ตอนที่ 213 หกหมื่นกว่าในซองแดง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 213 หกหมื่นกว่าในซองแดง
ตอนที่ 213 หกหมื่นกว่าในซองแดง ป้าสะใภ้ได้ยินเธอพูดอย่างนั้น ก็ไม่สามารถมีรอยยิ้มบนใบหน้าได้อีกต่อไป “ณัชชนม์ เธอพูดจากอะไร ฉันไปทำให้เด็กท้อใจเรื่องอะไร ความไม่สะดวกสบายใจของนัชชาเด็กบ้านเธอในปีนี้ เธออย่าเอามาพาลใส่ฉันและพรยศจะดีกว่า!” “ใครกันที่พาลน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ” ณัชชนม์โมโห เธอกระซิบ “แค่ทนไม่ได้ที่เห็นคนอื่นดีกว่าตัวเอง!” “เธอ!” เสียงของป้าเหมือนจุกอยู่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ใบหน้าโกรธจนแดงก่ำ บรรยากาศเริ่มไม่ดี คนชราทั้งสองเริ่มสังเกตเห็น พวกเขามองมาอย่างไม่พอใจ “อะไรกัน ปีใหม่ทะเลาะอะไรกัน!!” “พ่อ แม่ เมื่อครู่ฉันไม่ได้พูดอะไร น้องชายน้องสาวบอกว่าฉันพูดจาทำให้นัชชาของพวกเขาท้อแท้ ฉันแค่บอกว่าปีนี้นัชชามีเรื่องไม่สบายใจ ฉันก็แค่พูดไปเรื่อย ทำไมเธอเอาจริงเอาจัง….” “เธอแค่พูดไปเรื่อยอย่างนั้นหรอ” ณัชชนม์ถามหาความจริงใจ อย่าได้โกหก “เธอพูดถึงเรื่องหย่า ไม่ได้จงใจทำให้เด็กมันท้อใจรึยังไง” “นั่นเป็นเรื่องจริงพูดถึงไม่ได้หรือไง ฉันไม่ได้ผิดอะไรเสียหน่อย!” ป้าสะใภ้จงใจมองไปทางคนชราทั้งสองตั้งใจที่จะยั่่วยุทางนั้น “ไม่ใช่เพราะเธอเห็นว่าพรยศกลับมา แล้วยังพาแฟนมาด้วย เลยทำให้อึดอัดใจอย่างนั้นรึ ใช่ เมื่อก่อนครอบครัวเรามีหน้ามีตาเพราะนัชชา แต่เธอจะไม่ยอมให้คนอื่นได้ดีบ้างเลยหรือยังไงกัน! ” “ฉันพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่” ณัชชนม์ได้ยินเธอพูดเรื่องที่ไม่มีมูลแม้แต่น้อยก็ไฟลุกขึ้นทันที “เธอมันปั้นน้ำเป็นตัว! ” ป้าสะใภ้กลับไม่ตอบเธอตรงๆ เธอพูดพล่ามกับนัชชาไปเรื่อย “พวกเราก็คนครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ควรสามัคคีปรองดอง กันเอาไว้ นานทีพรยศจะกลับมาร่วมฉลองปีใหม่ด้วยกันได้ เธอนี่ก็จริงๆเลย…. “ เมื่อพูดถึงตรงนี้เธอก็ชะงักเล็กน้อยเหมือนพูดไม่ออก ณัชชนม์คาดไม่ถึงว่าการที่เธอมอบของขวัญให้กลับกลายเป็นเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวไปได้ พอคำพูดของเธอเข้าไปที่หัวใจ เธอ ก็อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา ผู้อาวุโสสองท่านในบ้านมีความลำเอียงไปที่พรยศ พวกเขาก็พูดแทรกขึ้นมากลางคัน “ณัชชนม์เธอก็อย่าโมโหไปหน่อยเลย ปีใหม่แล้ว สุขสงบสามัคคีกันไว้ดีกว่า!” เขาพูดเช่นนี้ ทำให้ฟังดูเหมือนเมื่อสักครู่ณัชชนม์เป็นคนตั้งใจหาเรื่องก่อน ความจริงแล้วนัชชาไม่ชอบที่ยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ แต่เมื่อฟังถึงตอนนี้ก็รู้สึกว่าทนไม่ได้ เธอเดินจากที่นั่งของเธอไปที่ ด้านข้างของป้าสะใภ้ นำกล่องสองกล่องที่ใส่ถั่งเช่าและรังนกเอากลับมา “เดิมทีตั้งใจว่าจะให้บ้านป้าสะใภ้ เมื่อคุณป้าไม่เห็น คุณค่าก็ช่างมันเถอะค่ะ คุณปู่พูดไม่ผิด ปีใหม่ควรสามัคคีปรองดองเอาฤกษ์เอาชัย คุณป้าคะ พวกหนูไม่ได้ต้องการแข่งอะไร พี่ชายได้ดีหนูก็มีความสุขเหมือนกันค่ะ แม่ของหนูเป็นผู้ใหญ่ท่านยิ่งไม่คิดอะไรแบบนั้นเข้าไปอีกค่ะ คุณป้าวางใจได้ค่ะ สำหรับหนู-----” เธอยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มนั้นทั้งสุภาพและเย็นชา “คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงถึงหนูจะหย่าแล้ว แต่ถั่งเช่าพวกนี้หนูยังสามารถหามา มอบให้เป็นของขวัญได้” เมื่อพูดจบ ในห้องก็เงียบสนิท ความจริงเธอรู้ว่าคนเหล่านี้รู้ข่าวของเธอแล้วไม่มากก็น้อย ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับดวิษไม่ใช่ เพื่อต้องการเงิน ที่พวกเขาเห็นว่าเป็น “ความโชคดี” ในสายตาของเธอกลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับ “ความโชคดี” เช่นนั้นตรง ไหน มาตอนนี้เธอหย่าแล้ว แน่นอนว่าต้องมีคนนินทา แต่เธอไม่ได้เป็นคนสูงส่งอะไร ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะระบายออกมา หนูหย่าแล้วเป็นอย่างไรคะ ก็ยังดีกว่าคุณไม่ใช่หรอคะ นัชชามองไปที่ป้าที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วน และเธอไม่ได้สนใจว่าป้าจะคิดกับเธอเช่นไร เธอรินน้ำยกให้ให้ณัชชนม์ดื่ม เพื่อ สร้างขวัญกำลังใจให้กับแม่ของเธอ ในที่สุดบรรยากาศอาหารมื้อเย็นก็กลายเป็นเช่นนี้ ทุกคนมีความอึดอัดใจไม่มากก็น้อย ไม่ช้าไม่นานอาหารมื้อนั้นก็จบลง ถึง แม้ผู้อาวุโสทั้งสองท่านไม่ได้พูดกล่าวอะไร แต่ในใจก็คงต้องตำหนิพวกเขาอย่างแน่นอน เมทนีดื่มเหล้าไปไม่น้อย เมาเล็กน้อยและออกจากโรงแรม นัชชาคิดว่าเขาอาจจะตำหนิเธอแต่ไม่คิดว่าเขาจะไม่พูดอะไรเลย เพียงแต่เรียกให้เธอมาขับรถให้ เรื่องราวละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่กลับทำให้นัชชารู้สึกเศร้าใจ เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่า การหย่าร้างของเธอทำให้พ่อแม่ต้องได้รับ ความกดดันและการนินทาไม่น้อย หลังจากกลับถึงบ้าน เมทนีซึ่งเมาอยู่เล็กน้อยได้ล้างเนื้อล้างตัวและเข้านอน ณัชชนม์อยู่ในห้องรับแขกดูโทรทัศน์ เธอบอกว่า ต้องการดูรายการส่งท้ายปี นัชชากำลังต้มน้ำในครัว แต่เมื่อเธอมองลอดผ่านประตูออกมากลับมองเห็นแม่กำลังเช็ดน้ำตา รายการโทรทัศน์กำลังแสดงโชว์ตลกอยู่ แต่แม่กลับเช็ดน้ำตา นัชชาหันตัวกลับ และเก็บกดอาการเสียใจเอาไว้ ข้างกายเธอเป็นกาต้มน้ำที่พ่นไอน้ำพวยพุ่งออกมา มีพลุอยู่บนท้องฟ้าที่ นอกหน้าต่างนั้น แต่นั่นก็กลับไม่ได้ทำให้ใจของนัชชาเป็นสุขเลย ปีนี้สามสิบปี เธอกลับรู้สึกหดหู่กว่าทุกๆปี เมื่อกำลังคิดทบทวน เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา ใครกันโทรมาเวลานี้ นัชชาเริ่มรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น เมื่อคิดว่ามีคนโทรมาสวัสดีปีใหม่ เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นเตชิต นิ้วของเธอหยุดชะงักชั่วคราวและกดรับอย่างรวดเร็ว “ฮัลโหล” “สวัสดีปีใหม่” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนนั้นเข้ามาในหู คำสี่คำแต่กลับทำให้สถานการณ์ทุกอย่างดูดีขึ้น เห็นได้ชัดว่าเป็นคำที่อบอุ่นมาก แต่ในเวลานี้นัชชาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บ เมื่อคิดถึงเรื่องราวในค่ำนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคับ ข้องใจ เธอพยายามรักษาความสงบนิ่งของเสียงเอาไว้ ไม่อยากให้เขาเป็นกังวล “เช่นกันนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ” อย่างไรก็ตาม คนช่างสังเกตเช่นเขา จะไม่รับรู้ถึงเสียงสั่นและอู้อี้ของเธอได้อย่างไรกัน เขาคิ้วขมวม เสียงเข้ม “คุณร้องไห้หรอ” หัวใจของนัชชาเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอไม่คิดว่าเขาจะรับรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้เร็วขนาดนี้ “เปล่าคะ ฉันหาวน่ะ” ไม่ได้ยินเสียงที่ปลายสายพูดอะไร แค่ได้ยินเสียงรอสายอย่างแผ่วเบาและหายไปอีกนาน ไม่ได้ยินคำตอบที่ตอบช้าไป นัชชา คิดว่าเธอถูกทิ้งซะแล้ว “ฮัลโหล” “ผมยังอยู่” เสียงในสาย “แควก แควก” ดังขึ้นสองครั้ง เสียงเหมือนกำลังฉีกบางอย่างอยู่ “เมื่อครู่ผมเปิดอั่งเปาให้คุณอยู่” “อั่งเปารึ” นัชชาตกใจ “รอแป๊บนึง” เธอหยิบโทรศัพท์ออกจากหู คลิกไปที่โปรแกรมวีแชท เธอเพิ่งจะเริ่มเล่นได้ไม่นาน บันทึกการสนทนาทุกวันเอาไว้ ตอนนี้ กลับมีสีเหลืองปรากฎขึ้นบนหน้าจอ แสดงตัวเลข “หกหกหกหกหกหก….” หก หกหมื่นกว่า! นัชชาตกใจมากตาเบิกโต เธอไม่เคยเห็นใครให้อั่งเปากันมากมายเท่านี้มาก่อน มันเกินที่จินตนาการไปมาก…. เธอยกโทรศัพท์กลับไปที่หู “คุณโอนอะไรมาเยอะขนาดนี้” เธอรับอั่งเปาจากเขาแค่พอเป็นพิธี ที่เธอให้เขากลับเป็นแค่ปากกาด้ามหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับส่งหกหมื่นกว่ามาให้ตรง หน้าเธอ เธอไม่กล้ารับไว้… เงินนี้ไม่ได้เป็นจำนวนเล็กน้อยสำหรับเธอ “เยอะหรอ” เมื่อเทียบความตกใจของนัชชาแล้ว เตชิตถือว่าสงบนิ่งมาก “แค่ปีละครั้ง ไม่มากมาย รับไว้เถอะ” ขณะนั้นเตชิตบอกกับเธอว่า หกเลขนี้เป็นเลขมงคลมาก ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ เป็นครั้งในชีวิตที่นัชชารู้สึกเหมือนถูกเลี้ยงดู ให้เงินปีใหม่เธอหกหมื่นกว่า ยังบอกว่าไม่เยอะ….คนคนนี้มีเงินเท่าไหร่กันเนี่ย! เธอหัวเราะและอยากจะปฏิเสธ เขาไม่รอให้ปฏิเสธและพูดโพล่งออกไป “ถ้าไม่รับผมจะโอนไปที่บัญชีธนาคารของคุณแทน” “...” เอาล่ะ ถือว่าคุณตกลง นัชชานี่เป็นจุดที่จะต้องเลือกว่าจะรับหรือไม่ เธอคลิกที่ “ยืนยันการเก็บเงิน” หลังจากนั้นเธอก็พูดอย่างซาบซึ้งใจมาก “ขอบคุณค่ะเจ้านาย” ทั้งสองพูดคุยกับอยู่พักหนึ่ง อารมณ์ที่ไม่ดีก่อนหน้านี้ก็ผ่อนคลายไปมาก เมื่อนัชชากำลังจะเตรียมตัววางสาย เสียงไมโครเวฟก็ดังขึ้น “ติ๊ง” จากนั้นก็ได้ยินเสียงของชายคนนั้นเบาลง “ลงไปข้างล่างสิ ผมอยู่ข้างล่างบ้านคุณน่ะ”
已经是最新一章了
加载中