ตอนที่102 ข้าจะทนได้อย่างไร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่102 ข้าจะทนได้อย่างไร
ต๭นที่102 ข้าจะทนได้อย่างไร โล่หวินหลานใช้สำหรับชุบไปที่น้ำเกลือจากนั้นก็เช็ดบริเวณบาดแผนของด่องหย่า สำลีที่เต็มไปด้วยคราบเลือดถูกโยนทิ้งออกมาจำนวนมาก ด่องห้วนที่อยู่ข้างๆก็ไม่กล้าพูดอะไร เขาเพียงแต่ตกใจกับการกระทำของนาง ในใจก็คิดว่าไม่เคยเห็นใครทำการรักษาเช่นนี้มาก่อน เลือดค่อยๆไหลข้าลง โล่หวินหลานไม่กล้าที่จะทำช้าลง เพราะหากนางช้าไปเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้เสียเลือดจนตายได้ หลังจากที่จัดการล้างแผลไปเรียร้อยแล้ว นางก็พึ่งสังเกตุว่าเนื้อบริเวณที่ถูกพิษกัดกินนั้น ยากที่จะเกิดขึ้นได้ใหม่ สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือการผ่าทิ้ง โล่หวินหลานมองดูแล้ว ลูกดอกธนูยิงเข้าไปลึกมาก แต่โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะภายใน นางสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ยื่นมาออกมา“เอากรรไกรให้ข้าที" เย่หวินยื่นกรรไกรให้ จากนั้นก็ใช้ผ้าซับเหงื่อของโล่หวินหลาน มองดูโล่หวินหลานนำกรรไกรที่กำลังจะตัดชิ้นเนื้อของด้วนหย่า ด่องห้วนที่รู้สึกว่าการรักษาของโล่หวินหลานแปลกๆจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปห้าม“พระชายา ท่านจะทำอะไร? ทำไมต้องใช้กรรไกร? ตอนนี้ด่องหย่าบาดเจ็บสาหัสอยู่!ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" โล่หวินหลานโมโหจนถึงขีดสุด แต่นางก็มองดูคนตรงหน้าที่ตอนนี้กลัวจนเหงื่อเต็มน้ำ มองดูใบหน้าที่แดงก่ำของด่องห้วน นางเองก็อยากจะร้องไห้ คนที่นี่ไม่เคยเห็นการรักษาแบบนี้มาก่อน ก็จะกลัวเป็นธรรมดา แต่ตอนนี้เวลาขับขันนางจึงทำได้เพียงอธิบายอย่างคร่าวๆ“ข้ากำลังทำการรักษานางอยู่ ไม่ได้ทำร้ายนาง เจ้าวางใจเถอะ!” แต่ด่องห้วนเองไม่อยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่ เขามองดูด่องหย่าที่กำลังบาดเจ็บสาหัสนั้นไม่อยากให้นางเจ็บตัวเพิ่มขึ้นอีก เขาที่กำลังห้ามโล่หวินหลานนั้น เห็นนางไม่ยอมปล่อยกรรไกร จึงพูดขึ้น“พระชายา ข้าเปล่าไม่เชื่อท่าน แต่ข้าไม่สามารถให้อาหย่าได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้ ข้าจะพานางไป!” พาไป? โล่หวินหลานมองเขาตาขวาง ถ้าตอนนี้ด่องห้วนพาด่องหย่าไป การกระทำเช่นนั้นจะทำให้นางตายได้ นางรู้สึกว่าไม่สามารถที่จะอธิบายให้ด่องห้วนฟังได้แล้ว ตอนนี้เพราะด่องหย่าทำให้เขาเสียสติไปแล้ว นางเห็นด่องห้วนที่กำลังจะแตะตัวด่องหย่า โล่หวินหลานจึงหยิบไม้ขึ้นมา แล้วตีไปที่ด่องห้วนอย่างแรง จนเขาล้มลงไป หากว่าโล่หวินหลานไม่ทำเช่นนี้ เย่หวินก็จะเป็นคนทำเอง หลังจากที่จัดการด่องห้วนเรียบร้อยแล้ว โล่หวินหลานก็เตรียมจะใช้กรรไกรในการตัดชิ้นเนื้อบริเวณท้องของด่องหย่า นางสามารถหาชิ้นเนื้อที่เน่าเสียอยู่ด้านในเจอแล้ว จากนั้นนางก็ตัดชิ้นเนื้อพวกนั้นทิ้ง แล้วคีบออกมา ชิ้นเนื้อยังส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ขั้นตอนต่อไปก็คือสิ่งที่โล่หวินหลานถนัดที่สุด นั่นก็คือการเย็บแผล สุดท้ายการผ่าตัดในครั้งนี้ก็จบลงด้วยดี แต่ว่า สวินโม่ยังไม่ได้ยาถอนพิษมาเลย "เย่หวิน เจ้าไปดูสิว่าทำไมสวินโม่ยังไม่กลับมาอีก?" โล่หวินหลานเช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผาก ตอนนี้ก็ใกล้จะครบสามชั่วยามแล้ว หลังจากที่เย่หวินวิ่งออกไป โล่หวินหลานก็ถอดชุดฆ่าเชื้อออก จากนั้นก็เก็บอุปกรณ์ในกล่องยาให้เรียบร้อย แล้วหยิบผ้ามาล้างหน้าของตนเอง ตอนนี้นางมองดูคนที่นางรักษาด้วยมือของตนเองแล้ว จิตใจก็เริ่มนิ่งขึ้น ไม่ตื่นเต้นเหมือนตอนที่รักษาคนในครั้งแรก ขณะที่นางกำลังหันหลังนั้น ก็มีมือหนามาบีบที่คอของนาง ทำให้นางแทบจะหายใจไม่ออก นางรู้สึกหายใจลำบากมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำ“ทำไมท่านต้องฆ่าอาหย่าด้วย? ข้าเชื่อใจท่านขนาดนี้ แต่ท่านกลับฆ่าญาติสนิทของข้าได้ ข้าจะให้เจ้าเอาชีวิตมาชดใช้!” โล่หวินหลานรู้สึกว่าตนเองหายใจลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้นางไม่สามารถส่งเสียงได้แล้ว ทำได้เพียงใช้มือผลักมือเขา ถึงแม้ว่าแรงของนางจะสู้เขาไม่เลยก็ตาม นางตายไม่ได้ จะตายโดยถูกคนอื่นเข้าใจผิดเช่นนี้ไม่ได้...... "ปล่อย....มือ...ไม่....." เสียงที่พยายามส่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก แต่ตอนนี้ด่องห้วนเหมือนโดนผีเข้า เขามองด่องหย่าที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสิ้นหวัง อาหย่า รอก่อนนะ หลังจากที่พี่ฆ่าคนที่ฆ่าเจ้าแล้วพี่ก็จะตามเจ้าไป..... ทันใดนั้นเอง ประตูก็ถูกเปิดออก สวินโม่และเย่หวินมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เย่หวินร้องตะโกนเสียงดังแล้วรีบเข้าไปแยกตัวพวกเขา สวินโม่เองก็รีบใช้เข็มที่เก็บเอาไว้ตรงหน้าอกมาฝังลงไปที่คอยของด่องห้วน จากนั้นก็กดจุดเขา ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้ชั่วคราว "พระชายา!” เย่หวินร้องเรียก นางมองดูคอของพระชายาที่เป็นรอยแดงจนตัวสั่น หากนางกับสวินโม่มาช้ากว่านี้อีกก้าวหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สวินโม่เองก็โมโหมาก เขากระโดดถีบไปที่ด่องห้วน หากไม่ใช่เพราะว่าเขามาทันเวลา โล่หวินหลานก็จะตายคามือเจ้านี่ คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ในใจของเขาก็โมโหมาก อยากจะตีเขาให้จาย แต่กลับมีเสียงแหบพร่าดังออกมา“สวินโม่ เอายาถอนพิษให้ด่องหย่าก่อน แล้วค่อยว่ากัน" ทั้งๆที่หวังดีช่วยนาง แต่กลับทำคุณได้โทษ สวินโม่ไม่อยากสิ้นเปลืองยาถอนพิษในมือ เขาป้อนให้ด่องหย่าอย่างไม่ยินดีนัก "พระชายา เมื่อสักครู่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?" สวินโม่ถามอย่างโมโห หากเป็นคนที่ลืมบุญคุณนั้น ตอนนี้เขาก็จะจัดการพวกเขาให้สิ้นซากเลยทันที โล่หวินหลานดื่มน้ำที่เย่หวินตักให้แล้วพูด“พูดแล้วก็น่าตลกเสียจริง เมื่อสักครู่ข้าจะเอากรรไกรตัดชิ้นเนื้อบริเวณท้อง เพื่อเอาเนื้อที่เน่าเสียออกมา แต่ด่องห้วนกลับคิดว่าข้าฆ่าน้องสาวเขาไปเสียแล้ว จึงมาทำร้ายข้า" "เรื่องแค่นี้เองเนี่ยนะ เดี๋ยวมันฟื้นแล้วหม่อมฉันจะจัดการสั่งสอนมันเอง" สวินโม่โมโหมาก เขาหักนิ้วของตนเองเสียงดัง โล่หวินหลานมองดูสีของท้องฟ้า “สั่งสอนอะไรกัน!เราควรกลับกันได้แล้ว" ออกมานานขนาดนี้ ไม่รู้ว่าโม่ฉีหมิงที่กลับมาจากราชสำนักจะเป็นห่วงรึเปล่า เย่หวินมองสองคนนั้นด้วยความโกรธ อยากจะจัดการพวกเขาเสียจริง กลับไปที่ตำหนักหากท่านอ๋องเห็นรอยแดงบนคอของพระชายา ต้องโมโหเป็นแน่แท้ การมาดูงานที่ร้านยาหรงจี้ก็จบเพียงเท่านี้ สีหน้าของแต่ละคนไม่สู้ดีนัก โล่หวินหลานขยับคอของตนเองเบาๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่นางก็รู้สึกปวดบริเวณคอ "เย่หวิน ตอนนี้คอของข้าน่าเกลียดมากใช่หรือไม่?" โล่หวินหลานชูคอแล้วถามขึ้น "แหะ ไม่น่าเกลียดเจ้าค่ะ มีเพียงรอยแดงเท่านั้น แต่กลับตำหนักแล้วหม่อมฉันว่าท่านอ๋องต้องโมโหมากแน่" เย่หวินนึกภาพของโม่ฉีหมิงตอนเห็นก็ขนลุกแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับโล่หวินหลาน คนแรกที่จะโดนลงโทษก็คือเย่หวิน เพราะนางไม่ได้ดูแลโล่หวินหลานอย่างดี เป็นความผิดของนาง นางจึงทำได้เพียงถอนหายใจ ในหัวคิดแต่เรื่องโดนทำโทษที่รออยู่ "เดี๋ยวข้าจะเอาผ้าพันคอเอาไว้ เจ้าไม่พูด ข้าไม่พูด สวินโม่ไม่พูด ใครจะไปรู้?" โล่หวินหลานทำสายตาเจ้าเล่ห์บอกกับเย่หวิน นางมองดูสีหน้าหวาดกลัวของเย่หวินแล้วตลกนัก พระชายาคิดง่ายเกินไปแล้ว หากสามารถปิดบังท่านอ๋องได้ง่ายๆนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางและฉินหยิ่นก็คงไม่โดนทำโทษมากมายถึงเพียงนี้? เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพระชายา แต่สำหรับนางแล้ว เป็นเรื่องที่สามารถฆ๋าตนเองได้เลย "หากท่านอ๋องถาม ข้าจะกล่าวตามความจริง" สวินโม่ออกตัวพูดขึ้นก่อน โล่หวินหลานหันไปมองเขาด้วยแววตาเย็นชา ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น โล่หวินหลานก็ค่อยเดินช้าลง แววตามองตรงไปด้านหน้า เย่หวินและสวินโม่สังเกตุความผิดปกติ จึงหยุดเดิน "พระชายา ท่านเป็นอะไร?" พวกเขามองตามแววตาของนาง ที่กำลังมองไปยังยองเชียงโหลว หญิงสาวในชุดสีชมพูอ่อนกำลังแนบกายชิดกับชายหนุ่ม ชายหนุ่มคนนั้นดูไม่ธรรมดา มองดูแล้วไม่เหมือนที่จะมาเที่ยวสถานที่เช่นนี้ได้ แต่มือหนาของค์ชายหนุ่มนั้น ก็โอบที่เอวยิ่งสาวแล้วพานางเข้าไปที่ยองเชียงโหลว "องค์รัชทายาท ทำไมถึงอยู่ที่นี่?" เย่หวินพูดพึมพำ นางเคยเห็นองค์รัชทายาท เขามีความโดดเด่น ทำให้มองออกได้ง่าย โล่หวินหลานส่ายหน้า แล้วพูดพึมพำกับตนเอง“ไม่คิดเลยว่าเพราะเย่เซียวหลัวจะทำให้เขาเป็นถึงเพียงนี้......" เป็นเพราะเย่เซียวหลัวจริงหรือ? หรือเป็นเพราะเขาแค่ต้องการทำร้ายตนเอง ตอนนี้ห้องหนังสือในพระราชวังก็วุ่นวายมาก ด้านนอกทั้งนางในและขันทีต่างก็ห้ามคนตระกูลเยี่ยไม่ให้เข้าไปไม่ได้เลย พวกเขากล้าที่จะบุกเข้าไปใน้องหนังสือ นั่นเพียงเพราะพวกเขามีอำนาจและยศฐาบรรดาศักดิ์ ทำให้ฮ่องเต้เจียเฉิงไม่กล้าที่จะทำอะไรพวกเขา สีหน้าของฮ่องเต้เจียเฉิงดูไม่สู้ดีนัก แต่ไม่นานก็ปรับอารมณ์ได้ จึงถามขึ้น“เย่กั๋วกง พวกท่านมีเรื่องอันใดรอฮ่องเต้คุยกับหมิงอ๋องจบก่อนได้หรือไม่ค่อยเข้ามา?" ซึ่งความหมายโดยนัยน์ก็คือการที่พวกเขาไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา "ฮ่องเต้ ข้าน้อยมิอาจรอได้แล้ว ข้าน้อยมีเรื่องด่วนต้องกราบทูลฮ่องเต้ หลัวเอ่อนางตกหลุมรักเวินอ๋อง นางบอกว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะอภิเษกสมรสกับเวิงอ๋องให้ได้ ไม่เช่นนั้น ไม่เช่นนั้นนางจะฆ่าตัวตาย ตอนนี้นางเก็บตัวเองเอาไว้ในตำหนักไม่กินไม่ดื่มมาสองวันแล้ว! แต่ว่าตอนนี้กลับยังหาเวินอ๋องไม่พบ" เย่กั๋วกงพูดขึ้น ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถเก็บนำความลับนี้ไว้ได้อีก แววตาของโม่ฉีหมิงเปรียดังลูกศร มองนิ่งๆไปบนพื้น คล้ายเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา เหมือนนั่งดูละครก็เท่านั้น "อะไรกัน?" ฮ่องเต้เจียเฉิงถามขึ้นเสียงดัง เขาตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนโดนฟ้าผ่าลงมา "หลัวเอ่อหลงรับเวินหวัง? เรื่องนี้มันคืออะไรกัน? ทำไมไม่มีใครเคยบอกฮ่องเต้เลย?" แววตาของเย่กั๋วกงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและสุดจะทน เขาพูดขึ้น“หม่อมฉันคิดว่าตนเองสามารถจัดการได้ จึงไม่ได้กราบทูลฮ่องเต้ เพียงแต่หม่อมฉันไม่คิดว่าหลัวเอ๋อจะเป็นถึงเพียงนี้ หม่อมฉันทำอะไรไม่ได้จึงมากราบทูลฮ่องเต้พะยะค่ะ" บุตรชายของตนกลับแย่งหญิงสาวคนเดียวกัน ใต้ฟ้านี้มีหญิงสาวอยู่ตั้งมากมาย อยากได้ใครฮ่องเต้ก็แค่รับสั่งเท่านั้น เหตุใดเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นในเชื้อพระวงค์ด้วย? "กั๋วกง แล้วที่ท่านมาวันนี้ ท่านอยากได้ยินคำตอบเช่นไร?" ฮ่องเต้เจียเฉิงถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้น นี่คือเป้าหมายของกั๋วกง เขาต้องการให้ฮ่องเต้เจียเฉิงเป็นคนเอ๋ยปาก จากนั้นเขาก็จะร้องขอสิ่งที่ตนอยากได้ ถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะไม่ยินดีกับคำตอบของเขานัก แต่ก็ไม่สามารถขัดได้ "หม่อมฉันต้องการที่จะหาตัวเวินอ๋องให้พบ จากนั้นก็ตัดความสัมพันธ์ของเขากับหลัวเอ่อ และหวังให้ฮ่องเต้รับสั่งให้หลัวเอ่อรีบอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาท" เย่กั๋วกงร่ายยาว โม่ฉีหมิงไม่พูดอะไร แต่ในสายตาเขานั้นกลับมองออกทุกอย่าง นี่มันเรื่องตลกชัดๆ เย่กั๋วกงคนนี้ถือว่าวางแผนมาดีมาก ฮ่องเต้เจียเฉิงมองไปที่โม่ฉีหมิงแวบหนึ่งก่อนจะคิดได้ “เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง เจ้ากลับไปพักเถอะ" "ขอพระทัยฮ่องเต้ หม่อมฉันทูลลา" เย่กั๋วกงค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป ห้องหนังสือเงียบลงทันที หลังจากมองดูเย่กั๋วกงที่เดินจากไปแล้วนั้น ในใจของโม่ฉีหมิงก็คิดออกแล้วว่าควรทำเช่นไร "แต่ละคนไม่มีใครทำให้ข้าวางใจได้เลย!” ฮ่องเต้เจียเฉิงตบไปบนโต๊ะข้างกาย "ท่านพ่อ ท่านพ่อใจเย็นก่อนเพคะ ลูกคิดว่าเย่กั๋วกงเองคงไม่ได้ตั้งใจ คุณหนูเย่และน้องหกเองต่างก็ไม่ผิด ความรู้สึกของคนไม่สามารถควบคุมได้เพคะ"
已经是最新一章了
加载中