ตอนที่ 32 ดอกเยอบีร่า
1/
ตอนที่ 32 ดอกเยอบีร่า
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 32 ดอกเยอบีร่า
ตอนที่ 32 ดอกเยอบีร่า มะลิทำอาหารเสร็จแล้ว และเสิร์ฟเอาไว้บนโต๊ะอาหารหนึ่งชาม ต่อให้เป็นรางวัลสำหรับเขาที่ทำให้เธอในวันนี้ เรื่องของตระกูลศาสตร์พงษ์ และยังมีเรื่องของญาณินท์อีก เธอเป็นหนี้เขามากขึ้นและมากขึ้นไปอีก เงินเหล่านั้น เธอไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้ว ผู้หญิงของเขา เธอทำเป็นปิดตาไว้ข้างหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ตัวของเธอเลือกเอง เธอไม่ต้องไปโทษใคร เพียงแค่ รู้ว่าเขาทำให้ผู้หญิงของเขานั้นได้มาที่นี่ ในใจเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา ฉันวิ่งขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง และเปิดประตูห้องหนังสือเข้าไปเบาๆ เขากำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเข้ามาตอนไหน และเอื้อมมือไปปิดตาของเขาเอาไว้ จากนั้นก็ถามเขาขึ้นด้วยเสียงหนาทุ้มว่า “ลองเดาดูสิว่าฉันคือใคร” “เจ้าหมาป่าตัวใหญ่” “ไม่ใช่” “หนูน้อยหมวกแดง” “ไม่ใช่” คิดว่าเขาจะไม่สนใจเธอแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเล่นเกมส์เด็กๆแบบนี้กับเธอ เธอรู้ว่าเธอยังเด็ก เมื่อยืนอยู่ข้างหลังเขา ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองเขา “ถูกสิ คุณคือหนูน้อยหมวกแดง” ทันทีที่เธอเอามือเปิดตาออกก็หันกลับมามองอีกครั้ง ใบหน้าของเขาโน้มเข้ามา มันทำให้เธอนึกถูกจูบในรถตอนนั้น แต่ว่า สิ่งที่ดึงดูดใจเธอไว้ได้คือหญิงสาวที่น่ารักที่เขาจ่ายเงินให้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต จึงเอียงหัวหลบ เธอพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ปุริมคะ ทานข้าวได้แล้วค่ะ” “โอ้ ไปกันเถอะ” เขาค่อนข้างตกตะลึงงงนิดหน่อย นั่นเป็นเพราะว่าเธอเพิ่งจะหลบไปเหรอ? เธอไม่รู้ว่า เพียงแค่ตอนลงบันไดมาชั้นล่าง มือของเขาจับมือของเธอไว้ตลอดเวลา ราวกับว่า พวกเขาเป็นคู่รักกันจริงๆ แต่เธอรู้ว่า พวกเขานั้นไม่ใช่คู่รักกันจริงๆ และจะไม่ใช่ตลอดไป เมื่อเขาก้าวลงบันไดและเดินไปที่โต๊ะอาหาร ก็มีกลิ่นหอมๆของอาหารลอยอบอวลอยู่ในห้องอาหาร เขายืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร มองซุปที่เธอทำ แล้วก้มลงไปสูดดมดู ก่อนที่จะนั่งลงและถามเธอขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “เพ็ญนีติ์ หอมมากๆ อยากจะ ดื่มเหล้าด้วยสักหน่อยไหม” เธอส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ ฉันดื่มไม่ได้ค่ะ” “งั้นก็ไปดื่มไวน์ ครั้งนี้ผมยกให้นะ ครั้งหน้าห้ามปฏิเสธล่ะ” ยิ้มออกมาเบาๆก่อนจะพูดว่า “ตอนนี้มีคุณอยู่ ฉันก็จะไม่ปฏิเสธค่ะ แต่ว่า รอถึงวันที่คุณไม่ได้เลี้ยงฉันแล้ว คุณจะมาบังคับกันไม่ได้นะคะ” ตะเกียบในมือของเขาหยุดชะงักไป แต่มันก็จะแปลกๆที่มาพูดประโยคที่ว่า “ควรจะอยู่ที่นี่” “อะไร?” เธอพูดถึงมันขึ้นมา “แค่ดูให้ดีเฉยๆ เพ็ญนีติ์ ฉันวางตะเกียบลงอย่างน่าเสียดาย” “กินเถอะ มันอาจจะแย่กว่ารสชาติของอาหารข้างนอกหน่อย” “นั่นมันไม่เหมือนกัน อาหารข้างนอกนั่นใส่ผงชูรสเยอะเป็นช้อนๆเลยนะ บางจานก็ไม่รู้ว่าใส่อะไรที่เป็นพิษต่อร่างกายของเราหรือเปล่า ฉันก็ไม่เคยที่จะชอบกินอาหารข้างนอกเหมือนกัน แต่ก็แค่ไม่รู้จะทำยังไงดีก็แค่นั้น” ได้ยินเขาพูดขึ้นมา จู่ๆเธอก็พบว่าเธอเองไม่ได้รู้จักตัวเขาหรือครอบครัวของเขาเลยแม้แต่น้อย สัญญาที่ตกลงกันนั้น มันก็เป็นแค่คำพูดยอดฮิตว่า “การแต่งงานสายฟ้าแลบ” เพียงแค่พวกเขาตกลงกันที่จะแต่งงานกันสายฟ้าแลบ ต่อจากนั้น ก็ตกลงที่จะหย่ากัน “ติ๊งต่อง........” ในขณะที่กำลังคิด เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น เธอกำลังจะลุกขึ้นไปเปิดประตู เขาก็พูดขึ้นว่า “ผมไปเอง” ขายาวทั้งสองก็ลุกเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว และเปิดประตู เขาก็รีบหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่มือยังไขว้อยู่ด้านหลังพร้อมกับยิ้มกลับมาแปลกๆ “ปุริมคะ คุณเซ็นต์รับอะไรเหรอคะ หรือว่าเป็นจดหมายรักคะ” เขาเดินกลับมายังโต๊ะอาหาร จากนั้นก็หยิบแจกันเปล่าๆมาไว้ในมือ ทันใดนั้น ที่ด้านหลังก็กลายเป็นดอกเยอบีร่าออกมา และถูกนำมาใส่แจกันไว้อย่างระมัดระวัง และก็นั่งลงอีกครั้ง “หลังจากที่คุณอยู่ ผมให้คนเอาดอกเยอบีร่ามาส่งให้ทุกๆวัน” “ขอบคุณค่ะ” แต่ก็รู้สึกว่าดอกไม้นี้มันมีอะไรแปลกๆ แต่ว่า ถ้าเขาชอบ และส่งมาทุกๆวัน อีกทั้งฉันก็ไม่ได้จ่ายค่าดอกไม้ เธอไม่ดื่มเหล้า เขาเองก็เลยไม่ดื่ม หลังจากทานข้าวด้วยกันเสร็จ เขาก็เอนหลังพิงเก้าอี้ในท่าทางที่สบายๆ “เพ็ญนีติ์ จริงๆแล้วผมต้องขอบคุณคุณนะ มันอร่อยมากจริงๆ” เธอลุกขึ้นยืนเพื่อจะเก็บชามไปล้าง เขาก็พูดขัดขึ้นว่า “วางไว้เถอะ ไม่ต้องทำหรอก” แค่คิดว่าไม่อยากให้เขาไปจ้างคนมาทำความสะอาด เขาจับมือเธอเอาไว้ “ไป พวกเราออกไปข้างนอกกันเถอะ” “ปุริมคะ คุณไม่ต้องทำโอทีเหรอ” คิดแล้ว เธอจึงลองถามเขาออกไป “ไม่ต้อง ไปกันเถอะ” “อ๋อ” เขาเดินนำออกไปข้างนอก และนั่งรถ BMW ของเขา รถขับไปท่ามกลางแสงนีออนยามค่ำคืน เธออยากจะถามเขาว่าจะไปไหน แต่ก็รู้สึกว่าถ้าถามมากไปก็จะทำให้น่ารำคาญนิดหน่อย ปุริมดูเหมือนจะอารมณ์ดีมากๆ หลังจากที่ขับรถมานอนก็จอดลง รถBMWเปิดประทุนออก เมื่อเพ็ญนีติ์ลงจากรถแล้วก็พบว่ามีสายตานับไม่ถ้วนที่มองมาทางปุริม และส่วนมากจะเป็นผู้หญิงทั้งนั้น “กรี๊ดดดดดดดด.........” เสียงกรีดร้องราวกับนกหวีดดังขึ้น นั่นก็คือหญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าที่ส่งเสียงมาให้กับปุริม เขายิ้มออกมาเบาๆแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพ็ญนีติ์เพิ่งจะสังเกตว่าพวกเขาจอดรถอยู่ที่ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นร้านหนึ่งในปารีส เพ็ญนีติ์หยุดก้าว เธอคิดว่า ปุริมคงจะมาซื้อของขวัญให้กับหญิงสาวที่กำลังจะมาหาเขาที่บ้านเย็นนี้แน่ๆ เธอจึงไม่อยากที่จะตามเขาเข้าไป สิ่งของที่อยู่ในร้านนี้ที่คิดไว้น่าจะเป็นรองเท้าสักคู่ที่ราคาหลายพันดอลล่าร์แน่นอน เธอกลับพิงอยู่ที่รถของเขาแทน เฮ้ คราวนี้ ก็มีสายตาจ้องมองมายังร่างของเธอ แต่ว่า ทั้งหมดนั่นเป็นสายตาของเหล่าชายหนุ่ม มีผู้ชายทุกประเภททุกรูปแบบจริงๆ “เพ็ญนีติ์ ทำไมถึงไม่ตามเข้ามาล่ะ?” ในขณะที่เพ็ญนีติ์กำลังสับสนอยู่ว่าผู้ชายที่มองมานั้นมองมาที่เธอหรือมองมาที่รถกันแน่ และก็พบว่าเธอนั้นไม่ได้ตามเข้าไปจนปุริมหันกลับมาถาม “ก็ไม่ทำไมค่ะ คุณซื้อเสื้อผ้าของคุณไปสิ ฉันจะรอคุณอยู่นี่แหล่ะ” “คุณผู้หญิงครับ ผมอยากให้คุณเข้ามาลองเสื้อผ้าให้สักชุด” อย่างน้อยๆก็ทำให้เขาได้รู้ขนาดตัวของเธอ ดังนั้น เขาก็จะเลือก ตามขนาดตัวของเธอ ไม่อย่างนั้นเธอเลือกแล้วก็ไม่สามารถที่จะสวมมันได้แน่นอน อาจจะเป็นเพราะเสื้อผ้าของเธอเองนั้นมีรูป ลายการ์ตูนอยู่ด้วย เหมือนกับกระโปรงยีนส์ที่เธอสวมมาวันนี้ แน่นอนว่าเธอจะต้องเป็นไม้แขวนเสื้อ โอเค ถ้าให้รอเฉยๆมันก็คงจะน่าเบื่อ ลองก็ลอง “โอเคค่ะ” แล้วก็รีบเดินตามเข้าไป เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงแค่สวมกระโปรงยีนส์ยืดธรรมดาๆ แต่ว่า สายตาของผู้ชายเหล่านั้นที่มองตามเธอก็ยังคงมองตามเธอจนจากไป ดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่งสังเกตเห็น ก็เลยกวักมือเรียกเธอมา เธออยากจะปฏิเสธ เขาจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาว่า “เอาล่ะ คนของคุณปู่อยู่ทางนั้น” เธอเดินเข้ามาจับแขนเขาทันทีอย่างว่าง่าย เหมือนจะแต่งงานกับเขา นั่นก็เพื่อปู่ของเขา เข้ามาในร้าน ปุริมก็หันมองไปรอบๆ จากนั้นก็ชี้ไปยังกระโปรงซีฟองสีขาวตัวหนึ่ง “ผมต้องการตัวนี้ พาเธอไปลองหน่อย” “ค่ะ” พนักงานของร้านไปทางเพ็ญนีติ์และถือชุดๆนั้นมาที่พ็ญนีติ์และพูดว่า “คุณผู้หญิงคะ เชิญตามดิฉันมาที่ห้องลองชุดทางนี้ค่ะ” เพ็ญนีติ์อยากบอกว่าไม่ใจแทบขาด แต่ปุริมก็มองไปที่หน้าต่างเพื่อเป็นการบอกให้เธอรู้คนของปู่เขาก็ยังอยู่ หยุดเถอะ ก็แค่ทำต่อไป เดรสซีฟองเกาหลี เมื่อสวมเข้าไปแล้วนั้น เพ็ญนีติ์แทบไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่อยู่ในกระจกตอนนี้นั้นคือตัวของเธอเอง เธอไม่เคยสวมเสื้อผ้าราคาแพงๆระดับนี้มาก่อน มันสวยมากจริงๆ รู้สึกว่าเนื้อผ้าสวมใส่สบาย หมุนไปหมุนมาดูก่อน แล้วก็ออกมาจากห้องลองชุด ตอนนั้น ปุริมกำลังหยิบรองเท้าจากชั้นวางฝั่งตรงข้าม ในมือของเขามีรองเท้าส้นสูงสีขาวคู่หนึ่ง เพื่อเปรียบเทียบกับอีกคู่ในมือ และก็หันกลับมาจ้องมองไปทางเพ็ญนีติ์ “ว้าว เอานี่ให้เธอเปลี่ยนด้วยนะครับ” “ค่ะ” พนักงานเดินไปรับมันมาและเดินมาทางเพ็ญนีติ์ เพ็ญนีติ์เพิ่งสังเกตว่าชุดสีขาวที่เธอสวมอยู่นี้มันไม่เข้ากับรองเท้าส้นแบนๆสีดำที่สวมมาเลยแม้แต่น้อย ก็เลยรีบเปลี่ยนทันที และก็ทำให้สายตาของผู้คนนั้นเป็นปราะกายขึ้นมาทันที “โอเค ผมเอาชุดนี้ และก็เอาตามขนาดตัวของเธอด้วย หลังจากที่ผมเลือกเสื้อผ้าอยู่ พวกคุณช่วยเลือกขนาดและห่อให้ผมด้วยนะครับ” ปุริมเป็นคนเข้มงวดมาก และมีความรวดเร็วว่องไว หลังจากที่เขาบอกพนักงานแล้วจากนั้นก็เลือกเสื้อผ้าอีกกว่ายี่สิบชุดภายในสิบนาที ซึ่งมีหลากหลายแบบ และเยอะแยะมากมาย และเอาให้เพ็ญนีติ์ไปดูพนักงงานนำออกมาทีละชุดเช็คขนาดและห่อให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เป็นไรหรอก และปรุมก็ไม่ได้ต้องการให้เธอลอง ใช่แล้วล่ะ เขาต้องการจะส่งให้แฟนของเขาต่างหากล่ะ เธอพยายามที่จะพูดอะไรออกมา ผู้ชายมักจะซื้อเสื้อผ้าได้เร็วกว่าผู้หญิง ไม่เกินครึ่งชั่วโมง รูดการ์ดเสร็จ เสื้อผ้าห่อเรียบร้อย ทั้งสองคนก็ก้าวออกมาจากร้านเสื้อผ้าแฟชั่นของกรุงปารีสด้วยกระเป๋าใบใหญ่มากมาย ด้านนอก ความมืดมิดที่เต็มไปด้วยแสงไฟนีออน รถ BMW ก็ขับผ่านถนนที่คึกคักของเมืองดรัล เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ มันสามารถทำให้ผู้คนรู้สึกมึนเมาได้ ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่เป็นความจริง เมื่อเห็นว่าปุริมพาเธอกลับไปที่บ้านของเขา ในที่สุดเพ็ญนีติ์จึงทำลายความเงียบในรถและพูดขึ้นว่า “ปุริมคะ คุณแน่ใจเหรอคะที่จะพาฉันกลับไปด้วย” คืนนี้ เขามีนัดนี่นา เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาพูดโทรศัพท์แล้วนั้น เพ็ญนีติ์ก็ไม่อยากที่จะกลับไปกับเขา เธอกลัวว่าจะเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นเข้า “ไม่อย่างนั้น คุณจะไปที่ไหนล่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ “แต่ว่า...........” ก็จำได้ว่าเขายังให้แฟนของเขาพาชุดมาด้วย หน้าของเธอก็แดงก่ำขึ้นมา สำหรับผู้ชายและผู้หญิงแล้ว เพ็ญนีติ์ก็รู้สึกงงเป็นอย่างมาก “ถึงแล้ว” ปุริมไม่รอให้เธอเปลี่ยนใจ ก็ขับรถเข้ามาจอดยังลานจอดรถ เข้าโค้งลานจอดรถมาอย่างสวยงามและค่อยๆจอดช้าๆ เธอเดินข้างเขาเงียบๆ มือของทั้งสองคนเต็มไปด้วยถุงใบใหญ่ ของเหล่านี้นั้น เขาเตรียมไว้เป็นของขวัญให้กับแฟนของเขา คิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา พูดตามตรงแล้ว เพ็ญนีติ์เองก็รู้สึกอึดอัก แต่อย่างไรก็ตาม ปุริมเองก็ไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็นหลอดไฟ หรือว่าเธอจะเป็นอะไร ดูเขาที่กำลังเปิดประตูบ้าน เพ็ญนีติ์ก็ตามเข้าไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ในใจ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกค่อนข้างจะอึดอัด “ตับ” ถุงในมือต่างถูกวางลงบนโซฟา “ปุริมคะ ฉันง่วงแล้ว ฉันไม่นอนนะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ!” เธอยกขาและเดินไป เธอแค่ไม่อยากจะเจอผู้หญิงที่ไม่ควรจะเจอ “รอแป๊ป” รอยยิ้มจางๆยิ้มออกมา ปุริมคว้าแขนเธอเอาไว้ทันที จากนั้นไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหน ก็ถูกดึงเอาไว้ ใบหน้าของเพ็ญ นีติ์ถูกบังคับให้หันไปตรงหน้าเขา “จุ๊บ” ริมฝีปากของเขาประกบเข้ากับริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว ราวกับแมลงปอบินอยู่ เหนือน้ำ และถอนออกอย่างรวดเร็ว “แบบนี้ค่อยเหมือนสามีภรรยากันหน่อย ราตรีสวัสดิ์ครับ”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 32 ดอกเยอบีร่า
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A