ตอนที่71ช่วยชีวิตคน
1/
ตอนที่71ช่วยชีวิตคน
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่71ช่วยชีวิตคน
ตนที่71ช่วยชีวิตคน ในค่ำคืนที่เงียบเหงากลับมีแต่เสียงกรีดร้องแทรกเข้ามาเสียงดังตอนที่ทั้งสองหันหน้าเข้าหาสบตากันจู่ๆม่านของรถม้าก็ถูกเปิดขึ้นเหมือนพวกเขากำลังมองหน้าบางอย่างอย่างตื่นเต้นพอเจอโล่หวินหลานแล้วรู้สึกหายขวัญ“พระชายา......” เสียงที่ดังขึ้นคล้ายคลึงกับเสียงของโล่หวินหลานมากจนทำให้คนได้ยินเข้าไปผิดนางก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าบนโลกนี้มีเสียงที่คล้ายกันได้ขนาดนี้ถ้าคนอื่นได้ยินเสียงตะโกนนี้คงรู้สึกเสียงคล้ายกับเสียงของนางมากกว่าที่ตัวเองรู้สึก “ข้าไม่เป็นอะไรทำยังไงดี?”โล่หวินหลานส่ายหัวให้เย่หวินคำหลังคือพูดกับโมฉีหมิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เรื่องนี้ต้องสืบให้ได้เรื่องที่สุดไม่งั้นพวกเขาอยู่อย่างไม่เป็นสุขแน่ๆ โมฉีหมิงทำแววตานิ่งเฉยและมองไปนอกหน้าต่างอย่างหน้านิ่งแววตานิ่งเฉยคู่นั้นเหมือนกำลังยิ้มเสียงที่คล้ายคลึงขนาดนี้แล้วยังได้ยินตรงที่เป็นทางผ่านของพวกเขาอีกคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ “ข้าจะลงไปดูก่อนหวินหลานเจ้ารอที่นี่นะ”โม่ฉีหมิงพูดถึงและเข็นรถม้าลงไปโล่หวินหลานที่อยู่ข้างหลังเขารีบวิ่งออกมาจับมือของเขาไว้“ข้าก็จะไป” โม่ฉีหมิงตบมือของนางเบาๆพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“เป็นเด็กดี” ณตอนนี้เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือได้ดังจากฝั่งโน่นอีกรอบถึงแม้โล่หวินหลานปรากฎอยู่ตรงหน้าเขาแต่เสียงที่กำลังขอความช่วยเหลือคล้ายกับเสียงของนางมากทำให้โม่ฉีหมิงขนลุก พอพูดจบยังไม่ทันได้พูดเยอะกว่านี้ตัวเขาเองก็ลองมาจากรถม้าฉินหยิ่นเข็นรถม้าตามเสียงที่ดังขึ้นเขาพุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกของซอกซอยนั้น นอกเมืองนี้เงียบสงบมากแสงจันทร์ส่องลงมาบนพื้นฉินหยิ่นยังไม่ทันเข็นโม่ฉี่หมิงถึงตรงปากซอยเลยก็ได้ยินเสียงดังที่ร้องขึ้นอย่างทุกข์ทรมานและยังมีเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นและสนุกของผู้ชายหลายคนแทรกเข้ามาไม่บอกก็รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอเข้าไปในซอยข้างในซอยนั้นมืดมัวและดูน่ากลัวมีแค่แสงจันทร์บนฟ้าที่สอดส่องเข้าไปในซอยเล็กน้อยทำให้เห็นถึงภาพเหตุการณ์ที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังถูกชายหลายๆคนกดตัวไว้กับพื้นเสียงที่สื่อถึงความสะใจของชายพวกนั้นส่งเข้าไปในหูของทั้งสองเสื้อของหญิงสาวผู้นั้นหลุดไปถึงไหล่บริเวณไหล่ที่ขาวเนียนกำลังถูกมือที่หยาบกร้านจับไว้ “ช่วยด้วยข้าขอเถอะปล่อยข้าไปเถอะ!”เสียงของหญิงผู้นั้นแหบจนไม่รู้จะแหบยังไงแล้วนางหันหน้าไปที่ปากซอยก็เห็นฉินหยิ่นกับโม่ฉีหมิงน้ำตาของนางก็หยดลงมาจากหางตา โม่ฉีหมิงนึกถึงเรื่องเมื่อคืนวันก่อนเกิดขึ้นในซอยเหมือนวันนี้เหตุการณ์เหมือนกันขนาดเสียงที่ร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมานก็เหมือนกันเขารู้สึกโดนใจเขาจนต้องทำอะไรบางอย่างก้มหน้าแล้วตะโกนเรียก“ฉินหยิ่น” ฉินหยิ่นไม่พูดไม่จาชักดาบออกมาพุ่งเข้าไปในซอย เดี๋ยวชายพวกนั้นเจอทักษะการต่อสู้ของเขาคนร้ายพวกนั้นก็ตายคามือฉินหยิ่นเก็บดาบเข้าไปตรงหลังของเขาและก้มหน้าดูหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นผมยาวๆของนางบดบังใบหน้าอยู่มือที่สั่นกลัวของนางกำลังค่อยๆดึงเสื้อตัวเองขึ้นมามองจากข้างๆก็สามารถดูออกว่าใบหน้าของนางแตกต่างกับโล่หวินหลานอย่างสิ้นเชิง ฉินหยิ่นยื่นมือไปดึงนางขึ้นมาจากพื้นและหันหลังเดินไปยืนอยู่ข้างๆโม่ฉีหมิง โม่ฉีหมิงมองไปที่หญิงสาวคู่สักแปบนึงเขาถอยรถม้ากลับเมื่อหญิงสาวผู้นั้นเลื่อนสายตาไปตามรถม้าและเดินตามรถม้าไปอย่างไม่รู้ตัว ในค่ำคืนที่หนาวเย็นในเมืองมีแต่เสียงล้อรถม้ากำลังขับเคลื่อนทันใดนั้นเสียงล้อรถได้เงียบลงเสียงแห่งความเย็นชาดังขึ้นมันยิ่งทำให้ค่ำคืนนี้หนาวเย็นขึ้น“ยังไงข้าก็ช่วยเจ้าแล้วรีบกลับบ้านเถอะ” หญิงสาวผู้นั้นหยุดฝีเท้าลงหน้าของนางเริ่มซี้ดนางก้มหน้าลง“ข้าไม่มีบ้านข้าจากฉางเกิงมาที่นี่เมื่อมาหาญาติพี่น้องแต่พวกเขากลับย้ายไปที่อื่นข้าอยู่คนเดียวไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับใครไม่มีเงินพกติดตัวเลยนอนตามซอกตามซอยนึกไม่ถึงว่าจะเจอคนพวกนั้น......” “ให้เงินนางไปให้นางหาไปหาพัก”โม่ฉีหมิงพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาสายตามองไปข้างหน้าและกำลังลากรถม้าจากไป ฉินหยิ่นรู้ว่านี่เป็นการกระทำที่เมตตาที่สุดของโม่ฉีหมิงแล้วเขาควักถุงเงินในกระเป๋าออกมาเอาไปให้หญิงสาวผู้นั้นและพูดด้วยเสียงต่ำ“ใช้เงินพวกนี้ไปหาที่พักแล้วพักซะแล้วค่อยคิดหาวิธีกลับบ้าน” หญิงสาวผู้นั้นมองถุงเงินที่อยู่บนมือของฉินหยิ่นและทำตาเหมือนกำลังร้องไห้นางไม่ได้ยื่นมือไปรับไว้แต่กลับมาเสียงสะอื้นดังขึ้นเล็กน้อยและนางก้มหน้ามองบนพื้นแบบไม่พูดไม่จาฉินหยิ่นเห็นนางเป็นอย่างนี้เขาจับมือนางและยัดถุงเงินไว้ในมือของนางแล้วเดินจากไป เขาขึ้นรถม้าโล่หวินหลานเห็นเขากลับขึ้นมาแบบปกติไม่บาดเจ็บอะไรนางรู้สึกโล่งอกเบาๆ “ที่โน่นมีเรื่องอะไรไหม?”โล่หวินหลานเปิดม่านหน้าต่างและมองไปยังข้างหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อผ้าขาดๆกำลังค่อยๆเดินทางมานางกำลังแปลกใจและถามถึง“ผู้หญิงคนนั้นทำไมตามแต่พวกเรามา” โม่ฉีหมิงพูดอย่างเหน็บแนม“ครู่นี้นางเกือบจะโดนข่มขืนฉินหยิ่นช่วยนางไว้นางทำไมนางยังตามมาอีกเล่า?”พูดจบเขาก็ถามฉินหยิ่นคนที่นั่งอยู่ข้างหน้า“เจ้าไม่ได้ให้เงินนางแล้วให้นางจากไปแล้วไม่ใช่หรือ?” คนที่อยู่นอกรถม้าฉินหยิ่นฟังไปแล้วรู้สึกทนไม่ไหวและพูดด้วยเสียงต่ำ“ท่านอ๋องข้าเอาเงินให้นางไปแล้วข้าชักไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมนางยังตามมาอีก” เย่หวินฟังคำสนทนาของทั้งสองนางก็หันหลังมาจ้องมองหญิงสาวผู้นั้นเดินและวิ่งตามความเร็วของรถม้ากำลังวิ่งอยู่ถนนที่ลำบากน้ำตาไหลริมจากตาตลอดทางและร้องไห้แบบไม่มีเสียง โล่หวินหลานหน้านิ่วคิ้วขมวดและกระตุกม่านขึ้นมองอีกรอบหญิงสาวผู้นั้นไม่ระตำหนักตัวจนล้มลงกับพื้นและรีบลุกขึ้นรีบวิ่งตามต่อไป “ฉีหมิงไม่งั้นเจ้าให้นางขึ้นรถดีกว่าไหม?”โล่หวินหลานฟังความเห็นของโม่ฉีหมิงเขาไม่ได้กระตุกหน้าผากขึ้นแต่แค่ส่ายหัวไปมา ไม่รู้ว่านี่มันสถานการณ์แบบไหนไม่รู้ที่มาของหญิงสาวผู้นี้โม่ฉีหมิงไม่ยอมให้นางขึ้นรถแน่นอนยิ่งนางเป็นคนมีเสียงเหมือนโล่หวินหลานก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ แต่โล่หวินหลานกลับบอกให้ฉินหยิ่นหยุดรถม้าหญิงสาวที่ตามติดอยู่ข้างหลังก็ตามมาด้วยยืนอยู่ข้างรถม้าไม่ยอมไปไหนและก้มหัวลงผมดำยาวของนางติดไปด้วยเศษหญ้าบนหัวจะมีปิ่นถูกๆเสียบอยู่ผมยาวๆของนางคุมหน้านางอยู่ซึ่งทำให้เห็นแค่หยดน้ำตรงปลายจมูกและริมฝีปากที่ขาวซี้ด “ฉินหยิ่นให้นางขึ้นรถ”โล่หวินหลานกระตุกม่านขึ้นอีกรอบ ฉินหยิ่นทำหน้านิ่วและมองหญิงสาวที่นี่งอยู่กับพื้นและกวาดสายตามองไปยังโล่ฉีหมิงที่นั่งอยู่ในรถม้าเขากวาดสายตาอันเฉยชามองไปยังข้างหน้าผ่านหญิงสาวผู้นั้นสุดท้ายก็ต้องพยักหน้า ฉินหยิ่นถึงจะกล้าในหญิงผู้นี้ขึ้นรถม้านางนั่งอยู่ข้างนอกรถม้ากับฉินหยิ่นนางกล่าวขอบคุณโล่หวินหลานที่นั่งอยู่ข้างใน “เจ้าชื่ออะไร?”เสียงของโล่หวินหลานส่งผ่านม่านมายังข้างหูของหญิงผู้นั้น หญิงคนนั้นรู้สึกสะดุ้งเมื่อนางสังเกตเสียงที่ได้ยินดวงตารุกวาวด้วยตกใจเสียงของพระชายากลับเหมือนเสียงของนางมากๆเลยหรือ?หรือนี่อาจเป็นเป้าหมายหลักของนาง? “ข้าน้อยชื่อหรูซูจากนี้ไปข้าน้อยยอมเป็นวัวเป็นควายเป็นทาสรับใช้ของพระชายาเจ้าคะ”หรูซูพูดด้วยเสียงใส เสียงนี้มันเหมือนกันเสียงของนางจริงๆโล่หวินหลานสะดุ้งด้วยเช่นกันบนโลกใบนี้มันมีเสียงที่คล้ายคลึงกันมากขนาดนี้ก็นับว่าเป็นโชคชะตา “ไม่จำเป็นต้องเป็นวัวเป็นควายพรุ่งนี้รุ่งเช้าให้เจ้าไปจากเรา”โล่หวินหลานพูดด้วยน้ำเสียงดีนี่ถือว่าเมตตานางที่สุดแล้ว โม่ฉีหมิงไม่อยากช่วยนางก็มีเหตุผลส่วนตัวของนางคืนนี้ให้นางขึ้นรถถือว่าแหกกฎของนางแล้วเรื่องที่พานางเข้าตำหนักยิ่งไม่ต้องพูดถึงผ่านคืนนี้ไปพรุ่งนี้นางก็จากไป เย่หวินรู้สึกอึดอัดที่นั่งอยู่กับหญิงสาวผู้นี้เพราะรู้สึกว่าหญิงที่ชื่อหรูซูเหมือนนางมีแผนอะไรบางอย่างภายนอกอาจดูน่าสงสารแต่นางสามารถนอนอยู่ในซอกในซอยข้างถนนถือว่านางต้องกล้ามาก รถม้ากำลังเข้าตำหนักพวกเขาลงจากรถม้าโล่หวินหลานสั่งให้เย่หวินให้ที่พักกับหรูซูพักอยู่ในตำหนัก1คืนตัวเองก็กลับที่พักไปพักผ่อน ทีแรกกะจะให้นางจากไปตอนเช้าวันรุ่งขึ้นโล่หวินหลานกำลังคิดจะเอายังไงดีจู่ๆก็มีคนส่งข่าวมาจากทิศเหนือของตำหนักบ่าวผู้หนึ่งวิ่งพุ่งเข้ามาในห้องของนาง “พระชายาเจ้าคะเชิญพระชายาดูนี่เจ้าคะจู่ๆก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งทำความสะอาดตำหนักจนสะอาดสะอ้าน......”บ่าวผู้นี้วิ่งมาจนหอบ คนๆหนึ่งเก็บกวาดของทั้งหมดอย่างน่าแปลกนางต้องมีพละพลังที่ใหญ่และความอดทนอย่างมากถ้าบนโลกนี้มีคนที่เก่งขนาดนี้จะเอาบ่าวคนอื่นไว้ทำไม?พวกหล่อนกลัวว่าหญิงสาวผู้นี้จะมาแย่งงาน เย่หวินปิ่นหยกเสียบบนผมของนางตกแต่งทรงผมให้นางจนเสร็จโล่หวินหลานไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นใครนางมองตัวเองในกระจกแล้วลุกขึ้น “ข้ารู้แล้วเย่หวินเราตามไปดูกัน”โล่หวินหลานพูดจบตัวเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว ไม่รู้ว่าพระอาทิตย์กำลังเล่นอะไรกันอยู่โล่หวินหลานเขม่นตาแสงอาทิตย์ตอนเช้านี่มันช่างแยงตาพระอาทิตย์ที่ส่องดูแจ่มใส พวกเขาเดินผ่านระเบียงไปยังตรงกลางของตำหนักทางเดินทั้งสองข้างปลูกด้วยต้นไม้เขียวชะอมพวกเขาเดินผ่านสะพานเล็กๆไปไม่นานก็ถึงทิศเหนือของตำหนัก “พระชายาที่นี่แหละเจ้าคะ”บ่าวคนหนึ่งเดินนำโล่หวินหลานไปยังห้องแห่งหนึ่งของทิศเหนือของตำหนักนางเปิดประตูขึ้นและเห็นด้านหลังของร่างหญิงสาวที่กำลังขยันขันแข็งทำความสะอาดห้อง พอนางได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหวนางก็รีบหันหลังกลับมามองหัวและหน้าของนางคุมผ้าและปิดปากของนางไว้เห็นว่าเสียงนั่นมาจากโล่หวินหลานนางเลยรีบดึงผ้าออกและน้อมคำนับ“คารวะพระชายาข้าน้อยทำความสะอาดห้องในเขตทิศเหนือเสร็จแล้วเจ้าคะจะให้ข้าน้อยทำที่ไปนอีกไหมเจ้าคะ?” มองของนางดูหวานมากๆและมองโล่หวินหลานอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนสายตาของนางเปล่งประกาย “ไม่ต้องหรอกพวกบ่าวคนอื่นก็ทำได้ค่าแรงของเช้าวันนี้ข้าจะตอบแทนเจ้าเองรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปเถอะ”โล่หวินหลานไม่เหลือเยื่อใยให้กับหรูซเลย หรูซูดูสีหน้าเหมือนตื่นเต้นนางไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังร้องไห้และคุกเข่าต่อหน้าอย่างจริงใจ“พระชายาเจ้าคะอย่าไล่ข้าน้อยไปไหนเลยเจ้าคะข้าน้อยไม่มีบ้านจะกลับถึงแม้ท่านจะไม่อยากค่าแรงแกข้าแค่ให้ข้าน้อยก็มีข้าวกินหรูซูจะตั้งใจขยันทำงานในตำหนักแห่งนี้เจ้าคะ” เสียงร้องไห้ของนางดังไปทั่วห้องร่างเล็กที่ดูอ่อนแรงกองอยู่กับพื้นนางดูสั่นไปทั้งตัวดูๆว่าก็เหมือนคนที่กำลังถูกรังแกและโล่หวินหลานก็เสมือนแม่เลี้ยงแสนโหดที่กำลังใช้อำนาจข่มเหงทำร้ายนางอยู่ เย่หวินใช้สายตานิ่งเฉยมองหรูซูในใจกำลังเหยียบหยามท่าทีที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือของนางถ้าเป็นคนสนิทนางต้องเห็นใจอย่างแน่นอนแต่นางเคยเจอเรื่องแบบนี้มาเยอะตอนนี้เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ โล่หวินหลานเป็นคนที่เห็นคนอื่นร้องไห้ต่อหน้าไม่ได้คุกเข่าลงทำไมนางขมวดคิ้วและยื่นมือประคองนางขึ้นมา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่71ช่วยชีวิตคน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A