ตอนที่55 การผ่าตัด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่55 การผ่าตัด
ต๭นที่55 การผ่าตัด บรรยากาศภายในฟ้องมีความกดดัน บานหน้าต่างปิดแน่น โล่หวินหลานมองดูโม่ฉีหมิงที่อยู่บนเตียง ยื่นมือไปถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วจึงถอดกางเกง ใช้ผ้าสีขาวในการบังร่างเขาไว้ มีเพียงส่วนขาที่โผล่พ้นออกมา ตรงข้อเท้าที่มีการฉีดขาดของเส้นประสาทมีเนื้อเชื่อมติดประสานเรียบร้อย ขึ้นมาบิดๆเบี้ยวๆ ดูจากภายนอกมีเพียงส่วนที่ปูดโปนออกมา หากจะทำการรักษา ต้องจัดการกรีดเนื้อที่ขึ้นใหม่ หาจุดตำแหน่งที่บาดเจ็บแล้วเย็บติดให้ประสานกัน “พระราชา เสื้อปลอดเชื้อโรคมาแล้วขอรับ” ฉินหยิ่นขนเสื้อสีฟ้าเข้ามาข้างใน และยังมีหมวกกับผ้าปิดปากที่เข้าชุดอีก “ทุกคนหยิบเอาไปใส่คนละหนึ่งชุด ต้องใส่หมวกและหน้ากากด้วยนะ” โล่หวินหลานพูดพลาง ใส่เสื้อและหมวกกับผ้าปิกปากจนปิดบังทั้งหน้าเห็นคาดวงตาคู่สวย สวินม่ได้แต่จับเนื้อผ้าของเสื้อปลอดเชื้อโรคไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร รู้แต่ว่าไม่ใช่ผ้าธรรมดา พระราชาคนนี้ มีความสามารถขนาดไหนกัน? “ไปปิดประตู อย่าให้ใครเข้ามาได้ และก็ห้ามออกไปไหน” โล่หวินหลานสั่งเสร็จ ก็เริ่มฉีดยาชาให้โม่ฉีหมิง ในมือนางไม่มียาชา โชคดีท่สวินโม่เอาหมาฝอซ่านมาด้วย ตอนนี้ได้ทำโม่ฉีหมิงหลับ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “สวินโม่ หมาฝอซ่าน นี่คือมีดผ่าตัด คีม กรรไกร คีมจับเส้นเลือด เข็มเย็บแผล หากข้าต้องการอะไร ให้เจ้าหยิบให้ข้า” โล่หวินหลานแนะนำอุปกรณ์ทีละอย่างในกล่อง ตอนที่เริ่มประดิษฐ์ของพวกนี้เข้าก็ได้บอกให้สวินโม่แล้ว พูดทบทวบอีกหนึ่ฃรอบเพื่อให้จำแม่นขึ้น สวินโม่พยักหน้า คิ้วพลัยยกขึ้นมาหนึ่งที จ้องไปที่กล่องอุปกรณ์การแพทย์ข้างหน้าอย่างตั้งใจจดจำ โล่หวินหลานยื่นมือไปสัมผัสบริเวณข้อเท้าของโม่ฉีหมิงไปมา พอเขาโดนหมาฝอซ่านเข้าไปก็ทำให้เขาหลับไหลไปเลย สองตาที่เย็นชาและดุดันได้ปิดสนิทอย่างอ่อนโยน นางสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที จับโดนเส้นเอ็นถึงได้หยุดลง น้ำเสียบเรียบเย็นเอ่ยขึ้น “มีดผ่าตัดที่ฆ่าเชื้อมาแล้วหยิบให้ข้า” นางได้แนะนำขั้นตอนการฆ่าเชื้อให้สวินโม่ฟังอย่างละเอียดแล้ว สวินโม่ไม่ทำมั่ว นำมีดผ่าตัดใส่เข้าไปในแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแล้วส่งให้นาง นางกดตรงเส้นเอนบนผิวหนัง แล้วใช้มีดกรีดลงไป ทันใดก็มีเลือดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว นางมองอย่างไม่คาดสายตา สั่งเสียงเย็นเฉียบ “สำลีชุบแอลกอฮอล์” เช็ดแผลจนสะอาดเสร็จ นางค่อยคลำหาจุดที่เส้นเอนขาด แล้วพูด “เข็มเย็บแผล ด้ายไส้แกะ” โล่หวินหลานค่อยๆรำลึกเห็นห้องผ่าตัดในโลกอนาคต พลางใช้เข็มรีบเย็บจุดที่เส้นเอ็นฉีกขาดให้ประสานกัน เหงื่อเริ่มผุดบนหน้าผากนางเยอะขึ้นเรื่อยๆ ใช้ไหล่บางเช็ดปาดเหงื่อบ้างในบางเวลา ยังไม่ทันที่นางจะพูด ผ้าผืนนิ่มก็โป๊ะลงตรงหน้าผากนางแล้ว เช็ดอย่างแผ่วเบา นางหันหลับไปมอง คือสวินโม่ “ขอบใจ” โล่หวินหลานพูด ความรู้สึกที่มีผู้ช่วยช่างดีจริงๆ พอจัดการเย็บเสร็จ โล่หวินหลานก็เริ่มผ่าตัดเย็บเชื่อมเท้าอีกข้างทันที จากนั้นก็พันด้วยผ้าพันแผล พอเสร็จเรียบร้อย นางก็สายตาที่ตกตะลึงมองมาที่นาง ทีแท้ก็สามารถกรีดเนื้อ แล้วเย็บเชื่อมประสานทุกอย่างเองได้ เย่หวินมองเหตุการณ์ที่มีเลือดนองแล้ว เทียบกับการฆ่าฟันที่เจียงหู่น่ากลัวกว่ามาก ฝืนให้ร่างกายแข็งแกร่ง ไม่พูดอะไรสักคนจนโล่หวินหลานผ่าตัดสำเร็จ ท้องฟ้าข้างนอกก็เริ่มมืดลงแล้ว เริ่มเข้าสู่กลางคืน โล่หวินหลานก็ฉีดยาปฏิชีวนะให้โม่ฉีหมิงอีกหนึ่งเข็ม ก็เดินออกจากห้องไป “พระราชา เหนื่อยแล้วล่ะสิ ข้าไปตักน้ำอุ่นให้ท่านล้างหน้า” เย่หวินเห็นโล่หวินหลานพิงเอนตัวลงที่เก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า รีบวิ่งออกไปทันที “พระราชา คิดไม่ถึงจริงๆว่าในโลกนี้ยังมีวิธีการรักษาคนอย่างนี้อยู่ ข้าคอยหาหาวิธีรักษาท่านอ๋องมาตลอด แต่ก็หาวิธีจะรักษาไม่ได้สักที” สวินโม่ยอมรับจริงว่าๆนางเก่งมาก เมื่อกี้ตอนที่โล่หวินหลานอยู่ในห้องผ่าตัด ความตั้งใจมุ่งมั่น ทำให้เขาจดจำไว้ในสมอง “นี่เป็น สิ่งท่านแม่ข้าสอน บวกกับข้าใช้เวลาอยู่ในห้องหนังสือซะส่วนใหญ่ ข้างในมีการรักษาด้วยวิธีนี้อยู่ ก็เลยกล้าลองสักตั้ง” โล่หวินหลานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่นางในยุคนี้หน้าตาเป็นยังไง เลยหาเหตุผลมั่วๆขึ้นมา ถ้าจะบอกว่านางไม่ใช่คนของยุคนี้ ไม่เพียงจะไม่มีใครเชื่อ กลัวจะหาว่านางเป็นสติไม่ดีอีก สวินโม่พยักหน้า ในใจรู้สึกชื่นชมขึ้นมาอยู่บ้าง “หลังจากรักษาเสร็จ ท่านอ๋องก็จะเดินได้เลยใช่ไหม?” สวินโม่สงสัย แล้วก็เทน้ำให้นางหนึ่งแก้ว โล่หวินดื่มน้ำไปหนึ่งอึก ให้ในคอได้พอชุ่มชื่นบ้าง เมื่อกี้ตอนผ่าตัดไม่กล้าหายใจแรง แล้วก็ไม่ได้ดื่มน้ำในคอรู้สึกฝืดๆนิดหน่อย “ยังไม่ได้ จะต้องพักผ่อนอีกหลายวัน แล้วก็ค่อยๆใช้ไม้เท้าค้ำยันค่อยๆเดิน ถ้าถนัดแล้วก็เดินได้ปกติเอง แต่ถ้าหากพบเจอในวันที่ฝนตกอากาศชื้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องเจ็บอยู่พอควร” โล่หวินหลานกล่าว ในมือมีคราบเลือดติดอยู่นิดหน่อย มีกลิ่นแรงอยู่พอตัว นางให้คนปิดประตูห้องของโม่ฉีหมิง เปิดบานหน้าต่างรับอากาศเข้ามา พอดีกับที่เย่หวินยกน้ำอุ่นเข้ามา ให้นางได้ล้างหน้า และล้างมือที่เปื้อนคราบเลือด ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ตอนนี้ขอแค่รักษาอาการบาดเจ็บที่ขาของโม่ฉีหมิงให้หาย นางยังต้องฟื้นฟูใบหน้าเดิมของเขาให้กลับมาเหมือนเดิม ใช้ชีวิตให้เหมือนคนปกติ สวินโม่พยักหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้แค่เขาไม่ต้องใช้รถเข็นอีก ต่อให้ต้องทำอะไรเขาก็ยอม โมฉีหมิงเหมือนสัตว์ประหลาด ตอนนี้อาการบาดเจ็บที่ขารักษาหายแล้ว หลังจากนี้ก็สามารถดูแลงานข้างหลังได้อย่างเต็มที่แล้ว กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ทั่วทั้งแผ่นดินก็อยู่ในกำมือเขา สวินโม่เชื่อมั่นอย่างนี้มาตลอด “พระราชา อาหารค่ำเตรียมเสร็จแล้ว ท่านไปกินสักหน่อยเถิด” เย่หวินเข้ามาจากด้านนอก คิดแล้วคิดอีกถาม “จะให้ข้ายกเข้ามาให้ท่านไหม?” นางพึ่งผ่าตัดเสร็จ ไม่อยากกินอะไร โม่ฉีหมิงก็ยังไม่ฟื้น เดี๋ยวถ้าเขาตื่นขึ้นก็ต้องเขาว่ามีตรงไหนไม่สบายตัวรึป่าว ให้พวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการยังไง “สวินโม่ ฉินหยิ่น พวกเจ้าไปก่อนเถอะ ข้ายังไม่หิว” โล่หวินหลานพูดพลางดื่มน้ำที่วางอยู่ข้างหน้ายกดื่มจนหมด เดินเข้าไปพร้อมชุดปลอดเชื้อ สวินโม่มองตามหลังนาง อยากพูดอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร ข้างในพึ่งมีการผ่าตัด ไม่ควรเปิดหน้าต่าง กลิ่วคาวเลือดยังอยู่ ยังไม่หาย แต่ว่าเก็บวาดได้สะอาดเรียบร้อยมาก ข้างเตียงบนโต๊ะยังมีอุปกรณ์ผ่าตัดล้างทำความฆ่าเชื้อเสร็จแล้วอยู่ วางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โล่หวินหลานไปย้ายเก้าอี้อันหนึ่งมาไว้ข้างหน้าโม่ฉีหมิง ก้มหน้ามองหน้าเขาอย่างชัดเจน ขนตาเขายาวมาก สำดำสนิท ถึงแม้จะหลับตาอยู่ ริมฝีปากเขาสีอ่อนๆ ไม่เหมือนนาง สีแดงระเรื่ออยู่ตลอด สวมใส่หน้ากากตลอด ดูไปแล้วเย็นชา แต่มีเพียงโล่หวินหลานที่รู้ ภายในใจของลุกโชนดังไฟ เขาเย็นชาดุดันกับคนอื่นเสมอ ไม่มีรอยยิ้ม มีแต่นางที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา เหมือนดอกไม้ที่บานสะพรั่ง โล่หวินก้มหน้ามองเขา ดูยังไงก็ดูไม่พอ ไม่นาน นางก็ค่อยๆฟุบลงกับเตียง หลับตาอันหนักอึ้งลง หูทั้งสองข้างเหมือนไม่รับรู้อะไรอีก โลกทั้งใบเหมือบงียบลงทันที นานมาก นางรู้สึกว่ามีคนค่อยๆทัดผมนางเบาๆ สัมผัสความอบอุ่นนี้นางไม่อยากให้จากไปไหนเลย นางหวงแหนความอบอุ่นนี้ “หวินหลาน……” เสียงแหบพร่าดังขึ้น สองคำนี้ไม่รู้ว่าต้องใช้แรงขนาดไหนในการเปร่งออกมา โล่หวินขยับคิ้ว ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ข้างหน้าก็คือมือใหญ่ของโม่ฉีหมิง ค่อยๆลูบหน้าผากมลเบาๆ มือของเขายังคงอบอุ่นอยู่เสมอ “หมิง เจ้าฟื้นแล้ว รู้สึกว่าตรงไหนไม่สบายตัวรึป่าว? เจ็บขาไหม?” โล่หวินหลานลุกขึ้นแล้วนั่งลง ถามถี่ยิบ “ไม่เจ็บ เจ้าคงเหนื่อยมาก?” โม่ฉีหมิงรู้สึกเหยียบเย็นแต่ก็ยังเหมือนช่วยอะไรไม่ได้ เสียงแหบพร่าที่ได้ยินช่างเจ็บปวดรวดร้าวนัก “ไม่เหนื่อย” โล่หวินส่ายหัว จับมือเย็นๆแน่น “เจ้ายังนู้สึกชาๆไหม?” โม่ฉีหมิงค่อยยิ้มขึ้น แต่ก้ไม่ตอบคำถามของนาง ความเจ็บแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก ตอนนี้เขาอยากแค่มองผู้หญิงตรงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ข้าไปเทน้ำให้เจ้า” เหมือนกับจะรู้สึกเขิลอายทำตัวไม่ถูกเพราะโม่ฉีหมิงเล่นจ้องนางไม่วางตา นางรีบหลบตา กำลังจะลุกขึ้น ยังไม่ทันลุก มือก็โดนคนดึงไว้ ฉุดด้วยแรงหนึ่งที นางก็ล้มนอนข้างๆที่เตียงแล้ว โม่ฉีหมิงกอดรัดเอวนางแน่น หยุดทุกความเคลื่อนไหวของนาง “โม่ฉีหมิง! อย่าทำอย่างนี้มันจะสะเทือนแผลที่พึ่งผ่าตัดที่เท้านะ ถ้าแผลเปิดจะทำยังไง?”โล่หวินหลานเอ็ดตำหนิอย่างโกรธเคือง แล้วก็จะลุกขึ้นตรวจดูขาของเขา “อย่าดิ้น ข้าแค่อยากจะกอดเจ้าแน่นๆ” เสียงสุขุมแหบพร่าดังอยู่ข้างหูของโล่หวินหลาน ลมอุ่นร้อนสาดเข้าข้างหู ทำให้นางหูหน้าแดงระเรื่อขึ้น ร่างกายของนางเหมือนโดนมนต์สะกดให้หยุดนิ่ง “นานมากที่ไม่ได้กอดเจ้าอย่างนี้” โม่ฉีหมิงเอาคางเกยไหล่บาง จูบประทับลงอย่างแผ่วเบา ในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจของคนทั้งสอง มีบ้างที่ลมพัดผ่านเข้ามาให้พอได้ยอนเสียง ข้างนอกมีแสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ลอดผ่านกระดาษที่แปะตรงหน้าต่างสะลัวๆ ไม่นาน ทันใดนั้นก็มีเสียง “ป่าว” เสียงประตูเปิดอย่างแรง ใบหน้าเหมือนมีเรื่องร้องใจของเย่หวินลอยเข้ามา “อ้ากกกก! พระราชา ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้ตั้งใจ คะ คือคุณชายรออยู่ข้างนอกนานแล้วไม่มีเสียง กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกท่าน เพราะฉะนั้น เพราะฉะนั้น……” เย่หวินเร่งรีบอธิบาย ยิ่งถึงตรงท้ายๆ เสียงยิ่งต่ำลง “ออกไป” โม่ฉีหมิงไล่เสียงเย็น ไม่เหมือนกับคนที่พึ่งผ่าตัดเสร็จเลยสักนิด สวินโม่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ศิลาตรงสวน เห็นเย่หวินที่เดินออกจากห้องลับด้วยใบหน้าเซ็งๆ อดกลั่นขำไว้ “เย่หวิน ท่านอ๋องไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เย่หวินหน้าหงอยนั่งลงอีกฝั่ง ฟังน้ำเสียงแสร้งถามเรื่องที่เกิดขึ้น ก็รู้ว่าตัวเองโดนแกล้งแล้ว เย่หวินจ้องตาโต “คุณชายสวิน ท่านตั้งใจ! ท่านอ๋องกับพระราชาไม่เห็นมีอะไรเลย” สวินโม่โบกมือ พูด “ไม่มีอะไรจริงๆใช่ไหม ข้าก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา!” ที่แท้ก็รอนางอยู่ที่นี่นั่นเอง เย่หวินกระพริบตาปริบๆมองไปที่ฉินหยิ่นที่อยู่ข้างๆ เขารู้สึกว่ามีคนจ้องด้วยตาลุกเป็นไฟที่เขา หน้ายังไม่กล้าหัน “ฉินหยิ่น ทำไมเจ้าไม่บอกข้า? พวกเจ้าสองคนร่วมมือกันใช่ไหม?” เย่หวิยเดินไปข้างหน้าเขา นางสู้สวินโม่ไม่ไหว ได้แต่รังแกฉินหยิ่นแต่นั้น “ก็ไม่นิ่ เป็นความคิดของคุณชายสวินคนเดียวเลยนะ!” ฉินหยิ่นกลั้นขำ เห็นสายตาที่โกรธเนืองๆ แล้วจึงบิดจมูกนางเบาๆ “ไม่ต้องโกรธแล้วหน่า มา ดื่มชา” พูดพลาง กดนางนั่งลงแล้วเทชาให้นางดื่ม เย่หวินได้แต่ส่ายหัวแต่ทำอะไรได้
已经是最新一章了
加载中