ตอนที่135 ลาโลกกลับสู่สวรรค์   1/    
已经是第一章了
ตอนที่135 ลาโลกกลับสู่สวรรค์
ต๭นที่135 ลาโลกกลับสู่สวรรค์ เรื่องนี้ลอยเข้าหูฮ่องเต้เจียเฉิง เมื่อเข้าประชุมราชวังยามเช้าเสร็จ เขาก็ส่งหมอในวังเป็นจำนวนสองในสามของทั้งหมด ไปรักษาเน่เซียวหลัวที่เรือนเย่ ในวังเหลือแต่แพทย์เก่าแก่ที่ชำนาญการคอยอยู่เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ในเรือนเย่ยุ่งวุ่นวายมาก ไม่มีเวลาแม้แต่จะเก็บโคมแดงผ้าแดง ในเรือนแทบจะไม่เห็นเงาของใคร ลานกลางเรือนเงียบสงัดว่างเปล่ามีเพียงหิมะสีขาวที่ดูเงียบเหงา เตียงไม้สีน้ำตาลสลักลายดอกไม้ ด้านนอกแขวนด้วผ้าแพรหงส์คู่สีแดงสด ถูกแยกออกจากกันด้วยตะขอสีทอง บนผ้าปูสีเดียวกันนั้น มีร่างระหงนอนอยู่ รู้สึกถึงความสงบอย่างแปลกประหลาด เย่เซียวหลัวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าขาวซีดไม่มีเลือดเลย ริมฝีปากสีม่วงเข้ม ดูก็รับรู้ได้ว่าเสียชีวิตเพราะยาพิษ “หลัว หลัว เจ้าตื่นขึ้นมาสิ ลืมตาขึ้นมาดูแม่ ทำไมเจ้าต้องจากไปเร็วเช่นนี้ ทำไมถึงให้ผมขาวส่งผมดำล่ะ?” คุณนายเย่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง ไม่มีใครดึงเจ้าขึ้นมาได้ เจ้าเป็นคุณนายสองในเรือนนี้ เย่เซียวหลัวเป็นลูกสาวแท้ๆของเจ้า สำหรับสนมน้อยที่ไม่ได้รับความรักมากนัก การได้มีลูกสาวที่ทั้งสวยงามและเฉลียวฉลาดเช่นนี้ ถือว่าได้มีที่พึ่งในอีกครึ่งชีวิต ทั้งๆที่เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องเศร้าไปเสียแล้ว “ท่านแม่รอง ท่านอย่าเสียใขไป น้องสาม เจ้าไม่ได้จะจากไปจริงๆ…” เสียงของเย่อวิ๋นกว่างนั้นอ่อนแรง เขาก็ไม่รู้ว่าจะปลอบอย่างไรดี “ฉันรู้ เด็กดีอย่างหลัว เป็นความผิดของฉันเอง…” คุณนายรองพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง “พอแล้ว เลิกพูดเถอะ พูดต่อไปก็คงจะคืนชีพมาไม่ได้” เย่กั๋วกงพูดอยู่ด้านข้างด้วยความโมโห เขาขมวดคิ้วแน่น หางตาทั้งสองข้างเผยให้เห็นริ้วรอย ราวกับแก่ลงอีกสิบปี โอ้ สวรรค์! โอ้ ท่านฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ! ตระกูลเย่ทำอะไรผิดไป ถึงถูกลงโทษเช่นนี้? “เจ้า โทษเจ้าที่บังคับให้หลัวไปแต่งงานกับองค์ชาย ถ้าหากเจ้าปล่อยให้เจ้าแต่งงานกับคนที่เจ้ารัก เจ้าก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้” คุณนายรองตะโกนใส่เขาด้วยความโมโห องค์ชายและฮ่องเฮาเย่ก็รู้สึกอึดอัด แต่เมื่อมองไปยังเย่เซียวหลัวที่นอนอยู่บนเตียง ในใจก็ไม่คิดเรื่องอะไรอีกแล้ว เมื่อถูกเจ้าตะวาดใส่ เย่กั๋วกงอึ้งไป ฮองเฮาเย่ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาบนหน้าตัวเอง แล้วพูดขึ้นเสียงเบา “พวกเจ้าเลิกทะเลาะกันเถอะ เรื่องกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่มีใครกลับคืนมาได้ รอหมอมาก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า” เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในห้องมีทั้งสนมของเย่กั๋วกง บรรดาลูกๆ ทั้งหมดราวๆเจ็ดแปดคน เย่อวิ๋นกว่างก็คงจะสงบที่สุดในหมู่คนพวกนี้ คนเราต้องให้ถึงเวลาสูญเสียไปก่อน จึงจะรู้สึกหวงแหน ถึงจะเข้าใจเรื่องที่ตัวเองทำผิดไป เย่กั๋วกงก็เป็นเช่นนี้ เมื่อมองไปที่เย่เซียวกลัวที่นอนอยู่บนเตียง ในใจเขาขอแค่ให้เจ้าฟื้นกลับมา เขาจะยอมตกลงเจ้าทุกเรื่อง ด้านนอกมีคนวิ่งหอบเข้ามา แล้วพูดขึ้น “หมอหลวงมาแล้ว นายท่าน หมอหลวงมาแล้ว” ผู้คนต่างถอยออกมาเป็นทางเดิน หมอหลวงใส่ชุดสีน้ำเงินเข้มเดินเรียงกันเข้ามา พร้อมด้วยกล่องไม้สีดำในมือ พวกเขาเรียงเป็นสองแถว หมอหลวงยืนเรียงกันตามลำดับตรวจทีละคน แต่ไหนแต่ไรมา นอกจากฮ่องเต้กับฮองเฮาแล้ว น้อยคยที่จะมีหมอหลวงมารักษาพร้อมกันเช่นนี้ เย่เซียวหลัวเป็นผู้ริเริ่มในตระกูลเย่ และทำให้ผู้คนได้รู้ว่า ตระกูลเย่มีตำแหน่งในใจฮ่องเต้เจียเฉิง “สีหน้าเขียวช้ำ เย็นไปทั้งตัว ปากสีม่วงคล้ำ เป็นอาการของการกินยาพิษอย่างเห็นได้ชัด คุณหนูสามกินยาพิษในเวลากลางดึกเมื่อคืน เวลาไม่นานมาก” หมอหลวงตรวจเสร็จก็เดินกลับไป แล้วหมออีกท่านก็เข้ามารักษาต่อ “อาการทางร่างกายไม่มีแล้ว การหายใจและหัวใจหยุดเต้น เพียงแต่การรับรู้ของคุณหนูยังอยู่ เหมือนกับมีอะไรผูกเจ้าเอาไว้” หมอหลวงจับชีพจร พลางตรวจสอบสีหน้าของคุณหนูสาม ตั้งแต่เขาเป็นหมอหลวงมานี่คงเป็นเคสที่แปลกที่สุด “หมอ หมอหลวง ความหมายของท่านคือ หลัวยังมีชีวิตอยู่?” เย่กั๋วกงจับคำพูดของหมอหลวงได้อย่างรวดเร็ว ราวกับจับเส้นความหวังสุดท้าย หมอหลวงลูบเครายาวๆ แล้วพูดด้วยความตกตะลึง “นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อาจจะยังรับรู้ได้อยู่จริง หรือมีเรื่องที่ยังค้างคาใจ แต่คนที่ตายไปแล้วจะฟื้นขึ้นมาอีกไม่ได้ อาการของคุณหนูได้บ่งบอกถึงการไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ท่านเย่ ยังไงก็รอให้หมอท่านอื่นตรวจเสร็จแล้วค่อยปรึกษากันดีกว่า คำพูดเหล่านี้ของเขา กระทบกระเทือนจิตใจเย่กั๋วกงครั้งแล้วครั้งเล่า เดิมทีเริ่มจะมีความหวัง แต่มันกลับกลายเป็นแค่ความฝัน องค์ชายนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองเย่เซียวหลัวที่นอนอยู่บนเตียง ใม่รู้ในใจนั้นคิดอะไรอยู่ จากแววตาที่อ่อนโยนก็ดุดันขึ้นมา “ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ?” เย่กั๋วกงรู้สึกสิ้นหวัง น้ำเสียงบ่งบอกถึงความอ่อนล้า หมอหลวงที่ค่อนข้างมีอายุส่ายหัว แล้วถอยไปอีกทาง ทุกคนต่างรอคอยเวลาตัดสินความตายนั้น อีกซักพัก เหล่าหมอหลวงก็ได้เชิญให้หมอหลวงเก่าแก่ในวังมา “ท่านเย่กั๋วกง คุณหนูสามเขากินยาปลิดชีพตัวเอง แต่ว่าไม่ได้พบทันทีหลังกินยาเข้าไป ทำให้ยืดเวลาการรักษาออกมา จนชีพจรหยุดเต้นเสียแล้ว ดังนั้น คุณหนูสามได้ลาโลกไปแล้ว!” หมอหลวงพูดด้วยความโศกเศร้า ลาโลก! สองคำนี้ดังกระทบกระเทือนทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น เย่กั๋วกงที่เริ่มจะมีความหวังก็สติหลุดเสียไม่เหลือชิ้นดี ทั้งตัวอ่อนแรงล้มลงกับพื้น ยังดีที่ได้เย่อวิ๋นกว่างมาประคองไว้ แล้วฉุดเขาขึ้นมาทัน “หลัว!” คุณนายรองตะโกนเรียกแล้วเป็นลมไป ในร้องมีเสียงร้องไห้ดังระงม ทุกคนอยู่ในความทุกข์และโศกเศร้า มีคนใช้มาอุ้มคุณนายรองไป แล้วให้หมอหลวงไปช่วยดูอาการเจ้า ท้องฟ้าที่เงียบเหงานั้นดูมืดหม่น หิมะด้านนอกยังคงตกลงมา นานมาก ไม่รู้ว่ามีใครพูดขึ้นมา “เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา” เสียงร้องไห้อันโศกเศร้านั้นดังเข้ากูทุกคน ฮองเฮาเย่มองเย่เซียวหลัวที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา พยายามพูดออกมา “หลัวนั้นจากไปแล้ว ท่านเย่ เตรียมเรื่องพิธีกรรมเถอะ ก็จัดขึ้นในฐานะชายาขององค์ชายแล้วกัน ส่วนทางฮ่องเต้เดี๋ยวข้าจะไปขอร้องเอง” ฮองเฮาเย่เช็ดตา ที่นี่ไม่มีใคร วี่จือคนใช้ที่คอยติดตามก็ค่อยประคองแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยความทุลักทุเล จังหวะที่ประตูปิดลง ลมพายุด้านนอกก็พัดเข้ามา “ไม่ น้องสามยังไม่ตาย น้องแค่หลับไป ยังมีคนที่สามารถช่วยเจ้าได้อยู่ ท่านพ่อ น้องสามยังไม่ตาย!” เย่อวิ๋นกว่างที่เงียบมาตลอด ก็ตะโกนขึ้น เขาจะให้เย่เซียวหลัวถูกฝังไปไม่ได้ คนเป็นๆทั้งคน คนที่ถูกปิดกั้นลมหายใจทั้งคน เขาไม่ยอมให้เจ้าถูกฝังแน่ๆ ยิ่งในฐานะชายาขององค์ชาย เมื่อพูดคำนี้ออกไป คนรอบข้างต่างนึกว่าเขาคลุ้มคลั่ง คนที่นอนตัวม่วงช้ำ เย็นเฉียบอยู่บนเตียงนั้นคือ เย่เซียวหลัว เจ้าหมดลมหายใจและหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ดูยังไงก็เป็นคนที่เสียไปแล้ว “อวิ๋นกว่าง ข้ารู้ว่าเจ้ารักหลัวมาก แต่คนตายไม่อาจคืนชีพ เจ้าสงบสติอารมณ์หน่อย แล้วยอมรับความจริงซะ!” เย่กั๋วกงนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้า “ไม่ใช่ ท่านพ่อ หลัวแค่หลับไปจริงๆ เราหาหมอที่เก่งกว่านี้มารักษาหลัวเถอะ ข้าเชื่อว่าหลัวจะดีขึ้น” เย่อวิ๋นกว่างพูดอย่างไม่ตายใจ แต่สวรรค์รู้ว่าคำพูดของเขาไม่น่าเชื่อสำหรับทุกคน เย่กั๋วกงส่ายหัว แอบคิดว่าเย่อวิ๋นกว่างนั้นเสียสติไปแล้ว “ทุกคน เอาผ้าหลากสีในเรือนออกให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็นผ้าขาวภายในวันนี้ แล้วไปเชิญพระหมิงจี้จากวัดฝ่าฟู้มาสวด หลังจากนั้นสามวัน ให้ฝังเลย” เย่กั๋วกงตั้งจิตตัวเองให้สงบลง “รับทราบ” คนใช้ด้านนอกตอบรับแล้วรีบไปปฏิบัติตามคำสั่ง แต่ว่าเย่กั๋วกงไม่ยอมให้จัดพิธีในฐานะเป็นชายาองค์ชายแน่นอน ถ้าหากนี่เป็นเรื่องที่เจ้าไม่ต้องการที่สุดในตอนที่มีชีวิตอยู่ ตอนนี้เสียไปแล้ว เรื่องตอนที่ชีวิตที่ยังทำไม่สำเร็จ หลังจากเสียก็จะช่วยเจ้าทำจนสำเร็จ “ท่านพ่อ!” เสียงดุดันของเย่อวิ๋นกว่างดังเข้ามาในโสตประสาทของเย่กั๋วกง ตาสีแดงก่ำของเขากวาดมองไปรอบๆ กัดฟันแล้วพูดขึ้นมา “น้องสาม ยังไม่ตาย พวกเจ้าห้ามเอาเจ้าไปฝัง ข้าจะคิดวิธี ช่วยเจ้าให้ฟื้นกลับมา!” เย่อวิ๋นกว่างพูดจบ รีบเดินไปหาเย่เซียวหลัวที่เตียง เขาจะพาเจ้าออกไป เขสไม่ยอมให้เจ้าถูกฝังไปแบบนี้ ถ้าหากทุกคนคิดว่าเจ้าตายไปแล้วจริงๆ ทุกสิ่งก็คงหมดทางที่จะหันหลังกลับ “พวกเจ้ายังยืนอยู่ทำไม? ยังไม่ไปลากคุณชายรองกลับมาอีก เร็ว!” เย่กั๋วกงพูดด้วยความโมโห คนใช้ข้างกายต่างไปช่วยกันพาเย่อวิ๋นกว่างกลับมา ลากเข้าไปอีกทางหนึ่ง เห็นเย่เซียวหลัวตกลงมากับตา คนใช้รีบไปช่วยรับไว้ ในใจชาจนขนลุกชัน “พวกเจ้า รีบพาคุณชายรองไปห้องฟืน ไม่มีคำสั่งจากข้าห้ามให้เขาออกมา!” เย่กั๋วกงสั่ง แล้วเดินสะบัดออกไป 
已经是最新一章了
加载中