ตอนที่99สุนัขจิ้งจอกและเสือเจ้าเล่ห์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่99สุนัขจิ้งจอกและเสือเจ้าเล่ห์
ต๭นที่99สุนัขจิ้งจอกและเสือเจ้าเล่ห์ ยามราตรีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยหมอกควันอยู่บนมุมเพดานหลังคาด้านบนพอมองไปด้านบนก็มีแสงสะท้อนทำให้ตาเบลอเทียนส่องสว่างภายในบ้านกระทบเข้ากับกำแพงมีแสงแดงสาดส่อง ระหว่างกำแพงในวังมีประตูบานใหญ่กั้นเอาไว้ภายในห้องมีคนสองคนที่แต่งตัวสวยนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูหราในมือถือถ้วยของหวานอุ่นๆหญิงสาวคิ้วคมปากแดงพูดว่า:“ฮองเฮาหลายเดือนมานี้ฝ่าบาทเที่ยวตะลอนไปทั่วทุกแห่งคืนนี้ไปตำหนักสนมคนนี้คืนก่อนก็ไปตำหนักของสนมอื่นถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปฝ่าบาทอาจจะลืมพวกหม่อมฉันไปแล้วก็ได้นะเพค่ะ!” คนที่พูดเคยเป็นสนมคนโปรดของฝ่าบาทเมื่อเดือนที่แล้วฮ่องเต้เจียเฉิงเพียงแค่หลงเสน่ห์นางเพียงชั่วคราวพอเวลาผ่านไปก็เริ่มเบื่อแล้ว และหลายวันนี้ฝ่าบาทก็ไม่ได้หลับที่ตำหนักของสนมอื่นแต่ว่าเจินเฟยก็เป็นกังวลมาก เย่ฮองเฮาก็ไม่ได้กังวลอะไรหญิงใหม่ของฝ่าบาทอีกหน่อยคงมีอีกเยอะแยะแต่ถ้าอยากจะชุบเลี้ยงคนที่จะยอมเชื่อฟังทำตามคำสั่งเราฉลาดพอคิดวิเคราะห์และไม่มีทางหักหลังเรานั้นหายากแต่นางก็ต้องมีน้อยใจบ้าง “ฝ่าบาทก็เป็นเช่นนี้แหละชอบใหม่เก่าไปหญิงที่เข้าวังมาใหม่ก็มีเยอะดูจนเขาตาลายหมดเขาคงไม่มีเวลามาถามไถ่ดูแลสนมได้ทุกคนหรอกวันหลังเจ้าก็เปลี่ยนวิธีในการบำเรอให้ฝ่าบาทพอใจแล้วกันถ้าฝ่าบาทเบื่อหรืออึดอัดก็คงมาหาเจ้าเอง”เย่ฮองเฮาใช้ช้อนขนของหวานด้วยท่าทางที่สง่างาม เรื่องพวกนี้เจินเฟยก็ใช่ว่าจะไม่รู้แต่ว่า……นางขยับเข้าไปและพูดเบาๆข้างหูเย่ฮองเฮาว่า:“ฮองเฮาคืนนี้ฝ่าบาทจะนอนอยู่ที่ตำหนักของต้วนกุ้ยเฟย……” พูดถึงตรงนี้นางก็หยุดพูดเรื่องเป็นยังไงสองคนคงรู้แล้วตอนนี้มีเรื่องของเย่เซียวหลั่วไท่จื่อกับเวิ่นอ๋องก็ทำเอาเย่ฮองเฮาปวดหัวแล้วเลยทำให้นางเกลียดต้วนกุ้ยเฟยมาก มือของเย่ฮองเฮาสั้นเทาด้วยความโกรธทำให้ของหวานในมือหกหน่อยๆนางมองไปที่เจินเฟยและพูดว่า:“ต้วนกุ้ยเฟย……เจ้าว่าควรทำอย่างไรดี? เจินเฟยยิ้มอย่างเจ้าเลห์และพูดว่า:“แน่นอนว่าต้องไปปราบความเหิ่มเกริ่มนางหน่อยแล้ว” ทั้งสองสบตาอย่างรู้ใจและพยักหน้าพร้อมกัน บรรยากาศที่มืดก็เริ่มวุ่นวายขึ้นมีเสียงคนตะโกนเสียงแหลมคนในวังมากมายเดินไปเดินมาบนทางเดินในวังทำให้วังที่สงบเงียบกลับวุ่นวายมาก ภายในวังที่ดับเทียนไปแล้วเรียบน้อยตอนนี้กลับจุดมันขึ้นมาใหม่ “เกิดอะไรขึ้นกัน?”ฮ่องเต้เจียเฉิงตื่นมาจากความฝันน้ำเสียงนั้นคล้ายลำคารคนด้านนอกที่เสียงดัง ต้วนกุ้ยเฟยที่นอนข้างเขาลุกขึ้นมาทำหน้าตาไม่รู้เรื่องยังไม่รอนางได้พูดหมิงเย่วที่ยืนเฝ้าด้านนอกก็เดินเข้ามาอย่างไม่พอใจและพูดว่า:“ฝ่าบาทเจินเฟยเจินเฟยให้มาบอกว่านางเจ็บปวดมากเลยเชิญท่านหมอเลยให้มาเชิญท่านไปดูหน่อยเพค่ะ” พอฟังหมิงเยว่พูดจบแม้เจียเฉิงที่ง่วงเพียงใดก็ตื่นขึ้นมาทันทีถึงเขาจะหมดรักเจินเฟยแล้วแต่ยังไงนางก็เป็นผู้หญิงของเขาไม่สนใจไม่ได้? รีบให้หมิงเยว่มาใส่ชุดใส่รองเท้าให้เขาและก่อนจะไปเขาถึงจะหันกลับและพูดกับต้วนกุ้ยเฟยว่า:“สนมอันเป็นที่รักข้าต้องไปดูก่อนเดี๋ยวข้าค่อยมาหาเจ้า” พูดจบเขาก็เดินออกไปเลย ต้วนกุ้ยเฟยจับขยี้ผ้าห่มไว้อย่างแรงและถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย เจินเฟยปวดท้องขึ้นมาอย่างกะทันหันและเรียกท่านหมอมาตอนกลางคืนทำเป็นเรื่องใหญ่โตนางก็แค่อยากเรียกฝ่าบาทไปเท่านั้นเองต้วนกุ้ยเฟยรู้ว่านางคิดอะไรอยู่เรื่องนี้น่าจะเป็นแผนของเหย่ฮองเฮาทั้งสองก็เหมือนกับสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ร่วมมือกันมาทำร้ายนาง เหย่ฮองเฮาแก้แค้นเพราะเรื่องที่เวิ่นอ๋องแย่งของๆเหย่เซียวหลั่วถ้าเป็นเช่นนี้งั้นก็มาเถอะนางพร้อมรับทุกสถานการณ์ คนหนึ่งเป็นเหย่อ๋องที่เหย่ฮองเฮาดูแลมาตั้งแต่เด็กก็ไม่ได้ความรักจากฮองเฮาตอนนี้นางหวังแค่ว่าเวิ่นอ๋องที่เป็นลูกของนางจะอยู่ข้างนางได้เวลาเดียวกันนางก็มีความหวังต่อเขามากแต่น่าเสียดายที่คู่แข่งนางมีอำนาจมากกว่านางถ้าไม่ระวังนางคงโดนจับกินจนไม่เหลือกระดูก มองดูต้วนกุ้ยเฟยที่ทำหน้าเคลียดหมิงเยว่ก็คิดว่านางโกรธกับเรื่องที่นำมาทูลเมื่อกี้ก็เลยพูดว่า:“เหนียงเหนียงหม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจเพค่ะข้ารับใช้ของเจินเฟยอยู่หน้าประตูบอกว่าถ้าหม่อมฉันไม่เข้ามาทูลนางก็จะบุกเข้ามาหม่อมฉันคิดว่าหม่อมฉันเข้ามายังดีกว่าให้นางเข้ามาดังนั้นก็เลย……ขอเหนียงเหนียงอย่าเสียใจไปเลยเพค่ะ” นานมากต้วนกุ้ยเฟยเงยหน้าขึ้นมามองหมิงเย่วปัดมือให้นางออกไป คืนนี้คงกำหนดไว้แล้วว่าต้องวุ่นวายนางจะโทษใครได้ล่ะ? ฟ้งพึ่งจะสว่างขึ้นมาหน่อยมีแสงสาดส่องเข้ามาจากหน้าต่างกระดาษคนน่างผอมเรียวบางกำลังใส่เสื้อผ้าบนเตียงมีหญิงร่างบางนอนหลับอยู่นางหลับตาพริมมือนางและคอนางที่ขาวเนียนนอนหลับอย่างสงบ โม่ฉีหมิงใสเสื้อผ้าเสร็จก็หันกลับไปมองโล่หวินหลานที่กำลังนอนอยู่เขาก้มลงไปและประทับจูบลงไปที่หน้าผากหน้าและลากผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายของนางไว้ “ไม่ต้องเรียกนางรอนางตื่นขึ้นมาเองแล้วต้มข้าวต้มให้นางกินให้นางกินข้าวต้มเสร็จก็ให้กินถั่วเหลืองต้ม” เหย่หวินตกใจอึ้งอ้าปากค้างไว้คนผู้นี้ยังใช่หมิงอ๋องหรือไม่?เขาสั่งหัวหน้าดูแลบ้านอย่างละเอียดรอบคอบ เขามองไปที่เเขามองไปที่เรือนร่างของเหย่หวินอย่างเร็วนางถึงจะรีบหลับตาและพยักหน้า:“จำเอาไว้” โม่ฉีมู่มองนางแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนเที่ยงโล่หวินหลานถึงจะตื่นขึ้นมาช้าๆร่างกายเมื่อยล้าเหมือยร่างจะแตกสลายปานนั้น เรื่องเร้าร้อนของเมื่อคืนผุดขึ้นมาบนหัวนางหันกลับไปและจับร่างกายตัวเองเอ้ะไม่อยู่แล้วนางทำหน้าบึ้งตึงและไปนั่งที่เก้าอี้เขาทำเหมือนอารมณ์ดีและเดินออกไปโดยทิ้งความเจ็บปวดทั่วร่างกายให้กับนางสายตานางเริ่มมีแต่ความโกรธแค้นผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหย่หวินได้ยินเสียงก็รีบยกน้ำล้างหน้าเข้าไปให้นางมองดูสีหน้านางที่ตอนนี้กำลังโกรธอยู่ก็เลยรีบพูดอธิบายว่า:“พระชายาท่านอ๋องตอนเช้าก็ถูกฝ่าบาทเรียกตัวไปตอนท่านตื่นยังสั่งไว้ว่าห้ามปลุกท่านให้ท่านตื่นขึ้นมาเอง” พอได้ฟังเหย่หวินแก้ตัวแทนในใจโล่หวินหลานก็รู้สึกสบายใจขึ้นมานางแต่งตัวแต่งหน้ากินข้าวต้มและถึงจะออกไปเดินเล่น ช่วงนี้นางกำลังปลูกฮ่วงฉี่ตังกุยเป่ยมู่กับกันเฉาและยาสมุนไพรอีกหลายอย่างสมุนไพรสองอย่างที่พูดมาก่อนนั้นเอาไว้บำรุงโลหิตถึงแม้จะไม่ได้ป่วยแต่ก็สามารถนำมาต้มกินได้และสามารถบำรุงร่างกายไปในตัวและด้านหลังก็เป็นยาสมุนไพรที่พบเจอได้ทั่วไปอย่างเช่นถ้าเป็นไข้มีอาการไอก็สามารถต้มดื่มได้ ที่จริงสมุนไพรพวกนี้ก็เป็นยาสมุนไพรที่ธรรมดาพบเจอได้ทั่วไปที่ปลูกไม่เพียงแต่เอาไว้ช่วยคนแต่ยังสามารถทำให้โล่หวินหลานเรียนรู้ไปในตัวได้ นอกจากใช้วิชาแพทย์ช่วยคนแล้วก็ยังต้องผสมยาด้วยเพราะตอนนี้นางก็อยู่ที่สมัยอดีตและตอนนี้ก็ไม่มียานอกที่รักษาคนได้ตอนนี้นางก็เลยต้องเรียนรู้ยาแผนโบราณให้มากที่สุด ปกติสมุนไพรพวกนี้จะมีคนเข้ามาดูแลคนพวกนี้ก็เป็นคนที่โล่หวินหลานคัดเลือกเองนางจะเข้ามาดูบ่อยๆเสมอ “พระชายานี้เป็นยาสมุนไพรที่ท่านปลูกเองเหรอเพค่ะ?เยอะมากเลยนะเนี้ย!”ด้านหลังมีเสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยส่งมาแต่เหย่หวินก็เริ่มป้องกันหรูซูแล้ว “ใช่สิ!”โล่หวินหลานพยักหน้า เห็นโล่หวินหลานพูดอย่างดีใจและภูมิใจหรูซูก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า:“พระชายาหม่อมฉันก็ชอบดอกไม้และหญ้าพวกนี้มากเพค่ะไม่งั้นท่านรับหม่อมฉันเป็นลูกศิษย์ได้ไหมเพค่ะหม่อมฉันจะตั้งใจทำหน้าที่แน่นอนเพค่ะ!” โล่หวินหลานสบัดแขนเสื้อลุกขึ้นมาไม่ได้ตอบหรูซูแต่แค่ก้มหัวและมองดูรองเท้าตัวเองด้านบนมีคราบดินเหนียวติดอยู่ไม่เหมาะกับเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้านของนางเลย “เจ้าดูแลเรื่องของตัวเองไปก่อนเถอะข้าไม่รับลูกศิษย์และข้าก็สอนไม่เป็นด้วย”โล่หวินหลานพูดอย่างเย็นชาและเดินกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนรองเท้าทันที หรูซูยิ้มและขมวดคิ้วทำไมกันโล่หวินหลานทำไมถึงพยายามตีตัวออกห่างจากนาง? ตอนที่นางกำลังงงสงสัยอยู่นั้นก็มีคนมาตบหลังนางหน้าตาอันหล่อเหลาของสวินโม่ตอนนี้กำลังอยู่ตรงหน้านางอยู่ดวงตาทั้งคู่ที่อ่อนหวานนั้นกำลังมองนางอยู่เขาเองมือไว้ด้านหลังและเดินเข้ามาหานางช้าๆและพูดว่า:“เจ้าอยากจะไหว้อาจารย์เรียนสมุนไพรงั้นเหรอ?” หรูซูมองดูสวินโม่เบิกตากวางและกระพริบตาพยักหน้าพูดว่า:“สวัสดีเจ้าค่ะสวินโลว่จู่” สวินโม่ก็พยักหน้าและพูดว่า:“ไม่เช่นนั้นเจ้ามาเป็นลูกศิษย์ของสำนักข้าไหมวิชาแพทย์ข้าก็เก่งเท่าพระชายาเหมือนกัน” ที่จริงพูดมาแล้วด้านยาแผนโบราณสวินโม่เก่งกว่าโล่หวินหลานเพราะยังไงเขาก็ได้รับสูตรการผสมยาม้าโฟ่ซ่านที่ไม่ใช่คนทั่วไปจะผสมขึ้นมาได้สิ่งที่โล่หวินหลานเป็นก็คือวิชาแพทย์ที่มาจากโลกอนาคตถ้าจะบอกว่าใครเก่งทั้งสองคนนี้คงจะเสมอกัน แต่ว่ามองดูสวินโม่แล้วหรูซูก็รีบส่ายหัวตอบปฏิเสธไปว่า:“ไม่เป็นไรเพค่ะสวินโหว่จู่พอดีว่าหม่อมฉันพึ่งนึกได้ว่าต้องไปซักผ้าก่อนเพค่ะ” พูดจบหรูซูกฌกำลังจะเดินออกไปเร็วๆแต่ก็มีแขนมาบังไว้ตรงหน้านางไว้ก่อนสีหน้าของสวินโม่เริ่มไม่พอใจและพูดว่า:“เจ้าจะไปไหน?พูดมาข้ามีอะไรที่เทียบกับพระชายาไม่ได้?” หรูซูกอดอกกระดิกนิ้วสวินโม่ดูท่าทางนางเขาก็รู้สึกคุ้นเคยมากคนที่คุ้นเคยเช่นนี้ทำให้เขานึกย้อนไปในอดีตความทรงจำ “สวินโหว่จู่ท่านดีหมดทุกอย่างแต่ถ้าจะให้หม่อมฉันเป็นลูกศิษย์ของท่านหม่อมฉันทำอะไรไม่เป็นเลยแต่กลับต้องรบกวนท่านแทน”หรูซูพูดยิ้มๆ ถ้านางเป็นลูกศิษย์ของสวินโม่แล้วจะสืบความเรื่องของโล่หวินหลานและโม่ฉีหมิงได้อย่างไรจะทำยังไงให้พวกเขาแยกออกจากกันทำยังไงถึงจะทำหน้าที่ที่รัชทายาททรงรับสั่งไว้! ดังนั้นนางก็เลยออกไปจากที่นี้ไม่ได้ยิ่งอย่าพูดถึงเป็นลูกศิษย์ของสวินโม่เลย คำพูดของนางสวินโม่ฟังไม่ขึ้นเลยสักคำเขามองนางและจับมือนางไว้แรงๆพูดอย่างเย็นชาว่า:“ข้าจะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์แน่!” 
已经是最新一章了
加载中