ตอนที่ 37 ไม่อยากหลอกคุณปู่แล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 37 ไม่อยากหลอกคุณปู่แล้ว
ตอนที่ 37 ไม่อยากหลอกคุณปู่แล้ว “ปู่ครับ ผมกับทฤนห์เลิกกันไปนานแล้วครับ อย่าพูดถึงเขาอีกเลย” เพ็ญนีติ์คิดว่าปุริมจะใช้คำพูดหลีกเลี่ยงมากกว่านี้ คิดไม่ ถึงว่าปุริมจะตอบชายชราออกไปทื่อๆ ว่าเขากับทฤนห์ไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกแล้ว “อืม “ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนที่ ชายชราจะเดินผ่านปุริมและเพ็ญนีติ์ไป อ่า ดูๆแล้วท่านคงไม่ชอบเธอแน่ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอไม่อยากจะนึกถึงเลย นั่นคือเรื่องของคุณปู่ เธอจัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ แต่ความคิดนี้มันอยู่ด้วยกัน ความเจ็บปวดที่มือ เป็นปุริม เขาที่บีบมือเธอจากข้างหลัง ”เพ็ญนีติ์ คุณตามไปเกลี้ยกล่อมคุณปู่ผม ที” เขากระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ ตอนพูดก็ยังคงยิ้มอยู่ แสงแฟลชยังคงสาดส่องมาไม่หยุด เหมือนเขากำลังคุยเรื่องลับๆกับเธออยู่ “โอเค” เมื่อนึกถึงสัญญาแต่งงานนั่น เธอก็สะบัดมือของปุริมออก รีบสาวเท้าตามหลังคุณปู่ไปติดๆ ชายชราเดินไวมาก ถ้าเธอไม่รู้มาก่อนหน้านี้ว่าท่านอายุ73แล้ว พูดยังไงเธอก็ไม่เชื่อหรอกว่านี่คือคุณปู่ของปุริม ถ้าบอกว่าเป็นพ่อยังพอเชื่อไหวอยู่ “คุณปู่คะ รอฉันก่อนค่ะ” ชายชราเหมือนจะไม่ได้ยิน ท่านคงปิดใจกับเธอไปแล้ว คงไม่ได้เตรียมตัวมาพบเธอที่เป็นเพียงคู่หมั้นหลอกๆของหลานชายตัวเอง เธอคิดว่าท่านคงจะชอบทฤนห์มากๆ มองแผ่นหลังของชายชรา เธอก็เริ่มรู้สึกว่าที่ปุริมหลอกเขาแบบนั้นมันไม่ดีเลย เธอไม่มีคุณปู่และคุณย่า แล้วก็ไม่มีคุณตาหรือคุณยายด้วย ดังนั้นกับชายชราที่ดูใจดีคนนี้ “คุณปู่ ชอบทฤนห์ใช่ไหมคะ” ทันทีที่มาถึงท่านก็ถามหาทฤนห์ทันที นั่นก็บอกได้ชัดแล้วว่าท่านชอบทฤนห์มาก เมื่อถามประโยคนี้ออกไป ก็เริ่มมีท่าทีตอบรับ ท่านชะงักก่อนกล่าว “ใช่” “ถ้าคุณปู่ชอบทฤนห์ อย่างนั้นฉันจะช่วยหาวิธีให้ปุริมและทฤนห์กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งนะคะ” คุณปู่หยุดเดินทันที แล้วหันหลังกลับมาถามเธออย่างสงสัย “เธอยอมอย่างนั้นหรือ” เธอพยักหน้า “ค่ะ” เธอไม่ได้ล้อเล่น และเธอรู้ดีว่าระหว่างอนาคตของเธอกับปุริมนั้นมันไม่มีทางหรอก ไม่ช้าเธอก็คงต้องหย่า แล้วก็เธออยากช่วยคุณปู่ เธอรู้สึกว่าปุริมไม่ควรมาหลอกปู่ของเขาอย่างนี้ สายตาของคุณปู่เริ่มสงสัยเธอมากขึ้น “ทำไม” เงยหน้าขึ้น แขนของเพ็ญนีติ์รีบล็อกแขนของชายชราอย่างไว เพื่อกันท่านสะบัดตัวหนี เพ็ญนีติ์กระซิบเสียงเบา “คุณปู่คะ ฉันมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับปุริมมาบอกค่ะ แต่ต้องสัญญากับฉันมาก่อนค่ะ ว่าจะไม่พูดมันออกไป และให้ปุริมรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าคุณรู้มาจากฉัน” โดยปกติ การจะทำให้เขาสนใจต้องย้ำกับฝ่ายตรงข้ามสามรอบว่าห้ามพูดเรื่องนี้ออกไปเด็ดขาด ตอนนี้เธอก็เรียกความสนใจจากคุณปู่ได้แล้ว สุดท้ายคุณปู่ก็เกิดความสงสัย เขาเม้มปากแน่นก่อนกล่าว “โอเค เธอพูดมา ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกปุริม” กัดฟันอย่างกังวล เพ็ญนีติ์รู้สึกว่าเธอควรบอกคุณปู่ไป เธอรู้สึกไม่ดีที่ปุริมมาหลอกคุณปู่แบบนี้ “คุณปู่คะ ฉันคือคนที่ปุริมจ้างมาเป็นคู่หมั้นปลอมๆ ถ้าคุณไม่ชอบ พวกเรามาว่างแผนให้เขาไปจ้างคนอื่นกันเถอะค่ะ” มีที่ไหนกันหลานชายหลอกคุณปู่ คุณปู่ที่ดีขนาดนี้ แค่คิดเธอยังไม่กล้าเลย ชายชรานิ่ง แล้วพูดอย่างตะกุกตะกัก “เธอพูดว่าอะไรนะ พูดอีกรอบสิ” “ฉันเป็นคู่หมั้นของปุริมค่ะ” “ไม่ใช่ประโยคนี้ ประโยคข้างหลังสิ” “ถ้าคุณปู่ไม่ชอบ พวกเรามาคิดแผนให้เขาไปจ้างคนอื่นกันเถอะค่ะ” “สาวน้อย เธอไม่ได้ชอบเขาหรือ” เธอส่ายหัว ก่อนจะรีบพยักหน้าอย่างไว เธอชอบเขา แต่ชอบแล้วอย่างไร เธอกับเขาลงเอยกันไม่ได้ “นั่นก็แปลว่าไม่ได้ชอบแล้ว” “ค่ะ” ตอบได้แค่นี้เท่านั้น ไม่อย่างนั้น ชายชราคงไม่ปล่อยเธอไป เธอตอบไปแบบนี้เพื่อเลี่ยงความสนใจจากท่าน “แล้วเธอจะมาสัญญากับเขาทำไม” เพ็ญนีติ์รู้สึกกระดากกระเดือก ”ฉันยืมเงินเขามาค่ะ แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจ้างฉันทำไมในเมื่อผู้หญิงในเมืองดรัลนี่ก็มีมากมาย วันนั้นฉันได้ยินทฤนห์พูด... ว่าเพราะฉันหน้าเหมือนรักแรกของเขา” ไร้สาระมาก คิดอะไรได้เธอก็พูดมันออกไป ยิ่งพูดก็ยิ่งวกวน แต่เมื่อตัดสินใจว่าจะไม่โกหกคุณปู่แล้ว เธอก็จะไม่ทำ ให้มาหลอกคุณปู่ที่ดีขนาดนี้ได้รู้สึกเสียใจไปตลอดแน่ ชายชราสีหน้าเปลี่ยนไป “ทฤนห์บอกกับเธอแบบนั้นหรือ” พยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ” คนพูดคือทฤนห์ จริงหรือหลอกเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน “สาวน้อย เธอนี่ตรงไปตรงมาเสียจริง ฮ่าฮ่า ฉันชอบเธอนะ” ชายชรายิ้มแล้ว ใบหน้านั้นสดใสราวกับแสงแดดเลย เพ็ญนีติ์คิ้วขมวด เธอแค่ไม่อยากหลอกคุณปู่เท่านั้นเอง เธอคิดว่ายังไงคุณปู่ก็ไม่สนใจเธอหรอก หรือไม่ อย่างน้อยก็คงด่าเธอสักคำ แต่ไม่มีเลย ท่านเพียงยิ้มให้เธอ “คุณปู่ คุณ... คุณไม่เป็นไรนะคะ” เธอสับสนจริงๆนะ เธอที่เป็นแบบนี้ ท่านกลับชอบซะอย่างนั้น “ไม่เป็นไร รถมาแล้ว ขึ้นรถเถอะ” ลากมือของเธอ แล้วดันเธอขึ้นไปนั่งข้างหลังรถ อีกด้านหนึ่ง ดวงตาของปุริมก็เปล่งประกาย เขาแปลกใจกับท่าทางที่คุณปู่มีต่อเพ็ญนีติ์ “คุณปู่ครับ ผมขับรถ เพ็ญนีติ์จะนั่งอยู่ข้างคนขับตลอดนะครับ” ยิ้มอย่างประหม่า เขาไม่อยากให้เพ็ญนีติ์นั่งใกล้กับคุณปู่เท่าไหร่นัก คุณปู่ยิ้มแบบนั้นมันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ “ปุริม ปู่ชอบเพ็ญนีติ์ ปู่อยากคุยกับเพ็ญนีติ์สักหน่อย แกก็ขับรถไป ไม่ต้อมารบกวนพวกเราล่ะ” พูดจบ เขาก็กดกระจกขึ้นปิดระหว่างคนขับกับพวกเขาอย่างไว “คุณปู่...” เพ็ญนีติ์รู้สึกกระดากกระเดือก เธอไม่รู้จริงๆว่าชายชราจะทำอะไร ท่าทางของชายชรานั้นน่าสงสัยจริงๆ “ไม่ต้องห่วง กระจกนี่ทำงานได้ดี อยากพูดอะไรพูดเลยเขาจะไม่ได้ยินแน่นอน” “คุณปู่ คุณเป็นคนดี คุณปู่คงไม่เปิดเผยฉันไปหรอกนะคะ” ชายชราหัวเราะ “อือ ไม่ทำหรอก” “คุณปู่ ฉันพูดจริงๆนะคะเรื่องเงิน ฉันยืมเงินปุริมมาเยอะมากๆ” เธอเองก็ไม่รู้ว่าปุริมช่วยเหลือตระกูลศาสตร์พงษ์ไปเท่าไหร่ ดังนั้นเธอเลยพูดได้แค่ว่ามันเยอะมากๆ เธอหลอกคุณปู่ที่ดีแบบนี้ไม่ได้ เธอชอบคุณปู่ คุณปู่ดีจริงๆ ยิ่งเปิดใจก็ยิ่งเป็นมิตร “สาวน้อย เธอช่างตรงไปตรงมา โอเค คนแก่คนนี้จะไม่เปิดเผยเรื่องของเธอ แต่ถ้าปุริมรู้เรื่องนี้เองนั่นก็ไม่ใช่เพราะฉันหรอกนะ” ท่านยิ้มให้กับเธอ แต่นั่นทำให้เพ็ญนีติ์รู้สึกอยู่ไม่สุข เธอเริ่มมองท่านไม่ออกแล้ว “คุณปู่ค่ะ แค่คุณไม่พูด ปุริมก็ไม่มีทางรู้หรอกค่ะ” “โอเค ฉันสัญญา แต่ว่านะ...” “แต่ว่าอะไรคะ” น้ำเสียงของคุณปู่ ทำให้เพ็ญนีติ์รู้สึกกังวล “ยังไม่ได้คิดน่ะ แต่ถ้าฉันสัญญากับเธอไปว่าจะไม่บอก เธอเองก็ต้องสัญญากับฉันเรื่องหนึ่ง” “โอเคค่ะ” มันคือการแลกเปลี่ยน แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเท่าเทียมกัน “สาวน้อย ไม่ว่าเรื่องอะไรเธอก็จะรับปากอย่างนั้นหรือ” “คุณปู่เป็นคนดี คุณปู่คงไม่ทำร้ายฉันหรอกค่ะ แค่คุณบอกมา ฉันให้คำสัญญาแน่นอน” ไม่ใช่ว่าให้เธอมาเกลี้ยกล่อมท่านหรือ ตอนนี้เขาก็มีอารมณ์ดีนะ ที่จริง อารมณ์ดีก็ดีแล้ว “มีคนโทรมา มีคนโทรมา” ในขณะที่คุยกัน โทรศัพท์ของเพ็ญนีติ์ก็ดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋า เป็นเบอร์ของปุริมนั่นเอง ตอนที่เธอกำลังสับสน ชายชราก็พูดขึ้น “รับเถอะ วัยรุ่นอย่างพวกเธอก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง ฉันไม่รบกวนหรอก” เธอจะไม่รับก็ไม่ได้แล้ว เธอกดรับแล้วตั้งใจฟัง ทางปุริมก็รีบพูดขึ้นอย่างร้อนรนทันที “คุณไม่ต้องพูดอะไร ฟังผมอย่างเดียว เพ็ญนีติ์ คุณไม่ต้องคุยอะไรกับคุณปู่เยอะนัก คุยแค่เรื่องดินฟ้าอากาศ หนัง หรือพวกออกกำลังกายไป ไม่อย่างนั้น คุณปู่คนนั้นเจ้าเล่ห์มาก” “อือ” เธอตอบเสียงแผ่ว เม้มริมฝีปากกลั้นยิ้มไว้ แล้วมองปุริมที่อยู่อีกฝากหนึ่งของกระจก อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เขาก็ยังจะโทรมาหาเธอ แต่นะ คุณปู่น่ะรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว “คุณปู่จะต้องชอบคุณ เพ็ญนีติ์ ขอบคุณคุณมาก ผมวางแล้ว” พูดจบ “ติ๊ง” ปุริมก็วางสายไป เพ็ญนีติ์รู้สึกกระดากกะเดือกมาก ฟังสิ่งที่ปุริมต้องการจะสื่อแล้ว ทำให้เธอประหม่ามาก เธอบอกเรื่องทั้งหมดกับคุณปู่ไปแล้ว “สาวน้อย ปุริมพูดอะไรให้เธอไม่สบายใจหรือ บอกฉันได้นะ ถึงบ้านแล้วฉันจะด่ามันให้ ไม่พอ ฉันจะตีมันให้ด้วย” ขณะที่เพ็ญนีติ์กำลังจมกับความคิดของตัวเอง คุณปู่ก็พูดขึ้นมา “อ่า ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ ปุริมเขาดีกับฉันมากเลย” “เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว ใกล้ถึงแล้ว เธอดู ผ่านโค้งนั้นไปก็ถึงแล้ว สาวน้อยวันนี้เธออยู่ที่นี่ก่อน ดีไหม” เพ็ญนีติ์เธอมองชายชราอย่างมึนงง เธอย้อนนึกถึงคำพูดของชายชรา เธอไม่ได้ฟังผิดแน่ๆ ”คุณปู่ค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริง ฉันเป็นคนที่ขี้เกียจมากเลยค่ะ กลัวว่าพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้า พรุ่งนี้ฉันต้องไปเรียน ดังนั้น...” ปฏิเสธอย่างอ่อนน้อม เธอไม่อยากพักที่ตระกูลพลสังข์ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะให้ปุริมบอกกับทางโรงเรียนให้ย้ายคาบเรียนตอนเช้าของเธอไปไว้คาบเรียนที่สองแทน ที่นี้ก็ไม่ต้องตื่นเช้าแล้ว” เพ็ญนีติ์เบิกตากว้าง ไม่คิดว่าคุณปู่จะปัดตกคำพูดเธอแบบนี้ คฤหาสน์ของตระกูลพลสังข์นั้นหรูมาก มีสระว่ายน้ำ มีสวนดอกไม้ ทองในเมืองดรัลนั้นถูกตระกูลพลสังข์นำมาใช้หมดแล้ว เมื่อทานข้าวเย็นแล้ว ในจังหวะที่ปุริมกำลังหากุญแจรถเพื่อพาเพ็ญนีติ์กลับ ชายชราก็พูดขึ้นมา ”ปุริม ปู่เพิ่งจะกลับมาคืนนี้พักที่นี่เถอะ พรุ่งค่อยกลับก็ไม่สาย” “แบบนี้มัน...” “ขึ้นไปข้างบนเถอะ อย่างไรก็จะแต่งงานกันแล้ว รีบมีหลานให้ปู่ด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกฉันว่าคุณปู่” “ได้เลยครับ คุณปู่” หยุดคิดเพียงเล็กน้อย ปุริมก็เอ่ยรับปากหน้าตาเฉย เพ็ญนีติ์คิดว่าปุริมต้องปฏิเสธแน่ แต่ไม่มีเลยสักนิด เขาลากเธอขึ้นชั้นสองทันที “ฝันดีครับคุณปู่” “ฝันดี” หากหันกลับมา ชายชรายืนยิ้มทะมึนอยู่กลางห้องรับแขก รอยยิ้มนั้นช่างขัดหูขัดตามากๆ แต่เพ็ญนีติ์ก็ไม่ทันได้หันกลับมามอง เธอโดนดึงมาที่ห้องหนึ่งที่ชั้นสอง “ปัง” ปุริมลากเธอมาล้มลงที่เตียง...
已经是最新一章了
加载中