ตอนที่96ปล่อยข้าไป
1/
ตอนที่96ปล่อยข้าไป
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่96ปล่อยข้าไป
ตนที่96ปล่อยข้าไป ค่ำคืนบริเวณโดยรอบมืดไปหมดมีเพียงท้องฟ้าที่ยังคงมีดวงดาวระยิบระยับประดับประดาอยู่บนท้องฟ้าจุดเป็นแต้มๆเป็นดวงๆโคมไฟบริเวณในสวนก็ยังคงส่องแสงให้ความสว่างบริเวณโดยรอบ มีร่างสตรีนางหนึ่งสวมชุดสีชมพูอ่อนเดินลับๆล่อๆไปมาหน้าห้องหอหลบอยู่ใต้ต้นไม้อำพรางด้วยใบไม้บังหน้าของตัวเองค่อยๆแอบขยับไปที่หน้าห้อง แต่ว่าร่างนั้นยังไม่ทันถึงด้านข้างหน้าต่างคอเสื้อก็ถูกจับดึงขึ้นลากไปทางหลังต้นไม้อีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว “อ้ากกก!ปล่อยข้านะ!”หรูซูร้องไห้เสียงหลงทำลายความเงียบของบรรยากาศยามค่ำคืน ด้านหลังมีเพียงเสียงหัวเราะชั่วร้ายปล่อมือจากคอเสื้อของนาง“เจ้ามาทำอะไรลับๆล่อๆตรงนี้?” หรูซูหันหลังกลับไปก็เห็นร่างของเย่หวินข้างกายนางมีฉินหยิ่นยืนอยู่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ นางคิดว่าคืนนี้ไม่มีผู้คนอีกทั้งยังเป็นวันเข้าหอของท่านอ๋องและพระชายาถึงได้แอบมาหน้าห้องหออยากอาศัยช่วงเวลานี้สร้างสถานการณ์ให้วุ่นวายใครจะไปรู้ว่ายังไม่ทันลงมือก็ถูกฉินหยิ่นและเย่หวินจับได้เสียก่อน “แม่นางเย่หวินข้าแค่รับคำสั่งจากซิ้วมามาให้มาเก็บเจ้าเจ๋าที่สวนเจ้าเจ๋าวในห้องซักล้างไม่พอใช้คิดไม่ถึงว่าจะมาเห็นพวกท่านที่นี่”หรูซูยิ้มแหยๆไปทางเย่หวินที่มีสีหน้าบึ้งตึง ฉินหยิ่นที่อยู่ข้างหลังไม่ได้พูดอะไรแต่ไม่เหมือนกับเย่หวินเดิมทีแล้วนางก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับรัชทายาทเท่าใดนักมาตอนนี้รัชทายาทยังให้คนมาสอดแนมในจวนอีกแล้วท่านอ๋องยังมีท่าทางยอมรับอีกนางต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา เดิมทีใบหน้าก็ไม่มีรอยยิ้มอยู่แล้วพอโกรธขึ้นมาคิ้วทั้งสองข้างแทบขมวดชิดรวมกันดวงตาทั้งสองต่างลุกด้วยไฟโทสะได้แต่เค้นคอหรูซู“โกหกหน้าตาย?กลางค่ำกลางคืนดึกๆดื่นๆขนาดนี้ทุกคนเขานอนกันหมดแล้วเจ้ามาเก็บเจ้าเจ๋าอะไรที่นี่?อีกอย่างบริเวณนี้ก็ไม่เจ้าเจ๋าให้เจ้าเก็บด้วย!” หรูซูไม่รู้จะตอบยังไงมองไปทางฉินหยิ่นด้วยสายตาน่าสงสารหวังว่าเขาจะช่วยนางพูดแต่เขาก็มองหน้านางด้วยความเย็นชาเหมือนกันนางทำได้แค่ยิ้มแหย“พี่เย่หวินโมโหโกรธอย่างนี้หน้าจะมีรอยตีนกานะพี่ก็ไม่อยากมีตีนกาใช่ไหม?” พอนางพูดออกไปเย่หวินยังไม่ทันพูดอะไรฉินหยิ่นที่อยู่ข้างก็หลุด“พรืด”ขำออกมาอย่างอดไม่อยู่สาวน้อยคนนี้พอพูดจาออกมาก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยคิดถึงเย่หวินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยตีนกาก็ยังคงคิดไม่ออกอยู่ดี พอเห็นหน้าฉินหยิ่นที่ยืนกลั้นขำอยู่เย่หวินก็รู้สึกโกรธขึ้นมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นดังลอดออกมา“คำพูดคำจาตรรกะไม่ได้เรื่องอย่างนี้เจ้าเอามาจากไหน?รีบกลับไปห้องซักล้างของเจ้าซะ!” “ก็ได้พี่เย่หวินถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวกลับก่อน”หรือจะเพราะวิธีนี้ใช้ได้ผลหรูซูเร่งรีบวิ่งเหยาะๆมือแกว่งไปตามแรงวิ่งกลับไปห้องซักล้าง เย่หวินกับฉินหยิ่นที่ยังอยู่ในท่ามกลางความมืดของยามค่ำคืนมองร่างบางของหรูซูค่อยๆวิ่งจากไปคิดไม่ออกจริงๆว่าเหตุใดทั้งๆที่รู้ว่าหรูซูคือคนที่รัชทายาทสั่งให้มาสอดแนมยังจะเก็บนางไว้ในจวนอีก? “เมื่อกี้เจ้าหัวเราะอะไร?”เย่หวินหันหลังไปมองฉินหยิ่นด้วยสายตาอาฆาต “ท่านอ๋องหวินหลายวันก่อนข้าไปจัดการเรื่องให้ท่านอ๋องข้าเห็นกำไลที่เหมาะกับเจ้าด้วยแหละก็เลยซื้อติดมือมาด้วยเจ้าดูสิว่าชอบไหม”ฉินหยิ่นเปลี่ยนเรื่องคุยหยิบกำไลหยกออกมาจากในอกเสื้อ พอเห็นกำไลหยกชิ้นนี้เย่หวินก็หน้าแดงขึ้นมาทันทีมืออุ่นของฉินหยิ่นจับข้อมืออันเย็นเฉียบของนางแต่นางก็ชัดมือกลับอย่างรวดเร็วใบหน้ามีความเขินอายให้เห็น“ใครบอกว่ารับกำไลของเจ้ากัน!” “อ๋อถ้าเจ้าไม่เอาข้าโยนทิ้งนะ”ฉินหยิ่นสีหน้ารู้สึกผิดหวังแปลสิ่งที่เย่หวินพูดไม่ออกทำท่าจะโยนกำไลทิ้งแต่มือที่ค้างอยู่ก็ถูกเย่หวินห้ามไว้ “เห้อใครบอกว่าข้าไม่เอาสวยดีออกเหมาะกับข้าดี”พูดพลางมือก็เอื้อมไปหยิบกำไลจากมือฉินหยิ่นเอื้อมไปที่มือของเขา รุ่งเช้าตรู่อีกวันท้องฟ้าสว่างขึ้นมานิดหน่อยโล่หวินหลานถูกแสงแรกยามเช้าส่องเข้ามาในห้องจนทำให้ตื่นนางค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆสายตาง่วงงุนงงพึ่งลืมขึ้นสายตาก็หันไปเห็นอกกว้างที่มีรอยขีดข่วนนับไม่ถ้วนพอค่อยๆมองลงไป นี่.......นี่คงไม่ใช่ฝีมือนางใช่ไหม! โล่หวินหลานแทบอยากจะหารูมุดไปที่ไหนสักที่อยากเงยหน้ามองโม่ฉีหมิงตื่นรึยังเขากลับเท้าคางอยู่มองท่าทางนางที่สีหน้าเปลี่ยนไปหลายแบบอย่างชอบใจ ”ทำไมมีอะไรน่าตกใจรึไงนี่เป็นฝีมือเจ้าทั้งหมดลืมแล้วหรอ?”ริมฝีปากบางเฉียบของโม่ฉีหมิงยกขึ้นบนริมฝีปากยังคงมีรอยช้ำแดงเป็นจ้ำๆให้เห็นอยู่ยิ่งดูยิ่งเย้ายวนใจ หน้าของโล่หวินหลานยิ่งอยู่ยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆไม่รู้ว่าควรตอบยังไงดีรีบมุดลงใต้ผ้าห่มให้กริยาท่าทางยืนยันว่านางยังคงจำเรื่องคืนเมื่อวานได้อย่างชัดเจนแค่เพียงนางรู้สึกอายเท่านั้น ท่าทางเขินอายแบบนี้ของโล่หวินหลานเขาพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกไม่แกล้งให้หนำใจยังไงไหว? “หวินหลานเอ้นหวินหลานเจ้าจะเบี้ยวไม่รับผิดชอบไม่ได้นะโดนเจ้ากัดจนช้ำไปทั้งตัวเจ้ายังกัดไม่ยอมปล่อยอีกยังจะให้ข้าร้องครางว่าข้าเป็นคนของเจ้าอีกห้ามแต่งงานกับใครอีกเจ้าว่าข้าแต่งกับฮูหยินที่ดุขนาดนี้ข้าจะไปกล้าแต่งงานกับใครคนอื่นอีกได้อย่างไร?”เสียงแหบพร่าซาบซ่านของโม่ฉีหมิงทะลุผ่านลอดเข้าหูโล่หวินหลานกังวานและยืดยาว ประโยคนี้ทำให้โล่หวินหลานมุดออกมาจากผ้าห่มผมของนางกระเซอะกระเซิงไปหมดหน้ารูปไข่เรียวเล็กแดงกร่ำดวงตากลมโตเบิกโพรงมองโม่ฉีหมิง“ใครบอกล่ะทั้งๆที่เจ้าเป็นคนกัดข้าไม่ปล่อยต่างหากเจ้ามันคนหน้าไม่อาย!” นางเกาะอยู่บนอกกว้างของเขาโม่ฉีหมิงถูกนางพูดจนทำตัวไม่ถูกค่อยๆบิดจมูกของนางเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว“ดีคนๆนั้นเป็นข้าเองมาวันนี้เจ้าเป็นคนของข้าอย่างสมบูรณ์แบบแล้ววันหน้าวันหลังเกิดเรื่องอะไรขึ้นห้ามปกปิดซึ่งกันและกันห้ามจากกันไปไหนพวกเราต้องเชื่อใจกันประคับประคองความรักของเราได้ไหม?” “ได้หวังว่าพวกเราจะทำอย่างที่พูดได้”โล่หวินหลานพยักหน้าอย่างเชื่อมั่น มันไม่ง่ายเลยจะหาครอบครัวที่มั่นคงนางจะไม่ยอมให้บ้านหลังนี้แตกหักเด็ดขาดนางจะอยู่กับคนที่นางรัก คบเพลิงในสวนมอดดับไปประมาณหนึ่งแล้วผ่านค่ำคืนอันแสนหวานคบเพลิงต่างมอดดับกันแล้วเหลือเพียงแค่น้ำตาเทียนที่ยังคงเหลืออยู่ไม่กี่แท่ง สาวใช้รีบเร่งช่วยกันเก็บทำความสะอาดร่องรอยของค่ำคืนวานจนสะอาดข้าวของทั้งหมดทุกเก็บอย่างหมดเกลี้ยงจวนหมิงอ๋องเงียบสงบดั่งธารน้ำเหมือนกับเมื่อคืนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จโล่หวินหลานช่วยโม่ฉีหมิงทำกายภาพบำบัดแล้วดูการเดินทรงตัวหลายวันมานี้เหมือนกับว่านางไม่ค่อยได้มาดูแลจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนางหาเวลาว่างไม่ได้คิดไม่ถึงว่าจะกายภาพและฝึกการเดินทรงตัวได้ดีกว่าที่นางคาดไว้อีก นางคิดมาตลอดว่าภาพโม่ฉีหมิงไม่ต้องพึ่งไม้ค้ำพยุงและทิ้งมันไปจะเป็นอย่างไรแต่ว่านี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตนางไม่คิดให้มากความ “เวลาเดินเท้ายังปวดอยู่ไหม?”โล่หวินหลานคอยสังเกตดูท่าทางการเดินของโม่ฉีหมิงดูผิวเผินเหมือนคนปกติแต่ภาพรวมยังมีบางส่วนของเท้ายังทำงานได้ไม่ดีนัก โม่ฉีหมิงที่คอยจับราวพยุงช่วยเดินได้หยุดลงยิ้มอย่างดีใจพูดขึ้น“ทุกก้าวที่ข้าเดินรู้สึกว่าข้อเท้ามันแปลกๆเหมือนว่าโดนหินหลายกิโลทับอยู่ทำให้ทั้งเท้าลากไปกับพื้นขัดขวางการเดินมักจะเดินได้ช้าลงในยามคับขัน” นางรู้ดีเกี่ยวกับอาการที่เขาเป็นอยู่ตอนที่เชื่อมต่อปลายเส้นประสาททั้งสองสองเส้นที่ขาดจากกันใช้ด้ายไส้แกะไม่ได้ทำให้เส้นเอ็นตรงข้อเท้าเชื่อต่อกันอย่างสนิทหลังจากนี้ทุกครั้งที่เดินทำได้มากสุดคือเดินได้เหมือนคนปกติอยากจะวิ่งหรือเดินเร็วคงทำไม่ได้แล้ว “ไม่เป็นไรเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องปกติขอแค่อดทนกายภาพหัดเดิดทุกวันอยากจะเดินได้เป็นปกติไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน”โล่หวินหลานพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมทำให้เขามีแรงกายแรงใจเพิ่มขึ้น โม่ฉีหมิงไม่รู้สึกสงสัยอะไรในความสามารถของนางเลยความเปลี่ยนแปลงในหลายเดือนที่ผ่านมาเขาเห็นสัมผัสและเห็นด้วยตาของตัวเองขาของเขาให้ดีเยอะแล้วเขาเข้าใจมันอย่างดีส่งยิ้มให้โล่หวินหลานวางใจไปหนึ่งครั้งแล้วจึงหัดเดินต่อ เขาค่อยๆก้าวทีละก้าวอย่างมั่นคงสายตาของโล่หวินหลานเต็มไปด้วยความปลื้มปิติยินดีมองเห็นนางค่อยๆก้าวอย่างมั่นคงนัยน์ตาเต็มไปด้วยเขา “ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปท่านอ๋องต้องเดินได้ด้วยตัวเองอีกครั้งได้แต่ๆ!”สวินโม่รีบเร่งเข้ามาจากประตูด้วยความรีบร้อนมองเห็นโม่ฉีหมิงเดินได้อย่างมั่นคงใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตกใจ โม่ฉีหมิงไม่พูดให้มากความใช้เวลาในการหัดเดินหนึ่งก้านธูปใช้ผ้าขนหนูในการซับหน้าหยิบไม้ค้ำที่อยู่ด้านข้างเดินออกไปข้างนอก สวินโม่รีบตามออกไปขณะกำลังจะเดินผ่านโล่หวิหลานสองข้างตาหรี่ลงเล็กน้อยเหมือนกำลังคำนวณคาดการณ์บางอย่าง แตกต่าง?จะมีอะไรแตกต่างโล่หวินหลานพูดตามปกติ“มีอะไรแตกต่าง?” สวินโม่ลูบคางเบาๆ“เหมือนจะมีรัศมีบางอย่างแปลกออกไป” คำตอบนี้โล่หวินหลานพอใจมากเลยทีเดียวแตะหน้าตัวเองเบาๆแล้วก็ฮัมเพลงเดินออกจากห้องไป สวินโม่เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ในใจตอนเข้ามาในจวนเมื่อครู่มองเห็นกองขยะผลมากรากไม้และเศษซากเทียนแดงยังมีพวกประทัดพลุไฟอีกเมื่อวานมีเทศกาลอะไรเขาจะไม่แปลกใจเลยแต่เมื่อวานไม่ใช่เทศกาลอะไรความเป็นไปได้มากที่สุดคือท่านอ๋องกับพระชายาจัดพิธีแต่งงานกัน ถึงทั้งสองจะแต่งงานกันนานแล้วถึงอย่างนั้นมันก็เป็นคาพิธีที่สำนักราชวงศ์จัดกันขึ้นพวกเขาแทบจะไม่มีความรู่สึกอะไรต่อกันเลยแม้แต่น้อยแต่มาตอนนี้ทั้งสองแต่งด้วยความรักที่มีให้กันจริงๆ พอเข้ามาในห้องหนังสือโม่ฉีหมิงถึงยื่นมือไปบีบนวดขาตัวเองเบาๆทุกกริยาท่าทางล้วนอยู่ในสายตาสวิสโม่ทั้งหมดสวินโม่รู้สึกตกใจเล็กน้อย“ท่านอ๋องท่านปวดขาหรือ?” “ไม่มีอะไรหรอก”โม่ฉีหมิงตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย สวินโม่รู้นิสัยโม่ฉีหมิงดีไม่ได้พูดอะไรต่อพอนั่งที่เก้าอีกเสร็จจึงพูดต่อ“ท่านอ๋องสองวันมานี้ตะกูเย้ยางวาวายกลหนมากเย้ฮองเฮ่าเป็นคนแรกที่รู้ว่าคุณหนูสามตระกูลเย้มีใจให้กับคนของเวินอ๋องเป็นลมล้มพับไปเลยในตอนนั้นหลังจากนั้นตระกูลทั้งหมดก็รู้เรื่องพลางเข้าวังไปพบเย้ฮองเฮ่าพวกเราน่าจะวางแผนอะไรกันได้แล้ว” เรื่องมันเกิดขึ้นแบบนี้แล้วให้เวินอ๋องแต่งกับเย้เซียวโหลก็ไม่ใช้เรื่องที่ไม่ดีแต่เขาไม่คิดว่าพอแต่งกับเย้เซียวโหลแล้วจะใช้ชีวิตอย่างสงบ “ข้ารู้แล้วเจ้าไปสังเกตการณ์ทุกความเคลื่อนไหวของตระกูลเย้”โม่ฉีหมิงพูดขึ้นอย่างเรียบๆคิ้วเลิกขึ้นมาเหมือนจะคาดการณ์เรื่องทั้งหมดไว้แล้ว สวิตโม่รับคำสั่งแล้วจึงรีบถอยออกมาทันที ท่านอ๋องไม่ได้สั่งให้เขาอาศัยช่วงสุ่นวายในการลงมือแต่ความหมายคือท่านอ๋องไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นถึงอย่างไรก็ต้องต้องจับงูมาตีให้ตายอยู่แล้วไม่ได้ใช้โอกาสคว้าผลประโยชน์ไว้แต่มาวันนี้กลับไม่ลงมืออะไรกับคนตระกูลเย้? สวิตโม่พึ่งมารู้วันนี้ว่าไม่ได้เข้าใจเขาหมดทุกเรื่อง โม่ฉีหมิงที่อยู่ด้านหลังจับพู่กันหยกด้ามหนึ่งขึ้นมาหยิบเล่นอยู่ในมือนัยน์ตาลึกเหมือนเก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่96ปล่อยข้าไป
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A