ตอนที่ 48 สงครามเย็น
1/
ตอนที่ 48 สงครามเย็น
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 48 สงครามเย็น
ตนที่ 48 สงครามเย็น นี่เป็นครั้งแรกที่โล่หวินหลานเห็นโม่ฉีหมิงโกรธขนาดนี้ นางตามเขาจนถึงจวนหมิงอ๋อง เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำเดียว เขาเหมือนน้ำในช่วงหน้าหนาว ที่มีไอเย็นกระจายตัวออกมาตลอดเวลา โล่หวินหลานร้อนใจมาก นางกับโม่ฉีซิวไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย แต่พอเขาเห็นแบบนั้นก็อธิบายไม่ถูก ทำไมเขาถึงได้มาได้จังหวะขนาดนั้น เย่วหวินกับฉินหยิ่นมองหน้ากัน ปกติพระชายากับท่านอ๋องรักกันจะตายไป ทำไมวันนี้ถึงได้ทะเลาะกันแบบนี้ล่ะ? “หมิง ข้ากับรัชทายาทไม่ได้มีอะไรกัน ที่เจ้าเห็นเมื่อกี้มันไม่ใช่เรื่องจริง” โล่หวินหลานตามเขาเข้าไปถึงห้องหนังสือ นางรีบอธิบายให้เขาเข้าใจ “ไม่มีอะไร? ไม่ใช่เรื่องจริง?” โม่ฉีหมิงหยุดแล้วมองไปที่นาง นางเล่นละครเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาจับไปที่ข้อมือของนางอย่างแรง แล้วถามว่า “ที่ข้าเห็นเมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องจริงงั้นหรอ? ถ้างั้นเจ้าบอกข้ามาสิว่า กำไลนี่มันมาจากไหน?” เรื่องที่เขากลัวที่สุดมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ นางสวยจนใครๆก็จับจ้อง แล้วคนๆนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นที่ไหน เป็นพี่ชายของเขาเอง กำไลหยกมีความหมายยังไงคนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ว่าเขานั้นรู้ดี ไม่งั้น เขาคงไม่มีทางโกรธมากขนาดนี้ ไม่เพียงโกรธโล่หวินหลาน เขายังโกรธตัวเองด้วย “ข้าจะเอาไปคืนเขา ข้าไม่เคยคิดจะอยากได้ของๆเขาเลย” โล่หวินหลานพูด แล้วยื่นมือจะไปถอดกำไลออก แต่ว่ากำไลนี่มันดันไม่ยอมออก สายตาของนางดูเจ็บปวด ทำไมนางจะต้องเอาใจเขาด้วยล่ะ? ทำไมนางถึงทำตามที่นางคิดไม่ได้ล่ะ? ที่ข้อมือของโล่หวินหลานเริ่มมีรอยแดงเกิดขึ้น นางค่อยๆปล่อยมือ กำไลชิ้นนี้ยังไงนางก็ต้องถอด แต่ว่าจะไม่ถอดต่อหน้าเขาเด็ดขาด นางกับโม่ฉีซิวบริสุทธิ์ใจกัน ทำไมต้องอธิบายมากมายด้วย? นางนั่งงตัวตรง เรื่องที่ไม่มีอะไรนางก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย ในเมื่อสองคนรักกัน ก็ต้องเชื่อใจอีกฝ่ายสิ “ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ข้ากับรัชทายาทไม่ได้มีอะไรกัน เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า” นางจับไปที่หน้าของตัวเอง ยังดี น้ำตาไม่ไหล พูดจบ นางก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องหนังสือไป ยังเดินไม่พ้นประตู ก็ได้ยินเสียงดัง “เพล้ง” ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น โล่หวินหลานตะลึงไป แต่ก็จะอดทนที่จะไม่หันกลับไปมอง จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงล้อเลื่อนก็ดังมาจากด้านหลัง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียง “เจ้าจะไปไหน? กลับมาเดี๋ยวนี้นะ” โล่หวินหลานเลียนแบบความเย็นชาแบบเขา “ข้าจะไปไหนสำคัญด้วยหรอ? พูดไปเจ้าก็ไม่เชื่ออยู่ดีจริงไหม?” “เจ้าจะรีบไปหาคนรักของเจ้าใช่ไหม?” คำพูดประชดประชันออกมาจากปากโม่ฉีหมิง ไม่ว่าเมื่อกี้โม่ฉีหมิงจะสงสัยนางยังไง นางก็ทนไหว แต่ว่าคำพูดของเขาตอนนี้ มันเหมือนลากนางจากสวรรค์มาลงนรกเลย นางกัดฟันแล้วตอบว่า “ใช่แล้วยังไง?” โม่ฉีหมิงปิดตา เขาจับเก้าอี้รถเข็นเอาไว้แน่น เขาข่มความคิดที่จะทำร้ายนางเอาไว้ “ท่านอ๋อง” ฉินหยิ่นเห็นสถานการณ์ไม่ดี ก็เลยรีบกล่อมว่า “พระชายาแค่โมโห ก็เลยพูดแบบนั้นออกมา” เย่หวินรีบไปดึงแขนของโล่หวินหลานไว้ ในตอนนี้พวกเขาอยากให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันให้เร็วที่สุด พวกเขาคอยติดตามโล่หวินหลานอยู่ตลอดเวลา เรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าประตูจวนหลินอ๋อง พวกเขาเห็นทุกอย่าง รู้ว่าโล่หวินหลานกับโม่ฉีซิวนั้นไม่ได้มีอะไรกัน โล่หวินหลานกระพริบตา ดวงตาของนางแดงก่ำ มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น นางกำลังจะเดินไป โม่ฉีหมิงก็ตะคอกมาว่า “หยุดนะ ถ้าข้าไม่อนุญาต เจ้าไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” นางตอบกลับไปด้วยความไม่พอใจว่า “ทำไม? ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าหรอ ทำไมข้าต้องฟังเจ้าด้วย?” “ก็เพราะเจ้าเป็นพระชายาหมิงอ๋อง เป็นชายาของข้าไง เจ้าก็ต้องฟังข้า” โม่ฉีหมิงพูดด้วยความดุ เขาเลื่อนเก้าอี้รถเข็นมาตรงหน้านาง แล้วจับมือของนางข้างหนึ่งไว้ แล้วเลื่อนรถไป เขาไม่สนใจที่นางดิ้นหรือว่าด่าทอเขา โม่ฉีหมิงไม่พูดอะไร แล้วพานางไปที่ห้องเก็บของทางเรือนตะวันตกหลังหนึ่ง เขาให้บ่าวไพร่เอากุญแจมาไข แล้วก็พานางเข้าไปถึงปล่อยมือนาง ที่นี่คือห้องเก็บของห้องหนึ่งของจวนหมิงอ๋ฮง ก่อนหน้านี้โล่หวินหลานเคยมากับเขาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้เขาพานางมาที่นี่ทำไม? ไฟในห้องเก็บของทุกจุดสว่างขึ้น บ่าวไพร่ปิดประตูแล้วก็ออกไป โม่ฉีหมิงเหลือบมองไปที่โล่หวินหลาน สายตาแบบนี้มันทำให้นางรู้สึกว่าเขาเหมือนคนแปลกหน้า ภายในห้องมีลังไม้แกะสลักสวยงามอยู่หลายใบ โม่ฉีหมิงเปิดลังไม้ออกทีละใบ ด้านในมีไข่มุกหยกต่างๆมากมาย ที่แท้ที่นี่ก็เป็นที่ที่ของคนรวยสมัยก่อนนี่เอง ใช้ลังไม้มาเก็บสมบัติ แล้วก็ให้คนล็อคประตูแล้วให้คนเฝ้าไว้ ไม่เหมือนธนาคารในยุคปัจจุบัน เงินยัดไว้ตรงไหนไม่มีใครเห็น “เลือก” โม่ฉีหมิงชี้ไปที่ลังไม้ โล่หวินหลานอึ้งไป จากนั้นนางก็หัวเราะอย่างไม่พอใจว่า “ที่แท้ท่านอ๋องก็มีแค่ของพวกนี้เองหรอ? เทียบไม่ได้กับกำไลสวยๆชิ้นนี้เลยนะ” นางเกลียดคนที่ใช้เงินซื้อใจที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่นางโกหกโม่ฉีหมิง นางไม่ได้ชอบกำไลในมือเลย แต่ว่านางแค่อยากจะประชดโม่ฉีหมิงเท่านั้น “งั้นหรอ?” สายตาของโม่ฉีหมิงเย็นชามาก เขาเลื่อนรถเข็นมาตรงหน้าโล่หวินหลาน จากนั้นก็ดึงข้อมือของนางมา ใช้ผ้าเช็ดหน้าสอดเข้าไปในกำไล แล้วถอดมันออกมา ขณะที่โล่หวินหลานกำลังตกใจที่ถูกจับข้อมืออยู่ กำไลก็ถูกวางเอาไว้ที่โต๊ะแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบหินหยกขึ้นมาหนึ่งชิ้น แล้วทุบกำไลหยกนั้นจนแตก กำไลแตกละเอียด โม่ฉีหมิงหัวเราะแห้งแล้วโยนหินหยกทิ้งไป จากนั้นก็เลื่อนรถเข็นออกไป ลมค่อยๆพัดผ่านเข้ามาในห้องเก็บของ แต่ว่าแสงเทียนกลับไม่มอดลงเลย โล่หวินหลานกระพริบตา มือข้างหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ก้มหน้ามองกำไลหยกที่แตกอยู่ ทันใดนั้นเองเหมือนนางจะเข้าใจอะไรขึ้นมา นอกตำหนักแห่งหนึ่ง นางกำนัลสวมชุดเขียวถือชามรังนกมาถ้วยหนึ่ง กำลังยืนลังเลอยู่ด้านนอก ไม่กล้าเข้าไปข้างใน มีนางกำนัลชุดเขียวอีกคนเดินออกมาจากในตำหนัก เห็นนางยืนลับๆล่อๆอยู่ข้างนอก ก็เดินไปตบไหล่ “เจ้ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้?” นางกำนัลหันหลังมา พูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวว่า “พี่วี่จือ ข้ากำลังจะเอารังนกไปถวายฮ่องเฮา แต่ว่าเหมือนพระนางยังกริ้วอยู่ ก็เลย ...... ก็เลย ......” นางกำนัลคนนี้วี่จือรู้จัก นางเป็นคนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ทำอะไรก็ไม่ค่อยคล่อง ยังดีที่ซื่อ ไม่มีลูกไม้อะไร วี่จือขมวดคิ้วแล้วมองไปที่นาง แล้วพูดว่า “ไปเถอะ เดี๋ยวข้ายกไปให้ฮ่องเฮาเอง” ยังไม่ทันได้เคาะประตู ด้านในก็มีเสียงถ้วยชามแตกเป็นระนาว วันนี้ฮ่องเฮาอารมณ์ไม่ดี มิน่าถึงไม่มีกล้ามาปรนนิบัติเลย วี่จือเปิดประตูเข้าไป เห็นแก้วแตกเต็มพื้นไปหมด นางเดินข้ามเศษแก้วไป แล้ววางรังนกไว้บนโต๊ะ แล้วพูดว่า “ฮ่องเฮาอย่าทรงกริ้วเลยนะเพคะ กินรังนกสักหน่อยดีกว่า” เย่ฮ่องเฮาโบกพัดในมือ แล้วเหลือบไปที่รังนกอย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “ยกออกไปทิ้งซะ ข้าไม่กิน” แค่คิดถึงเรื่องที่เมื่อกลางวันไปเจอมาที่จวนหลินอ๋อง นางก็แทบจะโกรธจนควันออกหู “พระนางเพคะ ต่อให้จะทรงกริ้วยังไงก็ตามก็ต้องดูแลพระวรกายด้วยสิเพคะ ท่านไม่ได้กินอะไรเลยมาตั้งแต่เย็นแล้วนะเพคะ” วี่จือพูด “ข้ากินไม่ลง คิดไม่ถึงเลยว่าโล่หวินหลานนางจะมีปัญญามากขนาดนี้ ทำให้ซิวเอ๋อออกหน้าพูดแทนนางได้ ข้าเสียใจจริงๆ” เย่ฮ่องเฮาถอนหายใจ วี่จือรีบพูดขึ้นมาว่า “รัชทายาททรงกตัญญูมาก ไม่มีทางย้อนกลับมาทำอะไรพระนางหรอกเพคะ แต่เป็นเพราะว่าพระชายาหมิงอ๋องเคยช่วยชีวีตรัชทายาทไว้ เขาก็แค่อยากตอบแทนไปบ้าง ข้าน้อยเห็นว่า รัชทายาทยังทรงดีกับพระนางอยู่นะเพคะ” คนในวังหลวงมากมายขนาดนี้ คงมีแค่วี่จือคนเดียวเท่านั้นแหละที่สามารถออกความเห็นต่อหน้าเย่ฮ่องเฮาได้ เย่ฮ่องเฮาพูดว่า “นางแพศยานั่น คิดว่าตัวเองเคยช่วยซิวเอ๋อไว้ ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาจริงๆ นี่จะขึ้นมาเหยียบหัวข้าอยู่แล้ว” คนที่ทำให้โม่ฉีซิวช่วยพูดให้มีไม่มาก แต่โล่หวินหลานกลับเป็นหนึ่งในนั้น นางไม่เพียงได้รับความรักจากโม่ฉีหมิง แต่ยังคิดจะไปอยู่ในใจของโม่ฉีซิวด้วย? “พระนาง นางไม่กล้าหรอกเพคะ ท่านเป็นถึงมารดาของแผ่นดิน อยู่เหนือคนนับหมื่นนับแสน นางก็แค่ใช้รัชทายาทให้ช่วยนางเท่านั้น ไม่มีอะไรหรอกเพคะ” วี่จื่อพูด เย่ฮ่องเฮาถอนหายใจ “ซิวเอ๋อเลอะเลือนจริงๆ นางเป็นชายาของหมิงอ๋อง ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรไปยุ่งกับนาง” “พระนาง กินรังนกก่อนเถอะเพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันช่วยท่านคิดเอง” วี่จือก้มหน้ายกรังนกมาให้ เย่ฮ่องเฮาหันไปมองนาง มีเด็กคนนี้นี่ดีจริงๆ ไม่เพียงเจ้าวางแผน ยังซื่อสัตย์ด้วย ทำเพื่อนางได้ตลอด หลังจากกินรังนกไป วี่จื่อก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาให้ หลังจากนั้นนางก็กระซิบอะไรไม่รู้ข้างหู แต่หลังจากเย่ฮ่องเฮาฟังแล้ว ก็ยิ้มมุมปาก แล้วพยักหน้า หลังจากที่วี่จือพูดจบแล้ว นางก็นั่งตัวตรง แล้วยิ้ม “วี่จือ เจ้าอยากให้ข้าตบรางวัลอะไรให้เจ้าดี?” วี่จือได้ยินดังนั้น ก็คุกเข่าโขกศีรษะหลายครั้งแล้วพูดว่า “หม่อมฉันไหนเลยจะกล้ารับรางวัลจากพระนาง คำชมของพระนางก็ถือเป็นรางวัลใหญ่ของหม่อมฉันแล้ว” เมื่อฟังวี่จือพูดจบ เย่ฮ่องเฮาก็ยิ้มหน้าบานไม่หุบ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 48 สงครามเย็น
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A