ตอนที่ 34 ลอบกัด
1/
ตอนที่ 34 ลอบกัด
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 34 ลอบกัด
ตนที่ 34 ลอบกัด พวกเขาเกี่ยวผ้าขึ้นมาจากกะละมังอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็กางมันออกบนโต๊ะ แล้วค่อยๆสำรวจ บนผ้าเหมือนจะมีคราบผงสีขาวเหลืออยู่ โล่หวินหลานยื่นมือไปปาดเศษผงขึ้นมา แล้วมองมันอย่างละเอียด จากนั้นนางคิดจะเอาเข้าปากไปลองรสชาติ มือใหญ่ๆมือหนึ่งก็จับรั้งมือของนางไว้ “ห้ามลองนะ บนผ้ามันมีพิษแน่นอน” โม่ฉีหมิงจ้องไปที่มือของโล่หวินหลาน เสียงของเขาหนักแน่นมาก ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าพิษบนผ้ามันเป็นยังไง โล่หวินหลานสะบัดมือของโม่ฉีหมิงออก แต่ว่าเขาจับแน่นมาก นางโกรธจนหายใจแรง แต่ทำยังไงก็สะบัดมือของเขาไม่ออกสักที “ปล่อยนะ ถ้าไม่ลอง แล้วจะถอนพิษให้ถูกได้ยังไงล่ะ?” โล่หวินหลานจ้องไปที่เขา เหมือนไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว โม่ฉีหมิงกวาดสายตาไปยังผงสีขาวในมือของนาง เขาไม่อยากให้นางต้องเสี่ยงอันตราย หากต้องลองจริงๆ งั้นก็ให้เขาลองเอง เขารีบเอานิ้วของโล่หวินหลานเข้าปากของตัวเอง เขาดูดเศษผงนั้นบนนิ้วของนางจนไม่เหลือเลย เขาใช้ลิ้นของเขาเลียมันจนเกลี้ยง การกระทำของเขาทำให้โล่หวินหลานรู้สึกตกใจ ช่องปากอันอบอุ่นทำให้นิ้วของนางเย็น วินาทีนั้นเอง ใบหน้าของนางก็ร้อนเหมือนถูกไฟเผา วินาทีที่เขาก้มหน้าลงนางลืมไปเลยว่านางกำลังอยู่ท่ามกลางอันตราย นางรีบผลักเขาออก “เจ้าเป็นยังไงบ้าง? อย่ากลืนมันลงไปนะ บ้วนมันออกมา” โล่หวินหลานตื่นกลัวแบบไม่รู้ต้องทำอะไรต่อไป เมื่อได้สติก็รีบดึงนิ้วออกจากปากของโม่ฉีหมิง นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางทำมันโง่ไหม โม่ฉีหมิงอดขำไม่ได้ จากนั้นเขาก็หันตัวไปข้างๆแล้วบ้วนพิษออกมา “พิษนี้ไร้สีไร้กลิ่น ฤทธิ์ของมันแรงมาก” หลังจากโม่ฉีหมิงบ้วนพิษออกมาแล้ว ก็รู้สึกเวียนหัว เขารีบเดินกำลังภายในคุมมันเอาไว้ “ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องรีบกำจัดผ้าผืนนี้ซะ” ในหัวของโล่หวินหลานตอนนี้มีหน้าของสาวใช้ที่ยกกะละมังน้ำกับผ้าเข้ามา โล่หวินหลานนึกขึ้นได้ว่า สาวใช้คนนั้นจะต้องเป็นคนวางยาแน่ๆ ในตอนนี้ จู่ๆก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่นอกประตู หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อน โม่ฉีหมิงใช้สายตาจ้องไปที่ฉินหยิ่นกับเย่หวิน ทั้งสองคนรีบตามไป ที่นอกเรือนตกแต่งไปด้วยต้นไผ่ ต้นกุ้ยฮว๋าแน่นไปหมด มีเสียงเข้าหู ทุกคนยืนอยู่กับที่ไม่กล้าวู่วาม ฉินหยิ่นชักกระบี่ที่ไม่ได้ใช้มานานออกมาแล้วมองไปที่รอบๆ จากนั้นเขาก็รวบรวมกำลังภายใน แล้วก็ลอยตัวขึ้นไปที่กำแพง หลังจากที่กำแพงถูกกระบี่พุ่งเข้าใส่ ไม่เกินสองวินาที มันก็ทลายลง หลังจากนั้นก็มีไม้ไผ่ปลายแหลมจำนวนมากพุ่งเข้าใส่พวกเขา ในตอนนี้เอง ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาว่า “มีกับดัก รีบถอยเร็ว” โม่ฉีหมิงรีบดึงตัวของโล่หวินหลานมาไว้ด้านหลังตัวเขา มีไม้ไผ่ปลายแหลมพุ่งผ่านแขนเขาไปทะลุไปยังกำแพงห้อง “หวินหลาน อันตราย เจ้ารีบหลบไปก่อน” เสียงของโม่ฉีหมิงดังเข้าหูของเขาอย่างชัดเจน ใครหลายคนบอกว่าจะรู้ว่าใครจริงใจยามที่เราลำบาก ท่ามกลางอันตรายโม่ฉีหมิงเห็นนางสำคัญเป็นคนแรก อย่าบอกนะว่าเขามีใจให้ตัวนางจริงๆ? โล่หวินหลานไม่มีเวลาคิดเยอะขนาดนั้น ตัวนางถูกโม่ฉีหมิงดันเข้าไปในห้อง จากนั้นเขาก็ปิดประตู ภายในห้องที่เงียบมองเห็นพวกเขาใช้กระบี่ปัดไม้ไผ่ปลายแหลมทิ้ง โล่หวินหลานหมอบอยู่ข้างประตู สายาตาของนางมองไปที่เงาของโม่ฉีหมิง ไม้ไผ่ปลายแหลมพุ่งออกมาจากกำแพง ปัดอยู่นาน ในที่สุดก็หยุดลง โม่ฉีหมิงกำกระบี่เอาไว้ในมือ บนพื้นเต็มไปด้วยไม้ไผ่ปลายแหลม แสดงว่ามีคนจงใจวางกับดักไว้ลอบกัด “ฉิงหยิ่น เย่หวิน อย่าวู่วาม มีกับดัก” โม่ฉีหมิงสั่งการพวกเขาสองคน สายตาจ้องไปรอบๆราวกับเหยี่ยวที่กำลังจะล่าเหยื่อ ทันใดนั้นเอง เขาก็ยื่มือไปเก็บไม้ไผ่ปลายแหลมขึ้นมา แล้วก็ซัดมันไปที่กลางเรือน เพราะมันเหมือนมีคนกำลังเดินอยู่ ทันใดนั้นเองเสียงก็หยุดลง ภายในเรือนจู่ๆก็มีตาข่ายขนาดใหญ่กางออกมาคลุมไม้ไผ่ปลายแหลมนั้นไว จากนั้นก็ยกมันขึ้น ฉินหยิ่นกับเย่หวินเห็นกับดักอันแล้วอันเล่า ในใจก็รู้สึกตกใจ นี่มันยอดฝีมือคนไหนกันถึงได้วางกับดักได้อย่างแน่นหนาขนาดนี้ ลูกไม้ตื้นๆแบบนี้ โม่ฉีหมิงไม่ได้สนใจ เขายิ้ม แล้วยกกระบี่ในมือ เล็งไปที่ตาข่ายนั่น แล้วก็ขวางมันออกไป ตาข่ายหล่นลงมา แต่ว่าตอนนี้โม่ฉีหมิงเริ่มตาลาย เขาเวียนหัวมาก เขารู้สึกเหมือนว่าด้านหลังของเขาเหมือนมีมือเรียวๆมาจับหน้าเขาเอาไว้ ใบหน้าของคนที่คุ้นเคยกำลังมองมาที่เขา ...... ท่ามกลางความมึนเขาได้ยินเสียงโล่หวินหลานพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า “หมิง เจ้าลืมตามองข้า อย่าหลับนะ ......” โม่ฉีหมิงพยายามลืมตาขึ้นมา แต่ว่ามือของเขามันยกไม่ขึ้น เขาอยากจะจับมือของโล่หวินหลานเอาไว้ ไม่อยากให้นางต้องเป็นห่วงแต่ว่าพอคิดจะพูดปากของเขาก็ดันกระอักเลือดออกมา “โม่ฉีหมิง เจ้าห้ามตายนะ ลืมตามองข้าสิ” เสียงอันคลุ้มคลั่งของโล่หวินหลานดังก้องเข้าไปในหูของทุกคน วินาทีที่โม่ฉีหมิงหลับตาลง ในใจของนางเหมือนมีถูกค้อนอันใหญ่ทุบลงกลางใจ ทั่วทั้งตัวของนางมันไม่สบายใจ มันร้อนใจ มันหวาดกลัว วินาทีนั้นนางเช็ดเลือดที่ปากของโม่ฉีหมิงด้วยมือที่สั่นไปหมด ไม่มีใครตอบรับเสียงร้องตะโกนของนางเลย มีเพียงสายลมเท่านั้นที่ดังผ่านเข้ามาในหูของนาง เหงื่อบนหน้าผากของนางไหลลงมา ในนาทีนั้น นางได้ยินเสียงแต่เสียงของความสิ้นหวังที่น่ากลัว ฉินหยิ่นกับเย่หวินไม่ทันได้อยู่ช่วยโม่ฉีหมิงพวกเขาตามคนที่แอบลอบกัดพวกเขาไป บนหลังคาพวกเขาตามคนชุดดำไป จากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นผู้หญิง ที่แท้คนที่แอบลอบกัดพวกเขาเป็นผู้หญิงนี่เอง คนๆนั้นลอยตัววิ่งหนีอยู่บนหลังคา เย่หวินจ้องไป แล้วก็ดึงสายสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ใช้สายสีขาวรัดตัวนางเอาไว้ ฉินหยิ่นเห็นผู้หญิงคนนั้นถูกรัดด้วยสายแล้ว ก็รีบใช้กระบี่พุ่งไปใส่นาง เขาเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว พริบตาเดียวก็ตัดไปที่เอ็นขาของผู้หญิงคนนั้น นางหล่นลงมาจากหลังคา “ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?” เย่หวินเหยียบไปที่หลังของนาง แล้วดึงแขนทั้งสองข้างของนางไขว้มาด้านหลัง ผู้หญิงคนนั้นเหงื่อไหลออกมามากเพราะความเจ็บปวด แต่ว่านางไม่ยอมพูดอะไรเลย เย่หวินยื่นมือไปดึงผ้าปิดหน้าของนาง นางคือสาวใช้ที่ยกน้ำเข้าไปเมื่อกี้นี่เอง นางชักกระบี่ออกมา แล้วชี้ไปที่หน้าของนาง กำลังจะแทงเข้าไป ฉินหยิ่นก็ห้ามนางเอาไว้ “เย่หวิน เราพานางไปให้ท่านอ๋องสอบสวนดีกว่า ไม่แน่นางอาจจะรู้ก็ได้ว่าใครบงการวางยาพิษรัชทายาท” ฉินหยิ่นพูดมีเหตุผล หากตอนนี้ทำอะไรบุ่มบ่ามไป ไม่แน่ว่าอาจจะจับตัวมาเสียเที่ยว อาการรัชทายาทยังไม่ดีขึ้น แม้แต่คนร้ายก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ทั้งสองคนคิดๆดูแล้ว ก็พาตัวของผู้หญิงคนนั้น กลับมาหาโม่ฉีหมิง หลังาจากที่พวกเขากลับไป มีชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำ โผล่หน้าออกมาดู เขายิ้มร้าย จากนั้นก็ไป พวกเขาจับตัวสาวใช้กลับมาถึงที่เรือน แต่พวกเขาไม่เจอโม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลาน เห็นแต่เลือดที่อยู่ที่พื้น “เกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องกับพระชายาไปไหน?” เย่หวินตกใจรีบตามหาไปทั่ว ภายในห้องนอนมีเพียงรอยเลือดสีดำของรัชทายาท กับไม้ไผ่ปลายแหลมที่ตกอยู่ที่ห้อง รอบๆเงียบมาก ทั้งสองแยกกันไปตามหา แต่ก็ไม่เห็นเงาของโม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลานเลย ภายในห้องยาของจวนรัชทายาท มีเพียงเงาดำๆที่อยู่ที่พื้น ไม่มีเทียน มีเพียงแสงสว่างจากแสงแดด มีรถเข็นคันหนึ่งจอดอยู่ บนรถเข็นมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ริมฝีปากของเขามีรอยเลือดที่แห้งแล้ว สายตาที่คมกริบตอนนี้มีเพียงขนตาที่เหมือนลอยอยู่กลางอากาศเท่านั้น ภายในห้องยา ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังค้นหายาไปทั่วห้อง เปิดขวดแล้วขวดเล่า แต่ก็ไม่พบยาที่นางต้องการจะหาเลย ขวดยาที่นางเปิดออกดูแล้ว ทุกคนถูกทิ้งลงบนพื้นหมด “หวินหลาน ......” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น มันเหมือนกับลมที่พัดผ่านเข้ามาในหูของโล่หวินหลาน โล่หวินหลานหยุดค้นหายา เสียงเรียกชื่อนางก็ดังมากจากด้านนอกอีกครั้ง “หวินหลาน” โล่หวินหลานน้ำตาคลอเบ้า นางทิ้งยาในมือ แล้วรีบพุ่งตรงไปหาคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้รถเข็น “เจ้าฟื้นแล้วหรอ ข้าคิดว่าเจ้า ......” โล่หวินหลานนั่งยองๆมองไปที่หน้าของเขา แล้วจับมือของเขาเอาไว้ เสียงของนางสั่นเครือ โม่ฉีหมิงจับมือของนางทั้งสองข้างเอาไว้ แล้วปลอบนางไปว่า “ข้าไม่เป็นไร แต่ว่าหลังจากลองยาพิษเมื่อกี้มันมีอาการนิดหน่อย แต่ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วง” ตอนที่เขารู้ว่าตัวเองถูกพิษ ในใจของเขาไม่ได้หวาดกลัวเลย แต่ว่ารู้สึกว่าโชคดี โชคดีที่โล่หวินหลานไม่ได้ลองยา “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” โล่หวินหลานโล่งใจ ทันใดนั้นเอง มือสองข้างของเขาก็จับไปที่ใบหน้าของนาง ท่ามกลางความมืดมันเหมือนแสงไฟเล็กๆจากดวงตาที่เป็นประกาย ใบหน้าของหน้าร้อนผ่าว นางจับไปที่มือของโม่ฉีหมิงโดยไร้ความกลัว “ท่าทางกังวลของเจ้าเมื่อกี้ ชาตินี้ข้าจะไม่ลืมเลย” คำพูดของโม่ฉีหมิงแฝงไปด้วยการหยอก มือทั้งสองของเขาอยู่บนใบหน้าของนาง เสียงหายใจที่หอบแรงมันวนเวียนอยู่ที่หูของโล่หวินหลาน ลมหายใจที่ร้อนผ่าวมันทำให้ตัวของนางร้อนรุ่มตามไปด้วย ลมหายใจของเขามันเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของเขามันเข้าใกล้ปากของโล่หวินหลานเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นเอง ประตูก็เหมือนจะถูกถีบออกอย่างแรง “ท่านอ๋อง พระชายา พวกท่านอยู่ในนี้หรือเปล่า?” เย่หวินร้องตะโกนเข้ามาในห้องที่มืดมนอย่างร้อนใจ ฝีเท้าของนางกับฉินหยิ่นร้อนรนมาก เมื่อพวกเขาเหยียบเข้ามาถึง พวกเขาก็ถึงกลับอึ้งไป โม่ฉีหมิงจ้องไปที่พวกเขา สายตาของเขาเหมือนจะไม่พอใจ ส่วนโล่หวินหลายที่หน้าแดงอยู่ข้างๆเขานั้นก็รีบลุกขึ้น มือไม้เหมือนทำอะไรไม่ถูกเลย บรรยากาศแปลกๆแบบนี้ มันทำให้เย่หวินรู้สึกทำตัวไม่ถูกนางมองไปที่ฉินหยิ่น แล้วก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไร ที่แท้ ท่านอ๋องกับพระชายาก็แอบมาพลอดรักกันนี่เอง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 34 ลอบกัด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A