ตอนที่112ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่112ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด
ต๭นที่112ความทรงจำที่แสนเจ็บปวด เสียงกรี๊ดร้องของเย่หวินทำให้ขัดขวางเข้าทั้งสองที่กำลังจูบกันโล่หวินหลานหน้าบางเกินไปคนที่อยู่ข้างนอกมองพวกเขาเต็มถึงแม้จะรู้ว่าพวกเขาไม่กล้าพูดอะไรแต่ว่านางก็ผลักโม่ฉีหมิงออกอย่างหน้าแดงและกระโดดลงมาเองจากรถม้า โม่ฉีหมิงใช้นิ้วสัมผัสกับมุมปากที่ทิ้งความหอมหวานของรอยจูบตาอันเรียวขาวของเขากำลังยิ้มและใช้อารมณ์ที่อันตรายจ้องมองเย่หวินไว้เย่หวินมิกล้าแม้แต่จะสบตาเลยถอยไปอยู่ข้างๆ พอใกล้ถึงเขตตำหนักความรู้สึกที่คุ้นเคยทำให้โล่หวินหลานมีจิตใจที่ค่อยๆเงียบสงบลงนางได้เล่นกิ่งไม้จากต้นหลิวที่อยู่ข้างบึงความเรียวยาวของต้นหลิวได้ย้อยลงบนบึงและสะท้อนให้เงินถึงความเขียวชะอมของต้นอ่อนทิวทัศน์แบบนี้ทำให้เห็นแล้วรู้สึกน่าจดจำ นางยืนไว้สักพักและเดินไปข้างหน้าเหมือนเดิมกำลังอยากจะไปเยี่ยมสวินโม่หน่อยแต่พึ่งถึงประตูก็มีแก้วใบหนึ่งโยนออกมาจากข้างในและกำลังโยนมาตรงทิศทางที่นางยืนอยู่มันลอยมาเร็วจนนางหลบไว้ไม่ทันนางเตรียมใจไว้เรียบร้อยแล้วว่าตัวเองคงต้องหัวแตกแน่ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองกลับไม่ได้รับบาดเจ็บพอลืมตาขึ้นอีกทีหุ่นร่างสูงของโม่ฉีหมิงบังนางไว้ข้างหน้าในมือจับแก้วน้ำชาไว้แน่นๆเขาตำหนินางเบาๆ"ถ้าข้าไม่ตามเจ้าไว้ตลอดเวลาคงต้องบาดเจ็บอีกรอบ" โล่หวินหลานมองแก้วที่เป็นกระเบื้องลายครามและขมวดคิ้วขึ้น"พวกเราเข้าไปดูเถอะต้องเกิดเรื่องอะไรแน่ๆ" ตอนเข้าไปเห็นแค่สวินโม่ที่กำลังนั่งพิงเก้าอี้ที่ปูที่รองนุ่มๆอย่างโมโหที่แท้สีหน้าที่ดูฟื้นฟูได้เร็วกลับกลายเป็นสีหน้าที่ขาวซี้ดหรูซูยื่นอยู่ข้างๆและไม่ได้เอาถาดออกจากมือนัยน์ตาเริ่มแดงแต่ก็ยังคงหัวดื้อไม่ยอมก้มหัวให้คนอื่น พอเห็นบรรยากาศที่น่าประหลาดใจโม่หวินหลานขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมและจับแขนเสื้อของโม่ฉีหมิงไว้ทั้งสองต้องทะเลาะกันอีกแน่ๆ "สวินโม่เป็นยังไงบ้าง?"โม่ฉีหมิงทำน้ำเสียงอ่อนเฉย "ท่านอ๋องไม่มีอะไรขอรับเมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจโยนมันออกมา"สวินโม่มองแก้วที่อยู่ในมือของเขาคำพูดที่ฟังแล้วมีความสุขได้อธิบายไป การอธิบายที่ไร้ซึ่งกำลังและหน้าที่ดูจืดซี้ดทั้งสองอธิบายไปไม่มีประโยชน์อะไรเขาทั้งสองเกิดอะไรขึ้นก็เห็นอยู่จะๆ หรูซูไม่กล้าออกเสียงใดๆและถอยไปอยู่ข้างๆไม่พูดไม่จาสายตาที่ดูน่ากลัวจนน่าขดตัวลง "ท่านอ๋องโรคของข้าน้อยรักษาได้พอสมควรแล้วข้าน้อยสมควรกลับพระตำหนักของตัวเองยังมีสูตรยารักษาโรคภัยไข้เจ็บมากมายที่ข้าน้อยยังไม่ได้คิดค้น"เสียงของสวินโม่ยังแหบหน่อยๆแต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนเยอะแต่ก็ฟื้นฟูไม่ได้เหมือนกับปกติที่เป็น โม่ฉีหมิงพยักหน้าเขาทำการรักษาตัวในตำหนักหมิงอ๋องเกือบเดือนแล้วมีหรูซูที่คอยดูและเขาตลอดและยังมีโล่หวินหลานที่คอยปรุงยาให้เขาได้ฟื้นฟูดูจากสภาพร่างกายของเขาก็เริ่มแข็งแรงขึ้น "หรูซูดูแลสวินโม่ดีๆจากนี้ไปเจ้าก็อยู่เคียงข้างเขาตลอดเลยนะ"โม่หวินหลานมองหรูซูที่กำลังหันหลังให้พวกเขาอยู่ข้างๆ พึ่งพูดจบสวินโม่ที่อยู่ข้างๆตะโกนขึ้น"ไม่ต้องแล้วข้าตัดสินใจให้นางไป"เขาไม่อยากแม้แต่จะมองหรูซูเพียงแวบสุดท้ายในน้ำเสียงที่แหบยังเต็มไปด้วยความเฉยชาและคุยกับหรูซู"ตอนนี้ข้าให้อิสระแก่เจ้าเจ้าอยากไปไหนอยากทำอะไรไม่มีใครคอยขัดขวางแล้ว" ที่แท้ในใจของเขาไม่เคยคิดอยากให้เห็นหรูซูอยู่เคียงข้างเขาแทนยี่ย่างอาจจะเป็นเพราะว่าหรูซูเทียบไม่ติดกับยี่ย่างและไม่สมควรอยู่เคียงข้างเขา โล่หวินหลานมองสวินโม่ด้วยความประหลาดใจอยากพูดอะไรแต่กลับโดนโม่ฉีหมิงที่อยู่ข้างๆคอยขวางนางไว้เขาใช้สายตาที่แสดงให้นางอย่าพูดอะไรออกมา "มันควรจะเป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว"หรูซูที่เงียบไปนานเอ่ยปากพูดออกมาสักทีน้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความโหดร้ายเหมือนรอเวลานี้มานานแสนนาน พอนางพูดชัดเจนแล้วตัดสินใจหันหลังเดินออกไปโดยไม่ใยดีเหมือนสายลมที่พัดผ่านออกไปจากห้องนี้เงาของนางค่อยๆเดินออกไปจากสวนถึงแม้นางจะเดินจากไปแต่ก็จากไปอย่างสง่าโดนไม่สนใจใคร เขาที่กำลังเห็นนางเดินจากไปสวินโม่ถอนหายใจหนักๆและหลับตาลง "เย่หวินสั่งคนตามนางไป"โม่ฉีหมิงสั่งให้เย่หวินที่ยืนอยู่ข้างๆ เย่หวินตอบกลับแต่ตอนนี้นางยังไม่ทันได้ก้าวออกจากนั้นก็โดนสวินโม่รั้งไว้"กลับมาท่านอ๋องถ้านางอยากไปก็ให้นางไปแบบเต็มใจพอออกจากประตูนี้แล้วนางกับพวกเราก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สีหน้าของสวินโม่ขาวซี้ดแบบผิดปกติเสียงของนางเหมือนจะพูดแบบเด็ดขาดแต่ก็คงเสียใจมากๆ พอนึกถึงคำพูดที่เมื่อครู่เขาสนทนากันใจของสวินโม่เหมือนโดนเหล็กแหลมคมแทงเข้าไปอย่างเจ็บพอพูดถึงชื่อที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเขาพึ่งสังเกตเห็นว่าความรู้สึกที่ซ่อนไว้มานานถูกระเบิดออกมาสักที ก็เหมือนเมื่อครู่ที่เขาเห็นหรูซูเป็นยี่ย่างเกือบจะทำเรื่องที่ไม่สมควรกับนางแต่ยังดีที่โดนหรูซูตบหน้าเพื่อเตือนสติการโดนตบหน้าครั้งนี้ของเขาเหมือนจะทำให้เขาตื่นจากความรู้สึกที่มีต่อยี่ย่างมานานหลายปีทำให้เขาตื่นจากเรื่องแย่ๆที่เขากำลังจะทำเกือบจะทำลายชีวิตทั้งชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งแกร่งแย่งสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของนางไป ถ้าไม่ใช่หรูซูคงจะทำให้เขาหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เขาสร้างขึ้นอย่างเพ้อฝัน หลายปีที่ผ่านมาคิดว่าตัวเองน่าจะปล่อยวางได้แล้วแต่ตอนที่ได้เจอหรูซูเป็นครั้งแรกความทรมานที่ถูกซ่อนลึกไว้ในใจถูกระเบิดออกมา อากาศในห้องค่อยๆกดลงโม่ฉีหมิงสั่งห้ามเย่หวินไปแล้วและหันไปมองสวินโม่ค่อยๆพูดแบบคำๆไป"สวินโม่ตอนนี้บอกพวกข้าได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น" ไล่หรูซูไปไม่ได้เพราะเป็นว่าไม่ได้รักหรูซูอย่างเดียวเรื่องทุกอย่างมันต้องเกี่ยวข้องกับหญิงสาวที่ชื่อยี่ย่างอย่างนนอน นัยน์ตาของสวินโม่เริ่มเฉยลงริมบางๆอันขาวซี้ดของเขาเวลาผ่านไปสักพักถึงค่อยๆดึงตราหยกเล็กๆออกมาจากเอวหยกสีแดงมืดที่อยู่ในถุงผ้าแบบเหมือนของผู้หญิงมากๆ โล่หวินหลานประหลาดใจเบาๆปกติสวินโม่ที่เป็นคนนิ่งๆกลับมาของที่เหมือนผู้หญิงพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เขาค่อยๆดึงกระดาษสีแดงที่ตัดด้วยศิลปะของจีนออกจากถุงผ้าหลายๆปีที่ผ่านมากระดาษแผ่นแดงนั้นซี้ดลงไปเยอะมากแต่ตรงกลางไม่มีรอยฉีกแม้แต่นิดเดียวดูๆแล้วเขาดูแลเป็นอย่างดีแค่ว่ารูปร่างลักษณะของมันดูไม่ค่อยชัดเจนแล้ว "กี่ปีนี้ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ข้าคิดถึงนางข้าก็จะเอามันออกมาดูแต่เวลาผ่านไปยิ่งนานก็ยิ่งไม่กล้าดูถ้าข้าคิดจะไม่มองมันก็ยิ่งทำให้ข้าคิดถึงกว่าเดิมนานๆไปกระดาษแดงนั้นที่ข้ามีก็ค่อยๆจางหายไป"สวินโม่จับกระดาษแผ่นแดงนั่นไว้เหมือนกำลังจมปักกับความทรงจำเดิมๆ หลังเที่ยงที่เงียบเหงาเหมือนมีความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนหวานมากขึ้นตอนที่เขาจับกระดาษแดงไว้เหมือนกำลังแสดงว่าความรู้สึกภายในที่ลึกซึ้งออกมาคงเป็นความรู้สึกที่ชีวิตนี้คงไม่มีอีกต่อไป ตระกูลของสวินโม่เป็นหมอยาสืบทอดกันมายาวนานเขารู้ว่าตนมีชีวิตอยู่ตั้งแต่เด็กเพราะเหตุผลใดก็คือช่วยเหลือประชาชนเหมือนบรรพบุรุษของเขาเป็นหมอหลวงที่ช่วยเหลือคนอ่อนแอและรักษาคนที่เวลาป่วย แต่ตอนนั้นตอนที่เขาอายุ12ขวบคืนนั้นบ้านของเขามีชายที่สวมเสื้อดำพุ่งเข้ามาอย่างกระทันหันและฆ่าญาติๆของเขาทั้งหมดแค่เพื่อจะเอาตำรายาพิษไปถ้าไม่ใช่เพราะท่านพ่อของเขาเอาไปซ่อนในอ่างในห้องครัวเขาก็คงไม่มีชีวิตคงตายคาที่ จากนั้นความทรทานของชีวิตทำให้เขาต้องสู้กับความลำบากช่วงเวลาที่เขาสูญเสียคนที่รักและตำรายาไปเขาเคยเป็นเด็กตามร้านต่างๆโดนคนอื่นไล่ออกจากที่ทำงานนอนอยู่ข้างถนนเกือบจะโดนพวกขอทานดึงเข้าไปเป็นพวกเดียวกันตอนที่หิวจนหน้ามือตาลายแม้แต่เศษอาหารที่เหลือจากคนอื่นเขาก็กินเขาแค่หวังว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ต่อได้สามารถมีปัญญาไปแก้แค้นศัตรูได้ ยี่ย่างเป็นคนที่เดินเข้าไปในชีวิตของเขาตอนนั้นตอนนั้นนางเป็นแค่เด็กเกเรกล้าใช้ดาบจี้จมูกเขาไว้ให้เขาไสหัวไปและยังหาว่าเขาเป็นขอทานแต่เขากลับเดินตามยี่ยางไม่ไปไหนแค่ว่านางเป็นลูกสาวของเจ้ายุทธภพเขาต้องพึ่งนางในการฝึกฝนวิชาการต่อสู้ถึงจะได้กลายเป็นคนมีชื่อเสียง เจ้ายุทธภพเฉิงซองไป๋เห็นเขาเป็นคนที่พยายามและฝึกฝนได้เร็วเลยรับเขาเป็นศิษย์ ตอนนั้นเขาอายุ12ไม่รู้อะไรสักอย่างมีแค่หัวใจที่คิดจะแก้แค้นอย่างเดียวเขาพยายามตั้งใจฝึกวิชาการต่อสู้กับเฉิงซองไป๋ไม่ว่าตอนนั้นเฉิงยี่ย่างจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับเขายังไงเขาก็ไม่สนแม้กระทั่งนางตีแจกันโบราณของเฉิงซองไป๋ให้แตกแล้วเขาต้องรับผิดแทนก็ตามตัวเองถูกตีอย่างแสนสาหัสตอนนี้นางทำผิดโดนลงโทษเขาอยู่เพื่อนนางมาทั้งคืนตนกลับเป็นไข้ขึ้นสูงตอนที่นางกับคนในยุทธเจ้ามีปัญหากันเขาไม่สนอะไรใดๆเพื่อช่วยนางและตนยังมีรอยแผลเป็นที่ลึกและใหญ่มากตรงแผ่นหลังม่ไปไหนแค่ว่านางเป็นเลษอาหารเข้า ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรหลังจากนั้นถึงจะรู้ว่าจริงๆแล้วนางเป็นความลับที่ซ่อนอยู่ในใจเขาตั้งนาน หลังจากโตขึ้นเฉิงฉี่ฉางมักจะตามเขาและเรียกเขาว่าพี่สวินและติดตามเขาไปทุกที่กลายเป็นสิ่งๆนึงที่เขาขาดไม่ได้ถ้าไม่ได้เป็นเพราะว่าเขารีบแก้แค้นยี่ย่างคงยังไม่ตาย ตอนนั้นเขาแค่17ปีเขากับยี่ย่างรักใคร่ซึ่งกันและกันและบอกเฉิงซองไป๋เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาไปแล้วแต่ก่อนที่พวกเราจะเขาพิธีสมรสเขาอยากจะไปแก้แค้นกับศัตรูที่เขาแค้นมาหลายปีอย่างอำเภอใจผลสรุปว่ายี่ย่างยืนบังธนูแทนเขาและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย เพราะว่าความซุ่มซ่ามของเขาทำให้ต้องเสียคนที่รักไปและเฉิงซองไป๋ที่เลี้ยงดูเขามา สวินพูดถึงตอนสุดท้ายจนอยากร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา“เรื่องหลังจากนั้นท่านอ๋องรู้หมดยี่ย่างเป็นสิ่งที่ข้าเสียใจมากที่สุดในชีวิตถ้าไม่ใช่เป็นเพราะข้าข้าคงไม่ต้องเสียนางไป โล่หวินหลานฟังแล้วรู้สึกหดหู่ใจนึกไม่ถึงสวินโม่คนที่เย็นชาไร้หัวใจขนาดนี้ถึงจะได้มีความรักที่ลึกซึ้งน่าดีใจและน่าเสียใจถ้าเฉิงยี่ย่างยังอยู่คงจะเป็นหญิงสาวที่น่ารักสดใสอย่างแน่นอน และโม่ฉีหมิงยังคงสีหน้าเดิมนั่งอยู่ข้างๆไม่จะโดนใจเขาอะไรเลยสักนิด “เพราะว่าหรูซูและเฉิงยี่ย่างหน้าตาเหมือนกันมากเจ้าถึงได้มองนางเป็นเฉิงยี่ย่างถึงได้ฆ่าตัวเองแบบนี้ใช่ไหม?แต่จริงๆแล้วเจ้าแค่อยากจะไถ่บาปเพราะเฉิงยี่ย่างทำให้ใจของตัวเองไม่เจ็บปวดอีกต่อไป”โล่หวินหลานพูดแค่คำๆเดียวก็ไขความลับทั้งหมดได้ทำให้สวินโม่รู้สึกอับอาบเลยทีเดียว สวินโม่จ้องมองกระดาษแดงอย่างตาค้างและดูอย่างจดจ่อแต่คำพูดโล่หวินหลานยังคงลอยอยู่ข้างหูของเขา เขาทำเพราะอยากไถ่บาป……เพื่อไถ่บาปงั้นหรอ? เขาจ้องมองกระดาษแดงบนมืออย่างจดจ่อเหมือนเป็นสิ่งของล้ำค่าที่สุดและเอามันใส่กลับไปในถุงผ้าอีกรอบ “หรูซูมีหน้าตาที่คล้ายยี่ย่างมากข้าก็ผิดที่มองนางเป็นยี่ย่างวันนี้ข้าจะไม่ทำร้ายใครอีกไม่มีคนจะแทนยี่ย่างได้ได้”สวินโม่พูดขึ้นอย่างเย็นชา โม่หวินหลานขมวดคิ้วเป็นปม“แต่ว่าสวินโม่เจ้าพึ่งกระดาษแดงในการดำเนินชีวิตต่อไปไม่ได้คนเราต้องเดินหน้าต่อไปต้องมีเป้าหมายเจ้าต้องมีชีวิตใหม่ถ้ายี่ย่างรู้ว่าเจ้าจมปลักเรื่องเดิมๆมาตลอดนางก็คงไม่มีความสุขนางก็คงไม่หวังว่าเจ้าต้องจบชีวิตแบบนี้ คำพูดของนางทำให้โม่ฉีหมิงและสวินโม่รู้สึกตกใจเบาๆ โม่ฉีหมิงใช้สายตาที่เข้าใจและเหมือนไม่เข้าใจมองนางและมองไปข้างหน้าถ้ามีเป้าหมายใหม่ชีวิตใหม่ถ้ามีวันหนึ่งเขาจากไปจริงๆนางคงจะลืมเขาไปง่ายๆอย่างนี้เลยใช่ไหม? ไม่ได้……ไม่ได้แน่นอน “หวินหลาน”โม่ฉีหมิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา“สวินโม่ทำอะไรก็มีเหตุผลของเขาเจ้าอย่าไปยุ่งเรื่องของเขา” พูดเสร็จมือใหญ่ๆของเขากุมมือนางไว้และพานางออกจากห้องนั้นและพาไปตรงสวนข้างนอก “เจ้าทำอะ……” คำพูดยังพูดไม่จบแล้วถูกเขาจูบและดูดจังหวะการหายใจของเขากดทับอกของนางไว้ คำพูดของเขาที่ฟังไม่ค่อยชัดเจนกระทบลงตรงริมฝีปากนาง“ไม่ยอมให้เจ้าไปจากข้าอย่าลืมข้า” อย่าไปจากข้าตลอดไป
已经是最新一章了
加载中