที่เหมือนราวกับเสียงผีร้าย “คุณผู้หญิงครับ แบบนี้ จะไม่มีใครมาพูดได้ว่าคู่หมั้นของคุณนั้นแย่กว่านายจำรูญอีกแล้วนะ” จมูกถูกบีบไว้เบาๆ และบิดไปมา รู้เลยว่าเขาเพียงแค่หยอกล้อเพื่อให้เพื่อนร่วมคลาสเรียนของเธอเห็นแค่นั้น “อืม ใครอยากจะให้คุณช่วยฉันกันล่ะ” “ไม่ใช่ว่าอยากแต่งงานกับผมเหรอ งั้นผมก็อยากจะเป็นผู้ชายของคุณแล้วล่ะ ถึงตอนนั้นผมก็จะช่วยไม่ให้คุณขายหน้าได้แน่นอน” “ปุริมคะ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันไม่อยากแต่งงานกับคุณค่ะ” ไม่ได้มีความโกรธใดๆ เขาคนนี้ เป็นคนที่เอาแต่ใจจริงๆ ปุริมยิ้มออกมาเบาๆ มือทั้งสองข้างหมุนพวงมาลัยอย่างคล่องแคล่วพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เพ็ญนีติ์ คุณได้เซ็นชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้วนะ และคุณ ตอนนี้ก็อยู่บนเรือของผมแล้ว ดังนั้น จากนี้ไปคุณก็คือคนของผมแล้ว” "ปุริม นี่คุณเป็นพวกเรือโจรสลัดใช่หรือเปล่า” เหลือบตาไปมองเขา เพ็ญนีติ์หันไปมองปุริมอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกว่า มันเหมือนกับว่า เธอกับเขา รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว “เพ็ญนีติ์ ฉันอยากกินบะหมี่” บอกว่าจะพาเธอไปดินเนอร์ แต่ที่จริงแล้ว ต้องการจะกลับไปยังอพาร์ตเมนต์เกินบะหมี่ที่เธอต้มให้ “คุณสัญญากับผมแล้วทางโทรศัพท์” เธอพยักหน้า และก็คิดถึงญาณินท์ คิดถึงปัทมา ในใจจริงๆแล้วเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “เย็นนี้ไม่ต้องกินบะหมี่แล้วล่ะ พวกเราไปซื้ออาหาร ฉันจะหุงข้าว ดีหรือเปล่าคะ” “ก็ได้ พอดีเลยที่อพาร์ตเมนต์ก็ต้องการของบางอย่างเพิ่มเติม” ดวงตาของเขาเป็นประกาย จากนั้นก็เลี้ยวรถไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ผลักรถเข็นไป เธอเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เขาเดินตามอยู่ข้างหลังเธอ เหมือนกับลูกน้อง ยาสีฟันลายการ์ตูน ที่ชอบก็ใส่ไว้ในรถเข็น และเอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันที่ราคาถูกกว่าออกมา มือนั้นก็ถูกปุริมจับเอาไว้ “ไม่เอาอันนั้น เอาอันนี้” นั่นก็คือชุดสูทคู่รัก แปรงสีฟันสองอันที่คู่กันน่ารักๆ ที่ด้ามแปรงสีฟันมีลูกแมวสองตัว “ฉันว่าเอาอันนั้นจะดีกว่านะ” เธอยังอยากได้อันที่ถูกกว่า มันคุ้นเคย ซื้ออันที่แพงแล้วรู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง “ไม่ได้ แบบนี้ดูดีกว่า” เธอได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และยาสีฟันที่เธอเลือกก็ถูกนำกลับไปวางบนชั้นเหมือนเดิม และเลือกมาหนึ่งคู่ แต่เมื่อวางลงในรถเข็นแล้ว มองแล้ว ทำไมถึงได้น่ารักแบบนี้นะ นอกจากนี้ยังมีรองเท้าแตะ และชุดอำนวยความสะดวกต่างๆก็เป็นชุดเซ็ทคู่รักทั้งหมด เธอเพียงอยากจะพูดอะไร เขาก็เข้ามากระซิบที่ข้างหูเธอว่า “เด็กน้อย ไม่ต้องมาช่วยฉันประหยัดเงินหรอก” โอเค งั้นก็ไม่ประหยัดแล้ว ผลไม้อ่ะ เนื้อปลาอะไรก็ตามก็จะซื้อที่แพงๆ เธอหยิบถุงแล้วถุงเล่า ไม่นานก็เต็มรถเข็น เมื่อเห็นว่าซื้อไปไม่น้อยแล้ว เธอก็กระซิบกับเขาว่า “ปุริมคะ คุณไปรอฉันที่แคชเชียร์นะ” “เฮ้ แล้วคุณจะไปทำอะไร” “ฉัน......ฉันจะไปซื้อของอะไรอีกหน่อยค่ะ” เธอนึกขึ้นมาได้ว่าประจำเดือนของเธอจะมาแล้ว เธอมาซุปเปอร์มาเก็ตก็เพื่อจะซื้อผ้าอนามัยกล่องนึง แต่เมื่อมีเขาอยู่ด้วย เธอรู้สึกอายๆที่จะซื้อมัน มีสินค้าหลายประเภทวางอยู่บนชั้นวาง หลังจากที่เลือกๆก็เลือกหยิบมาและรีบเดินไปที่แคชเชียร์ เธอกลัวว่าเขาจะรอนาน และเดินเข้าไปยังล๊อคชั้นวางขายของสด เพ็ญนีติ์กำลังจะเดินออกไป แต่เห็นปุริมล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกางเกง เขาคุยโทรศัพท์ไปและมองหาไป เขากำลังมองหาเธอใช่ไหม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ โทรศัพท์ของเขาไม่ได้โทรหาเธอ ในระหว่างที่ลังเลอยู่นั้น เธอก็เห็นใบหน้าของปุริมมีรอยยิ้มออกมาในที่สุด และก็โบกมือไปมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาข้างๆเขา เขาวางของที่เธอกับเขาเลือกซื้อกันไว้ในรถเข็นที่แคชเชียร์ จากนั้นก็ตามหญิงสาวมาจ่ายเงิน พูดอีกสองสามคำ หญิงสาวก็ยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะจากไป เมื่อมองไปที่หลังของหญิงสาว จู่ๆเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย หรือว่า นี่คือชีวิตในอนาคตของเธอสินะ เขาเคยพูดว่า เขากับเธอสามารถที่จะมีพื้นที่ส่วนตัวได้ เขาเองก็ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น ผู้หญิงของเขามีมากมายเท่าไหร่กันล่ะ ที่เธอรู้จักก็มีอยู่สามคน และหนึ่งคนในนั้น อยู่ที่บันไดชั้นหนึ่งหนึ่งคน และยังมี ก็คือทฤนห์ ทฤนห์เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เธอจำได้ ครั้งสุดท้ายที่เธอจากไปในคืนนั้น โทรศัพท์มือถือของเขาถูกทิ้งไว้ที่ทฤนห์ แต่เขากลับบอกเธอว่าเป็นเพราะปู่กำลังยุ่งๆ ดังนั้น จึงมีเวลาอยู่กับเธอค่อนข้างน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ต้องการให้เขาไปกับเธอ เธอชินกับการอยู่คนเดียว ในตาเห็นหญิงสาวหายไปตรงทางโค้ง เพ็ญนีติ์จึงเดินออกมา “ปุริมคะ ไปกันได้แล้วค่ะ” จึงเอื้อมมือไปเข็นรถเข็นที่ถูกทิ้งไว้อยู่ข้างๆ เขาซื้อของพวกนี้เพราะก็กลัวว่าคุณปู่จะสงสัยและเช็คว่าเขากับเธอเข้ากันได้ดีหรือเปล่า จ่ายบิล และเดินจากไป หรือว่าเขาจะเห็นเธอหยิบผ้าอนามัยมา และคว้ามาถือไว้ด้วยตัวเอง มันน่าอายถ้าหากเขาเห็นเข้า ลองคิดดู ก็เพิ่งรู้จักกันแค่สองสามวันเท่านั้น ทำไมถึงไม่ได้มีระยะทางล่ะ เมื่อเจ็บขา เธออาศัยอยู่ที่นี่จะกินอะไรก็สั่งมาจากข้างนอก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอกับเขาจะทำอาหารทานด้วยกัน “ให้ผมช่วยคุณไหม” เมื่อเห็นสิ่งของที่เธอถือมาในครัว เขาก็กระซิบถามเธอขึ้น “ไม่ต้อง วันนี้ฉันทำเอง คุณดูทีวีไปน่ะดีแล้ว หรือว่า คุณจะไปเปิดคอมพิวเตอร์เล่นอินเทอร์เน็ตพลางๆก็ได้” ห้องหนังสือที่ชั้นบนมีอะไรๆมากมายให้ศึกษา แต่มันเป็นเรื่องยาก และเธอยังวางแผนการให้เขาดีไหม แต่นี่คืออพาร์ตเมนต์ของเขา “เหอะๆ เพ็ญนีติ์ คุณช่างดูเหมือนกับภรรยาตัวน้อยๆที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติ” เธอส่งยิ้มให้กับเขา “ฉันเซ็นต์ยินยอมไปแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบสิ” เขาจับหน้าของเธอเอาไว้ และก็ยกห้องครัวให้เป็นของเธอ และให้ลองเธอไปทำอาหาร คนหนึ่งกำลังยุ่งๆ เมื่อเธออายุสิบกว่าขวบก็สามารถทำอาหารได้แล้ว ปัทมายังคงพาเธอไปด้วยในฐานะพี่เลี้ยง ดังนั้น ก็ได้เรียนรู้จากการได้เห็นปัทมาทำอยู่เงียบๆ ในตอนนั้นคิดว่าตนเองสามารถที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็กและช่วยหารายได้เสริมให้กับครอบครัวได้ แต่ไม่คิดว่า มันกลับมามีประโยชน์ในตอนนี้ ทั้งล้างทั้งหั่น และตุ๋นอยู่บนเตาไฟ แต่เสียงโทรศัพท์มือถือในห้องนั่งเล่นดังขึ้นมา “ปุริมคะ โทรศัพท์มือถือคุณดังค่ะ” หลังจากดังอยู่นานไม่มีคนรับสาย เธอก็รู้สึกว่าเธอควรจะเตือนปุริม แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากนอกห้องครัว เช็ดมือแล้ว เพ็ญนีติ์ก็รีบออกมาจากห้องครัวและหยิบโทรศัพท์มือของปุริมขึ้นมาดู เขาไม่ได้อยู่ในห้อง จึงวิ่งขึ้นไปชั้นบน กำลังจะผลักประตูเข้าไปในห้องหนังสือ แต่โทรศัพท์มือถือในมือก็ไม่ได้ดังแล้ว มีเสียงของปุริมดังออกมาจากห้องหนังสือ เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรฟัง แต่ก็หันกลับมาและได้ยินเขาพูดว่า “ตอนนี้ผมยังทำงานอยู่ และยังต้องทำโอทีอีก ยุ่งมาก.......อะไร คุณจะมาเหรอ อย่างนี้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนเช้าตรู่ผมก็มากลับไปอยู่แล้ว อย่ามารบกวนเวลาโอทีของผมเลยจนกว่าจะเช้าตรู.............ได้ อย่าลืมนำชุดมาด้วยนะ ที่นี่ผมไม่มีน่ะ ถ้าไม่นำมาก็อย่ามา.......” เธอไม่อยากจะฟังต่อ จึงวิ่งลงไปชั้นล่าง และวางโทรศัพท์มือถือของเขาไว้ที่เดิม ราวกับว่าเธอไม่เคยได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา พูดว่ากำลังทำงานอยู่อะไรกัน และยังทำโอทีอีกด้วย ไม่เคยเห็นใครบอกว่าสามารถจะทำงานทำโอทีที่บ้านได้เลย ช่างเถอะ คิดซะว่าเธอไม่เคยได้ยิน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 31 ขึ้นเรือโจรสลัด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A