ตอนที่64กลับเมืองหลวง
1/
ตอนที่64กลับเมืองหลวง
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่64กลับเมืองหลวง
ตนที่64กลับเมืองหลวง เวินอ๋องโม่ฉีหานจะกลับเมืองหลวงข่าวคราวดุจดั่งลมหวนพัดมังกรม้วนเข้ามาก็ไม่ปานถึงแม้ฮ่องเต้จะปล่อยข่าวออกไปว่ากลับมารักษาตัวแต่ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจว่าการกลับมาครั้งนี้จะกลับไปอีกครั้งคบเป็นไปไม่ได้ สามวันให้หลังโม่ฉีหานกลับถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยเขาไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจใช้รถม้าแค่สองคันและทหารขบวนเล็กเข้าในเมืองไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้กับต้วนกุ้ยเฟยก่อน รถม้าสองคันค่อยๆเดินทางเข้ามาภายในวังหลวงเข้ามาภายในพระราชวังเฉินฮุยฮ่องเต้ต้วนกุ้ยเฟยพระชายาเย่และนางสนมทั้งหมด เขาสวมใส่ชุดคลุมสีฟ้าอ่อนเขาย่างก้าวกรีดกรายเข้าไปในพระตำหนักเฉินฮุยเบื้องหลังยังมีหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดสีเหลืองอ่อนตามอยู่ด้านหลัง พลางนับเดือนตอนที่เห็นโม่ฉีหานแรกๆเขาเหมือนผ่านโลกมาอย่างโชกโชนใบหน้าขาวสะอาดในตอนนั้นกลับกลายเป็นคล้ำลงเล็กน้อยนัยน์ตาดุจดั่งเพชรแวววาวระยิบระยับเห็นได้ชัดว่าเขาผ่านโลกผ่านลมฝนมาเยอะเห็นได้จากลมที่พัดแรงในเยี่ยนเหมินแสงแดดแรงขนาดไหน แต่หญิงสาวข้างหลังเขากลับไม่มีความเหมือนเขาเลยสักนิดผิวสวยสะอาดหมดจดดุจดั่งน้ำใสดูไม่ออกเลยว่าเคยอาศัยอยู่ในเยี่ยนเหมิน หลังจากที่หลายคนต่างก้มโค้งคำนับแล้วเขาก็แนะนำผู้หญิงด้านหลัง“ท่านพ่อหญิงสาวคนนี้คือคุณหนูสามของตระกูลเย่ชื่อเย่เซียวโหล” เย่เซียวโหลได้ยินโม่ฉีหานอนะนำตัวเองจบไม่ชัดเจนรีบก้าวเท้าไปหนึ่งก้าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานใส“เซียวโหลขอคารวะฮ่องเต้เพคะ” ไม่ผิดที่เป็นเย่เซียวโหลสายตาของพระชายาเย่เหมือนกับมองดูสังเกตการณ์แทบอยากจะเอาดวงตาคู่นั้นมองไปที่ร่างนางทั้งวันไม่เสียดายที่เป็นลูกสาวของตระกูลเย่จิตใจกว้างขวางอ่อนหวานอ่อนโยน ผู้ที่อยู่เบื้องบนต่างซุบซิบกันหนาหูแล้วมองดูเย่เซียวโหลอย่างละเอียดอีกรอบจากนั้นก็ตรวจดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเย่มีบางคนที่แสดงสีหน้าตกใจบางคนก็ก็มองเหยียดอาศัยช่วงฮ่องเต้พระชายาไม่ทันสังเกตเริ่มสุมหัวกันซุบซิบนินทา คนตระกูลเย่เป็นคนอย่างไรทุกคนต่างรู้กันดีตอนนี้โม่ฉีหานกลับพานางกลับมาด้วยมันหมายความว่าไง? “เซียวโหล?ไม่เจอกันนานนับปีเจ้าโตเป็นสาวแล้วรึ?ดีๆเจ้ากลับเมืองหลวงพร้อมกับหานเอ๋อได้อย่างไร?”รอยยิ้มนัยน์ตาของเต้ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่สายตาทั้งสองมองทะลุไปเห็นแสงบางอย่าง เย่เซียวโหลหันไปมองโม่ฉีหานเขายอมเปิดปากพูดซักที“ตอบฮ่องเต้เรื่องมันเป็นอย่างนี้ลูกผ่านไปเมืองเยี่ยนเหมินพบเจอนางช่วยนางไว้ได้พอดีก็เลยพานางกลับเมืองหลวงมาด้วย” ทำไมถึงช่วยไว้?สนมที่นั่งอยู่ด้านบนต่างมองหน้ากันไปมาเหมือนกับไม่เข้าใจ ที่แบบเยี่ยนเหมินทุกคนต่างรู้กันดีอากาศไม่ดีขาดแคลนข้าวสารอาหารในหนึ่งปีต้องพบเจอกับความแห้งแล้งเกษตรกรไม่มีผลผลิตทุกครั้งที่พบเจอประชาชนต้องอดอยากหิวโหยแย่งชิงที่ทำมาหากินเสบียงอาหารแม้แต่ข้าหลวงก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ราชสำนักก็กำลังช่วยกันแก้ปัญหาของเยี่ยนเหมินเงินก็แจกทุกปีแต่ถึงมือประชาชนอันน้อยนิดไม่รู้ว่าถูกข้าหลวงคนไหนเอาไปกินหมด ดังนั้นประชาชนตาดำๆต้องพบเจอกับภัยแล้งจนไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ต้องแย่งชิงเสบียงอาหารกันเยี่ยนเหมินกลายเป็นเมืองทราผู้นไม่กล้าเข้าออก ตอนที่ทุกคนได้ยินว่าเกิดเรื่องกับเย่เซียวโหลต่างคิดไปถึงประชาชนที่เดือดร้อนพระชายาเย่ยิ่งร้อนใจถามขึ้นอย่างเร็ว“เป็นอะไรไป?” ได้ยินว่านางเป็นห่วงอย่างนั้นเย่เซียวโหลก็ยิ้มรับรีบตอบกลับ“ไม่เป็นไรเพคะเหนียงๆไม่ต้องกังวลที่หม่อมฉันกลับมาที่นี้ถูกดักปล้นคนที่คุ้มครองรอบกายต่างถูกฆ่าไปจนหมดเป็นเวินอ๋องที่บังเอิญเดิรผ่านแล้วช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้พอรู้ที่มาของหม่อนฉันแล้วก็พาหม่อมฉันกลับมาด้วยต้องขอขอบคุณเวินอ๋องเป็นอย่างมาก ถึงนางจะอธิบายยังไม่ชัดเจนแต่ทุกคนก็รู้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ถามต่อไปยังไงคนก็กลับมาแล้ววั้นก็อยู่ดีๆแล้วกันก็พอดีกับถูกใจพระชายาเย่ นางพูดพลางหันหน้าไปหาโม่ฉีหานเห็นเขากำลังมองฮ่องเต้ด้วยสายตาเงียบขรึมแล้วก็รีบหันกลับมา ”ดีๆหานเอ๋อเจ้าช่างกล้าหาญนักเจ้าเจิ้งเจ้าไปเอาหยกหยูอี้ที่ซีอวี้เอามาบรรณาการมาข้าจะมอบให้หานเอ๋อกับเซียวโหล”พูดจบก็รอเจ้าเจิ้งไปเอาของแล้วจึงพูดขึ้น“แล้วข้าก็เข้าใจว่าเรื่องปล่อยข่าวเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ” ได้ยินเขาพูดอย่างนั้นโม่ฉีหมิงก็แอบคิดในใจเขาไม่ได้ตั้งใจจะคิดแบบนั้นเพียงแต่เพราะเรื่องที่ช่วยเย่เซียวโหลไว้ทำให้เขาต้องพูดแบบนั้นออกไป ในใจก็คิดอย่างเร็วไวตอบอย่างจริงใจ“ท่านพ่อลูกเชื่อเรื่องความบริสุทธิ์ใจเรื่องนี้ลูกไม่รู้จริงๆ” แววตาของฮ่องเต้ไม่มีความเปลี่ยนแปลงนักเรื่องผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไปวันนี้เขาแค่พูดขึ้นไปอย่างนั้นพลางพูด“ดีแล้วข้ารู้” ระหว่างที่พูดเจ้าเจิ้งก็นำหยกหยูอี้ขึ้นมาถวายยินดีกับโม่ฉีหานกับเย่เซียวโหล หลังจากที่ทั้งสองกล่าวขอบคุณก็ขอลาออกไปออกมานอกวัง แสงแดดจากข้างนอกก็เริ่มแผดเผาแต่โม่ฉีหานกลับไม่รู้สึกอะไรเปรียบกับแสงแดดของเยี่ยนเหมินที่นี่ยังถือว่าอุ่นนัก เขาหันไปมองเย่เซียวโหลสายตาของนางยิ้มออกมาอย่างร่าเริงแล้วก็มองตรงไปที่เขาทันใดนั้นเขาก็นึกถึงโล่หวินหลานเพียงแค่นางไม่เคยใช้สายตาแบบนี้มองเขาและยังรังเกียจที่จะคุยกับเขา เขามีความสับสนเหมือนไม่เจอโล่หวินหลานมานานมากแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง...... “ขอบใจเจ้านะ”เย่เซียวโหลพูดขึ้น สายตาของโม่ฉีหานมีความขี้เล่นขึ้นมาภายใต้แสงอาทิตย์ทำให้เขาหลับตาหยีตอบเสียงต่ำ“ขอบใจข้าทำไม?” เย่เซียวโหลเงยคางขึ้นจ้องเขาตาแป๋วพูดเสียงยาน“ขอบใจเจ้าที่ไม่บอกเหตุผลที่ข้าไปเยี่ยนเหมินที่แท้จริง” ตกลงแล้วนางไม่ใช่นางเพียงแต่ตาพร่าเพียวชั่วครู่แต่เป็นความคิดของเขาเท่านั้นเอง เขากระโดดขึ้นอานม้าอย่างรู้สึกผิดหวังสายตาจับจ้องไปแต่ข้างหน้าไม่มองนางอีก“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปทำอะไรที่เยี่ยนเหมินก็เลยไม่ได้พูดออกไปคุณหนูสามเย่เดี๋ยวจะมีคนมารับเขจ้ากลับจวนข้าไปก่อนล่ะ” พูดพลางหวดแส้ลงหลังม้าออกจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด เย่เซียวโหลก้าวเท้ายาวไปข้างหน้ามองตามหลังของเขาไปอย่างอาลัยพูดขึ้น“คนอะไร?เด๋ยวร้ายเดี๋ยวดี!” พูดพึ่งจบข้างหลังก็มีเสียงม้าดังขึ้นชายฉกรรจ์สวมชุดคลุมดำทั้งตัวก็ควบม้ามาหยุดตรงหน้านางก้มหน้าคารวะ“คุณหนูสามเชิญขึ้นมาเถิด” เย่เซียวโหลละสายตาจากหลังของโม่ฉีหานมองดูพ่อบ้านกายนางเบะปากขึ้นเบาๆจากนั้นก็ก้าวขาขึ้นรถม้าไป นางรู้ดีว่าตอนนี้ถึงนางจะหนีก็ไม่มีประโยชน์ถึงตอนนี้จะมีแค่พ่อบ้านคนเดียวคอบเฝ้านางไว้แต่ก็มีองครักษ์ที่แอบอยู่รอบตัวนางยิ่งบรรยากาศเงียบสงบขนาดนี้ยิ่งทำให้นางอยู่ไม่สุขตื่นเต้น เดี๋ยวกลับถึงจวนก็จะถูกตำหนิอาจจะโดนทำโทษด้วยก็ได้นางหนีออกจากจวนเย่เองตอนนางหนีออกไปเหลือไว้เพียงแค่จดหมายฉบับเดียวไว้ในห้องตัวเองเก็บข้าวของใส่ย่ามห่ออย่างดีเอาข้างของมีค่ารวมถึงเงินที่มีอยู่เก็บห่อใส่แล้วเดินทางไปเหิงชาง พอคิดๆแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เลยนางยังเที่ยวเล่นไม่หนำใจเลยเงินบนตัวนางก็ใช้จนหมดสิ้นเหิงชางไม่ไกลจากเยี่ยนเหมินที่หนีบรูปหยกให้ชาวนาคนหนึ่งไปเยี่ยนเหมินกะจะไปอาศัยญาติที่อยู่ที่นั่นใครจะไปคิดว่าตอนที่ใกล้จะถึงเยี่ยนเหมินชาวนาคนนั้นจะเปลี่ยนใจเอามีดขึ้นมาจี้เอาเงินบนตัวนางไปจนหมดนางไม่เป็นวรยุทธ์ได้แต่หยิบเอากำไลส่งมอบให้เขาอย่างเชื่อง สุดท้ายนางก็ไม่เหลือเงินติดตัวสักบาทเดินทางคนเดียวจนถึงตัวเมืองเยี่ยนเหมินไปพบเจอโม่ฉีหานที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งหน้าด้านหน้าทนให้เขาเลี้ยงข้าวไปหนึ่งมื้อแล้วก็ปริปากบอกว่านางเป็นใครเลยให้เขาพากลับเมืองหลวงด้วย ขณะที่นั่งอยู่บนรถม้าเย่เซียวโหลค่อยๆถอนหายใจออกมา พระชายาเย่เห็นเย่เซียวโหลเดินออกจากวังกับตาจึงขอลาออกจากพระตำหนักเฉินหุยกลับไปที่ตำนักของตัวเองหยิบพัดขึ้นมาพัดเบาๆไปมาแต่กลับไม่เย็นอย่างที่คิดสิ่งที่นางพัดคือใจที่ร้อนรุ่มของนาง “อวี้จืออวี้จือ..........”นางเอ่ยเรียกขึ้น อวี้จือที่อยาด้านนอกเสียงเรียกชื่อตัวเองก็รีบเข้ามาทำความเคารพถามเสียงต่ำ“เหนียงๆมีอะไรให้หม่องฉันรักษาหรือ?” “เมื่อครู่ข้างในพระตำหนักเฉินหุยคุยกันเจ้าได้ยินหมดแล้วใช่ไหมเจ้าคิดดูสิว้าเวินอ๋องไปช่วยเย่เซียวโหลมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”พระชายาเย่รู้สึกยิ่งพัดใจยิ่งรุ่มร้อนแต่ก็ไม่คิดเองถามอย่างไม่ใส่ใจนัก อวี้จือตอนนั้นกผ้อยาข้างกายพระชายาเย่ตลอดได้ยินเต็มสองรูหูชัดเจนนางยื่นมือไปจับพัดในมือของพระชายาเย่พูดปลอบ“เหนียงๆอากาศเย็นไม่ต้องพัดแล้วนะเพคะหม่อมฉันโง่เขลาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” นี่เป็นครั้งแรกที่พระชายาได้ยินอวี้จือว่าตัวเองโง่เขลาหากนางยังโง่เขลายังจะใครช่วยนางแก้ปัญหาต่างๆได้อีกล่ะ? นางกวาดตามองอวี้จือหนึ่งครั้งแล้วจึงยกถ้วยชาขึ้นจิบหายใจเข้าลึกๆตัวเองก็คิดอย่างละเอียดพลางไปถามทุกคน“งั้นเจ้าลองว่ามาข้าจะจัดการต้วนกุ้ยเฟย?” อวี้จือรีบประมวลผลในสมองนางอยู่รับใช้พระชายามานานหลายปีและพอมีเส้นสายอยู่บ้างคิดแล้วคิดอีก“เหนียงๆหม่อมฉันคิดว่าที่เวินอ๋องช่วยคุณหนูสามตระกูลเย่เพราะเรามีความสัมพันธ์อันดีกับตะกูลเย่ท่านต้องไปขอบคุฯน้วนกุ้ยเฟยกระชับความสัมพันธ์กัน!” ได้ยินที่อวี้จือพูดจบก็มีความเป็นไปได้อยู่บ้างโม่ฉีหานถึงกับช่วยคนตระกูลเย่นางควรจะไปขอบคุณด้วยตัวเองถึงจะถูกการทำการการบ้านก่อนเจอหน้ากันย่อมดีกว่าเสมอ นางมองอวี้จือด้วยสายตาชื่นชมพูดเสียงเอื่อยๆ“เจ้าไปเลือกของที่เจ้าอยากได้ในคลังสมบัติของข้าสิเดี๋ยวพวกเราจะได้ยกไปขอบคุณต้วนกุ้ยเฟย “เพคะเหนียงๆ”อวี้จือนับคำอย่างรวดเร็วโค้งคำนับแล้วถอยออกไป ภายในจวนหมิงอ๋องโล่หวินหลานเดินออกมาจากห้องของตัวเองอยู่ในทั้งวันออกมายืดเส้นยืดสายไม่รู้ว่าโม่ฉีหมิงหายไปไหนของเขาตั้งแต่เล้ายังไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา ตอนพึ่งออกจากห้องโถงก็เหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้รีบสั่งการเย่หวินมี่อยู่ข้างกาย“เย่หวินเจ้าไปเอากาน้ำพลาสติกมาจำไว้ว่าต้องมีปากกระติกใหญ่ๆหน่อยนะ” พอพูดจบก็ไม่ทันเห็นเย่หวินตอบนางงงงวยจับไม่โดนหัวเห็นโล่หวินหลานสังเกตตัวเองจึงถาม“หวังเฟยอะไรคือคือพลาสติก” นี่.......โล่หวินหลานคิดอยู่เพียงครู่ไม่รู้ว่าพูดยังไงคนในอดีตช่างดีเหลือเกินไม่รู้จักพลาสติกคืออะไร นางคิดๆแล้วพูด“บั้นเจ้าก็ไปหาเหล็กมาไปหาตามที่ข้าพูดไว้นะ” เย่หวินเจ้าใจแล้วไม่ใช่เหล็กที่มีลักษามีหัวกระติกน้ำหรอในจวนมีเยอะแยะมากมายแต่ของที่หวังเฟยพูดเมื่อกี้ยิ่งจะกลัวได้รู้จักพลาสติกคืออะไร?เพราะอะไรนางถึงรู้ในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมากมายเคยเห็นของ? หลังจากที่เย่หวินเดินจากไปโล่หวินหลานก็รีบหมุนตัวดูโม่ฉีกมิงที่เข็นรถเข็นออกมา สีหน้าเขาไร้อารมณ์ใดๆนัยน์ตายังคงเก็บซ่อนความอันตรายไว้โล่หวินกลานกระพริบตาปริบๆแล้วมองเขาอีกครั้งความอันตรายในตอนนั้นยังไม่หาย “ทำไมถึงใส่น้อยอย่างนี้?”เสียงทุ้มนุ่มดังลอดเข้ามาในหูนาง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่64กลับเมืองหลวง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A