ตอนที่ 34 ห้องที่ยุ่งเหยิง
1/
ตอนที่ 34 ห้องที่ยุ่งเหยิง
หลงรักสามีจอมปลอม
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 34 ห้องที่ยุ่งเหยิง
ตอนที่ 34 ห้องที่ยุ่งเหยิง ตลอดทั้งเช้า ไม่ว่าจะเรื่องอาหารเช้าหรือเรื่องชุด ทั้งหมดมันเป็นไปโดยธรรมชาติ เหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่เมื่อเข้าห้องเรียนมา ในสมองของเพ็ญนีติ์ไม่ได้มีเรื่องที่ครูพูดเลย แต่เป็นท่าทางของปุริมเมื่อเช้าทั้งนั้น แบบนั้น มันค่อนข้างจะน่าประหลาดใจสำหรับเธอ เมื่อคืนวาน เขาอยู่กับผู้ชายและหญิง... ไม่คิดแล้ว ไม่คิดแล้ว ในสมองของเธอจะมีแต่เรื่องของปุริมไม่ได้ เขาเป็นเรื่องเหนือการคาดหมายของเธอเท่านั้น แต่ยิ่งห้ามไม่ให้คิด หัวของเธอก็ยิ่งคิดถึงเรื่องปุริมขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวตลอดเลย จำรูญก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามเธออีกแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี การเรียนวันนี้ เพ็ญนีติ์ยังคงสับสนกับเรื่องที่ผ่านมา คาบบ่ายเลิกแล้ว ตอนที่จะเดินออกจากห้อง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา“เพ็ญนีติ์วันนี้ผมทำโอที คุณกลับเองนะ กุญแจอยู่ในช่องกระเป๋าของคุณ” “ฮัลโหล เย็นนี้ฉันอยาก...” แต่มันสายแล้ว ถึงแม้เธอจะปฏิเสธอะไรก็ไม่ทันเขา ปุริมฝากฝังไว้แค่นั้นก็วางสายใส่เธอทันที ช่องข้างกระเป๋า มีกุญแจอยู่พวงหนึ่งจริงๆ ไม่รู้ปุริมเอามันใส่ไว้ตอนไหนเหมือนกัน “เฮ้อ” ถอนหายใจอย่างเหนื่อยพร้อมเดินไปที่หน้าโรงเรียน ตอนนี้เธออยู่กับบุคคลชั่วร้ายแล้วจริงๆ เธอหาก๋วยเตี๋ยวกินตามข้างทางก่อนจะกลับ เธอเหนื่อย เมื่อวานก็ไม่ได้นอนเลย เมื่อออกจากลิฟต์เธอก็ล้วงหากุญแจ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็สบกันดวงตาคล้ายยิ้มไม่คล้ายยิ้ม ”เพ็ญนีติ์เป็นเมียน้อยนี่มีความสุขมากหรือ” ทันใดนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เปิดประตูเข้าไปในห้องของปุริม มือของเพ็ญนีติ์ชะงักไป กุญแจในมือกลายเป็นของรกหูรกตาทันที แต่เดิมมีผู้หญิงเยอะแยะที่มีกุญแจห้องนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในนั้นเท่านั้น เธอกัดปาก “นั่นก็เป็นเรื่องของฉันกับปุริม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณเลย แล้วก็ คุณเป็นใคร” “ทฤนห์” เธอยิ้มอ่อน “ฉันเป็นใครเธอก็จำไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ” “อ๋อ” เธอนึกออกแล้ว ผู้หญิงที่ปุริมอยู่ด้วยคืนนั้น เธอเดินตรงไปหาทฤนห์ ไม่รู้ทำไม อาจเป็นการเคารพในตัวเองของเธอ เธอไม่อยากแพ้ทฤนห์ “คิกคิก ชุดที่เธอใส่นั่นคือชุดที่ปุริมซื้อให้เธออีกใช่ไหม” “แล้วมันเป็นยังไร เขาไม่ได้ซื้อให้คุณนี่” “ฮะฮะ เธอคิดว่าคุณปู่จะยอมให้เธอกับปุริมแต่งงานกันหรือไง อย่าฝันกลางวันหน่อยเลย เรื่องของเธอไม่มีทางเป็นไปได้ ทั้งหมดมันเป็นเพราะใบหน้าขาวๆนี่เท่านั้นแหละ อื้อ เหมือนอยู่นะเนี่ย” “อะไร” เพ็ญนีติ์รู้สึกมึนงง “เหมือนกับรักแรกของปุริมไง ดังนั้นคุณก็แค่ตัวแทนเท่านั้นแหละ” ประโยคต่อประโยค พวกมันเหมือนกระสุนที่ยิงเพ็ญนีติ์พรุน นิ่งไว้ เธอต้องนิ่งไว้ “ทฤนห์ ไม่ต้องสนใจหรอกว่าฉันจะเป็นตัวแทนหรือเมียน้อย คนที่ปุริมยอมให้มาอยู่ที่ห้องนี้คือฉันไม่ใช่เธอ” “แก...” เธอยิ้มมั่นก่อจะเดินเข้าห้องของปุริมไป หันกลับมา “ปัง” ปิดประตูเสียงดังทีหนึ่ง “ตามสบายนะคะคุณทฤนห์” เธอไม่ได้ตั้งใจไม่สนใจทฤนห์หรอกนะ ทันใดนั้น เพ็ญนีติ์ก็เห็นว่าห้องมันรกมาก และที่โซฟาก็มีถุงยางตกอยู่ สิ่งนั้นเธอเคยเห็นแค่ในร้านสะดวกซื้อเท่านั้น ตอนนี้ในที่สุดเพ็ญนีติ์ก็ได้เห็นมันตอนที่ใช้แล้ว ชั่วพริบตา อาการคลื่นไส้ก็ตีตื้นขึ้นมา ดึงสายตากลับมา เพ็ญนีติ์ก็กลับเข้าห้องของตัวเองไป โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาพอดี มือกดรับสาย แต่ในสมองยังคงคิดถึงโซฟาที่มีถุงยางตกอยู่ “ปุริม มีเรื่องอะไร” “ถึงแล้วหรือ” ในสมองมันนึกถึงอีกครั้ง มันยังติดอยู่ในสมอง “ยังไม่ถึง แต่ก็ใกล้ถึงแล้ว” “โอ้ แบบนี้นะ คุณอีกสักพักค่อยกลับก็ได้ เมื่อกี้แม่บ้านเพิ่งโทรมาว่ากำลังทำความสะอาดอยู่ คุณรอเขาจัดการเสร็จแล้วค่อยกลับมาเถอะ กลับไปตอนนี้คงรกน่าดู” คิ้วขมวดจนเป็นปม ไม่คิดเลยว่าปุริมทำอะไรเสร็จตั้งนานแล้วเพิ่งจะมาคิดได้ว่าจัดการมัน ความเร็วของเขามันคงช้าไปนิด ‘เหอะเหอะ’ เธอยิ้มอ่อน “ได้เลย ตอนนี้ฉันก็เดินเล่นอยู่ ปุริม อยากฝากฉันซื้ออะไรหรือไม่” “ไม่ต้อง แค่ลิ้นคุณ เหวอ...” “ลิ้นของฉันทำไม” “ไม่... ไม่มีอะไร มันดีแล้ว ฮ่าฮ่า คุณเดินเล่นต่อเถอะ ไปสักหนึ่งชั่วโมงแล้วค่อยกลับมา เดี๋ยวผมให้เด็กพาร์ทไทม์เอาอาหารขึ้นไปให้” “โอเค เอาแบบนั้นแหละ บาย...” ไม่อยากพูดอะไรมาก เธอในตอนนี้เหนื่อยเหลือเกิน เธอเพิ่งเดินเข้าห้องแล้วก็เดินออกมา ไม่อย่างนั้น ความได้แตกตอนที่พนักงานทำความสะอาดขึ้นมาแน่ๆ บางที ปุริมอาจจะไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าตลอดบ่ายนี้เขาได้ทำโอทีอยู่ที่ห้องของตัวเองก็ได้ เพ็ญนีติ์เปิดประตูเตรียมจะออกไป แต่ข้างนอกนั้นทฤนห์ยังคงอยู่ “มีอะไรหรือ เมียน้อยจะออกไปแล้ว โดนไล่หรือไง” “หมาที่ดีจะไม่ขวางทางกันหรอกนะ ฉันจะออกไปเดินเล่น” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม เธอคงโง่น่าดูถ้ามานั่งโกรธเพราะคำพูดของทฤนห์ไม่กี่คำ เห็นได้ชัดว่าทฤนห์กำลังหึงหวงอยู่ “เพ็ญนีติ์ แกด่าฉัน” มือข้างหนึ่งเงื้อจะมาตบเพ็ญนีติ์อย่างไว แต่เธอหลบได้ทัน “ถามหน่อย เธอขวางทางอยู่หรือไง” ”ไม่... ไม่ใช่” “งั้นก็ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ด่าคุณ ฉันด่าคนที่ขวางทาง” หากทฤนห์จับใจความได้ ทฤนห์ก็จะคือหมาที่ขวางทางอยู่ของเธอ เพ็ญนีติ์เดินจากไปอย่างเร็ว เธอสะบัดทฤนห์ไปข้างหลังอย่างไว ไม่ว่าทฤนห์จะพูดอะไร เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เธอกับปุริมไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็แค่คนที่ตกลงจะแต่งงานกันเท่านั้น เธอไม่มีสิทธิ์หึงด้วยซ้ำ เพ็ญนีติ์ไม่ได้ตอบกลับ มือกดตัวเลขชั้นล่างสุด และทิ้งสายตาไว้ที่ข้างนอกลิฟต์นั่น บางทีนั่นคงเป็นความคิดในจิตใต้สำนึก แต่ช่วงเวลานั้น เพ็ญนีติ์เห็นปุริมกำลังขึ้นลิฟต์ไป เป็นเขาแน่ๆ ชุดที่เขาใส่เป็นตัวเดียวกับตอนไปส่งเธอที่โรงเรียนเมื่อเช้า สีแบบนั้น ทรงแบบนั้น ไม่ใช่ตัวปลอมแน่ๆ ในอกนั้น เหมือนค่อยๆเต้นช้าลง ความเจ็บปวดนั้นมันทำให้เธอรู้สึกหนาวมาก หนาวจนเข้ากระดูก เธอค่อยหลับตาลงอย่างช้าๆ... เดินออกจากลิฟต์มา ข้างนอกก็มีแต่แสงไฟแล้ว เพ็ญนีติ์เดินอย่างไร้ทิศทางในส่วนเส้นเหลืองที่เป็นส่วนคนเดินของเมืองดรัล ทันใดนั้นความเหงาที่รุนแรงก็ถาโถมเข้าใส่เธอ ไม่สนหรอกว่าปุริมกับทฤนห์ตอนนี้จะทำอะไรกันอยู่ แต่เดิม เธอกับปุริมก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันอยู่แล้ว นึกถึงว่าทฤนห์บอกว่าเธอเหมือนรักแรกของปุริม ในใจเพ็ญนีติ์ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารักแรกของปุริมคือใคร เธออยากลบภาพเขาในห้องรับแขกวันนั้น แต่ยิ่งอยากลืมมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่าตัว ไม่รู้เหมือนกันว่านานแค่ไหนแล้ว โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคย เพ็ญนีติ์รับสายอย่างไม่รีบร้อน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ปุริม มีเรื่องอะไรหรือ” “เพ็ญนีติ์คุณอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน” “อ๋อ ฉันยังเดินเล่นอยู่ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา พลางคิดในหัวว่าตอนนี้ไม่ใช่ว่าปุริมอยู่กับทฤนห์หรือ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะใช้ความสามารถเดียวกับตอนที่อยู่ที่บริษัท ตอนนั้นเขากล้าที่จะแสดงความรักกับผู้หญิงที่บันไดเลยนะ “กับข้าวเย็นหมดแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นผมรอคุณกลับมาแล้วค่อยอุ่นให้อีกครั้งแล้วกัน” เขาจิตใจดีจัง “อือๆ ได้ ขอบคุณค่ะ” มันคือความใจดี หรือแค่ความรับผิดชอบกันนะ “คุณจะกลับเวลาไหน บอกผมหน่อย ผมจะได้อุ่นรอ” เพ็ญนีติ์มองเวลา ถึงจะได้รู้ว่าเธอเดินมาหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว แล้วไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้ตัวเธออยู่ที่ไหนกัน แต่ก็ตอบออกไปก่อน “อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะกลับไปค่ะ” “โอเค บาย” รีบวางสายอย่างไว เหมือนกับว่าจะไปอุ่นกับข้าวให้เธอจริงๆ” เพ็ญนีติ์มองร้านสะดวกซื้อข้างหน้า แล้วคิดว่าเธอบอกเขาว่าออกมาเดินเล่น แต่ไม่ได้ซื้ออะไรกลับไปเลยคงไม่ได้ จากนั้นก็เดินเข้าไปซื้อขนมเล็กๆน้อยๆ พอจะออกจากร้านเพิ่งจะเห็นเน็คไท หลังจากนั้นก็เลือกเน็คไทเส้นน้ำเงินแดงลงรถเข็นไป พอจะจ่ายเงินถึงได้รู้ว่าทั้งตัวเธอมีแค่ร้อยเดียวเท่านั้น เจ็บใจ แต่จะให้เอาไปคืนก็ไม่ได้อีก หิวแล้ว เธอเองก็ไม่อยากจะปวดท้องด้วย เดินมาตั้งนานแล้ว เธอก็อยากกลับแล้ว กลับกัน เขาไม่ได้เป็นอะไรสำหรับเธอด้วยซ้ำ ก็แค่คู่หมั้นเท่านั้น ดังนั้นไม่เห็นมีอะไรน่าโกรธทั้งนั้น มีเวลา แค่ไม่เห็นก็แล้วไป แต่น่าเสียดายที่เธอชอบไปเห็นอะไรตลอดเลย เรียกรถเพื่อกลับมา พอจะเดินเข้าตึก เงยหน้ามา ก็พบผู้ชายคนหนึ่ง “คุณคือเพ็ญนีติ์ใช่ไหม” มองเขาอย่างสงสัย “มีอะไรคะ” “นายหญิงของพวกเราบอกว่าตอนนี้เธอยังอยู่ข้างบน ถ้าคุณกลับมาอยากให้คุณรออยู่ข้างนอกสักครู่ ไม่อย่างนั้น มันคงจะน่าอึดอัดมากถ้าคุณต้องขึ้นไปเห็นฉากที่ไม่ควรเห็น” “ทฤนห์หรือ” “ใช่ครับ” ชายคนนั้นมองเหยียดเพ็ญนีติ์ พร้อมกล่าวเสียงแข็ง “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” เธอกล่าวจบ แต่ก็เดินเข้าตึกไปอย่างไม่สนใจ นิสัยเธอไม่ได้อยากดูฉากร่วมรักของใครหรอก แต่เธอก็ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแสดงกิริยาน่าเกลียดแบบนี้ใส่เธอเหมือนกัน ไม่สนว่ามันจะเป็นยังไง การเห็นคุณค่าในตัวเองทำให้เธอต้องผ่านผู้ชายคนนั้นแล้วเดินขึ้นตึกไป จะกลับหรือไม่กลับ นั่นเป็นเรื่องของเธอ “คุณเพ็ญนีติ์...” ชายคนนั้นตะโกนเรียกเสียงดังตามหลัง ไม่ได้ยินเหมือนกับว่าอยู่ในลิฟต์ แต่มองตัวเลขข้างหน้าแล้ว เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรกดชั้นไหน สุดท้าย เธอกดมันทุกชั้นเลย ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กหญิงที่นิสัยไม่ดี เมื่อลิฟต์ถึงชั้นห้า เพ็ญนีติ์ก็เดินออก เธออยากเดินขึ้นบันได เป็นบันไดมืดสลัว ไม่ได้เปิดไฟไว้ ทำตัวเหมือนแมว เดินอย่างไม่มีเสียงเพื่อให้ไฟไม่ติด เดินท่ามกลางความมืดอย่างเชื่องช้าครู่เดียวก็ถึงชั้นบนสุดเสียแล้ว มองเวลาแล้ว ยังรู้สึกว่าเร็วไป เพ็ญนีติ์นั่งอยู่ที่บันได หลับตาลงดำดิ่งไปกับความมืดนี้ ไม่รู้อะไรเหมือนกัน แต่ตอนนี้ เธอเหนื่อยมาก เธอยังไม่อยากกลับตอนนี้ แต่ตอนนี้เธอก็เดินกลับมาแล้ว บางที คงคิดถึงบรรยากาศของบ้านนั้น นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่สัมผัสกับความรู้สึกนั้น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 34 ห้องที่ยุ่งเหยิง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A