ตอนที่25 เกิดเรื่อง
1/
ตอนที่25 เกิดเรื่อง
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่25 เกิดเรื่อง
ตนที่25 เกิดเรื่อง “เจ้าพูดว่าอะไรนะ? โล่วี่เสว่ลักลอบมีสัมพันธ์กับชายอื่น?” โล่หวินหลานที่กำลังอ่านตำราพอได้ยินก็ตกใจไม่ใช่น้อย เพียงชั่วครู่ก็ปรับสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม ปกติโล่วี่เสว่ไม่ใช่คนที่จะมีสัมพันธ์กับชายใดก่อน ถึงนางจะเป็นคนไม่ดี แต่โล่หวินหลานเชื่อ เรื่องนี้ ต้องมีคนวางแผนอะไรไว้แน่ แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือ…… “ใช่ขอรับรับพระชายา ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงทุกอย่างขอรับ ข้าน้อยได้ไปตามสืบถึงต้นสายปลายเหตุมาแล้ว แต่กลับพบว่าผู้ที่ปล่อยข่าวไม่เหลือหลักฐานไว้ให้ผิดสังเกตเลยเพียงนิด ข้าน้อยจนปัญญา สืบไม่พอเบาะแสอะไรเลยขอรับ” ทันทีที่พูดจบฉินหยิ่นก็รีบคุกเข่าลง เขานึกว่า โล่วี่เสว่สำคัญต่อโล่หวินหลานมาก เขารู้สึกโทษตัวเองที่สืบเบาะแสอะไรไม่พบเลย “ช่างเถอะ หากข่าวนี้เป็นเรื่องจริง ถ้าอย่างนั้นคนในจวนหลินอ๋องไม่น่าจะแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป เรื่องทั้งหมด อาจจะมีคนที่อยู่เบื้องหลัง พวกนั้นเตรียมการไว้อย่างรอบคอบ ก็ไม่แปลกที่เจ้าจะสืบไม่ได้ ลุกขึ้นเถิด” โล่หวินหลานรู้สึกแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นนางก็เปิดตำราขึ้นอ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกครั้ง ฉินหยิ่นอดไม่ได้ที่จะตะลึงกับท่าทีของนาง ฉินหยิ่นใช้สายตาฉงนแปลกใจมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของโล่หวินหลาน เหตุใดนางถึงไม่มีท่าทีร้อนรนกับเรื่องนี้ โล่หวินหลานรู้สึกได้ถึงสายตาของฉินหยิ่นที่มองมา หยักคิ้วน้อยๆหนึ่งที จากนั้นจึงปิดตำราลง ใช้มือเท้าคางแล้วกวาดสายตามองไปที่ฉินหยิ่น “ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องที่นางเคยทำไว้กับข้า แต่วันที่นางแต่งเข้าจวนหลินอ๋องข้าเคยเตือนนางแล้ว เป็นนางเองที่คิดถึงแต่ลาภยศเงินทอง ข้าพยายามสุดความสามารถแล้ว หากแต่วันนี้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมาข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้” พอฟังจบฉินหยิ่นก็หลุบตาลงต่ำ พระชายาทายออกตั้งแต่แรกว่าเรื่องต้องมาถึงจุดนี้ ความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างอยู่ในสายตาเขาหมด ไม่พูดไม่ได้ ว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้า แข็งแกร่งนัก แข็งแกร่งจนไม่สามารถเดาทางนางถูก “ขอรับพระชายา ข้าทราบแล้ว แล้วตอนนี้พวกเราทำอะไรได้บ้างขอรับ” ถึงแม้ฉินหยิ่นจะรีบอยากจบบทสนทนานี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา โล่หวินหลานนิ่งเงียบไป จากนั้นจึงยิ้มน้อยๆขึ้นมา “เจ้าจำไว้ เรื่องที่โล่วี่เสว่ลักลอบมีสัมพันธ์ชายอื่นมันคือกับดักมีคนวางแผนไว้ หากข้าทายไม่ผิด ผู้ที่โดนหมายหัวต่อไปก็คือ หมอหลวงโล่” ฉินหยิ่นเห็นโล่หวินหลานวิเคราะห์มีเหตุมีผล อดไม่ได้ที่จะทึ่ง ในใจได้แต่นับถือผู้หญิงตรงหน้า พระชายาช่างเก่งกาจนัก “เจ้าเข้าใจไหม? เรื่องที่เจ้าต้องทำในตอนนี้คือ อย่าให้เรื่องนี้มามีผลเกี่ยวพันกับพวกเรา เรื่องอื่น ไม่ต้องสนใจ” โล่หวินหลานพูดจบก็ปัดมือเบาๆให้ฉินหยิ่นออกไป ฉินหยิ่นพอรู้ว่ารบกวนนางนานแล้ว จึงขอลาโดยคุกเข่าลงให้ยันพื้นโน้มศรีษะลงทำความเคารพจากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป โล่หวินที่อยู่ภายในห้องหนังสือก็จมลึกอยู่กับความคิดตัวเอง เพียงครู่เดียวนางก็นึกขึ้นได้ใครคือผู้เบื้องหลังวางแผนใส่ร้ายโล่วี่เสว่ จะเป็นไปไม่ได้นอกจากเวินอ๋อง จะมีใครเกลียดตระโล่เท่าเขาอีก หากเป็นเช่นนั้น รายต่อไปที่จะถูกเขาจัดการคงไม่พ้นหมอหลวงโล่ ไม่ผิดแน่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว หากแต่ เรื่องนี้ไม่เดือดร้อนถึงตัวนางก็พอแล้ว นางไม่ว่างพอจะมาสนใจเรื่องพวกนี้ สองวันให้หลัง ไม่ผิดที่คาดเกิดเรื่องกับหมอหลวงโล่ จากข่าวที่โล่หวินหลานได้ฟัง หมอหลวงโล่ได้เข้าวังไปตรวจพระชายาที่ไม่ค่อยได้การใส่ใจจากฮ่องเต้เท่าไหร่นัก ถูกนางสนมใส่ร้ายว่าถูกหมอหลวงโล่ลวนลาม เรื่องนี้ถึงหูฮ่องเต้ทำให้ฮ่องเต้กริ้วหนัก จึงจับหมอหลวงโล่ไปขังโดยไม่ให้โอกาศเขาในการอธิบายใดๆทั้งสิ้น พอฟังเรื่องราวทั้งหมดจนจบโล่หวินหลานไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแต่รู้สึกว่าโม่ฉีหานคนนี้จิตใจหยาบช้านัก เหตุการณ์ทั้งสองต่างใช้แผนการชู้สาว ทำให้นางรู้แปลกใจไปครู่ใหญ่ หลังจากนั้น ฮ่องเต้ก็จับคนทั้งตระกูลโล่มาลงโทษทั้งหมด แน่นอน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับโล่หวินหลานแต่อย่างใดเพราะนางแต่งออกมาแล้ว เพราะฉะนั้นนางจึงไม่มานั่งเสียเวลาคิดเรื่องพวกนี้ อีกด้านหนึ่ง โม่ฉีหานก็อยู่ในห้องทรงอักษรกับห้องเต้ กำลังปรึกษาหารือกันเรื่องตระกูลโล่ “ท่านพ่อ ลูกรู้สึกว่า สิ่งที่หมอหลวงโล่ทำเกินไปนัก เราไม่ควรปล่อยเขาไว้” โม่ฉีหานกล่าวอย่างทรนงต่อหน้าโม่ฉีสิงผู้เป็นบิดา น้ำเสียงจริงจังหนักแน่น ต่อหน้าโมฉีสิงเขาเป็นคน “สุภาพอ่อนโยน” ตลอด แต่มาวันนี้กลับสีแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมาให้เห็น ยิ่งทำให้เห็นชัดขึ้นว่าเขาสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก “ถ้าอย่างนั้น หากเจ้าเป็นข้า เจ้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร” โม่ฉีสิงกล่าวเสียงแหบพร่า ผ่านเรื่องราวมาเยอะ จนมาวันนี้ทำให้เขารู้สึกตัวเองแก่ลงไปมาก “ท่านพ่อ ข้าขอเสนอหนึ่งวิธี ท่านพ่อจะสั่งลงโทษประหารตระกูลโล่ใช่หรือไม่” โม่ฉีกล่าวเสียงต่ำขึ้นมาทันที พอได้ฟังสิ่งที่โม่ฉีสิงพูดจนจบทำให้โม่ฉีสิงหัวเราะขึ้นมา โม่ฉีหานหานสมกับเป็นลูกชายเขาจริงๆรู้ใจเขาไปหมดซะทุกเรื่อง ถึงปกติจะเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ก็ไม่ใช่คนไม่มีความสามารถ “จากที่เจ้าคิด ข้าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี?” ถึงโม่ฉีสิงจะรู้ดีว่าโม่ฉีหานไม่ใช่คนอ่อนโยนเหมือนที่เห็นอยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่รู้เรื่องของเขาอีกมาก ทันใดนั้น ก็รู้สนใจบทสนทนาของเขาขึ้นมา โม่ฉีหานคิดเตรียมการแล้วตั้งแต่แรก เพียงต่ไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดไปในทันที เขาทำท่าแสร้งทำเป็นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงริปากพูดเสียงอ่อน “ท่านพ่อ เรื่องนี้ท่านสามารถให้อ๋องหมิงกับพระชายาหมิงเป็นคนสั่งลงโทษเอง” โม่ฉีหานที่พอพูดจบค่อยๆสังเกตสีหน้าของโม่ฉีสิง พอเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆจึงพูดต่อ “ท่านก็รู้ดี หลายปีมานี้หมอหลวงโล่กำเริบเสิบสานขึ้นทุกที พระชายาหมิงถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นลูกสาวของนาง หากให้พระชายาหมิงลงโทษแทนท่าน ทำให้นางดูไว้ ว่าอย่าเจริญรอยตามตระกูลโล่” โม่ฉีพูดอย่างภูษาฟ้าไร้ตะเข็บ จับจุดสงสัยไม่ได้สักนิด โม่ฉีตั้งใจใคร่ครวญสักพัก สักครู่จึงพยักหน้าเห็นพ้องกับโม่ฉีหาน นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขากังวล กำลังหาทางจัดการเรื่องนี้ ผ่านไปไม่ถึงครึ่งวัน ฮ่องเต้ก็พระราชโองการลงมา โล่หวินหลานกับโม่ฉีหานสบตากันเพียงครู่ นิ่งเงียบไปพักใหญ่ “คนที่สมควรตายในตระกูลโล่ก็มีเพียงหมอหลวงโล่ โล่ฮูหยิน กับโล่วี่เสว่ เท่านั้น คนอื่นล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์” โล่หวินหลานตั้งแต่แรกก็ไม่เห็นว่าหมอหลวงโล่กับโล่ฮูหยินเป็นพ่อแม่อยู่แล้ว โม่ฉีหมิงที่ได้ฟังอย่างนั้นก็นิ่งเงียบ มองดูหน้าที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดของโล่หวินหลานจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เดี๋ยวข้าจะไปพบฮ่องเต้ ให้ช่วยปล่อยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” สิ่งที่โล่หวินหลานรอคอยก็คือประโยคนี้ ถึงแม้นางจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับตระกูลโล่ แต่จะให้นางเห็นผู้คนบริสุทธิ์ต้องตายหน้าต่อตา นางทำไม่ได้ จึงทำให้พูดประโยคเมื่อครู่ออกมา นางเชื่อมั่น ว่าโม่ฉีหมิงจะเข้าใจความรู้สึกของนาง “ท่านพ่อให้พวกข้าลงคนตระกูลโล่ อย่างไรซะเจ้าก็เป็นคนของตระกูลโล่ หากเจ้ากลัว ข้าจะพูดกับท่านพ่อว่าเจ้า……” โม่ฉีหมิงยังพูดไม่ทันจบก็ถูกโล่หวินหลานขัดขึ้น “ไม่ต้อง หากลงโทษแค่สามคนนั้น ข้าไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ถึงอย่างไรพวกนั้นก็สมควรตาย!” พูดถึงตระกูลโล่ทีไร โล่หวินหลานก็ควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ถึงแม้นางจะไม่ใช่โล่หวินหลานจริงๆ แต่ความทรงจำทุกอย่างกลับถูกไหลย้อนเข้ามาในสมองของนางไปมา สะกิดบาดแผลเดิม โม่ฉีหมิงไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นมาอย่างไร เพียงแต่เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของโล่หวินหลาน จึงไม่ได้เท้าความต่อ หลุบตาลงต่ำเทน้ำชาให้นางดับโทสะ ทุกกริยาท่าทางอันละเอียดอ่อนอยู่ในสายตาของผู้ที่ได้เห็นทั้งหมด ฉินหยิ่นถอนหายใจ ท่านอ๋องต้องมีใจหวั่นไหวกับพระชายาแล้วแน่แท้ ถ้าไม่ใช่เพราะรัก ไม่มีทางได้เห็นท่าทางเอาใจใส่ของท่านแน่นอน พร้อมกันนั้นทุกคนต่างรู้ยินดีปรีดาที่ท่านอ๋องของพวกเขาได้พบกับสตรีอย่าโล่หวินหลาน ภาพเบื้องหน้าที่มีกันและกันไม่มีวันถอดทิ้งกัน ทุกคนต่างมองดูแล้วเก็บไว้ในความทรงจำ มีหลายล้านความรู้สึกไม่สามารถบรรยายออกมาได้ โม่ฉีหมิงที่นั่งอยู่ในห้องโถงได้สักพักก็สั่งให้คนพาเข้าวังหลวง ถึงแม้ว่าโล่หวินหลานอยากตามไปด้วยเพียงใด แต่ก็กลัวว่านางที่ได้ชื่อว่าเป็นคนตระกูลโล่ จะทำให้เสียเรื่องได้ ก็ทำได้เพียงอดทนรอฟังข่าวอยู่ที่จวนอ๋อง ฮ่องเต้คาดการณ์เสมือนรู้ว่าโม่ฉีหมิงจะมาพบ ได้สั่งให้ขันทีนำทาง โม่ฉีหมิงได้ขมวดคิ้ว เขากับฮ่องเต้ไม่ค่อยสนิทชิดเชื้อกัน แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าฮ่องเต้เอนดูเขาเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะมารดาของเขาที่เป็นสนมเอกของฮ่องเต้ โม่ฉีหมิงจัดการกับความคิดที่ตีกันไปมาอยู่ในหัวจากนั้นก็มองขันทีที่นำทางเขามาสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง ทำความเคารพฮ่องเต้เสร็จแล้วก็เดินจากไป “มาแล้วหรือ?” โม่ฉีสิงค่อยๆหันหน้าหลัง พอเห็นโม่ฉีหมิงที่นั่งอยู่บนรถเข็นกับใบหน้าที่มีหน้ากากบังอยู่ ดั่งถูกหนามแหลมคมทิ่มแทงที่หัวใจ หากแม้ใบหน้าของเขาไม่เสียโฉม หน้าก็คงจะเหมือนแม่ของเขามาก โม่ฉีหมิงพยักหน้าเบาๆ พลางขยับรถเข็นตัวเอง แล้วเข็นขยับไปใกล้โม่ฉีสิงที่อยู่ไม่ไกลนัก “ท่านพ่อโปรดให้อภัยลูกด้วย ลูกไม่สามารถลุกทำความเคารพท่านพ่อได้” ทุกครั้งที่โม่ฉีหมิงเข้าพบโม่ฉีสิงมักพูดประโยคนี้เสมอ ไม่ใช่เพราะเขาตั้งใจพูดเสียดแทงถึงบาดแผลของเขา แต่มารยาทก็ไม่ควรขาด โม่ฉีสิงแววตารู้สึกผิดมาก น้ำเสียงก็อ่อนลงไปมาก ในบรรดาลูกชายทั้งหมดเขาก็เอนดูเพียงโม่ฉีหมิงคนเดียว เหตุผลเพราะเขารู้สึกเป็นหนี้กับลูกชายคนนี้เยอะมาก “วันนี้เจ้ามาพบพ่อ คงหนีไม่พ้นเรื่องของตระกูลโล่ใช่หรือไม่” โม่ฉีสิงที่อยู่ภายในสวนดอกไม้บนที่นั่งที่ทำจากหินอ่อน พูดเปิดประเด็นทันที โม่ฉีหมิงไม่อ้อมค้อม รีบพูดจุดประสงค์ที่มาพบฮ่องเต้ทันที “ขอรับ ลูกมีเรื่องจะขอร้อง ปล่อยคนตระกูลโล่ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เถอะขอรับ คนที่สมควรตายมีแต่ หมอหลวงโล่ โล่ฮูหยิน และโล่วี่เสว่เท่านั้น” น้ำเสียงของโม่ฉีหมิงหนักแน่นมาก สายตาก็จ้องมองสบตาโม่ฉีสิงอย่างแน่วแน่ “หึ! คนตระกูลโล่ทุกคนสมควรตาย หากไม่ใช่เพราะโล่หวินหลานแต่งกับเจ้าแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าไม่มีทางปล่อยคนตระกูลโล่แม้แต่คนเดียว” โม่ฉีสิงก็นึกไม่ถึงว่าโม่ฉีหมิงจะมาเจรจากับเขาเรื่องตระกูลโล่ ขอร้องให้เขาปล่อยคนของตระกูลโล่ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที คิดว่าโล่หวินหลานชักจูงหว่านเสน่ห์โม่ฉีหมิง “ท่านพ่อขอรับ ในฐานะกษัตริย์ เรามิใช่ควรให้ประชาชนยกย่องหรือขอรับ? หมอหลวงโล่สมควรตาย แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องในตระกูลโล่มีความผิดอะไร? หากสั่งลงโทษประหารทั้งตระกูลโล่ ประชาชนจะมองเราเป็นคนเช่นไร?” “คนที่รู้ก็เข้าใจได้ว่าหมอหลวงโล่หลายปีมานี้กำเริบเสิบสาน แต่ประชาชนที่ไม่รู้อาจมองว่าท่านหลับหูหลับตาสังหารคนเพราะนางสนมที่ท่านไม่ใส่ใจ ท่านไม่กลัวประชาชนจะคิดว่าท่านเป็นคนใจดำอำมหิตหรือขอรับ?” โม่ฉีหมิงพูดอธิบาย พอเห็นโม่ฉีสิงหน้าดำคร่ำเคร่งปิดปากแน่น เขารู้จักฮ่องเต้ดี ไม่ควรใช้ไม้แข็ง ต้องค่อยๆพูด โม่ฉีสิงเริ่มคิดชั่งความสำคัญของเรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายสรุปเรื่องเหมือนสิ่งที่โม่ฉีหมิงคิดไม่ต่างกันมาก ไม่มีทางเลือกจนเขายกมือกุมนวดขมับเบาๆ พูดเสียงอ่อน “เจ้าก็พูดถูก แต่เจ้าต้องรู้ว่า ในฐานะกษัตริย์ เราไม่ควรให้ผู้หญิงชักจูงจมูก ต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง ข้าพูดอย่างนี้แล้ว เจ้าเข้าใจไหม?” โม่ฉีหมิงเงยหน้ามองด้วยนัยน์ตาฉงน ที่แท้ก็กลัวว่าเขาจะถูกโล่หวินหลานชักจูงนี่เอง? นิ่งเงียบไปสักครู่ ก็พยักหน้ารับคำ “ขอบพระทัยสำหรับความห่วงใยของท่านพ่อ หวินหลานไม่ใช่คนอย่างนั้น นางไม่เหมือนกับคนในตระกูลโล่” โม่ฉีสิงได้ยินอย่างนั้นจึงถอนหายใจเบาๆ แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน บัดนี้กลับมาช่วยผู้หญิงคนเดียวอธิบาย หากคาดไม่ผิดนี่คงจะเป็นรักแท้ของเขา โม่ฉีสิงจ้องมองโม่ฉีหมิงด้วยสายตาลึกซึ้ง รู้สึกเพียงหัวใจดังถูกหนามแหลมทิ่มแทง เห็นเขาทีไรก็ทำให้นึกถึงพระชายาอันเป็นที่รัก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ปัดมือเรียกโม่ฉีหมิงกลับไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่25 เกิดเรื่อง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A