ตอนที่103 ความสำคัญ
1/
ตอนที่103 ความสำคัญ
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่103 ความสำคัญ
ตนที่103 ความสำคัญ ในขณะที่ฮ่องเต้เจียเฉิงกำลังเสียใจนั้น โม่ฉีหมิงก็ได้เวลาพูดขึ้น “ไหน? ลองพูดให้ข้าฟังสิ” ฮ่องเต้เจียเฉิงสนใจในสิ่งที่โม่ฉีหมิงกำลังกล่าวถึง โม่ฉีหมิงกล่าวเสียงเรียบ” ตระกูลเย่และเราต่างมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ในเมื่อคุณหนูสามแห่งตระกูลเย่นั้นถูกกำหนดให้เป็นพระชายาขององค์รัชทายาท ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาท ทางด้านน้องหกนั้น ที่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านางจะเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท แต่กลับพานางออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน การเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมนี้ ดูเหมือนเป็นการตั้งใจ หากคุณหนูสามแห่งตระกูลเย่ไม่ได้มีคู่หมายเป็นองค์รัชทายาท ท่านพ่อก็สามารถรับสั่งให้นางอภิเษกกับน้องหกได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันยากที่จะจัดการยิ่งนัก” หลังจากได้ฟังการวิเคราะห์ของเขา ฮ่องเต้เจียเฉิงเองก็สามารถมองออกได้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเวินอ๋อง ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่าเวินอ๋องตั้งใจที่จะไปตีสนิทกับเย่เซียวหลัว ฮ่องเต้เจียเฉิงถามด้วยความสงสัย” หากเวินอ๋องต้องการที่จะอภิเษกสมรสกับเซียวหลัว เหตุใดเขาไม่ตีเหล็กตอนที่ยังร้อน จะซ่อนตัวเอาไว้ทำไม?” โม่ฉีหมิงครุ่นคิด ”ท่านพ่อ ตอนนี้เมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ น้องหกอาจจะไปผ่อนคลายที่ไหนไม่ทราบได้ หม่อมฉันจะหาตัวเขาให้ผม ขอเพียงสามารถรับฟังความต้องการที่แท้จริงของน้องหกได้ เรื่องทุกอย่างก็สามารถแก้ไขได้” คำพูดของเขานั้นตรงกับความคิดของฮ่องเต้เจียเฉิง จนเจียเฉิงฮ่องเต้ครุ่นคิด ว่าเหตุใดตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นถึงไม่ให้ความสำคัญกับเขา ความสามารถของเขานั้นช่างเหลือล้นเสียจริง เพียงแต่ว่า เขายังมีปัญหาในใจที่ยังไม่ได้คลาย จึงถามต่อ”หากหาตัวเวินอ๋องพบ แล้วเขารักเซียวหลัวจริงๆล้ะจะทำอย่างไร? หรือว่าตกแหกกฎของพระราชสำนักแล้วให้นางอภิเษกกับเวินอ๋อง?” “ท่านพ่อ หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงมีเพียงวิธีเดียว นั่นก็คือยอมทำร้ายจิตใจองค์รัชทายาท แล้วให้คุณหนูสามแห่งตระกูลเย่อภิเษกกับน้องหก แต่หากเป็นเช่นนี้ ขนบธรรมเนียมที่ทั้งสองตระกูลปฏิบัติตามกันมาช้านานคงต้องจบสิ้น” คำพูดแต่ละคำของโม่ฉีหมิงนั้น ฮ่องเต้เจียเฉิงได้ตั้งใจฟังยิ่งนัก การอภิเษกที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานต้องจบสิ้น? ฮ่องเต้เจียเฉิงครุ่นคิดอยู่ในใจ การอภิเษกของทั้งสองตระกูลนั้นเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษยึดมั่นให้ปฏิบัติตาม ไม่สามารถที่จะไม่ปฏิบัติตามได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนเก่าคนแก่ตั้งมากมาย พวกเขาต้องไม่ยอมเป็นแน่แท้ “เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก พ่อขอรับสั่งให้เจ้าหาตัวของเวินอ๋องให้พบ” ฮ่องเต้เจียเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ขอรับ หม่อมฉันจะไม่ทำให้ท่านพ่อผิดหวัง" โม่ฉีหมิงประสานมือทั้งสอง แล้วก้มตัวลงคำนับ ท้องฟ้านอกพระราชวังมีนกฝูงใหญ่กำลังโบยบิน โม่ฉีหมิงทำตาหยีแล้วจ้องมองไปบนท้องฟ้าสีคราม เขาค่อยๆเดินไปตามทาง จากนั้นรองเท้าสีทองของเขาก็ก้าวเท้าลงบันไดทีละคน ตอนที่กลับไปถึงตำหนัก พระจันทร์ก็ออกมาให้เชยชมแล้ว แสงจันทร์ที่สวยงามสาดส่องลงมาที่พื้น โม่ฉีหมิงเดินเข้าไปในห้องโถง ขณะที่ทางด้านโล่หวินหลานก็กำลังยกอาหารเข้ามาพอดี พอเจอเขานางก็รีบลากเขาเข้ามา แล้วชี้ไปยังอาหารบนโต๊ะที่ไหม้เกรียม”นี่เป็นฝีมือของหม่อฉันเอง ท่านรีบนั่งลงทานเถอะ” ใบหน้าของโม่ฉีหมิงไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่ในใจของเขาตอนนี้กลับตื้นตันยิ่งนัก ทุกครั้งที่กลับมายังมีภรรยาที่รักคอยเตรียมอาหารให้ อยากจะครองคู่กันอย่างนี้ไปชั่วชีวิต "คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกเลย เจ้าคือพระชายานะ" โม่ฉีหมิงจับมือของนางไปนั่งที่เก้าอี้ ถึงแม้อาหารบนโต๊ะจะมีหน้าตาที่ไม่น่าดูเสียเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นอาหารจานโปรดของเขา "อย่าพึ่งพูดเลย ท่านเข้าวังไปนานมาก ข้าจะนำสุรามาให้เจ้าคลายความเครียดเอง" โล่หวินหลานตบที่บ่าของเขาเบาๆ จากนั้นก็รินสุราให้กับเขา กลิ่นสุราตลบอบอวล หอมไปทั่วทั้งห้อง โม่ฉีหมิงไม่อาจทราบได้ว่าเหตุใดนางจึงต้องทำเช่นนี้ เขาไม่พูดอะไรแล้วยกสุราขึ้นดื่ม ปลายตาของเขาชำเลืองมองไปที่นาง เห็นคอของนางมีผ้าพันคอพันเอาไว้ ซึ่งมันช่างน่าสงสัยนัก "หวินหลาน เหตุใดเจ้าถึงต้องสวมใส่สิ่งนี้ด้วย?" โม่ฉีหมิงใช้มือจับไปที่คอของนาง จากนั้นก็ค่อยๆถอดผ้าพันคอออก "อากาศหนาวค่ะ จึงสวมผ้าพันคอ" โล่หวินหลานตอบกลับ โม่ฉีหมิงไม่ได้กล่าวอะไร เพราะนี่ก็ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ช่วงเช้าและกลางคืนอากาศจะเย็นนิดหน่อย อีกอย่างฤดูหนาวก็ใกล้เข้ามาแล้ว จึงทำให้หนาวกว่าปกติ เขาใช้เวลาอยู่กับนางมาหนึ่งฤดูร้อนแล้ว "ใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว ในพระราชสำนักมีผู้ใหญส่งผ้าห่มมาให้หลายผืน ข้าจะให้เย่หวินนำมาให้เจ้า ไว้รอช่วงที่หิมะตก ในวังจะมีกิจกรรมไปล่าสัตว์ ข้าจะล่าสุนัขจิ้งจอกมาให้เจ้า ต้องให้ข้าล่าเท่านั้นมันถึงเหมาะสมกับพระชายาของเจ้า" โม่ฉีหมิงโอบที่ไหล่ของโล่หวินหลาน เขาดูแลนางมานาน จนตอนนี้นางเริ่มมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น ไหล่ก็ไม่ได้มีเพียงกระดูกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว" "หิมะตก ยังสามารถล่าสัตว์ได้!ต้องสนุกมากแน่ๆเลยเพคะ!"โล่หวินหลานร้องตะโกนขึ้น แค่เพียงจินตนาการก็รู้สึกเหมือนตอนเองยืนอยู่ท่ามกลางหิมะแล้ว เธอในปัจจุบันนั้นเป็นคนที่เกิดทางภาคใต้ นอกจากไปเล่นสกีที่ฮาบิ้นในฤดูหนาวแล้ว ก็เคยเห็นหิมะตกเพียงไม่กี่ครั้ง ส่วนมากก็จะได้รับแค่ลมหนาวเพียงเท่านั้น เขามองดูโล่หวินหลานที่ดูจะชื่นชอบหิมะมากนั้น มันช่างแตกต่างจากที่โม่ฉีหมิงคิดไว้ เขาสามารถจินตนาการถึงนางที่สวมเสื้อสำหรับฤดูหนาวตัวสีขาว อยู่ท่ามกลางหิมะ กลืนเป็นหนึ่งเดียว มีเพียงดวงตาที่กลมโตสีดำที่เปร่งประกายนั้น นางในตอนนั้นต้องสวยงามมากแน่ๆ "อีกประมาณสองเดือนเจ้าก็จะได้เห็นหิมะแล้ว" โม่ฉีหมิงหันไปบอกกับนาง ที่ตอนนี้มีรอยยิ้มอยู่เต็มหน้า เขารู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างอบอุ่นยิ่งนัก รอคอยการมาของหิมะตก โล่หวินหลานจึงถาม“เหตุใดฮ่องเต้ถึงเล่นท่านเข้าพบ มีเรื่องอันใดหรือ?" พอพูดถึงเรื่องในวังนั้น แววตาของโม่ฉีหมิงก็มองต่ำลง ดวงตาสองคู่ไม่มีรอยยิ้ม เขาพูดเสียงเรียบ“ฮ่องเต้รู้เรื่องที่เย่เซียวหลัวชอบคอกับเวินอ๋องแล้ว เย่กั๋วกงเป็นคนพูดเอง เย่เซียวหลัวไม่เจอตัวเวินอ๋อง จึงขังตนเองอยู่ในตำหนักแล้วอดอาหาร ท่านพ่อรับสั่งให้ข้าตามหาตัวเวินอ๋อง" โล่หวินหลานไม่คาดคิดว่าเย่เซียวหลัวจะถึงขั้นอดอาหาร แววตาของนางเกิดคำถาม“ฮ่องเต้ให้ท่านตามหาเวินอ๋อง? แล้วท่านรู้หรือว่าเวินอ๋องอยู่ที่ใด" "ไม่รู้เราก็ต้องตามหาต่อไป ไม่ว่าอย่างไรหรือเพื่อใคร เราก็ต้องหาเวินอ๋องให้พบ" โม่ฉีหมิงพูดเสียงเรียบ ทั้งสองนั่งอยู่ด้านนอกห้อง โล่หวินหลานซบลงที่ไหล่ของเขา มีลมเย็นๆพัดโฉยมา ทำให้มีเส้นผมไปติดที่นางของนาง นางเองก็ไม่ได้เอาออก ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องตามหาเวินอ๋องให้พบ ยามค่ำคืน ลมแรง โม่ฉีหมิงโอบกอดที่ไหล่ของโล่หวินหลานที่ตอนนี้เริ่มเย็นแล้ว จากนั้นก็พานางเข้าไปในห้อง โล่หวินหลานปิดบังรอยแผลที่คอตลอดทั้งคืน โม่ฉีหมิงพยายามที่จะถอดผ้าพันคอออกหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ทำได้เพียงโอบกอดนางนอนตลอดทั้งคืน ทางด้านด่องหย่านางพยายามที่จะขยับเขยื้อนร่างกาย แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง ตอนนี้นางรู้สึกชาและหมดแรงไปทั้งตัว ถึงแม้จะดื่มยาชาเข้าไปแล้วแต่ก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของร่างกาย เหมือนความเจ็บปวดทั้งหมดที่ผ่านมาหลายปีนั้นหลอมรวมเอาไว้ที่นี่ นางจำได้ว่าเจอโจรที่หุบเขาโล่เวย ชายชุดดำพวกนั้นฆ่าคนทั้งหมดที่นางพามาได้ เพื่อปกป้องนางแล้วพี่ชายนางยอมทำทุกอย่าง แต่นางกลับโยนโดนธนูแทนพี่ชาย จากนั้น......ทั้งสองก็กระโดดลงน้ำแล้วหนีชายชุดดำพวกนั้น แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยู่ที่นี่ได้? ที่นี่คือที่ไหนกัน? "พี่......พี่......" ด่องหย่าร้องเรียกเสียงเบา แต่นางกลับรู้สึกปวดที่ท้องเสียเหลือเกิน ตอนนี้นางไม่รู้ว่าด่องห้วนเป็นอย่างไรบ้าง เขาคงไม่......นางกังวลมาก จึงตกลงมาจากบนเตียง "อ่า!เจ็บ......" หน้าของด่องหย่าซีดไปหมด บริเวณท้องของนางเจ็บปวดเหลือเกิน เสื้อบริเวณท้องด้านซ้ายมีเลือดไหลออกมาซิบๆ นางใช้มือจับบริเวณท้องซ้าย อีกมือก็ดันพื้นเอาไว้ พยายามที่จะดันตัวเองให้ลุกขึ้น นางมองไปรอบตัว เห็นคนสวมุดสีดำฟุบหลับเอาไว้ ซึ่งก็คือด่องห้วนอีก นางจึงรีบเข้าไปหา แต่ไม่ว่านางจะร้องเรียกอย่างไรด่องห้วนก็ไม่ฟื้น นางจึงรีบเอาน้ำที่วางไว้บนโต๊ะให้เขาดื่ม แล้วมองไปที่คอของเขา นางพึ่งพบว่ามีเข็มเล็กๆปักเอาไว้ หรือว่ามีคนวางยาพิษเขา? ด่องหย่าตกใจมาก จึงรีบเอาเข็มออก จากนั้นก็มองสำรวจพบว่าไม่มีพิษ "อาหย่า เจ้าฟื้นแล้วหรอ?" ด่องห้วนค่อยๆลืมตาขึ้น เขามองดูด่องหย่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาคิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้เจอนางอีกแล้ว จึงรีบโผลเข้ากอดนาง "เจ้าทำให้ข้าใจหายหมดแล้ว!” "ทำไมรึ? ปล่อยข้า!เจ้ากอดข้าแน่นเกินไปแล้ว!” ด่องหย่าตกใจที่จู่ๆพี่ชายก็โผเข้ากอด จึงรีบตีที่มือของเขา "อาหย่า น้องไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ข้าคิดว่าพวกเรา......" ด่องหย่าจู่ๆก็หยุดพูด ที่แท้เรื่องเมื่อวานนี้ เขาเข้าใจผิดหมดเลย นางพยายามที่จะรักษาอาหย่า แต่เขากลับพยายามที่จะฆ่านาง ทำไมถึงเป็นเช่นนี้! ไม่รู้ว่าเมื่อวานพระชายาจะบาดเจ็บเพราะเขาหรือไม่ ไม่ได้ ครั้งนี้ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อมาพบท่านหมิงอ๋อง เพื่อมาร่วมมือกับเขา แต่ตอนนี้เขากลับทำร้ายพระชายาไปแล้ว ไม่แน่หมิงอ๋องอาจจะไม่ยอมร่วมมือกับเขาแน่ ถ้าเป็นเช่นนี้เมืองวูก็ไม่อาจรักษาได้! "ท่านพี่ ท่านคิดอะไรอยู่? เมื่อวานใครเป็นคนช่วยข้าเอาไว้?" ด่องหย่าค่อยๆพยุงตัวขึ้น "คนที่ช่วยเจ้าคือพระชายา!” ด่องห้วนพูดจบก็พยุงด่องหย่าขึ้นมา มองดูแผลบริเวณท้องซ้ายของนางที่ตอนนี้พันแผลเอาไว้อย่างดี แต่มีเลือดไหลออกมาซิบๆ จึงรีบพูดขึ้น "อาหย่า เจ้าจะดื้อไม่ได้นะ ตอนนี้แผลของเจ้ามีเลือดไหลออกมาแล้ว!เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อวานเพื่อช่วยเจ้าแล้วพระชายาต้องเหนื่อยมากแค่ไหน? ด่องหย่าที่ได้ยินเขาพูดถึงพระชายาซ้ำ จากที่ตอนแรกก็โมโหเรื่องเทศกาลผีร่ายรำที่เมืองวูมากพออยู่แล้ว พอได้ยินชื่นนี้ซ้ำๆ ก็ยิ่งโมโห จึงแตะไปที่ตัวของด่องห้วน ด่องห้วนไม่ได้หลบ เพราะเป็นห่วงแผลของนาง จึงทำให้โดนนางแตะเข้าให้เต็มๆ โชคดีที่ตอนนี้นางไม่มีแรงมากนัก ไม่ได้แตะแรงเท่าไหร่ เขาจึงถือโอกาสนี้อุ้มนางไปที่เตียง "อย่าโกรธเลย ไม่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ พวกเราต้องไปที่ตำหนักของท่านหมิงอ๋องนะ!” ด่องห้วนพูดเสียงเบา เพราะเห็นว่านางยังคงโมโหอยู่ จึงจับที่แก้มของนางเบาๆ แล้วหันหลังไปเติมน้ำให้นาง พวกเขาทั้งสองก็เป็นเช่นนี้ ด่องห้วนเองมักจะคอยตามใจด่องหย่า ซึ่งการใจดีให้นางเช่นนี้นั้น ไม่มีใครสามารถทำได้ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าทำเช่นนี้เพราะเหตุใด
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่103 ความสำคัญ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A