ตอนที่ 85 พิรุธ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 85 พิรุธ
ต๭นที่ 85 พิรุธ ในจวนอ๋องเงียบมาก พวกเขาเดินกลับจวนอ๋องอย่างเงียบๆ แล้วตรงไปที่ห้องหนังสือเลย ละครในวันนี้ถือว่าดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ทำให้คนที่เป็นผู้ชมสัมผัสถึงอารมณ์ได้อย่างแท้จริง นางเองผู้น่าสงสาร ถูกคนหลอกใช้ยังไม่รู้ตัว โม่ฉีหมิงเรียกฉินหยิ่นกับเย่หวินเข้ามา โล่หวินหลานยืนอยู่ข้างๆเขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร เลยมองเขาอย่างงงๆ “ฉินหยิ่น เย่หวิน พวกเจ้าไปปล่อยข่าวในจวนให้ทั่ว ว่ารัชทายาททรงบาดเจ็บที่สนามม้า มีอันตรายถึงชีวิต ตอนนี้รักษาจวนอยู่ที่จวน” โม่ฉีหมิงพูดเรียบๆ ฉินหยิ่นกับเย่หวินไม่มีความสงสัยอะไรเลย พวกเขารับคำ แล้วก็ออกไป มีเพียงโล่หวินหลานคนเดียวที่ยืนไม่เข้าใจอยู่ข้างๆเขา รัชทายาทออกมาจากส่วยซินเก๋อ เพราะจับได้เรื่องความสัมพันธ์ของเย่เซียนหลัวกับเวินอ๋อง ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนี่นา “ฉีหมิง ทำไมต้องปล่อยข่าวแบบนี้ในจวนด้วย?” โล่หวินหลานขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าคนในจวนมีความสัมพันธ์อะไรกับรัชทายาท ทำไมต้องโกหกว่ารัชทายาทบาดเจ็บหนักด้วย? โม่ฉีหมิงมองนางแล้วยิ้ม เขาจับมือของนางแล้วลูบไปลูบมา มือของนางเรียวยาวมันสวยมาก แล้วพูดว่า “เดี๋ยวเจ้าก็รู้” ทำเป็นลึกลับ? โล่หวินหลานดึงมือของนางกลับมา หันหลังแล้วเดินไป วันนี้นางดื่มเหล้าดอกเหมยไป รู้สึกมึนหัวอยากนอนมาก ใครจะรู้ว่า เขากลับดึงนางมากอดไว้ “ทำให้ใครบางคนเผยพิรุธออกมา” โม่ฉีหมิงพูด แล้วก็กอดโอบนางเอาไว้ โล่หวินหลานเอามือจับไปที่มือของเขา ยิ้มแล้วถามว่า “ใครกัน?” “หรูซู” หัวของนางเหมือนจะระเบิด หรูซูคือคนที่นางช่วยชีวิตเอาไว้แล้วให้เข้าจวนมา ตอนนั้นเพราะสงสารเห็นว่านางไม่มีที่ไป นางทำงานดีมาตลอด แต่หลายวันก่อนถูกโม่ฉีหมิงไล่ไปห้องซักล้าง นางถึงได้รู้สึกว่าคนๆนี้มีปัญหา ตอนนี้รัชทายาทกับเวินอ๋องมีปัญหากัน สิ่งแรกที่เขาทำคือการสืบหาหนอนบ่อนไส้ หากหรูซูคือหนึ่งในคนที่พวกเขาส่งมาจริง ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร? นางจิกนิ้ว ผ้าเช็ดหน้าในมือขาดเป็นรู หรูซูคนนั้นนอกจากเสียงจะคล้ายนางแล้ว อย่างอื่นก็ไม่เห็นมีอะไร ที่ให้นางเข้ามาในจวนหมิงอ๋องหรือเพื่อให้คนในจวนฟังแล้วสับสน? หากเป็นหรูซูจริง ถ้างั้นเขาจะทำอะไรกับนางล่ะ? หลังจากนั้นในจวนก็ถูกประโคมข่าวขึ้นมา ทุกคนต่างพูดกันว่ารัชทายาทป่วยหนัก ตอนนี้กำลังตามหมอไปรักษา หมอพวกนั้นก็จนปัญญา แม้แต่เย่ฮ่องเฮาก็ออกจากวังหลวงมาเยี่ยมเขา หลังจากที่โล่หวินหลานกลับไปถึงห้องแล้ว นางคิดว่าจะพักงีบสักประเดี๋ยว แต่ใครจะคิด เข้าห้องไปได้ไม่นาน ก็มีคนมาเคาะประตูห้อง นางถามว่าใคร เสียงของหรูซูก็ดังขึ้น “พระชายา หรูซูเอาเสื้อผ้ามาส่งให้ท่าน” หรูซูพูด อยากจะเจอหน้า วิธีการไหนก็ใช้ได้หมด โล่หวินหลานถึงแม้จะไม่ค่อยสนใจเรื่องในจวนเท่าไหร่ แต่ว่าปกติแล้วเสื้อผ้าของนางเสี่ยวเต๋เป็นคนส่งมาให้ แต่ทำไมพอรัชทายาทเกิดเรื่อง ถึงได้เปลี่ยนมาเป็นหรูซูล่ะ? นางแอบคิดในใจ แต่ก็ยังปล่อยให้นางเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นนางถือเสื้อผ้าเข้ามาในห้อง ก็ถามไปว่า “ปกติเสี่ยวเต๋เป็นคนเอาเสื้อผ้ามาส่งให้ข้านี่นา? ทำไมวันนี้ถึงเป็นเจ้าได้ล่ะ?” หรูซูเองก็ตอบได้อย่างฉะฉาน เหมือนเตรียมตัวมาแล้วอย่างดี “เสี่ยวเต๋วันนี้ไม่ค่อยสบาย ซิ้วมามาก็เลยให้ข้าเอาเสื้อผ้ามาส่งแทน” นางพูดไป พรางพับเสื้อผ้าใส่ตู้ให้ก โล่หวินหลานเห็นนางทำงานกระฉันกระเฉง ก็เลยพูดขึ้นมาว่า “เก็บเสร็จแล้ว ก็ออกไปได้” นางก็อยากจะรู้ว่าหรูซูจะทนได้อีกเท่าไหร่ ครั้งนี้ที่มาก็เพราะอยากจะได้ยินความจริงจากปากของนางเท่านั้นแหละ หรูซูปิดตู้เบาๆ แล้วเดินมาที่ข้างๆโล่หวินหลาน แล้วพูดกับนางเบาๆว่า “พระชายา ช่วงนี้สาวใช้ในจวนคุยกันว่ารัชทายาทบาดเจ็บหนัก สาวใช้ในห้องซักล้างไม่ทำงานทำการกันเลย เอาแต่พูดเรื่องรัชทายาท พระชายาคิดว่ารัชทายาทเขาเป็นอะไรไปหรอ?” ในที่สุดก็ถามออกมาสักที โล่หวินหลานคิดว่านางจะไม่กล้าถามซะอีก อุตส่าห์หาเรื่องมาส่งเสื้อผ้าถึงที่นี่แล้ว ก็เลยอยากมาสืบเรื่องรัชทายาท นางเองก็ฉลาดไม่เบา โล่หวินหลานมองไปที่นางแล้วพูดว่า “พวกสาวใช้ก็ปากมากไปอย่างนั้นแหละ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น เรื่องรัชทายาทก็ให้คุยไปเถอะ เพียงแต่ว่ารัชทายาทก็น่าสงสารจริงๆ อายุแค่นี้ก็ .......” ประโยคด้านหลัง นางไม่ได้พูดอะไรต่อ นางรีบจับมือของนางเอาไว้ แล้วถามอย่างร้อนรนว่า “รัชทายาทเป็นอะไรไป?” โล่หวินหลานมองไปที่มือที่จับแขนนางไว้ หรูซูจับชายเสื้อของนางไว้แน่น มือของนางทั้งหยาบทั้งแดง มันเป็นผลจากการทำงานในห้องซักล้าง สายตาของนางนิ่งไป “เจ้าตื่นเต้นทำไมกัน?” หรูซูถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองออกนอกหน้ามากเกินไป ก็เลยค่อยๆปล่อยมือออกจากชายเสื้อ แล้วพูดว่า “มันเกี่ยวข้องกับเรื่องในราชสำนักไม่ใช่หรอ? รัชทายาทก็เป็นรัชทายาท หากเขาเกิดเป็นอะไรไปน่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาได้ ข้าน้อยก็เลยถามดู” เมื่อฟังนางอธิบาย โล่หวินหลานก็พยักหน้า แล้วก็เล่าเรื่องให้นางฟัง “รัชทายาทไม่เป็นอะไรหรอก เขาตามฝ่าบาทไปแข่งม้า พอขึ้นเนินเขาตกม้า ทำให้ตกเขาลงมา ยังดีที่ยังช่วยเอาไว้ได้ทัน แต่คิดว่าน่าจะต้องนอนพักอยู่ที่จวนอีกสักสิบวันถึงครึ่งเดือน” พูดจบ หรูซูก็ถอยหลังไปสองก้าวไปชนกับโต๊ะที่อยู่ด้านหลัง นางเหมือนสติหลุดไป เมื่อกี้ใบหน้าของนางยังมีเลือดฝาด แต่ตอนนี้กลับซีดเซียว มีเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด เห็นปฏิกิริยาของนาง โล่หวินหลานก็ยิ้ม นางมั่นใจแล้วว่าหรูซูเป็นคนของรัชทายาท นางไม่เพียงเป็นคนของรัชทายาท แต่นางยังแอบชอบรัชทายาทด้วย วันนี้ถือว่าเรื่องแดงขึ้นมาแล้ว โล่หวินหลานยังคงยิ้มอยู่ นางมองไปที่หรูซู แต่ไม่พูดอะไร นานพอควร นางถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองสติหลุดไป จากนั้นนางก็ขอตัวออกไป ที่แท้หรูซูก็เป็นคนที่รัชทายาทส่งมา แล้วรัชทายาทส่งคนมาเพื่ออะไร? ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ดาวเริ่มปรากฏออกมา มันเหมือนดวงตาที่เปล่งประกายเต็มท้องฟ้าเลย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจวนมีประตูหลังอยู่บานหนึ่ง ทางตรงนั้นมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด แต่หากคลำดีดีก็จะเจอกุญแจ เพราะไม่ได้มีใครมาที่นี่นานแล้ว ตัวล็อคมันเลยมีแต่สนิม เปิดยากมาก แสงจันทร์ส่องมาที่ประตู ร่างกายที่ผอมส่องมาที่ประตู นางมองซ้ายมองขวา เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใคร ถึงได้เหยียบกลอนประตูนั่นแล้วปีนออกไป ตอนนี้นางเหมือนกระต่ายตัวหนึ่ง กระโดดง่ายๆก็ออกไปได้แล้ว แต่ว่าหลังจากที่นางปีนออกไปแล้ว ไม่ไกลจากหญ้าทึบนั่น ก็มีเงาของคนๆหนึ่งที่รูปร่างสูงใหญ่ ยืนอยู่ ใบหน้าของเขาไม่ชัดแต่ด้านหลังของเขามีดาบเล่มหนึ่ง เขากระโดดข้ามกองหญ้า แล้วเข้ามาในจวน ตรงไปที่ห้องหนังสือ “ท่านอ๋อง นางออกไปแล้ว” ฉินหยิ่นเปิดประตูเข้ามา แล้วรายงานให้โม่ฉีหมิงรู้ สีหน้าของโม่ฉีหมิงลึกลับมาก เขาพูดนิ่งๆว่า “ดี ส่งคนตามนางไป ข้าอยากรู้ว่าคืนนี้นางจะไปทำอะไรอีก” “ทราบแล้ว” ฉินหยิ่นรับคำแล้วก็ออกจากห้องหนังสือ เมื่อได้ยินข่าวลือในจวน หรูซูไม่สบายใจ เหมือนใจของนางจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นางจะต้องออกไปเยี่ยมรัชทายาทแน่ คราวนี้ก็จะได้ใช้เรื่องนี้มาแลกเปลี่ยนได้ เขามองไปที่แก้วที่อยู่บนโต๊ะ มือทั้งสองจับขวดเอาไว้ หมุนไปหมุนมา ฟ้ามืดแล้ว แสงจันทร์ส่องสว่างเข้ามาในห้อง ในห้องที่เงียบสงัดมีเพียงผ้าม่านที่หน้าเตียงนอนที่ขยับอยู่ โล่หวินหลานนอนพลิกไปพลิกมา มีหลายเรื่องที่ทำให้นางนอนไม่หลับ นางลุกขึ้นนั่ง ทันใดนั้นเองก็มีมือๆหนึ่งอุดปากนางไว้ ชายคนหนึ่งบุกเข้ามาบนเตียงของนางตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า กลิ่นเหล้าโชยเข้าจมูกของนาง มือของเขาปิดปากและจมูกของนางเอาไว้ แล้วกดนางลงบนเตียง ไม่ให้นางได้ขยับ โล่หวินหลานพยายามลุกขึ้นมา กลางคืนแบบนี้ จู่ๆมีคนบุกเข้ามาบนเตียงของนาง อุดปากของนางเอาไว้ มันน่ากลัวมาก ไม่มีทางหนี ไม่มีใครรับรู้ถึงความรู้สึกแบบนี้ได้ “ข้าจะปล่อยมือเดี๋ยวนี้ ขอแค่เจ้าอย่าส่งเสียงก็พอ” เสียงของเขาดังเข้าหูของนาง เสียงนี้ถึงมันจะแหบเบา แต่นางก็จำได้ว่าเป็นเสียงของใคร โล่หวินหลานพยักหน้า มือของเขาค่อยผ่อนออก นางรู้สึกหายใจคล่องขึ้น นางหายใจออกมาแรงมาก คนข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วยนะ หวินหลาน” โล่หวินหลานยกมือบอกไม่เป็นไร หลังจากนั้นก็ถอยหลังไป เพื่อเว้นระยะออกจากเขา เดิมนางคิดจะร้องตะโก แต่เห็นเขาไม่ได้คิดจะทำอะไร ก็เลยนิ่งไว้ พยายามมีสติให้มากที่สุด “รัชทายาท ท่านรู้หรือเปล่าว่าดึกขนาดนี้แล้วท่านบุกเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของผู้หญิงท่านจะถูกคนทั่วแผ่นดินต่อว่าได้ อีกทั้งท่านเป็นถึงรัชทายาทของแผ่นดินนี้ น่าจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร” โล่หวินหลานพูดและเตือนเขา รัชทายาทยังพอมีสสติอยู่บ้าง เขายิ้มฝืน เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ปีนกำแพงเข้ามาที่จวนหมิงอ๋อง แล้วแอบเข้ามาในห้องนอนของโล่หวินหลานได้ เขารู้ว่าทำอย่างนี้มันไม่ถูก แต่ว่าเขาแค่มาตามที่หัวใจของเขาสั่ง ตั้งแต่เขาออกมาจากส่วยซินเก๋อ ในสมองของเขาก็สับสน เขาไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ยังไง เขาเดินโซซัดโซเซไปยังร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แล้วดื่มมันเพื่อระงับความสับสนนั้น แต่พอเดินถือขวดเหล้าตามถนนมา ไปไปมามาก็เดินมาถึงหลังประตูจวนหมิงอ๋อง เขาก็เลยปีนกำแพงเข้ามาทางด้านหลังของจวน ทุกคนหักหลังเขาหมด เขาไม่สามารถครอบครองคนที่เขารักได้ ทำไมคนอื่นถึงได้เจอคนที่ตัวเองรัก มีแต่เขาที่ไม่มี? เขาไม่พอใจ เขาแค่อยากพบหน้าโล่หวินหลานสักครั้ง สักครั้งก็พอ
已经是最新一章了
加载中