ตอนที่ 35 ฆ่าตัวตาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 35 ฆ่าตัวตาย
ต๭นที่ 35 ฆ่าตัวตาย ฉินหยิ่นก้มหน้าลง แล้วเหลือบไปมองเย่หวินที่ไม่พูดอะไร ในใจก็แอบคิดว่า “ปกติเห็นเป็นคนเงียบๆ จริงๆแล้วก็ไม่ใช่จะเป็นคนไม่รู้สึกอะไร ท่านอ๋องกับพระชายาจะทำอะไรกัน ก็ไม่เลือกสถานที่เอาซะเลย” จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกับโม่ฉีหมิงที่กำลังหัวเสียกับโล่หวินหลานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่ว่า “ทูลท่านอ๋องพระชายา จับตัวคนที่ลอบกัดเราได้แล้ว เป็นสาวใช้ที่ยกน้ำมาให้พระชายาตอนที่กำลังรักษารัชทายาทอยู่” โล่หวินหลานได้ยินดังนั้น ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “วางยา ยิงธนูไม้ไผ่ แล้วก็จะเอาตาข่ายมาจับเราอีกงั้นหรอ?” โม่ฉีหมิงยิ้มแห้ง “ดูเหมือนนางจะคำนวนพลาดไป” โล่หวินหลานฟังคำพูดของดม่ฉีหมิงแล้วอารมณ์ก็เย็นลง แต่เมื่อมองไปที่เขาตอนนี้สีหน้าของเขาซีดมากเพราะว่าเขาถูกพิษ นางจึงข่มอารมณ์โกรธของนางเอาไว้ จากนั้นก็พูดว่า “ไปเอาตัวนางมา ข้าอยากจะรู้นัก ว่าใครอยู่เบื้องหลังของนาง” เย่หวินไปเอาตัวสาวใช้คนนั้นเข้ามา เห็นบนตัวของนางเต็มไปด้วยเลือด “เดินให้มันเร็วหน่อย” เย่หวินผลักนาง นางเลยล้มลงกับพื้น โล่หวินหลานเดินไปหยุดที่หน้านาง มือด้านซ้ายถือผ้าที่รัชทายาทเคยใช้ มือขวาจับไปที่คางของนาง จากนั้นก็ถามว่า “หากข้าถามเจ้าว่าใครเป็นคนส่งเจ้ามา เจ้าคงไม่ยอมบอกข้าแน่ๆจริงไหม?” สาวใช้คนนั้นจ้องไปที่โล่หวินหลาน ไม่ได้มีความอ่อนหวานเหมือนตอนที่รับใช้รัชทายาทอยู่เลย นางเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน “ในเมื่อพระชายาก็รู้อยู่แล้ว แล้วจะมาถามข้าทำไมอีก?” โล่หวินหลานหันหน้ามามองนาง “ดูจากท่าทางของเจ้าแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์สินะ เจ้าคิดว่าเจ้าไม่พูดแล้วเราจะไม่รู้หรือไง?” พูดจบ นางก็สะบัดมือที่จับคางของนางทิ้งแล้วพูดว่า “พูดมา นายของเจ้าซื้อตัวเจ้ายังไง? แล้วทำไมจะต้องทำร้ายรัชทายาทด้วย?” สาวใช้คนนั้นไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ “พระชายาเป็นคนฉลาด ไม่รู้หรือไงว่าคนเราจะซื้อตัวใครก็ต้องใช้เงิน? ส่วนทำไมข้าต้องทำร้ายรัชทายาท ก็บอกได้แค่ว่ารัชทายาทแค่ดวงไม่ดี เกิดเป็นเชื้อพระวงศ์ไม่ว่า ไร้ความสามารถแต่ก็ยังได้ตำแหน่งรัชทายาทไป รนหาที่ตายชัดๆไม่ใช่หรอ?” “เป็นแค่สาวใช้ กล้าวิจารณ์เรื่องในราชวงศ์ข้าหรอ” โม่ฉีหมิงพูดจบ ก็กระอักเลือดออกอีก พิษนี้จะอาศัยแค่กำลังภายในของเขาก็ต้านไม่ไหว โล่หวินหงานเห็นโม่ฉีหมิงอ่อนแรงลง ก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับสาวใช้คนนั้นมากมาย นางลุกขึ้นยืนแล้วยื่นผ้าไปที่หน้าของสาวใช้ “ข้าแค่อยากจะถามแค่เรื่องเดียว พิษบนผ้านี่ มันคือพิษอะไร?” สายตาของสาวใช้เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ นางใช้ปากชิงเอาผ้ามากัดไว้ในปากแล้วพูดว่า “พระชายาเป็นหมอไม่ใช่หรอ? แล้วจะมาถามข้าทำไมอีก?” หลังจากนั้นสาวใช้คนนั้นก็กระอักเลือดออกมา สภาพเหมือนกัยโม่ฉีหมิงเมื่อกี้เลย “ตอนนี้ข้าเองก็ถูกพิษเหมือนกัน หลังจากข้าตาย จะได้ฝังไปพร้อมกับรัชทายาทกับหมิงอ๋องเลย คุ้มค่าแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” “หุบปาก” โล่หวินหลานโมโหมาก ด้วยความโมโห นางจึงตบไปที่หน้าของนาง นางอยากจะตายแต่แรกอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส พอถูกโล่หวินหลานตบ ก็ล้มลงทันที พิษกำเริบจากนั้นก็ตาย โล่หวินหลานเห็นสภาพนางแบบนั้น ถึงแม้ในใจจะไม่อยาก แต่ว่าเมื่อเห็นโม่ฉีหมิงถูกพิษแล้วก็บาดเจ็บ นางก็ได้ทำใจเหี้ยม หลังจากนั้นโล่หวินหลานก็หันหลังเดินไปหาโม่ฉีหมิง แล้วค่อยๆตรวจชีพจรของเขา แล้วสั่งว่า “ฉินหยิ่น สั่งคนเอานางไปฝังที” ฉินหยิ่นกับเย่หวินได้ยินโล่หวินหลานพูดแบบนี้ ก็รู้สึกนับถือ โล่หวินหลานตรวจชีพจรแล้วมือแอบสั่นเล็กน้อย พิษนี้มันร้ายแรงกว่าที่นางคิดไว้มาก ภายในสามวันจะต้องได้ยาถอนพิษมา ไม่งั้นต่อให้โม่ฉีหมิงมีวรยุทธ์กำลังภายในร้ายกาจแค่ไหน นางจะเก่งกาจวิชาแพทย์แค่ไหน ก็ตายอยู่ดี “ท่านอ๋อง ท่านคิดยังไง?” โม่ฉีหมิงเห็นนางสติหลุดไป ก็จับมือของนางเอาไว้ เห็นนางยังคงเครียดอยู่ สายตาเริ่มล่องลอย เขาโชคดีที่มานางอยู่ข้างๆ ในตอนนี้ นางเองก็รู้สึกว่าโชคดีที่มีเขาอยู่ข้างๆเช่นกัน “เรื่องนี้เป็นฝีมือต้วนกุ้ยเฟยแน่นอน” โม่ฉีหมิงพูดออกมาอย่างมั่นใจ “คิดว่านางน่าจะวางแผนไว้แล้วตั้งแต่รู้ว่าเราจะมารักษารัชทายาท แค่รอเรามาติดกับ” สายตาของโล่หวินหลานเต็มไปด้วยความอาฆาต “ต้วนกุ้ยเฟยคำนวณเอาไว้อย่างดีเลย ท่านอ๋องมีแผนรับมือหรือเปล่า?” โม่ฉีหมิงคิดไปครู่หนึ่ง “ในเมื่อนางให้ของขวัญชิ้นใหญ่เราขนาดนี้ หากเราไม่ให้ของขวัญตอบแทนกลับคืนไปบ้าง นางอาจจะเสียเปรียบได้นะ” “เย่หวิน ไปตามฉินหยิ่นมา บอกให้เขาเอาศพสาวใช้ไปที่อู๋อินโหลวแล้วให้สวินโม่ไปตามน่งหยิงมา” “น่งหยิงเป็นใคร? ตามเขามาทำไม?” โล่หวินหลานถามด้วยความสงสัย โม่ฉีหมิงมองไปที่เย่หวิน “เย่หวิน” “ทูลพระชายา น่งหยิงเป็นคนไปมาไร้ร่องรอยเหมือนชื่อเขา เขาชำนาญวิชาปลอมแปลงใบหน้า” เย่หวินพูดด้วยน้ำเสียงไม่แตกตื่น ใบหน้าไม่มีความรู้สึกอะไร โล่หวินหลานตกใจ “ท่านอ๋องคิดจะใช้แผนซ้อนแผนหรอ” โม่ฉีหมิงยิ้ม “นางลงทุนลงแรงวางแผนขนาดนี้ ก็จะต้องให้นางลิ้มรสหอมหวานจนถึงที่สุดสิ เราก็แค่รอดูละครฉากใหญ่นี้ให้สนุกก็พอ” จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่หวิน “รู้แล้วใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?” เย่หวินรู้ทันที “ข้าน้อยทราบแล้ว” “ไปเถอะ” “ข้าน้อยขอตัวก่อน” หลังจากนั้นโม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลานก็เริ่มเตรียมการรับมือต่อไป อีกด้านหนึ่ง สวินโม่จ้องไปที่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า คนหนึ่งไม่มีสีหน้าอารมณ์ใดๆ ด้านข้างก็แบกศพคนตายมา สวินโม่มองไปที่ฉินหยิ่นแล้วพูดว่า “เจ้านี่นับวันยิ่งแล้วใหญ่ เดี๋ยวนี้ถึงกลับเป็นโลงศพให้คนตายแล้วด้วยหรอ” จากนั้นก็มองไปที่เย่หวิน “น้องเย่หวิน เจอหน้าข้าเจ้าก็ไม่คิดจะยิ้มสักหน่อยหรอ เจ้าเองก็หน้าตาดีนะ” จากนั้นเขาก็ทำท่าทำทางรังเกียจรังงอน “เชอะ ไม่น่ารักเลยสักนิด” เย่หวินถูกเขาแซวจนโกรธ ชักกระบี่ออกมาพาดไว้บนคอของเขา เขาเองก็ไม่ได้หลบ แถมยังสะบัดพัดในมือออกมาพัดอย่างสบายใจ แล้วก็พูดแซวอีกว่า “สาวน้อย ท่านอ๋องให้พวกเจ้ามา เพื่อฆ่าข้าหรอ?” เย่หวินเก็บกระบี่กลับมาอย่างโมโห จากนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก ฉินหยิ่นวางศพสาวใช้ลงกับพื้น “ที่อู๋อินโหลวมีคนที่ชื่อน่งอิ่นใช่ไหม?" สวินโม่มองฉินหยิ่นสีหน้าจริงจัง คิดว่าจะต้องเป็นเรื่องสำคัญมากแน่นอน “มีอะไรหรือเปล่า ท่านอ๋องเกิดเรื่องหรอ?” “ใช่ ท่านอ๋องถูกพิษ” “อะไรนะ?” ยากที่จะเห็นสวินโม่จริงจังแบบนี้ได้ “ใครเป็นคนทำ?” “ต้วนกุ้ยเฟย” “แล้วจะหาน่งหยิงไปทำอะไร?” “แผนซ้อนแผน ใช้แผนของคนอื่น ย้อนกลับไปทำร้ายตัวมันเอง” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “รัชทายาทสิ้นพระชนม์แล้ว” นางกำนัลวิ่งออกมาจากห้อง แต่เพราะตกใจมากเกินไป ก็เลยหลุดพูดออกมา นางวิ่งออกมา จากนั้นก็ยกมือชี้มาภายในห้อง “พระชายาหมิงอ๋องเป็นคนทำ เร็วเข้าไปตามคนมาเร็ว พระชายาหมิงอ๋องสังหารองค์รัชทายาท” โม่ฉีหมิงเหลือบไปมองนางกำนัลที่กำลังคลั่ง จากนั้นก็เลื่อนรถเข็นเข้าไปดูในห้อง โล่หวินหลานตามนางกำนัลออกมานอกห้อง แล้วมองตากับโม่ฉีหมิง จากนั้นนางก็กระพริบตาหยอกโม่ฉีหมิงเล็กน้อย โม่ฉีหมิงใจสั่น แอบคิดในใจว่านางยังมีท่าทีของสาวน้อยอยู่เหมือนกัน เขาข่มใจแล้วพูดว่า “เสียแรงที่เจ้าเป็นถึงชายาของข้า แต่เจ้ากลับคิดร้ายกับพี่ชายข้า” โล่หวินหลานเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อ “ท่านอ๋องท่านคิดว่าข้าคิดร้ายกับองค์รัชทายาทหรอ?” นางจ้องไปที่โม่ฉีหมิง จากนั้นก็ชี้ไปที่นางกำนัลที่กำลังตกใจสุดขีด “แค่คำพูดของสาวใช้คนเดียวงั้นหรอ?” “ไปเอาตัวสาวใช้นั่นมา ข้าจะสอบสวนนาง” โม่ฉีหมิงพูดกับองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ องครักษ์ไปนำตัวนางกำนัลเข้ามา นางคุกเข่าลงตรงหน้าโม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลาน นางตัวสั่น “ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย” โม่ฉีหมิงมองไปที่นางแล้วพูดว่า “เจ้าบอกว่าพระชายาฆ่ารัชทายาทอย่างนั้นใช่ไหม?” “หม่อมฉันไม่กล้าโกหกเพคะ” นางเงยหน้าขึ้นมา “เมื่อครู่มีเพียงหม่อมฉันกับพระชายาที่อยู่ด้านใน พระชายาให้รัชทายาทกินยา จากนั้นองค์รัชทายาทก็กระอักเลือดออกมา” “เหลวไหล” โล่หวินหลานกัดฟันพูด แล้วเดินไปหานางกำนัล โม่ฉีหมิงยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์สองคนก็เดินมาขวางโล่หวินหลานไม่ให้เดินไป “พระชายช้าก่อน หมอหลวงหลี เจ้าตามข้าเข้าไปดูเจ้าพี่ว่าเป็นยังไงบ้าง” โม่ฉีหมิงเห็นหมอหลวงหลีที่มายืนรออยู่นานแล้ว หมอหลวงหลีคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาเป็นคนสนิทของต้วนกุ้ยเฟย หมอหลวงหลีรับคำสั่งของโม่ฉีหมิง ก็คำนับแล้วเดินเข้าไปในตำหนักรัชทายาท ในช่วงเวลาที่โม่ฉีหมิงกับโล่หวินหลานเผชิญหน้ากันนั้น เรื่องรัชทายาทถูกพระชายาหมิงอ๋องทำร้ายก็ได้กระจายออกไปทั่ว ในตอนนี้คนของรัชทายาทกับคนของหมิงอ๋องได้ล้อมตำหนักรัชทายาทเอาไว้หมดแล้ว ทุกคนต่างร้อนใจไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก หมอหลวงหลีตรวจชีพจรรัชทายาทที่นอนอยู่บนเตียง โม่ฉีหมิงรอผลจากหมอหลวงหลีอยู่ โล่หวินหลานเองก็ยืนรออยู่ตรงนั้น สาวใช้ที่คนนั้นก็ยังคงคุกเข่าอยู่ข้างๆองครักษ์ นางยังคงตัวสั่นอยู่ หลังจากหมอหลวงหลีตรวจชีพจรเรียบร้อยแล้วก็คุกเข่าลง “ท่านอ๋อง รัชทายาททรงสิ้นพระชนม์แล้ว” โล่หวินหลานจ้องไปที่หมอหลวงหลี แล้วแอบคิดในใจว่า “ข้าใช้เข็มฝังปิดชีพจรเอาไว้ เขาตายต่อหน้าหมอเลวๆที่วางยาฆ่าคนอย่างเจ้าเท่านั้นแหละ” “รัชทายาทสิ้นพระชนม์แล้ว คนร้ายก็จับได้แล้ว มีศพเป็นหลักฐาน พระชายาเจ้ายังคิดจะแก้ตัวอีกหรอ” คิดจะเล่นละครทั้งทีก็ต้องเล่นให้เนียน โม่ฉีหมิงมองไปที่โล่หวินหลาน สายตาของเขาตอนนี้ไม่เหลือความรู้สึกอะไรเลย โล่หวินหลานยิ้ม “หากยัดเยียดความผิดให้ข้าแบบนี้แล้ว ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะพูด” “ดี ทหาร เอาตัวพระชายาไปขังเอาไว้ ไม่มีคำสั่งข้าใครก็ห้ามปล่อยนางเด็ดขาด ใครขัดคำสั่ง ฆ่าได้ทันที ส่วนคนอื่น ให้กักบริเวณในตำหนักรัชทายาทไว้ก่อน รอคำสั่งทีหลัง” องครักษ์สองคนเดินมาหาโล่หวินหลาน เหมือนจะแตะต้องตัวนาง แต่กลับถูกโล่หวินหลานตะคอกใส่ “หยุดนะ ในเมื่อข้าเป็นฆาตกรฆ่าคน พวกเจ้าก็ไม่ต้องมาแตะต้องข้า ข้าเดินไปเองได้” องครักษ์เดินประกบโล่หวินหลาน แล้วทำท่าเชิญนาง แต่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก “ได้ พระชายาเชิญ” เรื่องราวดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ โม่ฉีหมิงสั่งให้คนไปรายงานเรื่องการตายของรัชทายาทให้โม่ฉีสิงได้รับรู้ ขณะเดียวกัน ฉินหยิ่นเองก็ปลอมตัวเป็นขันที ไปปล่อยข่าวเรื่องการตายของรัชทายาทที่จวนเวินอ๋อง โม่ฉีสิงกำลังเดินหมากอยู่กับต้วนกุ้ยเฟย เมื่อได้ยินคนมาแจ้งว่ารัชทายาทตายแล้ว หมากในมือถึงกลับหล่นลงกับพื้น โม่ฉีสิงเจ็บปวดใจมาก เขาลุกขึ้นมา ตัวของเขาสั่นเล็กน้อย เหมือนเขาบังคับตัวเองไม่ได้จากนั้นก็ล้มลงไปที่กระดานหมากรุก หมากรุกบนกระดานกระจัดกระจายไปทั่วพื้น ต้วนกุ้ยเฟยรีบพยุงเขาขึ้นมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปวดใจว่า “ฝ่าบาทอย่าเพิ่งร้อนใจไป พวกเขาจะต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ๆ” 
已经是最新一章了
加载中