ตอนที่ 31 ยา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 31 ยา
ต๭นที่ 31 ยา นางหน้าแดงแล้วรีบดึงเสื้อขึ้น หลังจากจัดระเบียบแล้วก็รีบลุกขึ้นนั่ง แล้วพูดเสียงเบาว่า “ไม่เป็นอะไรจริงๆ พรุ่งนี้ก็หาย ข้าจะไปนอนแล้ว” พูดจบ นางไม่รอโม่ฉีหมิงตอบกลับ ก็รีบวิ่งไปที่เตียงของตัวเอง แล้วเอาผ้าห่มมาห่อตัวไว้แน่น อุณภูมิความร้อนเพิ่มสูงมากขึ้น นางนอนโดยไม่ขยับตัวเลย ในหัวของนางตอนนี้มีแต่ภาพที่โม่ฉีหมิงดึงเสื้อนางลงเมื่อครู่นี้ นางก็ไม่ใช่ผู้หญิงไร้เดียงสา เรื่องความใกล้ชิดของผู้หญิงนางเองก็เข้าใจดี แต่ว่าพอมาเจอกับตัว ทำไมนางถึงได้อายขนาดนี้ก็ไม่รู้? นางพยายามเอียงหูฟังอยู่นานถึงได้ยินเสียงรถเข็น ทุกครั้งที่เสียงล้อเคลื่อนมันเคลื่อนเอาหัวใจของนางไปด้วยทุกครั้ง เสียงนั้นมันเข้าใกล้มาเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่เตียง โล่หวินหลานกลั่นหายใจ ทันใดนั้นเองก็มีมือค่อยจับมาที่ผ้าห่มของนาง แล้วดึงผ้าห่มของนางลงอย่างแรง ดวงตาของนางประสานกับสายตาที่เย็นชาของโม่ฉีหมิงพอดี “อย่าห่มแน่นแบบนั้น เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก” โม่ฉีหมิงพูดจบ ก็ยื่นมือไปจับผมของนาง จากนั้นก็จูบหน้าผากของนาง “ข้าไปแล้วนะ เจ้ารีบพักผ่อนซะ” เขาไถ่รถเข็นค่อยๆออกจากห้องไป แสงจันทร์ด้านนอกส่องมาที่ตัวเขา เงาของเขามันสาดเข้ามาในห้อง จากนั้นไม่นานก็ค่อยๆหายไปจากเรือนนอนของนาง โล่หวินหลานมองอยู่พักหนึ่ง ใช้มือปิดตาของตัวเอง ไม่นานนัก เย่หวินก็เดินเข้ามา เป่าเทียนให้ดับ เหลือเพียงเทียนด้านนอกสองเล่มเท่านั้น หลังจากนั้นสามวัน สวินโม่ไปนั่งรอกู่หวยที่โรงน้ำชา นั่งดื่มชาอยู่ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง กู่หวยเอาอุปกรณ์ฉีดยาที่ทำเสร็จแล้วมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เอาแบบออกมาเทียบกับอุปกรณ์ฉีดยา ทั้งสองอย่างนอกจากขนาดที่แตกต่างกันแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนกันหมด ของเล็กๆแบบนี้กลับทำให้เขาเสียเวลาไปถึงสามวัน แถมยังเป็นครั้งแรกที่ทำให้กู่หวยต้องทำผิดกฎ เขาดูแบบก็ปาเข้าไปสองวันเต็มๆ เขาศึกษาลงไปในทุกๆรายละเอียด เมื่อทำเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงของวันที่สามแล้ว นึกได้ว่ามีนัดกับสวินโม่ไว้ตอนค่ำ ก็ขี่ม้ามาที่โรงน้ำชาโดยไม่พักเลย “หากข้าเดาไม่ผิด กู่หวย ของสิ่งนี้คงเป็นของที่เจ้าใช้วิชาทั้งหมดที่เจ้ามีทำมันออกมาแน่นอน ดูท่าทางข้ามาหาคนไม่ผิดจริงๆ” สวินโม่ทั้งตะลึงแล้วก็ชื่นชมกู่หวยมาก เขาเอาอุปกรณ์ฉีดยาขึ้นมาดูอย่างละเอียด ไม่รู้ว่ากำลังชื่นชมกู่หวยหรือว่าชมของสิ่งนี้กัน เขาดึงมันออกมาแล้วก็ดันมันกลับเข้าไปใหม่ ทำอย่างนี้อยู่พักหนึ่ง กู่หวยเช็ดเหงื่อ แล้วพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ไม่หรอก ข้าก็แค่ทำมันเต็มที่แค่นั้น ไม่กล้ารับคำชมจากท่านประมุขหลีสวินหรอก แต่ว่าข้าแค่ไม่เคยเห็นของแบบนี้มาก่อน ไม่ทราบว่าท่านประมุขจะเอาไปใช้อะไรหรอ?” สวินโม่เก็บอุปกรณ์ฉีดยา แล้ววางไว้ข้างๆตัว แล้วหยิบเอาค่าตอบแทนที่เตรียมมาให้กู่หวย “ข้าได้ใช้ประโยชน์แน่นอน เรื่องที่เจ้าทำของสิ่งนี้ขึ้นมาห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด ไม่งั้นเจ้าต้องรับผิดชอบ” สวินโม่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง จากนั้นเขาก็ขึ้นมาไป เห็นกู่หวยนั่งนับเงินอยู่ เขาก็ควบม้าจากไป ม้าเร็ววิ่งจนฝุ่นตลบ ไม่นานนักสภาพถนนก็กลับสู่ปกติ กู่หวยเปิดกล่องที่สวินโม่ทิ้งเอาไว้ เมื่อเปิดออกแสงของทองคำระยิบระยับเข้าตา เขารีบปิดกล่องลงอย่างรวดเร็ว ค่าตอบแทนนี้มันมากกว่าที่ตกลงกันเอาไว้อีก นี่ก็เป็นเหตุผลที่คนในยุทธภพชอบที่จะทำงานให้กับสวินโม่ หากทำงานสำเร็จ ค่าตอบแทนที่สวินโม่จะให้ไม่ต้องไปต่อรองเลย หากเมื่อกี้เขาไม่สามารถทำของสิ่งนั้นออกมาได้ เกรงว่าของที่เขาจะได้รับอาจจะไม่ใช่กล่องทองคำ แต่อาจจะเป็นดาบก็ได้ กู่หวยเช็ดเหงื่ออีกครั้ง จากนั้นก็อุ้มกล่องทองคำ กลับไป เมื่อสวินโม่เข้ามาจวนหมิงอ๋องก็ตรงไปที่ห้องยาทันที เขารู้ว่าโล่หวินหลานกับโม่ฉีหมิงจะต้องรออยู่ที่ห้องยาแน่ๆ ทั้งสองคนไม่ทำการศึกษาเรื่องยาอยู่ แต่กำลังรอสวินโม่ เมื่อเขาเข้าไปถึง ก็รีบเอาอุปกรณ์ฉีดยาให้โล่หวินหลานดู โล่หวินหลานเปิดออกดูอุปกรณ์ฉีดยา นางก็นึกภาพเข็ม จากนั้นก็ทดสอบใช้มันดู นอกจากสีกับขนาดที่ต่างกับของในปัจจุบันแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนทุกอย่าง นางพอใจมาก “ทำได้ไม่เลวเลย เหมือนกับที่ข้าวาดภาพเอาไว้เลย” ก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิ สวินโม่ยิ้ม คนที่เขาหามาต้องไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว ฝีมือของกู่หวยถือว่าดีที่สุดในยุทธภพ อยากจะหาคนสลักของอะไรที่มีฝีมือหน่อย คนๆนั้นก็ต้องเป็นกู่หวย โม่ฉีหมิงหยิบอุปกรณ์ฉีดยามาจากโล่หวินหลาน เขาเอามันมาดู เขาลองใช้มันแต่ไม่ได้คล่องมือเหมือนกับโล่หวินหลาน เพียงแต่ว่าของสิ่งนี้มันดูแปลก ไม่รู้ว่ามันใช้งานยังไง “หลอดฉีดเล็กๆนี่มันเอามารักษาโรคให้รัชทายาทได้หรอ?” โม่ฉีหมิงมองไปที่หัวเข็ม แล้วถามด้วยความสงสัย ไม่เพียงแค่เขา สวินโม่เองก็ไม่อยากจะเชื่อ เขาเองก็มองไปที่โล่หวินหลาน สายตาของทั้งสองมีความสงสัย โล่หวินหลานยิ้ม แล้วพูดว่า “แค่หลอดฉีดนี่รักษารัชทายาทไม่ได้หรอก หากใช้ร่วมกับยา ฉีดยาเข้าไปในร่างกายของรัชทายาทแล้วล่ะก็ โรคของรัชทายาทก็จะดีขึ้น” สวินโม่จู่ๆก็นึกถึงส้มสองลูกบนชั้นวางของขึ้นมา มันถูกวางจนชื้น เขาพูดว่า “อย่าบอกนะว่าส้มนั่นก็คือยา?” โล่หวินหลานยิ้ม สายตาของนางมองไปที่โม่ฉีหมิง ในสายตาของเขามันมีคำว่าเชื่อมั่นอยู่ ไม่ว่านางจะตัดสินใจทำอะไร เขาก็เชื่อทั้งนั้น “ถูกต้อง คิดว่าส้มนั่นก็น่าจะขึ้นราแล้ว เดี๋ยวข้าจะดึงเอาเชื้อมันออกมา แล้วใส่เข้าไปในยา” โล่หวินหลานพูดจบ พวกเขาก็คิดจะเดินไปดูสภาพของส้ม ยังไม่ทันจะออกจากห้อง เสียงของเย่หวินก็ดังมา “พระชายา พระชายา ส้มขึ้นราแล้ว” เย่หวินเดินตะโกนเข้ามาในห้องยา นางวิ่งมา ส่วนฉินหยิ่นก็ถือส้มสองลูกนั้นมาด้วย กลิ่นขึ้นรามันโชยเข้าจมูกของทุกคน ฉินหยิ่นวางส้มสองลูกลง จากนั้นก็เปิดผ้าที่คลุมส้มออกกลิ่นราแรงมาก ส้มแต่ละลูกมันเริ่มมีขนสีเขียวอ่อนๆ กลิ่นเหม็นเปรี้ยมฟุ้งไปทั่ว โล่หวินหลานหยิบมันขึ้นมาดู จากนั้นก็บีบ แล้วก็เอามาดม นางพยักหน้าด้วยความพอใจ รามากขนาดนี้ เชื้อที่จะได้ก็มีมาก แต่ว่านางคำนวณไว้แล้ว มันก็มากพอที่จะรักษาอาการรัชทายาทได้ “ดีมาก ขึ้นราได้เยอะดี สีขนสวยมาก ระดับความอ่อนใช้ได้ เย่หวินฉินหยิ่น ลำบากพวกเจ้าแล้วนะ” โล่หวินหลานชมด้วยความพอใจ พวกเขาสองคนถูกชมจนเขินไปหมด จริงๆพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เฝ้าอยู่สามวันเต็มๆ หลังจากนั้นสามวันพอเข้าดู มันก็เน่าจนสภาพนี้แล้ว หากไม่ใช่ว่าส้มเน่าพวกนี้มันได้ใช้ประโยชน์ พวกเขาฟังคำชมของโล่หวินหลานแล้ว อาจจะไม่ชอบใจนัก “พระชายา ส้มขึ้นราพวกนี้จะเอาไปรักษารัชทายาทยังไง?” สวินโม่ถาม เขายังไม่เคยเห็นใครเอาส้มขึ้นราไปรักษาโรคเลย “ข้าจะดึงเชื้อมันออกมา จากนั้นจะสกัดมันออกมาเป็นของเหลว จากนั้นก็ฉีดเข้าไปในตัวของรัชทายาท” โล่หวินหลานพูดอย่างมั่นใจ คิดว่าพวกเขาน่าจะดีใจไปกับผลที่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขากลับไม่เข้าใจ แล้วมองมาที่นางอย่างสงสัย ทุกคนมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าคำว่าของเหลว หรือว่านางไปอ่านมาจากตำราโบราณเล่มไหนอีก? โล่หวินหลานเพิ่งรู้สึกตัวว่าคำว่าของเหลวมันเป็นศัพท์สมัยใหม่ คนโบราณไม่รู้จัก นางถอนหายใจ แล้วก็อธิบายว่า “ก็คือเอาเชื้อพวกนี้มาทำเป็นน้ำ แล้วก็ฉีดเข้าไปในตัวของรัชทายาท ช่วยรักษาอาการให้เขา” จากนั้นทุกคนถึงได้เข้าใจ พวกเขารู้สึกแปลกใหม่กับวิธีการรักษาของโล่หวินหลานมาก แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยนางทำยาได้ยังไง หลายวันมานี่พวกเขาเห็นนางยุ่งอยู่แต่ในห้องยาเพื่อคิดวิธีรักษาอาการของรัชทายาท แต่พวกเขาช่วยอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะโม่ฉีหมิง ในใจของเขามันรู้สึกว่าเขาไม่มีประโยชน์ ทุกครั้งที่โล่หวินหลานพูดอะไรแปลกๆอกมา เขาไม่รู้แล้วก็สงสัย เขาอยากจะช่วยแต่ก็ทำไม่ได้ โม่ฉีหมิงหยิบส้มขึ้นมาดู แล้วบีบมันเบาๆ น้ำเหม็นเปรี้ยวของส้มไหลออกมา เขาหยิบส้มวางลง แล้วพูดว่า “พวกเจ้าออกไปให้หมด เหลือสวินโม่ไว้” พอทุกคนออกไปจนหมดแล้ว เขาถึงมองไปที่โล่หวินหลาน “หวินหลาน ทางรัชทายาทน่าจะรอไม่ได้แล้ว มีอะไรให้ข้ากับสวินโม่ช่วยไหม?” โล่หวินหลานรู้ว่าโม่ฉีหมิงอยากจะช่วยนาง แต่ว่าการแยกเชื้อราออกมาไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาทำได้ นางคิดแล้วก็ส่ายหัว เห็นสภาพพวกเขาแบบนี้ หากโล่หวินหลานไม่หางานให้พวกเขาทำคงไม่ได้ ก็เลยเดินเข้าไปมอบหมายภารกิจให้กับพวกเขา หลังจากทั้งสองคนฟังโล่หวินหลานพดจบแล้ว ก็เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูด จากนั้นก็ออกไปจากห้องยาอย่างผู้พ่ายแพ้ แล้วนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตู “ท่านอ๋อง ท่านว่าพระชายาดูถูกเราเกินไปหรือเปล่า? ทำไมถึงให้เรามานั่งเฝ้าประตูล่ะ? จวนนี้เป็นของท่าน ท่านแค่สั่งคำเดียว ใครจะกล้าเข้าไปอีกล่ะ?” สวินโม่นั่งอยู่หน้าประตูอยากจนปัญญา เขาเหมือนจะสงสัยในไอคิวของโล่หวินหลาน “นางให้เราเฝ้าเราก็เฝ้าให้ดี จะพูดมากทำไม?” โม่ฉีหมิงจ้องไปที่สวินโม่ เขารีบหยุดพูด แล้วมองไปด้านหน้า ทั้งสองคนนั่งอยู่หน้าประตูเหมือนรูปปั้น แล้วฟังแต่เสียงเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างใน สวินโม่เหลือบไปมองโม่ฉีหมิง นี่มันหมิงอ๋องที่ใครได้ยินชื่อก็กลัวซะที่ไหนกัน? เขาก็เป็นแค่ก้อนเนื้อเดินได้ที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งคมซะวิญญาณกระเจิง เขายอมมานั่งเฝ้าประตูให้โล่หวินหลานโดยไม่สนใจฐานะของตัวเองแบบนี้ โล่หวินหลานใช้เวลาอยู่ครึ่งวันในการทำยาชิงเหมย เชื้อราที่ดึงออกมาจาผลส้มมันบริสุทธิ์มาก แต่ว่านั่นมันก็แค่ส่วนหนึ่งของยาชิงเหมย มันจะยังต้องใส่ส่วนผสมอื่นๆลงไปด้วยถึงจะออกมาเป็นยาชิงเหมย ในความเป็นจริงเวลามันมีไม่มากพอ ส่วนผสมเดิมก็ไม่รู้ว่าต้องไปหาที่หน นางทำได้แค่นึกสูตรยาตามแบบแผนปัจจุบันแล้วทำเท่านั้น เวลาผ่านไป โล่หวินหลานคิดค้นยาชิงเหมยอยู่ในห้องยา จนถึงกลางดึก นางถึงบิดขี้เกียจ แล้วตะโกนออกไปว่า “ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว” โม่ฉีหมิงที่กับสวินโม่ที่นั่งอยู่ด้านนอกรีบเข้ามาในห้อง ทั้งสองเห็นขวดยาน้ำที่วางอยู่ที่โต๊ะ สวินดม่หยิบมันขึ้นมาแกว่งดู น้ำใสๆนี่สามารถรักษาอาการของรัชทายาทให้หายได้หรอ? ท่าทางของโม่ฉีหมิงเชื่อมั่นในตัวนางมาก แค่มองผ่านๆแล้วก็ไม่มองแล้ว “พรุ่งนี้เราก็ไปจวนรัชทายาทกันได้แล้ว รักษาอาการของรัชทายาทแล้ว เรากับเขาจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก” โม่ฉีหมิงพูด “ใช่ พอเรารักษาเขาหายแล้ว ต่อไปก็ไม่มีอะไรกับเขาอีก” โล่หวินหลานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่เมื่อมันเข้าไปในหูของเขา มันกลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่น
已经是最新一章了
加载中