ตอนที่ 71 ฐานะชั้นต่ำ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 71 ฐานะชั้นต่ำ
ต๭นที่ 71 ฐานะชั้นต่ำ แล่นเข้าไปบนถนนสายหลักแล้ว รถก็ยิ่งเยอะมากขึ้น ภัสกรณ์ก็ไม่หยอกล้อกับนีรชาอีก แล้วหันไปตั้งใจขับรถ ทันใดนั้น เสียงกริ่งที่นุ่มนวลก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในรถ เป็นเสียงโทรศัพท์บลูทูธของภัสกรณ์ดัง “ ว่ายังไง “ คำแรกที่เขาเอ่ยขึ้นมักจะห้วนๆสั้นๆแบบนี้เสมอ คู่สายพูดว่าอะไรไป ทำให้ภัสกรณ์แสดงถึงสีหน้าพอใจออกมา : ” โอเค พวกคุณเตรียมของไว้ให้ดี อีกสักพักผมจะไป ” วางสายแล้ว ภัสกรณ์ก็จอดรถไว้ข้างทาง ปลดเข็มขัดนิรภัยของนีรชาออก “ คุณไปร้านชุดราตรีเองนะ ผมมีธุระจะต้องไปจัดการ ” ออกคำสั่งเสร็จสรรพแบบไม่อ้อมค้อม และไม่ให้นีรชามีช่องทางคัดค้านใดๆ นีรชาชินกับการเผด็จการของเขาแล้ว ไม่ได้เอ่ยปากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ลงจากรถไปอย่างเงียบๆ เธอเบิกตาแป๋วทั้งสองข้างมองภัสกรณ์ : “ ร้านชุดราตรีไปทางไหน ? ” สายตาของภัสกรณ์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าอารมณ์ดีมาก บีบแก้มของนีรชาหนึ่งที “ ไม่ไกล อยู่ตรงทางแยกข้างหน้า คุณเดินไปตามถนนเส้นนี้ ไปถึงทางแยกข้างหน้า แล้วเลี้ยวขวาก็เจอแล้ว ตกแต่งสไตล์ Saint Laurent ผมทำธุระเสร็จแล้วจะมารับคุณ ” พูดเสร็จ ปิดประตูรถ เร่งเครื่อง รถบ้านสุดหรูหราขับออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนูที่ยิงออกไป นีรชาเดินไปตามเส้นทางที่ภัสกรณ์บอกก็เจอร้านตัดชุดหรูร้านนั้น หน้าร้านตกแต่งอย่างงดงามไม่เหมือนที่อื่น ผนังสีครีม ประดับด้วยรูปทรงเพรียวลมสีทองอ่อน ทางเข้าเป็นเสาใหญ่แบบโรมันอันงดงาม สไตล์โดยรวมแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยที่แฝงด้วยความสง่างามแบบคลาสสิกและมีความหรูหราผสมอยู่ เดินเข้าไปในร้าน ก็มีพนักงานคนหนึ่งที่แต่งหน้าดูดีเดินเข้ามาหา : “ ยินดีต้อนรับค่ะ ” พนักงานอีกคนยกน้ำมะนาวมาเสิร์ฟให้นีรชา : “ สวัสดีค่ะ คุณจะซื้อชุดตัดสำเร็จหรือจะดูอัลบั้มภาพแล้วตัดชุดใหม่คะ? ” นีรชายิ้มอย่างเกรงใจให้พนักงาน : “ ฉันขอดูก่อน ” นีรชาใส่กระโปรงสีขาวสบายๆตัวหนึ่ง รูปแบบเรียบง่ายจนน่าขายหน้าต่อพนักงาน เป็นชุดที่เธอใช้เงินที่เหลืออยู่ไม่มากซื้อมาจากตลาดนัดกลางคืน ภัสกรณ์ซื้อเสื้อผ้าสวยๆราคาแพงให้เธอเต็มตู้เสื้อผ้า แต่เธอไม่เคยใส่ เพราะคิดว่าเสื้อผ้าพวกนั้นไม่ใช่ของเธอ ผมไม่ได้ม้วนลอนทำสีใดๆ ปล่อยผมธรรมดา ดูรวมๆแล้วธรรมดามากๆ พนักงานสองคนมองนีรชาจากหัวจรดปลายเท้า ส่งสายตาให้กัน แสดงมุมปากดูถูกเหยียดหยาม ดูเด็กผู้หญิงคนนี้ สวมเสื้อผ้าแผงลอยในตลาดทั้งตัว ยังกล้าเดินเข้ามาในร้านของเรา นีรชาแทบไม่สังเกตเห็นท่าทางของพวกพนักงาน เธอเดินไปรอบๆร้านด้วยความสนใจ ความจริงแล้วเธอไม่อยากจะซื้อชุดออกงาน และก็ไม่อยากไปร่วมงานปาร์ตี้กับภัสกรณ์ แต่ว่าเสื้อผ้าสวยๆเยอะแบบนี้ ขอแค่ได้มองก็มีความสุขแล้ว ช่างเถอะ ถือซะว่าหาอะไรทำฆ่าเวลา นีรชาชี้ไปที่เดรสสีเขียวเข้มตัวหนึ่ง : “ รบกวนคุณถอดออกมาให้ฉันลองหน่อยค่ะ ” ชุดเดรสสวมอยู่ในหุ่น กระโปรงยาวที่ปักด้วยลูกไม้ ถอดออกมานั้นไม่ง่ายเลย พนักงานแอบทำตามองบนให้กับนีรชา ผู้หญิงคนนี้นี่ช่างเลือกจริงๆเลยนะ เลือกชุดไหนก็ไม่เลือก มาเลือกชุดที่สวมอยู่ในหุ่นชุดนี้ น่ารำคาญจริงๆ แต่นี่คือร้านตัดเสื้อผ้าสำเร็จรูปชั้นนำ ในร้านมีกฎระเบียบ ถ้ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน กฎคือต้องบริการด้วยความกระตือรือร้น ดังนั้นพวกเธอก็ไม่กล้าที่จะเฉยชา ได้แต่พยายามระงับการดูถูกเหยียดหยามในสายตา มองดูการแต่งตัวซอมซ่อมของนีรชา ในใจของพนักงานก็แอบสงสัย เด็กน้อยจนๆคนนี้สายตาเฉียบแหลมทีเดียว ชุดเป็นผลงานชิ้นล่าสุดของนักออกแบบ ได้รับรางวัลใหญ่ในนิทรรศการแฟชั่นนานาชาติที่มิลาน พึ่งจะส่งชุดกลับมาเดือนที่แล้ว เนื้อผ้า รูปแบบ สไตล์การตัดเย็บเป็นระดับสูง มีหลายคนที่มาลองสวมใส่ แต่เพราะว่าเป็นชุดสีเขียวเข้ม มีเพียงไม่กี่คนที่สีผิวและบุคลิกจะเข้ากับชุดนี้ ก็เลยยังขายไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ พนักงานส่งเดรสให้กับนีรชาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ พนักงานคนหนึ่งชี้ห้องลองเสื้อไปแบบไม่พอใจ : “ นั่น ห้องลองเสื้ออยู่ข้างใน เธอไปลองเองเถอะนะ ” ในความเป็นจริงตามกฎของร้าน พนักงานจะต้องช่วยลูกค้าเปลี่ยนและลองชุด ห้องลองเสื้อกว้างมาก ด้านในตกแต่งด้วยกำมะหยี่สีม่วงเข้มทั้งหมด แสดงบรรยากาศที่หรูหรา ห้องลองเสื้อทุกห้องมีโซฟานิ่มและกระจกบานใหญ่ตั้งอยู่ และยังมีโต๊ะเครื่องแป้งที่งดงาม ด้านบนมีเครื่องแต่งกายทุกอย่าง แต่ว่าประตูนั้นเป็นผ้ากำมะหยี่ที่ทั้งหนาและหนัก ไม่มีประตู จะล็อคก็ไม่ได้ แต่ร้านหรูแบบนี้ คงจะไม่มีใครเดินสุ่มสี่สุ่มหาเข้ามาหรอก นีรชาถอดกระโปรงของตัวเองอย่างสบายใจ สวมเดรสอย่างระมัดระวัง ชุดนี้มีลูกไม้ปักด้วยมือที่บางเหมือนปีกจั๊กจั่นปักอยู่ตรงชายเสื้อจำนวนมาก บางมากๆ บางเหมือนควันที่ปกคลุมอยู่หนึ่งชั้น ดูละเอียดอ่อนมาก นีรชากลัวว่าจะทำชุดขาด ว่าแล้วพูดยังไม่ทันขาดคำ ตอนที่สวมชุดเดรสแล้วยืนขึ้นนั้น นีรชารู้สึกว่าด้านหลังถูกดังรั้งไว้ ผิวหนังถูกเปิดโล่ง รู้สึกเย็น น่าจะเป็นเพราะซิปติดตะขอลูกไม้ นีรชารีบนั่งลงและตะโกนเรียกพนักงานเสียงดัง : “ พี่คะๆ เข้ามาช่วยหน่อยค่ะ” จริงๆเลยนะ ชุดเดรสราตรีนี้ใส่ลำบากจริงๆ ใส่ครั้งเดียวก็ทำให้ฉันเหนื่อยแทบแย่ นีรชาบ่นพรึมพรำ ระหว่างรอพนักงานเข้ามาช่วย แต่ว่าข้างนอกไม่มีเสียงตอบกลับ พนักงานสองคนกำลังเล่นเกมส์ในโทรศัพท์มือถืออย่างสนุกสนาน แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงนีรชา เด็กน้อยจนๆ ใครจะสนใจเธอ นีรชาตะโกนร้องเรียกเสียงดังอีกครั้ง ข้างนอกก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ห้องลองเสื้อด้านข้างมีน้ำเสียงใสของผู้หญิงตอบกลับ : “ ไม่ต้องตะโกนแล้ว ฉันจะไปช่วยคุณเอง ” ผ้าม่านกำมะหยี่ที่หนาหนักถูกเปิดออก สาวน้อยวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอแต่งตัวทันสมัย แต่ว่าแต่งหน้าเข้มไปหน่อย มองเห็นชุดราตรีที่นีรชาสวมใส่ ดวงตาของสาวน้อยนั้นส่งสายตาประหลาดใจ : “ ชุดนี้สวยมาก ตอนแรกฉันก็อยากลองสวมดู แต่ว่าผิวไม่ขาวพอที่จะเข้ากับสีนี้ คุณใส่แล้วดูสวยมาก” สาวน้อยรีบช่วยนีรชาปลดลูกไม้ที่ติดอยู่ออก ยิ้มให้กับนีรชา ในดวงตามีแสงประกายระยิบระยับ นีรชากลับรู้สึกว่ารอยยิ้มและสายตานั้นดูแปลกๆ แต่แล้วเขาก็ส่ายหน้า “ ภาพหลอนแน่เลย เมื่อคืนพักผ่อนไม่พอ วันนี้เลยเกิดภาพหลอน ” นึกถึงเมื่อคืน หน้าของนีรชาก็เริ่มแดง ตาบ้าภัสกรณ์ ไม่สนใจเลยว่าเธอนั้นตั้งครรภ์อยู่ ตามตื้ออยู่นั่นแหละ ทำเธอปวดหลังจนถึงวันนี้ ด้านนอกมีกระจกบานใหญ่เต็มผนัง นีรชายกชายกระโปรงเดินไปหน้ากระจก แสงไฟสว่างแต่ดูอบอุ่น เธอเห็นตัวเองในกระจก คอเสื้อลึกรูปตัววีของชุดราตรีเผยผิวสวยของเธอออกมา สีเขียวเข้มนั้น ปักลูกไม้ด้วยมืออยู่เต็มกระโปรง ทำให้ผิวของเธอดูขาวละเอียดเหมือนกับเครื่องลายครามที่ละเอียดอ่อนที่สุด การออกแบบเส้นเอวที่สูง ทำให้มองไม่เห็นช่วงหน้าท้องของเธอที่บวมออกมาเลย สดใส สง่างาม เหมือนองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ พนักงานมองด้วยความตลึงอยู่ด้านข้าง คิดไม่ถึงจริงๆว่าเด็กจนๆจะสามารถใส่ชุดนี้ได้ ราวกับว่าตัดมาเพื่อให้เธอใส่ยังไงอย่างนั้น ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ นีรชาเองก็มองด้วยความตกตลึง ตั้งแต่บริษัทของพ่อล้มละลายไปเมื่อสามปีที่แล้ว เธอก็ไม่เคยได้ใส่ชุดแบบนี้อีกเลย ใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยืน ไม่แต่งเนื้อแต่งตัว จนเธอลืมความรู้สึกที่ได้ใส่ชุดสวย แล้วยืนชื่นชมตัวเองอยู่หน้ากระจกไป ผ้าไหมนุ่มๆที่แนบอยู่บนตัวเธอ เย็นนิดๆ ลื่นๆ ละเอียดอ่อน นุ่มนวลเหมือนกับมือของคุณแม่ ทันใดนั้นนีรชาก็รู้สึกคัดจมูก จากอารมณ์ดีกลายเป็นเรื่องน่าเศร้า ช่วงที่เธอยังเด็ก คุณแม่มักใส่ชุดราตรีสวยๆแบบนี้อยู่บ่อยๆ จับมือเธอที่สวมกระโปรงสีชมพูเหมือนองค์หญิงน้อย และมีคุณพ่อที่มักจะไปร่วมงานเลี้ยงฉลองด้วยกัน สามคนพ่อแม่ลูก คุณพ่อหน้าตาหล่อ คุณแม่สวยสง่า ลูกน่ารัก เป็นครอบครัวหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอิจฉา แต่วันนี้ พยายามกลั้นความรู้สึกคัดจมูก นีรชายิ้มและขอโทษพนักงาน : “ ฉันรู้สึกว่าชุดนี้ไม่ค่อยเข้ากับฉัน รบกวนคุณเอาชุดเดรสสั้นสีขาวชุดนั้นมาให้ฉันลองหน่อย ” พนักงานหันกลับไปเอาชุด ปากบ่นพรึมพรำ : “ สวยขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เหมาะ ไม่มีเงินซื้อก็อย่าเดินเข้ามาในร้าน ยังจะลองชุดอื่นอีก ” นีรชาฟังแล้วก็ไม่ได้สนใจ ไม่ถือสาและทำเมินเฉย เธอเจอมาเยอะแล้ว เธอเปลี่ยนมาเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งขึ้นมาก ไปห้องลองเสื้อถอดชุดราตรียาวสีเขียวเข้ม นีรชาเปลี่ยนชุดเป็นเดรสสั้นสีขาวชุดนี้ เดินมาที่หน้ากระจกบานใหญ่มองดูตัวเอง เป็นเดรสเกาะอกชุดหนึ่ง ที่ทำให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่สวยและคอเรียวยาวของนีรชา น่าเสียดายที่ส่วนเอวนั้นตัดเย็บเข้าพอดี ทำให้เห็นหน้าท้องเล็กน้อย นีรชาส่ายหัว เดินกลับไปห้องลองเสื้อแล้วถอดเดรสสีขาวออก เปลี่ยนใส่ชุดของตัวเอง รู้สึกเหนื่อยแล้ว นีรชาถือกระเป๋าเตรียมตัวกลับ ภัสกรณ์ทำไมยังไม่มารับเธออีกนะ นีรชาบ่นพรึมพรำ เป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้เอาซะเลย ถือกระเป๋า กำลังจะเดินออกจากร้าน ทันใดนั้นเสียงแหลมคมจากด้านหลังก็ดังขึ้น : “ หยุดนะ ยัยหัวขโมย ” “ ห๊ะ? ” นีรชายังไม่มีปฎิกิริยาตอบโต้ แขนก็ถูกดึงไว้แล้ว พนักงานคนหนึ่งตามมาหายใจหอบแฮ่กๆ จ้องด้วยสายตาที่น่ากลัว ตะโกนด้วยความโมโห : “ ขโมยเสื้อผ้าแล้วจะหนี ? ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ” ใบหน้าเธอที่ดูละเอียดลออเวลานี้กลับดูโหดร้ายมาก นีรชาอดไม่ได้ที่จะกลัวจนตัวสั่น สุดท้ายถูกเข้าใจผิดจนกลายเป็นความกลัว สายตาของพนักงานก็แสดงถึงความภูมิใจ “ คุณ เปิดกระเป๋าให้ฉันตรวจสอบดูหน่อยสิ ” เธอพูดด้วยเสียงเข้ม : “ ดูคุณท่าทางยากจน ก็รู้แล้วว่าไม่มีปัญญาซื้อ ไม่มีเงินซื้อก็อย่าขโมยสิ หน้าไม่อายจริงๆ ” นีรชามึนงงเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกัน พนักงานโหดเหี้ยมคนนั้นจับแขนเธอไว้ จับจนเธอเจ็บ นีรชาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เกรงใจ : “ พวกคุณทำอะไร ปล่อยฉันนะ ” ดูสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว พนักงานอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรมากกว่าก็รีบเดินเข้ามาอธิบาย : “ คุณผู้หญิง ชุดราตรีสีเขียวเข้มที่คุณลองเมื่อสักครู่หายไป มีคุณคนเดียวที่ลองชุดนี้ รบกวนคุณเปิดกระเป๋าให้พวกเราตรวจสอบหน่อยนะคะ ” 
已经是最新一章了
加载中