ตอนที่ 214 ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 214 ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรง
ตอนที่ 214 ความเข้าใจผิดที่ร้ายแรง “ข้างล่างรึ” นัชชารีบลุกตัวแล้วเดินไปที่ขอบหน้าต่าง เธอชะเง้อมองดูและเธอก็พบว่าหน้าต่างห้องครัวไม่ได้หันหน้าไปทางถนน ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเล็กๆที่ออกมาจากโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง คำนวณเวลาดูแล้วน่าจะเป็นช่วงที่เธอรับสายพอดี เธอจึงรีบวิ่งออกไปข้างนอก เธอคิดว่าเธออาจจะคิดไปเอง ไม่คิดว่าคนคนนี้จะรออยู่ข้างล่างโดยไม่พูดอะไร จมูกของนัชชาฟุตฟิตขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ดูเหมือนเธอจะซาบซึ้งกับการแสดงความรู้สึกของผู้ชายคนนี้ “ลงมาเถอะ ผมรออยู่ครับ” หลังจากวางหูโทรศัพท์ นัชชาเทน้ำลงในกระติกน้ำร้อน เธอเดินออกจากห้องครัวก็ยังเห็นว่าณัชชนม์ยังอยู่ในห้องรับแขก เธอนำถุงขยะที่เพิ่งจะผูกมัดเรียบร้อยออกมา และกล่าวอย่างระมัดระวัง “แม่คะ หนูเอาขยะออกไปทิ้ง และจะเลยออกไปดูพลุนะคะ” ณัชชนม์พยักหน้าและหันมามอง “อย่าออกไปไกลนะลูก ปีใหม่บนถนนไม่ค่อยมีคน” “รู้แล้วค่ะ” หลังจากที่นัชชาออกไป พอก้าวลงบันไดได้แค่ก้าวสองก้าวเธอก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะเพราะรีบก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงด้านนอกมองออกไป เธอก็เห็นรถสีดำจอดอยู่ที่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลนัก เธอวิ่งเล็กน้อยไปตลอดทาง เธอเคาะกระจกเป็นสัญญาณให้เขาเปิดประตู “ตึก” ล็อคส่วนกลางก็ถูกปลดออก เธอเปิดประตูและก้าวเข้าไป เครื่องทำความร้อนภายในรถทำให้อากาศภายในรถรู้สึกอบอุ่น “คุณมาได้ยังไงคะ” ขณะที่ถามเขาน้ำเสียงเธอยังปนความแปลกใจอย่างไม่น่าเชื่อ ชายคนนั้นหันมามองเห็นเธอตาสีแดงจางๆ เขาจึงยกมือขึ้นปลอบ “ปีใหม่แล้วยังร้องไห้อยู่อีกรึ” “เปล่าค่ะ” การพูดถึงยิ่งทำให้นัชชายิ่งรู้สึกอาย เขาเปิดมือของเขาออก “ไม่ได้ร้อง” เตชิตไม่ได้สนใจอาการปากแข็งของเธอ เขาถามต่อไป “ทะเลาะกับที่บ้านรึยังไง” “เปล่าค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นอะไรล่ะ” เห็นเธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบคำถาม เตชิตเลยถอนหายใจและมองเธออย่างตั้งใจ “นัชชา ผมจะถามคุณอย่างจริงจัง” บรรยากาศเริ่มอึดอัด เธอไม่ต้องการคุยกับเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เรื่องวุ่นวายใจในครอบครัวไม่อาจพูดให้คนภายนอกฟังได้ ดังนั้นการที่จะมาพูดกับเขาถึงเรื่องนี้เธอจึงรู้สึกอึดอัดใจ หลังจากที่เตชิตฟังจบก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโห แต่กลับรู้สึกสงสารเธอ ถ้าหากว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ใช่ป้าของนัชชาแล้วล่ะก็ เขาจะทำให้พวกเขาได้เห็นดีอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ทำแบบนั้นไม่ได้ “อย่างนั้นคุณรีบพาผมไปพบกับพ่อแม่คุณให้เร็วที่สุด วิธีนี้จะได้ทำให้คนอื่นไม่พูดจาสุ่มสี่สุ่มห้า นี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์นี้ และเป็นวิธีที่ดีที่สุด” เมื่อพูดถึงเรื่องพวกนี้ นัชชาก็ปวดหัว เธอคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้มันผ่านไป แต่เธอลืมไปว่านอกจากตัวเธอแล้ว พ่อและแม่ก็ยังต้องเผชิญกับความกดดันนี้ไปด้วย เมื่อเธอลองคิดดู เธอต้องเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับคนรอบตัว เธอคิดแล้วคิดอีก และพูดว่า “วันที่สี่ พ่อฉันสัญญากับคุณไว้แล้วไม่ใช่หรือคะ ถ้าหากว่าแม่ว่างก็จะไปด้วย ฉันจะไม่ห้าม ดีไหมคะ” “ได้” เตชิตตั้งตารอพวกเขามา เขาอยากพบพ่อแม่ของเธอนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส “ผมจะกลับมาประเทศจีนตอนบ่ายวันที่สี่ น้ารินก็อยู่ด้วย คุณเรียกพวกท่านมาทานข้าวด้วยกันด้วยนะ ยังพอมีเวลา” “ได้ค่ะ ตกลงตามนั้น” เมื่อพูดจบก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ที่นอกหน้าต่าง จากนั้นก็เห็นเปลวไฟที่มีสีสันสดใสอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด สีเหลืองสีแดงพันกัน ชัดเจนมากทั้งสองสี ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นมาเป็นรูปต่างๆสวยงามน่าดูมาก แสงของดอกไม้ไฟส่องสว่างถึงบนใบหน้าของชายหนุ่ม เหมือนภาพวาดสวยงามที่เห็นได้ตรงหน้า เขากำลังมองดูดอกไม้ไฟ แต่เธอกำลังมองดูเขาอยู่ ดูเหมือนจะต้องระวังการจ้องมองด้านที่สว่างไสว เตชิตหันมามองหน้าเธอและแล้วดวงตาทั้งสี่ก็ผสานกัน ไม่สามารถต้านแรงเสียดทานของประกายไฟนี้ได้ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่มากเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะสายตาที่ลึกซึ้งของคนรัก ในสายตาของนัชชา ทิวทัศน์ของดอกไม้ไฟถูกชายคนนี้เบียดบังไปซะหมด นับตั้งแต่วินาทีที่เขาปรากฎตัวขึ้นที่ชั้นล่างของบ้านเธอ ในสายตาเธอก็มองเห็นแต่ชายคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ยังอ่อนโยนได้อีก เขากลัวว่าเธอจะร้องไห้อยู่คนเดียวถึงขนาดยอมขับรถเป็นชั่วโมงเพื่อมาหาเธอ คืนวันสิ้นปี เขาจะอยู่กับสมาชิกครอบครัวของเขาด้วย นัชชารู้ว่าคงไม่ได้มาง่ายๆ แต่เขาก็ไม่บ่นสักคำ ไม่พูดไม่จาแล้วก็รีบมา ความทุกข์ใจทั้งหมดก็หายไปหมดสิ้น มีเพียงความซาบซึ้งใจเท่านั้น “เตชิตคะ….” นัชชานั่งหลังตรง เธอเอียงตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความหลงไหลบรรจงจูบลงบนทุกพื้นที่ของใบหน้าเขา “ผมเอง” เขาหัวเราะ หัวใจที่ถูกเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นทำให้คนรู้สึกอ่อนไหว หลังจากพูดจบ เขาก็จูบนัชชาโดยไม่ลังเล เริ่มต้นจู่โจมตั้งแต่นั้น จิตใจที่เชื่อมโยงกัน แค่จูบเดียวก็เพียงพอแล้ว ลมหายใจอันอบอุ่นของเขาพัวพันกับลมหายใจอันอบอุ่นของเธอ กลายเป็นพลังที่น่าทึ่งที่สุด มีจุดดอกไม้ไฟอีกชุดขึ้นมา แต่ในเวลานี้เธอไม่สนใจ เพียงแค่ต้องการที่จะรักและอยู่ในอ้อมกอดเขาเท่านั้น “พรุ่งนี้ผมก็จะไปที่เกาะแล้ว คุณจะทำให้ผมไปอย่างสบายใจได้อย่างไร” ฝ่ามือใหญ่โตของผู้ชายจับไปที่ชายเสื้อโค้ทของหญิงสาว มีพลังแห่งการปลอบใจ เมื่อได้ยินว่าเขากำลังจะจากไปในวันพรุ่งนี้ นัชชาไม่รู้สึกถึงมือที่กระชับของเขา “ถ้าอย่างนั้นวันที่สี่คุณก็กลับมาเช้าหน่อย ฉันจะไปหาคุณ” เธอรู้ว่าเรื่องปีใหม่เขาจะต้องฟุ้งซ่าน ตัวเองไปอยู่เป็นเพื่อนเขาน่าจะดีกว่าออกไปเที่ยวเล่นให้มีความสุข เตชิตโค้งตัวลงเล็กน้อยและบรรจงจูบเธอที่หน้าผากเบาๆ “มีเรื่องอะไรโทรหาผมได้ตลอดเวลา ถ้าผมกลับมาไม่ได้ก็จะหาคนมาจัดการแทนให้ อย่าทรมานตัวเองเข้าใจไหม หื๊อ” นัชชาไม่อยากให้เขากังวล เธอพยักหน้าเชื่อฟัง “ค่ะ” เมื่อพูดจบเธอก็คิดถึงเรื่องบางอย่าง “ใช่แล้ว ทีนาร์ไม่ยอมไปหรือคะ” ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะถามไปแล้ว แต่เธอก็อยากถามให้แน่ใจอีกครั้ง “เธอกลับไปอยู่ที่วิลล่าเขตเหนือชั่วคราว เธออยู่กับน้าริน มีปวีณคอยดูแล ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไร” เมื่อได้รับคำตอบที่อบอุ่นใจ นัชชาก็แอบถอนหายใจภายในใจ เธอผลักไปที่แขนของเขา “ฉันต้องคิดถึงคุณแน่ๆ” “อย่าลืมวีดีโอคอลหาผมนะ” เตชิตไม่เคยรู้ว่าวันหนึ่งตัวเองจะตัวติดกับคนอีกคนหนึ่ง ถึงแม้จะไปแค่สามสี่วัน แต่กลับเหมือนไปสามสี่ปีอย่างนั้น ทั้งสองอยู่ในรถอีกระยะเวลาหนึ่ง เริ่มหายไปนานณัชชนม์โทรมาตาม นัชชาก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่ต้องร่ำลาเขา “ฉันไปแล้วนะคะ” “อื้อ ขึ้นไปเถอะ” เตชิตเปิดประตูให้เธอ เคลื่อนตัวเข้าใกล้และไม่ลืมที่จะจูบเธออีกครั้ง ความสัมพันธ์ที่ทั้งสองจินตนาการเอาไว้ตอนนี้คือในอีกไม่กี่วันบ้านของพวกเขาก็จะได้พบหน้ากัน หัวใจของนัชชากำลัง จินตนาการว่า เธอจะใส่เสื้อผ้าชุดไหนและคำถามคำตอบที่คิดเอาไว้ล่วงหน้า นัชชาได้ผ่านอารมณ์ที่น่าอับอายและความคาดหวังเช่นนี้มาแล้ว วันคืนผ่านไปไวมาก หลังจากที่ณัชชนม์ออกไปเยี่ยมญาติ และเพื่อน ในพริบตาก็ถึงวันที่สี่ นัชชาได้บอกเวลาล่วงหน้ากับณัชชนม์ไปแล้ว ตอนเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง ความจริงมีเธอไปเพียงแค่คนเดียว ไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เมทนีก็โผล่มาด้วย อยู่ๆนัชชาก็เกิดประหม่าขึ้นมา เธอรีบส่งข้อความหาเตชิต เขามีทัศนคติที่ดีและช่วยทำให้เธอหายจากอาการประหม่าได้ เมทนีขับรถพาหญิงสาวสองคนมาถึงไพโรจน์วิลล่า ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสถานที่ที่มีผู้คนเข้าชมนับครั้งไม่ถ้วน นัชชารู้สึกตื่น เต้นกว่าครั้งไหนๆ เธอมองไปที่วิลล่าที่อยู่เบื้องหน้า ณัชชนม์ก็รู้สึกตกใจขึ้นมา “พ่อหนุ่มเตชิตซื้อบ้านที่นี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่กันนี่” นัชชาคิดไม่ออกว่าจะชวนคุยเล่นอย่างไร แต่กลับได้ยินเสียงเมทนีดังขึ้น “เธอคิดว่ายังไง หลังนี้น่าจะหลายหมื่นล้านนะ” ณัชชนม์ฟังแต่ไม่ได้ตอบอะไร เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก การขับรถไปที่อาคารของเตชิตเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก ชายสามคนลงจากรถ นัชชาเดินมาข้างหน้า พอถึงประตูก็เตรียมตัวที่จะ เปิดล็อค ไม่คิดว่าทันใดนั้นประตูก็เปิดออก เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นว่าเป็นน้าริน นัชชารู้สึกตกใจแต่ก็มองเธออย่างยิ้มแย้ม “น้าริน คุณกลับมาก่อนรึคะ” เทียบกับความเป็นธรรมชาติของเธอ น้ารินกลับดูเกร็งกว่ามาก โกหก เธอไม่ทันรอให้นัชชาเข้าใจ เธอก็เห็นเงาที่ด้านหลังอยู่ ในแนวสายตา ทีนาร์สวมใส่เสื้อผ้าบางสบายใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอเดินไปที่ประตูด้วยท่าทีของนายผู้หญิง เมื่อเธอมองเห็น พ่อแม่ของนัชชา เธอก็กระพริบตาและเอ่ยปากถาม “สองคนนี้เป็นใคร” เห็นได้ชัดว่าเมทนีและณัชชนม์ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเห็นผู้หญิงปรากฎตัวขึ้นที่บ้าน ในที่สุดเมทนีก็หันตัวกลับมาและถามออก ไปว่า “คุณเป็นใคร” ทีนาร์ก็ยิ้มออกมาอย่างไม่คาดคิดราวกับได้ยินเรื่องตลก เธอยกนิ้วและชี้ไปที่ตัวเอง “ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้
已经是最新一章了
加载中