ตอนที่97ราวกับ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่97ราวกับ
ต๭นที่97ราวกับ พอออกจากห้องหนังสือสวนด้านนอกเงียบสงบที่นี่ดูเหมือนจะเงียบสงบแต่ความจริงแล้วถูกห้อมล้อมไปด้วยหน่วยสอดแนมเต็มบริเวณโดยรอบ สวินโม่รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเดินเล่นอยู่บางเฉลียงทอดยาวไปมาอย่างไร้จุดหมายกำลังจะเดินไปเลี้ยวตรงมุมก็ชนเข้ากับร่างบางที่สวมขุดสีฟ้าอ่อนเข้าอย่างแรงกับอกของเขาตัวเองไม่ถอยสักก้าวแต่คนที่ชนตัวเองกลับถอยหลังไปหลายก้าวในมือถือกะละมังไม้ตรงลงพื้น “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”สวินโม่จ้องมองร่างเล็กดูคนที่ชนเขาคือสาวใช้ในจวน ดูของที่กระเด็นไปไกลหยิบผ้าที่กระจัดกระจายตามพื้นเก็บใส่กะละมังไม้ดังเดิมหรูซูรู้สึกโมโหเสื้อผ้าพวกนี้นางใช้เวลาหลายวันในการซักต้องมาตกพื้นเพราะสวินโม่ หรูซูรีบคำนวณประเมินผลในสมองว่าคนเบื้อหน้าของหน้าคือใครสุดท้ายก็ปัดมือเขาทิ้งแล้วจิงค่อยๆลุกขึ้นเอง “ข้าไม่เป็นไรเป็นข้าเองที่ชนคุณชายสวินคุณชายสวิรได้โปรดอภัย”หรูซูก้มหน้ามองพื้นไม่มีเวลามาดูเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นพูดขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ พอได้ยินนางพูดอย่างนี้สวินโม่กลับยิ้มขึ้นอย่างอบอุ่นและไม่ได้โกรธที่ถูกนางหลบมือถามขึ้นอย่างสบายๆ“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าคือคุณชายสวิน” หรูซูคิดคำตอบอยู่ในหัวอยู่พักหนึ่งจึงพูดขึ้น“คุณชายสวินชื่อเสียงโด่งดังอีกทั้งยังอยู่โฉมหล่อเหลาและแกอย่างมีแต่ท่านที่เข้าออกจวนหมิงอ๋องได้อย่างอิสระข้ามักจะได้ยินชื่อเสียงของท่านเสมอถึงแม้ข้าจะจะได้ยินเพียงเสียงก็สามารถรู้ได้ว่าคือคุณชายสวิน” ประโยคที่นางคุยโม้ก็ยังถือว่าใช้ได้ผลอยู่บ้างสวินโม่พยายามอยากดูหน้านางชัดๆแต่ยิ่งมองนางยิ่งก้มหน้าต่ำ “เงยหน้าขึ้นมาสิ”สวินโม่มองหน้าเคร่งขรึมขึ้น พอรู้ว่าหลบไม่พ้นเขายังจะลงโทษตัวเองอีกหรอ? จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆใบหน้าเล็กนั้นดวงตาสวยของนางถูกตราตรึงในใจของสวินโม่ความทรงจำวันวานไหลย้อนกลับมาซ้อนทับกันขึ้นมาสีหน้าเขาเปลี่ยนกะทันหันตาสองชั้นเรียวคมสวยจ้องมองนางนัยน์มีประกายขึ้นมาดั่งแสงจากดวงดาว “อะหึม......”สวินโม่เม้มริมฝีปากแน่นสบาทออกมาอย่างลืมตัวหลับตาลงมือแตะหน้าผาก “เป็นอะไร?”หรูซูถามอย่างสงสัย ดูเหมือนเขาจะอึ้งไปเลยประโยคของหรูซูดึงมาลงเขากลับมา “หนึ่งอย่ารีบวิ่งไปไหนมาไหนเงียบๆหน่อย”สวินโม่ควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไว้ เมื่อครู่เขาเกือบหลุดพูดชื่อคนๆหนึ่งออกมาชื่อที่เขาเก็บซ่อนไว้มานานนับสิบปีโลกใบนี้ยังมีคนที่หน้าคล้ายกันถึงสองคนเลยหรือไม่ใช่ว่าสวรรค์ส่งนางกลับคืนให้เขาอย่างนั้นหรือ?หรือสวรรค์จะสงสารเขาที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานไม่อยากจะทรมานเขาอีกต่อไป? จังหวะการก้าวเท้าของสวินโม่ไม่เหมือนเดิมขณะที่กำลังจะเดินผ่านหรูซูเขาก็ถามขึ้น“เจ้าช่อหรูซูใช่ไหม?” หรูซูรู้สึกแปลกใจยืนอึ้งงงๆแล้วจึงพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเขารู้สึกอยากเดินหนีไปให้พ้นๆ หรูซูเห็นร่างของเขาเดินจากไปรู้สึกงงงวยเล็กน้อยพอหมุนตัวกลับก็เหมือนกับจะลืมเรื่องเมื่อครู่ไปอย่างสิ้นเชิงเพราะว่าบนพื้นยังมีของที่นางต้องใส่อยู่ พอเก็บเสื้อผ้าที่ตกตามพื้นอย่างขะมักเขม้นทั้งสองมือก็หยิบเม็ดดินเม็ดทรายที่ติดตามเสื้อผ้าออกนางยื่นมือปัดๆมือกำเสื้อผ้าแน่น ช่วยไม่ได้ได้แต่อุ้มกะละมังเดินกลับห้องซักล้าง เหตุการณ์เมื่อครู่ก็เหมือนกับลมพัดผ่านรีบให้นางหายไปจากสมองตัวเองสักที ออกมาจากห้องกายภาพโล่หวินหลานกับโม่ฉีหมิงเดินคู่กันมาแสงอาทิตย์ด้านนอกสว่างจ้าผสมปนกับลมฤดูใบไม้ผลิกระทบหน้าทั้งคู่อย่างแผ่วเบา “พักนี้เย้เซียวโหลเป็นยังไงบ้าง?”โล่หวินหลานถามขึ้น นับตั้งแต่วันที่ร่วมมือกับโม่ฉีหมิงวางกับดักคืนเวินอ๋องกับรัชทายาทแล้วก็ไม่ได้ข่าวคราวของเย้เซียวโหลอีกเลยท่านอ๋องพักฟื้นอยู่แต่ในจวนตลอดและตั้งแต่วันที่เวินอ๋องลักพาตัวนางก็ไม่ยินข่าวคราวของเขาเพราะฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เย้เซียวโหลเป็นอย่างไรแล้วบ้าง โม่ฉีหมิงค่อยๆเดินทีละก้าวได้ยินโล่หวินหลานถามถึงเย้เซียวโหลมองหน้าเขาด้วยความสงสัยขนตายาวเรียงสวยก็กระพริบตาจามแรงลมอ่อนๆนิดหน่อยจึงตอบเสียงเย็น“นางน่าจะถูกเย้กว๋อกงทำโทษและให้อบรมการปรนนิบัติแล้วล่ะ” “อ้าก!”โล่หวินหลานตะลึงอ้าปากค้างจนคางแทบชิดนิดพื้นได้อยู่แล้วจึงเบะปากพูดขึ้น“เย้กว๋อกงจะยอมลงโทษลูกตัวเองอย่างนั้นหรือคนที่สงควรโดนคือเวินอ๋องต่างหาก” “ตั้งแต่วันเกิดเรื่องไม่มีข่าวคราวจากเวินอ๋องอีกตอนนี้เย้ฮองเฮ่าคนตระกูลเย้รวมถึงต้วนกุ้ยเฟยต่างกำลังตามหาเขาให้วุ่นเขาวางแผนตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะเป็นเหมือนดั่งนกกระเรียนป่าจัดการเรื่องจนเสร็จสะอาดแต่น่าเสียดายใครก็ไม่ให้เขาสมหวังง่ายๆ”โม่ฉีหมิงมองด้วยสายตาเคร่งขรึมเหมือนกับเวินอ๋องจะไม่ยอมรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ว่าขอแค่เย้เซียวโหลยังวุ่นวายอยู่อย่างนี้ยังไม่ตัดขาดความสัมพันธ์กับเวินอ๋องยิ่งตอนนี้รัชทายาทไม่มีทางแต่งกับเย้เซียสโหลแน่ๆตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือเวินอ๋องเขาจะมาทำตัวลอยเหนือปัญหอย่างนี้ไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นแล้วเวินอ๋องก็จะต้องแต่งกับเย้เซียวโหลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหม?อย่างนั้นลูกสาวตระกูลเย้ก็จะเป็นว่าที่ไท่จึเฟยแล้วเย้เซียวโหลก็แต่งงานกับเวินอ๋องตำแหน่งรัชทายาทจะไม่สั่นคลอนหรือ?”โล่หวินหลานรู้สึกเป็นกังวลใจนางไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ นางพูดเข้าประเด็นโม่ฉีหมิงมองนางด้วยสายตาชื่นชมนั่งอยู่ด้านล่างของชั้นวางดอกจึเถิงค่อยๆจับไปที่หน้านางอย่างเบามือพูดอย่างยิ้มๆ“ดังนั้นข้าจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จตระกูลจะมีอำนาจแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” สายตาของเขาแน่วแน่มากขึ้น ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันข้างหน้าก็มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งมาวิ่งอย่างรวดเร็วจนมาถึงเบื้องหน้าทั้งสองคนพูดอย่างเร่งรีบ“ท่านอ๋องคุณหนูสามตระกูลเย้ขอเข้าพบพระชายาเพคะตอนนี้กำลังโวยวายอยาที่หน้าประตูทางเข้า!” เย้เซียวโหล?พูดถึงก็มาพอดีแต่ว่านางจะหาเขาทำไม?แต่ไม่ว่าจะทำอะไรโล่หวินหลานก็ไม่กังวลว่านางจะทำอะไรตนเองได้ถึงยังไงอาศัยแค่แรงนางก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วมันคือการไม่ประมาณตน “ไล่ออกไป!”โม่ฉีหมิงขมวดคิ้วแน่นเขาไม่อยากพบไม่อยากเห็นหน้าเย้เซียวโหล “อย่านะสาวน้อยอุสาห์มาหาข้าทั้งทีจะทำอย่างนี้ได้อย่างไร?ข้าไปดูนางกน่อยดีกว่า”โล่หวินหลานพูดห้ามขึ้นนางลุกขึ้นแตะมือโม่ฉีหมิงเบาๆ หน้าโม่ฉีหมิงรู้สึกทำอะไรไม่ถูกบวกกับเป็นห่วงอยู่ในทีสายตาเป็นห่วงแบบนั้นของโม่ฉีหมิงทำให้โล่หวินหลานรู้สึกอบอุ่นหัวใจที่นี่คือจวนหมิงอ๋องด้านในเต็มไปด้วยคนของเขาถึงแม่เย้เซียวโหลอยากทำอะไรนางกลัวว่านางยังไม่ทันลงมือก็ถูกหิ้วออกไปแล้ว “ให้นางเข้ามาข้ารอนางอยู่ห้องโถง”โล่หวินหลานสั่งสาวใช้ที่มารายงานเมื่อครู่เห็นนางรับคำสั่งเสร็จรีบวิ่งออกไปก็หมุนตัวกลับเดินออกไปทางห้องโถงทันที คิดไม่ถึงว่าเย้เซียวโหลจะมาเร็วขนาดนี้โล่หวินหลานยังไม่ทันเดินเข้ามาในห้องโถงก็พบนางเดินมาทางสะพานเล็กในสวน นางสวชุดวังทางการสีอ่อนเห็นได้ชัดว่าพึ่งออกมาจากวังแขนเสื้อกระชับพอดีผ้าคาดตรงเอวรัดรูปแน่นชุดวังนี้ทำให้เห็นสรีระส่วนเว้าส่วนโค้งของนางอย่างชัดเจนดูแล้วช่างงดงามเหลือคณา โล่หวินหลานมือค้ำกับรั้วยิ้มอย่างเสแสร้งไปให้เย้เซียวโหลที่อยู่ด้านหน้าตนเอง“คุณหนูสามตระกูลเย้ให้เกียรติมาพบข้าถึงจวนมีเรื่องอะไรชี้แนะหรือ?ถ้าอย่างนั้นเราไปคุยกันในห้องหนังสือดีหรือไม่?” เย้ซียวโหลที่อยู่ข้างหน้ายิ้มเย็นดวงไฟลุกเป็นไฟอย่างเก็บซ่อนไม่อยู่ใบหน้าขาวสะอาดเกลี้ยงเกลายิ่งซีดลงเรื่อยๆหรือหลายวันมานี้เรื่องที่นางเผชิญอยู่จะไม่เป็นอย่างที่นางหวังไว้ “หมิงพระชายาข้าเคารพท่านถึงได้เรียกท่านเล่นนี้ข้ารู้ว่าท่านกับเวินอ๋องมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวท่านบอกข้าได้ไหมว่าเขาไปไหน?ถือว่าข้าขอร้องท่านเถิด?”น้ำเสียงของเย้เซียวโหลแฝงด้วยใจแตกสลาย พอพูดจบโล่หวินหลานก็ก้มหน้ายิ้มออกมาหรี่ตามองไปที่นางดูผิวเผินเหมือนดวงตาโอบอ้อมอารีและไร้เดียงสาแต่ในความเป็นจริงแล้วคำพูดของนางเหมือนกำลังเหน็บแนมอยู่ในนัย“ข้าว่าคุณหนูเย้ตระกูลสามเจ้าไปรู้มาจากไหนว่าข้ามีความสัมพันธ์อันดีกับเวินอ๋อง?เจ้าหาเวิรอ๋องทำไม?หากรัชทายาทรู้ว่าท่านเปผ้นก่วงเป็นใยพี่น้องของตัวเองเขาจะคิดยังไง?” คำพูดแสนเสแสร้งของนางใช้ได้ผลที่เดียวแค่ประโยคเดียวก็ตัดความสัมพันธ์อย่างไร้เยื่อใยแต่เย้เซียวโหลไม่ใช่คนโง่เสียหน่อยเป็นหมิงพระชายามานานขนาดนี้ไม่มีทางที่นางจะไม่เรียนรู้อะไรจากตัวหมิงอ๋องเลยหรือ! “โล่หวินหลานเจ้ารู้ดีอยู่เต็มอกยังจะมาถามข้ากลับ?ข้าตั้งใจมาถามข่าวคราวของเวินอ๋องเจ้าอย่าเบี่ยงประเด็น”น้ำเสียงของเย้เซียวโหลเริ่มดุดันขึ้นหรือหลายวันมานี้เอาแต่ดูแลเย้ฮองเฮ่าจึงทำให้นางเริ่มเหมือนเย้ฮองเฮ่า “นี่คือการขอร้องของเจ้าหรอ?คุณหนูสาวตระกูลเย้เจ้าดูสิตอนนี้ท่านยังเป็นคุณหนูผู้สูงส่งอยู่อีกหรือ?พ่อแม่เจ้าหากรู้ว่าเจ้าเป็นอย่างนี้เพื่อผู้ชายเพียงคนเดียวพวกเขาจะรู้สึกเสียใจไหม?” นางแสร้งทำเหมือนเจ็บปวดแทนพ่อแม่ของนางแต่มันคือการจุดให้ไฟที่มีอยู่แล้วในเดิมทียิ่งทวีความรุ่นแรงขึ้นนางมีสิทธิ์อะไรมาว่าตนเอง?เพียงแค่อาศัยตำแหน่งว่านางเป็นหมิงพระชายาอย่างนั้นเองเถอะ เย้เซียวโหลยื่นมือผลักไปที่โล่หวินหลานหนึ่งทีโล่หวินหลานที่ไม่ได้เตรียมตั้งรับก็ไม่คิดว่านางจะกล้าลงมือกับนางท้องน้อยของตัวเองกระแทกโดนกับราวจับอย่างจังนางขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเจ็บปวด เย้เซียวโหลมองหน้าอย่างวางตัวสายตาในนั้นมีความโหดร้ายซ่อนอยู่ในแววตาความป่าเถื่อนนี้พุ่งตรงมาทางนางอย่างรวดเร็วนางยื่นมือหมายจะคว้าบีบคอนางนางหลบอย่างไวและก็ไวดังสายฟ้าฟาดคว้ามีดตรงตรงรองเท้าสูงจี้ลงบนคอของเย้เซียวโหลอย่างไวมืออีกข้างหนึ่งก็จับเองนางไว้แน่น “คุณหนูสามตระกูลเย้ดูแล้วพ่อแม่เจ้าไม่ได้สอนเรื่องมารยาทที่ควารมีต่อผู้ใหญ่!”โล่หวินหลานที่ถูกนางผลักเมื่อครู่ท้องน้อยยังคงเจ็บระบมอยู่น้ำเสียงมีความเยือกเย็น“เจ้าเชื่อไหมว่าถ้ามีดนี้กรีดลงไปไม่เพียงแค่ชีวิตน้อยๆของเจ้าจะรักษาไว้ไม่ได้ข้ายังสามารถกำจัดเจ้าให้หายไปอย่างไร้ร่องรอยได้ชาตินี้ก็ยังหวังว่าจะได้แต่งงานกับเวินอ๋องเลย” มีดเล็กเย็นเฉียบวางลงบนคอนี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่นางถูกคนขู่อย่างนี้มีดเรียวแหลมเหมือนถูกว่ดไปมาตรงช่วงเส้นเลือดบนคอนางไปมาอย่างหวาดเสียวนางกลัวว่าโล่หวินหลานจะไม่ระวังจนมีอันตรายต่อชีวิตของนาง ข้างหลังนางกลับรู้สึกสั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อยมือข้างหนึ่งจับตรงราวแน่นในน้ำเสียงมีความสั่นเครืออย่างหวาดกลัว“โล่หวินหลานเจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้นะ” “ออหรอ?” “หากเจ้าฆ่าข้าคนตระกูลเย้ไม่แล่อยท่านลอยนวลแน่” “โล่หวินหลานยิ่มเย็น“เจ้าคิดว่าจะขู่ข้าได้หรือ?ตระกูลเย้ของพวกเจ้าแค่ลูกสาวมีสิทธิ์ต้องแต่งงานกับรัชทายาทนอกนั้นกผ้ไม่มีอะไรแล้ว?พ่อของเจ้าก็ไม่พูดความจริงกับเจ้าเลยหรือพี่ชายของเจ้าก็ไม่มีอำนาจอะไรหากไม่มีเจ้าแล้วเจ้าคิดว่าตระกูลเย้ของพวกเจ้าจะมีประโยชน์อะไรอีก?” 
已经是最新一章了
加载中