ตอนที่ 77 ไม่เคยใส่ใจเขา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 77 ไม่เคยใส่ใจเขา
ต๭นที่ 77 ไม่เคยใส่ใจเขา วันนี้เป็นอะไรกัน ? ทำไมผู้หญิงทุกคนถึงมาเตือนเธอ ให้เธออยู่ห่างจากผูชายของพวกเธอ ? นีรชาพยายามข่มอารมณ์โกรธ หันกลับไป สายตาตๆที่เยือกเย็นจ้องมองโมรี : “ คุณโมรี ฉันอยากจะหนีออกไปไกลๆจากภัสกรณ์ ถ้าคุณมีวิธีที่จะทำให้ภัสกรณ์ปล่อยฉันไป ฉันจะขอบคุณมากๆ ” พูดจบ หลังตรง เงยหน้า นีรชาหันตัวเดินออกไปจากห้องน้ำที่ทำให้หายใจไม่ออกนี้ โมรีโกรธจนหน้าแดง หยิบต้นไม้ที่อยู่ข้างๆอ่างล้างมือขึ้นมา เพล้งเสียงโยนด้วยความแค้นลงบนพื้น เห็นได้ชัดว่าคำพูดของนีรชานั้นกำลังยั่วยุ คิดว่าภัสกรณ์รักเธอมากขนาดไหน โดยไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร ดูท่า คงจะต้องสั่งสอนกันสักหน่อยแล้ว โมรีหยิบมือถือขึ้นมา โทรไปที่เบอร์หนึ่ง กระซิบพูดอะไรสักอย่าง คนที่อยู่ปลายสายตอบกลับมาว่า : “ พวกเราจัดการ คุณวางใจได้ รับรองได้ว่าจะเป็นความลับไม่แพร่งพรายออกไป ” โมรีวางสายโทรศัพท์ ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมออกมา นีรชาเดินออกจากห้องน้ำ อยากไปรับลมที่สนามหญ้า คนในห้องโถงใหญ่เยอะเกินไป ทุกคนใส่หน้ากากและพูดเยินยอกันทั้งนั้น เธอรู้สึกว่าน่าเบื่อ กำลังเดินไปถึงทางโค้ง ก็เจอกับภัสกรณ์เข้า ยังมีอีกสองสามคนยืนอยู่ข้างๆเขา มีทั้งผู้ชายผู้หญิง “ นีรชา มานี่สิ ” ภัสกรณ์เรียก น้ำเสียงสนิทสนม แต่ดูเหมือนเรียกคนรับใช้มากกว่า ผู้ชายผู้หญิงที่อยู่รอบตัวภัสกรณ์ต่างก็มองมาที่นีรชา ในใจของนีรชาเต้นตุ๊บๆ “ ซวยจริงๆ ” แต่ก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่เดินเข้าไปอย่างช้าๆ ข้างๆภัสกรณ์มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ ปากแดงๆทำท่าทางยิ้ม ในตาแผ่รังสีเหยียดหยาม ถามนีรชาว่า : “ คุณคือคุณนีรชาเหรอ ? เมื่อสักครู่ได้ยินภัสกรณ์พูดถึงคุณ คุณคือแฟนของภัสกรณ์ใช่ไหม ? ” แฟน ? นีรชารู้สึกว่าคำนี้ฟังดูแล้วประหลาดใจ คำที่ตรงไปตรงมา เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งต่างจากคำว่าผู้หญิงของเขาที่ฟังแล้วดูเลวร้าย น่ารังเกียจและต่ำต้อย แต่ว่าน่าเสียดายมาก คำนี้ นีรชาเธอไม่มีสิทธิ์ใช้ นีรชาลืมตาเหลือบมองหน้าภัสกรณ์ที่กำลังอมยิ้มเล็กๆ ไม่ได้ตอบกลับว่าใช่ หรือไม่ใช่ ได้แต่เงียบ เห็นนีรชาไม่ตอบคำถาม หญิงสาวปากแดงคนนั้นก็เคอะเขิน ก็ได้แต่เปลี่ยนเรื่องคุย รอยยิ้มจางๆบนหน้าภัสกรณ์ก็ค่อยๆหายไป ในตาปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกดำ พูดทักทายไม่กี่คำ คนพวกนั้นก็เดินออกไป เหลือแค่นีรชากับภัสกรณ์ที่อยู่ตามลำพัง นีรชายังคงเงียบไม่พูดอะไร ไม่จ้องตาภัสกรณ์ มองแต่สนามหญ้า ลมเบาๆพัดมา กลีบดอกไม้บนต้นไม้ก็หล่นลงพื้น สวยงามมากจริงๆ มือแน่นๆของภัสกรณ์บีบไปที่มือของเธอ จะดึงเธอหันกลับมา สบสายตาตัวเอง “ เมื่อสักครู่ทำไมถึงไม่พูด ? ” เสียงของเขาเยือกเย็นไร้อารมณ์ “ พูดอะไร ? พูดว่าขอโทษค่ะ ฉันไม่ใช่แฟนตัวจริงอะไรหรอก ? พูดว่าฉันเป็นแค่ชู้ ? ” นีรชามองหน้าภัสกรณ์ ทั้งที่ยังยิ้มอยู่ แต่ว่ารอยยิ้มนี้ทำให้ภัสกรณ์โกรธมาก : “ ทำไม ? เป็นผู้หญิงของภัสกรณ์อย่างผมน่าอายนักเหรอ ? ” มือเพิ่มแรงบีบขึ้นอีก นีรชารู้สึกว่าแขนของตัวเองจะหักแล้ว แต่ยังดื้อรั้นไม่ยอมเอ่ยปากขอร้อง ยังคงถูกภัสกรณ์บีบแน่น “ เป็นผู้หญิงของประธานภัสกรณ์จะหน้าอายได้อย่างไร ? เป็นเกียรติมากๆ ไม่รู้ว่ายังมีผู้หญิงอีกมากมายเท่าไรกำลังรอเสียบแย่งอยู่ ดวงตาเย็นชาตกลง พูดอย่างนิ่งๆ ” “ ถ้าคุณรู้แล้ว ทำไมยังดูท่าทางอับอาย ? ” แรงบีบจากมือของภัสกรณ์ค่อยๆเบาลง เชิดหน้านีรชาให้เงยขึ้น สบสายตากับเธอตรงๆ “ ปุ๊ด ” นีรชาขำออกมา นี่คือการเหน็บแนม เหน็บแนมเข้าใจไหม ประธานภัสกรณ์ของฉัน ท่านไร้เดียงสาจริงๆ จนฟังคำพูดเหน็บแนมของคนอื่นไม่ออก เห็นนีรชายิ้มแล้ว ความโกรธในตาของภัสกรณ์ค่อยๆหายไป สายตายังคงเฉียบคม พูดกับนีรชาว่า : “ ตอบผม เมื่อสักครู่ทำไมทำท่าทางดูน่าอับอาย ? ” นีรชาขมวดคิ้ว : “ ประธานภัสกรณ์ คำถามนี้ต้องการอะไรเหรอ ? ถ้าคุณเบื่อจนง่วง ก็ไปหาโมรีสิ เธอจะต้องยอมคุยกับคุณทั้งคืนแน่นอน ” ในตาของภัสกรณ์มีประกายไฟ จ้องหน้านีรชา น้ำเสียงอบอุ่นเล็กน้อย : “ คุณพูดว่าโมรี ? ” เพลิงไฟในตาของภัสกรณ์ดุเดือดขึ้น นีรชาถูกเขาจ้องไปทั้งตัวจนรู้สึกว่าอึดอัด เธอหันหน้าหนี หลบสายตาของเขา : “ เมื่อสักครู่ในห้องรับรอง พวกคุณคุยกันลึกซึ้ง และมีความสุขมากไม่ใช่เหรอ ? ” “ ฮ่าๆๆ ” ทันใดนั้นภัสกรณ์เงยหน้าหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข นีรชากัดปากของตัวเองด้วยความตื่นกลัว เธอกำลังทำอะไร ? ทำไมถึงพูดเรื่องนี้ ? ที่แท้ ภัสกรณ์ก้มหน้าลงมองนีรชา ใบหน้ายิ้ม ในดวงตามีประกายของความสุข : “ นีรชา คุณกำลังหึงผมเหรอ ? ” ปากของเขาเข้าใกล้ใบหูของเธอ ไอร้อนหมุนวนอยู่ข้างหูเธอ เสียงของเขามีความพอใจ แต่มีความยั่วโมโหมากกว่า ดูเหมือนว่าอารมณ์ดีมาก นีรชาเงยหน้าขึ้น เสียงเงียบสงบเหมือนน้ำ ใบหน้าดูมีรอยยิ้มหวานๆ : “ ไม่ใช่แน่นอน ถ้าหากโมรีทำให้คุณมีความสุข ก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว ” “ อย่างนั้นผมควรจะต้องขอบคุณหรอ ? ” สีหน้าของภัสกรณ์บึ้งตึงทันที เสียงที่พูดออกมาเยือกเย็นจนน่ากลัว นีรชายังไม่ตอบคำถาม ตัวของภัสกรณ์ก็โผเข้ามาทันที ฝ่ามือใหญ่โอบกอดเธออย่างแน่น ริมฝีปากร้อนๆประกบบนปากของเธอ กัดริมฝีปากเธอเพื่อลงโทษ ผู้ชายคนนี้ ทำไมถึงมีอารมณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา นีรชาต่อต้านและอยากผลักเขาออกไป แต่ว่าหน้าอกแน่นๆของเขากอดเธอไว้อย่างแน่น เธอถูกอ้อมกอดของเขา กอดแน่นจนไม่มีทางหนี ได้แต่ยอมทนถูกเขาจูบอย่างรุนแรงคลุ้มคลั่ง นึกถึงเมื่อสักครู่ที่ภัสกรณ์ยังจู๋จี๋กับโมรีในห้องรับรอง ปากของเขา เมื่อสักครู่ก็ดูดดื่มปากของโมรีเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ ? ตัวของเขา ยังมีกลิ่นของผู้หญิงคนอื่น นีรชาคลื่นไส้ขึ้นมาทันที น่าขยะแขยงมาก ต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเพื่อหลบหน้า ไม่ยอมให้เขาจูบ เห็นได้ชัดว่าไม่ยอม ไม่ว่าจะกี่ทีๆภัสกรณ์ก็จูบโดนแต่หน้าเธอ นีรชาหลบเหมือนกับหลบเชื้อโรค คิ้วขมวดเข้าหากัน ราวกับอดทนต่อการทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม ภัสกรณ์หยุดการกระทำ ตาเหยี่ยวคู่นั้นแดงเล็กน้อย ปล่อยนีรชาออกจากอ้อมออกอย่างดุเดือด ตวาดด้วยความโกรธ : “ ออกไป ” เสียงตวาดของภัสกรณ์ทำไมดังขนาดนี้ คนรอบข้างต่างก็หันมองมา นีรชารู้สึกขายหน้ามาก อยู่กับภัสกรณ์ เธอก็กลายเป็นจุดเด่นจุดสังเกตของผู้คนตลอด เธอไม่ชอบความรู้สึกนี้ เธอมองหน้าภัสกรณ์ ภัสกรณ์ก็มองหน้าเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาตอนนี้เย็นชาจนน่ากลัว หุบริมฝีปากแน่น สายตาน่ากลัวจ้องเธอ กระหายเลือด โกรธจนทนไม่ได้เหมือนอยากจะฆ่าเธอ อยู่ในใจนีรชาคิดสงสัย ผู้ชายคนนี้ทุกครั้งที่เขาโกรธจะโมโหมากจนน่าประหลาดใจ เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธ ? เขาชอบพัวพันอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เธอก็แค่ยิ้มยินดีด้วย เธอไม่ได้หึงหวงไปทั่ว แล้วเขาโกรธเรื่องอะไรกันแน่ คิดไม่ออก และก็ไม่อยากคิดอีก นีรชาผลักเขาออกอย่างนิ่งๆ : “ รู้แล้ว ฉันจะไป ” เธอกระวนกระวายอยากรีบกลับไปพักผ่อน วันนี้มีเรื่องมาทั้งวัน เธอเหนื่อยจริงๆ ปล่อยให้เขาเพลิดเพลินสนุกสนานอยู่กับผู้หญิงอื่นเถอะ ขอให้เขามีความสุข หันหลังเดินออกไปอย่างไม่ลังเล ออกไปจากโถงใหญ่ ก็พบว่าข้างนอกมีลมแรง ลมแรงตอนกลางคืนพัดผ่านตัว หนาวถึงกระดูก นีรชากลัวหนาวจนกอดแขนไว้แน่น เดินออกไปทางประตูใหญ่ เดินไปเหลือบมองไป ดูเหมือนว่าฝั่งนี้จะเป็นเขตหมู่บ้านทั้งหมด ไม่มีรถแท็กซี่เลย เมื่อสักครู่ตอนอยู่บนดาดฟ้ามองเห็นด้านหลังเหมือนจะมีถนนเล็กทะลุไปถึงถนนสายหลักด้านหลัง ฝั่งนั้นน่าจะมีรถแท็กซี่นะ นีรชาหันหลังแล้วเดินไปทางถนนสายเล็ก เห็นนีรชาเดินออกไปไม่หันหลังกลับมา ภัสกรณ์รู้สึกถึงไฟนิรนามถูกขึ้นตรงหน้าอก ผู้หญิงคนนี้ แม้กระทั่งคำขอร้องก็ไม่เอ่ยปากขึ้น เธอไม่เคยรู้เลยว่าทำไมเขาถึงโกรธ ถ้าหากไม่ใช่โมรีกระตุ้นไฟแค้นของเขา ถ้าหากไม่ใช่เขาอยากจะทดสอบปฏิกิริยาของนีรชา เขาก็ยังจะไม่รู้ว่านานแล้วนะที่นีรชาไม่ได้มองเขาอยู่ในสายตาเลย เธอทำกับเขา ไม่เคยสนใจเลย ไม่ว่าเธอจะทะเลาะต่อปากต่อคำกับผู้หญิงของเขา หรือว่าดีกันแล้วจูงมือกันเดินซื้อของ ไม่ว่าเขาจะทิ้งเรื่องวุ่นวายที่บริษัท วันหนึ่ง 24 ชั่วโมงมาอยู่กับเธอ เผด็จการครอบครองเธอตลอดเวลา เธอ ก็ยังไม่มองเห็นเขาในสายตา นีรชา ไม่เคยรักเขาเลย มือกำหมัดแน่น เส้นเลือดสีเขียว ข้อต่อเริ่มขาว ภัสกรณ์จ้องมองหลังของนีรชา ในดวงตามีไฟปะทุ นีรชา เธอร้ายกาจ หันหลังแล้วเดินไปทางห้องโถงใหญ่ ผู้หญิงในโลกนี้ก็เยอะแยะ ภัสกรณ์ไม่ใช่จะขาดนีรชาไม่ได้ วินาทีนี้ จับจ้องเงาของนีรชาเห็นว่ามีผู้ชายอีกคนหนึ่ง สมภพ เมื่อสักครู่เสียงตวาดอย่างโมโหของภัสกรณ์ สมภพหันหน้ากลับมาดู เลยเห็นเงาคุ้นๆของนีรชา อยู่ใต้แสงไฟโดดเด่นออกมา ทำให้เธอดูสวยมาก ชุดกระโปรงราตรีสีขาวทำให้เธอดูเหมือนนางฟ้าที่บริสุทธิ์ ข้างหูมีดอกไอริสสีฟ้าดอกหนึ่ง ทำให้ในความบริสุทธิ์นั้นยิ่งงดงามและดูดี เห็นนีรชาที่ทะเลาะกับภัสกรณ์แล้วเดินจากไปคนเดียว สมภพรีบก้าวแล้วอยากเดินตามไป แต่ว่านายกเทศมนตรีจิระเดชที่ยืนอยู่ข้างๆกำลังคุยโม้ความสำเร็จของเขาไม่หยุด จะขัดจังหวะของผู้ใหญ่ก็เสียมารยาท สมภพก็ได้แต่อดกลั้นโทสะของตัวเอง ตั้งใจแสดงออกมาว่าตั้งใจฟังนายกเทศมนตรีจิระเดชพูด เห็นนีรชายิ่งเดินไปไกลมากขึ้น สายตามองเห็นใกล้จะหายไปหลังป่า สมภพรออดกลั้นไม่ไหวแล้ว รีบเร่งพูดกับนายกเทศมนตรีจิระเดชว่า : “ คุณลุง ผมมีเรื่องสำคัญ ขอตัวก่อนนะครับ ” พูดจบ ไม่สนใจสายตาประหลาดใจของคนรอบข้าง ก้าวท้าววิ่งออกไปทางถนนสายเล็ก เขาจะต้องตามนีรชาให้ทัน เมื่อสักครู่ภัสกรณ์ตวาดใส่เธออย่างดุมาก ตอนนี้นีรชาคงเสียใจมาก เขาอยากจะปลอบเธอ ถ้าหากพูดว่าบนโลกนี้ มีน้ำตาของคนคนหนึ่งที่สมภพไม่อยากเห็น คนคนนั้นก็คือนีรชา 
已经是最新一章了
加载中