ตอนที่75กล่าวขอบคุณ
1/
ตอนที่75กล่าวขอบคุณ
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่75กล่าวขอบคุณ
ตนที่75กล่าวขอบคุณ แสงอาทิตย์จากนอกหน้าต่างสอดส่องเข้ามาตรงมุมโต๊ะและกระดาษโล่หวินหลานวางพู่กันลงจากมือและขมวดคิ้วขึ้นเบาๆนางมาทำอะไร? ตอนที่นางกำลังคิดว่าจะหาข้ออ้างอะไรเพื่อไม่ให้หรูซูเข้ามาแต่เย่หวินจะขวางไว้ยังไงก็ขวางไม่ไหวระหว่างทางที่หรูซูเดินเข้ามาจากประตูและทูลพระชายา“พระชายาเจ้าค่ะพระชายาเจ้าคะขอบคุณท่านที่ช่วยบ่าว” ที่แท้จะมากล่าวขอบคุณนี่เองโล่หวินหลานนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเดิมนางมองหรูซูที่กำลังกุมสะโพกข้างนึงของงนางไว้เดินมาอย่างช้าแต่อีกใจก็อยากให้เดินถึงไวๆท่าทางแบบนี้ของนางเหมือนตุ๊กตาโจ๊กเกอร์นางพยายามกันใจไว้ไม่หัวเราะและมองไปยังหรูซู “ข้าช่วยคนไม่เคยฟังหวังว่าจะได้ยินคำขอบคุณถ้าจะมาเพื่อขอบคุณก็ไม่ต้องมา”โล่หวินหลานพูดขึ้นอย่างไม่สนใจ เย่หวินยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆกำลังดูหรูซูที่คุกเข่าอยู่กับพื้นและยื่นมือไปดึงนาง“พระชายาบอกว่าไม่เป็นไรออกไปเถอะอย่ามารบกวนท่านอีกเลย” สีหน้าที่เย็นชาของนางยิ่งทำให้หรูซูตัดสินใจจะอยู่ต่อนัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ฮึกเหิม และดึงมือของตัวเองจามือของเย่หวินอย่างรุนแรงและน้อมคำนับลงกับพื้นจนได้ยินเสียงกระแทก “พระชายาเจ้าคะขอให้พระชายาเก็บหรูซูไว้เป็นบ่าวรับเถอะเจ้าค่ะหรูซูทำได้ทุกอย่างอีกอย่างจะทำดีกว่าพี่เย่หวิน”เสียงของหรูซูมีเสียงร้องไห้ปนอยู่เบาๆ อะไรคือทำได้ดีกว่าพี่เย่หวินสายตาของเย่หวินยิ่งเย็นชามากขึ้นนางไม่นับญาติกันทำไมต้องมาเรียกพี่อีกอย่างนางไม่ได้รู้สึกอะไรที่นางทำได้ไม่ดีนางเป็นบ่าวที่ดีที่สุดของคุณท่านแล้ว” นางมีความสำคัญอะไร?เป็นแค่หญิงที่อ่อนแรงไร้กำลังขนาดตัวเองยังปกป้องไม่ได้เลยจะคอยอยู่ข้างๆรับใช้พระชายาได้ยังไง? หรูซูที่กำลังจะเอ่ยปากพูดแต่เสียงยิ้มแห้งๆของโล่หวินหลานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ดังขึ้นก่อนเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วเหมือนจะเยาะเย้ยดังขึ้นข้างหูของนาง “หรูซูเจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะข้าไม่ต้องบ่าวรับใช้เพิ่มแค่เย่หวินก็พอ”โล่หวินหลานพูดตรงๆไป เย่หวินถอนหายใจเบาๆไม่กลัวว่านางจะพูดอะไรต่ออีก ลูกตาของหรูซูหมุนไปหนึ่งรอบไม่ว่าจะยังไงนางก็จะอยู่เคียงข้างโล่หวินหลาน “พระชายาเจ้าค่ะบ่าวทำอาหารได้เจ้าค่ะไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาวพระชายาต้องชอบแน่ๆเจ้าค่ะ”หรูซูยิ้มเบาๆน้ำเสียงเต็มไปด้วยความน่าภาคภูมิใจ โล่หวินหลานได้ยินเสียงที่คล้ายกับตัวเองพูดน้ำเสียงที่เหมือนจะโอ้อวดฟังแล้วไม่คุ้นหูจริงๆ “หรูซูเอ๋ยเจ้าไปพักฟื้นก่อนเถอะเรื่องอื่นอย่างมากังวล”โล่หวินหลานทำตาหวานและนิ้วมือซ้ายของนางกำลังเคาะโต๊ะ เย่หวินรู้ว่าท่าทีแบบนี้ของโล่หวินหลานคือเริ่มจะอดทนไม่ได้แล้วตอนที่นางทนไม่ได้เหมือนโม่ฉีหมิงเด๊ะๆความอันตรายกำลังจะเกิดหรูซูยังคงร้องขอจะเป็นจะตาย “พระชายาเจ้าค่ะบ่าวรู้บ่าวเกิดมาต่ำต้อยไม่มีสิทธิ์รับใช้พระชายาแต่บ่าวหวังว่าจะให้โอกาสบ่าวสักครั้ง”หรูซูน้อมคำนับลงบนพื้นทำให้ผมยาวๆของนางพากลงบนพื้นด้วย นางไม่รู้เลยว่าการที่นางขอแบบนี้มาหลายรอบมันทำให้คนอื่นรำคาญนางขอจะเป็นจะตายอยากใช้ความน่าสงสารมาทำให้คนอื่นเห็นใจเป็นการกระทำที่โง่เขลามาก แววตาของโล่หวินหลานสื่อให้เห็นถึงความอันตรายยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดนอกประตูก็มีเสียงที่เฉยชาดังมาจากที่ไกลๆ“โอกาสไม่ได้มีไว้ขอแบบนี้เจ้าไปเป่ยย้วนไปฝึกงานฝีมือกับเค่อมามาไม่มีอะไรอย่ากลับมาที่นี่ เสียงล้อหมุนของรถเข็นดังเข้ามาเรื่อยๆโม่ฉีหมิงถอดหน้ากากออกเรียบร้อยหน้าอันหล่อเหลาของเขาเหมือนฟ้าครึ้มตอนช่วงฤดูฝนลูกตาอันเหลียวยาวของเขาดูเหมือนจะเย็นชามากจ้องมายังโล่หวินหลาน โม่ฉีหมิงหมุนล้อเข้าไปหยุดอยู่ข้างโล่หวินหลานสายตาของเขามองแต่นางเลื่อนขึ้นเลื่อนลงหรูซูที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเห็นเขาเข้ามานางได้เงียบสงบลงสายตาของนางมองไปทั่วห้องไม่รู้จะพูดอะไรดีเหมือนที่ไหนที่มีเขาอยู่ก็จะเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตื่นเต้น “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก?”สายตาของโม่ฉีหมิงจับจ้องนางไว้ ฟังน้ำเสียงของเขาแล้วหรูซูไม่กล้าพูดออกมาอย่างแน่นอนทำไมสองคนนี้เป็นคนเข้าหายากมากงั้นต่อไปนางจะเข้าใกล้โล่หวินหลานได้อย่างไร? “ไม่ไม่ไม่มีเจ้าค่ะ.......”หรูซูพูดด้วยเสียงเบากำลังคิดคำพูดต่อไปจะพูดอะไร “ไม่มีแล้วทำไมยังไม่ออกไป?”โม่ฉีหมิงตะคอกเสียงดังออกมา บ่าวที่อยู่บนพื้นหายใจแรงขึ้นเย่หวินรู้นิสัยของโม่ฉีหมิงรู้ตั้งนานแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ตอนนี้นางยินอยู่ข้างๆหรูซูสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแต่หรูซูสั่นไปทั้งตัวอดทนอดกลั้นความกลัวที่อยู่ในใจไม่แสดงออกมาและค่อยๆถอยออกไป บรรยากาศข้างในกับข้างนอกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนางหายใจเข้าลึกๆข่าวลือที่เขาเล่ากันมาไม่ผิดจริงๆหมิงอ๋องตอนโกรธน่ากลัวมากใครที่เข้าใกล้ก็จะกลัวมากแต่ทำไมตอนที่โล่หวินหลานเจอเขานางถึงไม่กลัวอะไรใดๆเลย? แววตาของหรูซูดูน่ากลัวขึ้นสายตาเย็นชาของนางมองไปยังกำแพงมือของนางที่อยู่ใต้แขนเสื้อกำแน่นยิ่งขึ้นตามอารมณ์ของนางตอนนี้ ถึงแม้ครั้งนี้จะล้มเหลวแต่ก็ทำให้นางได้เข้าใจอะไรหลายอย่างครั้งหน้าจะไม่พลาดอย่างแน่นอน ข้างในห้องเงียบสงบลงไม่น้อยโม่ฉีหมิงขยับเข้าไปใกล้โล่หวินหลานนางเอาพู่กันอันเมื่อกี้ขึ้นมาจากโต๊ะและจุ่มหมึกค่อยๆวาดรูปหงส์ลงบนกระดาษนางวาดไปเรื่อยจนวาดออกมาเป็นรูปหงส์กำลังเริงระบำอย่างสวยงาม “วันรุ่งขึ้นพวกข้าจะออกเดินทาง”โม่ฉีหมิงบอกเตือนถึง มือที่กำลังวาดรูปหยุดลงสักทีเอาพู่กันวางไว้ข้างๆหมึกที่อยู่บนกระดาษค่อยๆแห้งไป “วันรุ่งขึ้นงั้นหรือ?ทำไมถึงรีบขนาดนี้?”โล่หวินหลานไม่เข้าใจ สายตาอันเข้มของเขามองออกไปนอกหน้าต่างใบหน้าข้างๆของเขาโดนแสงอาทิตย์สอดส่องใบหน้าที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้เหมือนเป็นรูปปั้นศิลปะโล่หวินหลานจ้องเขาโดยไม่กระพริบตา “พรุ่งนี้เป็นวันดี”โม่ฉีหมิงอธิบายถึงสีหน้าไม่ได้สื่อถึงอะไรใดๆ โล่หวินหลานไม่ได้ถามอะไรอีกแค่นั่งอยู่ข้างๆและไม่ได้พูดถึงเรื่องของหรูซูนึกถึงเมื่อครู่ที่เกิดเรื่องขึ้นคาดว่านางคงไม่กล้าปรากฎตัวต่อหน้าพวกเขา รอให้โม่ฉีหมิงออกไปโล่หวินหลานมองรูปหงส์บนโต๊ะที่เมื่อครู่นางวาดแบบมั่วๆแต่ว่าหงส์พวกนี้โบยบนอยู่บนท้องฟ้าอย่างอิสระดูแล้วน่าอิจฉา นางยื่นมือจับภาพที่วาดหรือไม่ถือว่าวาดขึ้นใช้กรอบรูปใส่ภาพวาดเข้าไปเอาไปแขวนไว้ที่ผนังห้องหนังสือผนังสีขาวทีแรกมีภาพวาดเยอะแยะแขวนไว้เต็มแต่นางก็เก็บมันหมดไว้ในลิ้นชัก บนฝาผนังเก็บไว้เพียงแค่ภาพวาดรูปหงส์รูปเดียวนอกหน้าต่างมีแสงสว่างเจิดจ้าส่องเข้ามาและสอดส่องไปยังภาพวาดหงส์ที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นหงส์จริงที่โบยบินอยู่บนฟ้า เช้าวันรุ่งขึ้นแสงอาทิตย์สอดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างโล่หวินหลานแค่พลิกตัวเย่หวินเคาะประตูเข้ามาหลายทีได้ว่าข้างในไม่มีเสียงโต้ตอบใดๆนางจึงเปิดประตูยกน้ำล้างหน้าเข้ามาและปลุกโล่หวินหลานที่กำลังนอนอยู่ตื่นด้วยเสียงเบา “พระชายาตื่นได้แล้วเจ้าค่ะเดี๋ยวต้องเดินทางไปเมืองอูแล้วเจ้าค่ะ”เสียงของเย่หวินเสียงนาฬิกาปลุกที่เรียกโล่หวินหลานที่หลับไหลอยู่จนตื่น นางแค่กระตุกนิ้วบ่าวที่อยู่ข้างนอกเรียงลำดับกันเข้ามาช่วยนางเปลี่ยนชุดและแต่งตัวโล่หวินหลานรับการรับใช้ของพวกบ่าวอย่างสะลืมสะลือเดี๋ยวหมุนไปหมุนมาเดี๋ยวก็ยกขึ้นวางลง ตอนนี้นางตื่นมาจริงๆเย่หวินกำลังเสียบปิ่นหนกไว้บนผมของนางนางมองตัวเองในกระจกวันนี้แต่งตัวได้ธรรมดาและดูเรียบง่ายดูเรียบง่ายและสะอาดตาเมื่อเทียบกับปกติแต่ยังไงนางก็ชอบถ้าสามารถมัดขึ้นแล้วเปียจะดีมาก หลังจากที่นางเข้าห้องอาหารเพื่อกินมื้อเช้ากับโม่ฉีหมิงเสร็จและเดินไปที่ประตูตรงหน้าประตูมีม้ายืนนิ่งอยู่และมีรถม้าที่ใหญ่กว่าปกติจอดอยู่ข้างนอกตกแต่งได้เรียบง่ายดูธรรมดาคนปกติคงดูไม่ออกว่าเป็นรถม้าของพระตำหนักหมิงอ๋อง ครั้งนี้มีฉินหยิ่นและเย่หวินเดินทางไปด้วยคนที่ขี่ม้าก็คือเขาสองคนที่ผลักกันขี่ หลังจากพวกเขาเก็บข้าวของที่ดูเรียบง่ายขึ้นบนรถม้าและเตรียมตัวขี่ม้าออกไป “ฉีหมิงจะไปเมืองอูนานแค่ไหนหรือ?”โล่หวินหลานกระตุกม่านถามขึ้นคอนนี้กำลังออกจิงเฉิง แววตาที่อ่อนโยนของโม่ฉีหมิงมองโล่หวินหลานอยู่และพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน“หนึ่งวันโดยประมาณ” หนึ่งวันพูดอย่างถือว่าไม่ไกลออกจากที่นี่ประมาณตอนเช้าตรู่ถึงที่โน่นประมาณค่ำๆโล่หวินหลานพยักหน้าสื่อให้เห็นว่าตัวเองทนไหวคนข้างๆอย่างโม่ฉีหมิงยิ่งต้องทนไหว “พวกข้าจะใช้เส้นทางไหนดี?”โล่หวินหลานถามขึ้นอีก โม่ฉีหมิงตอบกลับด้วยความอดทน“เราเดินเส้นทางฉางหลิงซันเส้นนี้ถนนเรียบและปลอดภัยกว่า” โล่หวินหลานพยักหน้าและกระตุกม่านดูข้างนอกอีกครั้งหรือว่านี่เป็นเพราะว่าจิงเฉิงมีเรื่องวุ่นวายเลยทำให้คนสัญจรไปมาเยอะขนาดนี้รถม้าก็ต้องขี่ช้าลง ดีจริงๆที่ได้นั่งรถม้าเที่ยวไปทั่วไม่เพียงแต่ดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของสมัยก่อนและยังได้สัมผัสถึงการคมนาคมที่แตกต่างกัน รถม้าขับเคลื่อนออกจากเมืองไปอย่างช้าๆและกำลังมุ่งหน้าไปยังถนนบนเขารถม้าค่อยๆเพิ่มความเร็วโล่หวินหลานพิงรถม้าไว้ได้สัมผัสถึงความส่ายไปส่ายมาตามทางตามถนน นึกไม่ถึงเลยว่าถนนโคงเคงไปโค้งมาจะกล่อมให้คนสามารถหลับได้ผ่านไปไม่ได้โล่หวินหลานรู้สึกเริ่มเพลีย “เพลียก็หลับเลยสิ”โม่ฉีหมิงมองหน้าตาโล่หวินหลานกำลังหลับไหลไปเตือนด้วยเสียงต่ำ เสียงของเขาเหมือนมีพลังอย่างนึงโล่หวินหลานที่กำลังจะหลับแต่หลับไม่สนิทค่อยๆเข้าไปในฝันตอนที่นางกำลังสะลืมสะลือก็รู้สึกว่าเหมือนมีมือค่อยๆวางบนแก้มของนางจากนั้นแก้มของนางก็แนบลงบนแผ่นอกที่เหมือนจะแข็งแรงและหาที่ซุกหัวนอนที่ดีที่สุดจนเจอเลยค่อยๆหลับไหลไป โล่หวินหลานบิดท่าขี้เกียจลุกขึ้นจากอ้อมกอดของเขาเขาค่อยๆขยับร่างกายตัวเองนางเงยหน้าอมยิ้มให้เขา“มือของเจ้าชาแล้วใช่ไหม?” โม่ฉีหมิงจับแขนตัวเองและส่ายหัวแค่ได้ทำเพราะเจ้าไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้ เขายื่นมืออกจากปัดผมที่ยุ่งเหยิงของนางไปแนบไว้ข้างหูเสียงของเขาซึ่งถึงความโปรดปรานรักใคร่“พวกเข้าเข้าเมียงเมืองอูแล้วอีกสักพักก็ถึงที่พักแล้วเตรียมตัวลงรถ” โล่หวินหลานพึ้งสังเกตว่านอกรถม้าเป็นตลาดที่กำลังตะโกนซื้อขายของกันอย่างวุ่นวายเสียงที่ลอยไปลอยมานางรู้สึกตื่นเต้นจีนกระตุกม่านขึ้นอีกรอบเพื่อดูข้างนอกที่แท้เมื่อเทียบกับบรรยากาศในวังที่นี่เหมือนจะให้ความรู้สึกเหมือนมาถึงยุคโบราณกันจริงๆ “ตอนนี้เก็บแรงไว้ก่อนกลับไปอาบน้ำอาบท่าเสร็จวันรุ่งเช้าค่อยมาเดินเล่นตรงตลาดเมืองอู”โม่ฉีหมิงยื่นมือไปดึงม่านให้ปิดลงข้างในรถม้ามืดมัวขึ้นทันที “ดีตอนนี้ข้าหิวมากด้วยเช่นกัน”โล่หวินหลานลูบท้องตัวเอง รถม้าจอดลงทันทีเย่หวินและฉินหยิ่นอยู่ข้างนอกเปิดม่านและเอาเก้าอี้ลงข้างรถม้าเพื่อให้พวกเขาเสด็จออก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่75กล่าวขอบคุณ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A