ตอนที่ 82 ตกหลุมพราง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 82 ตกหลุมพราง
ต๭นที่ 82 ตกหลุมพราง ขนตาของโล่หวินหลานยาวสวย ในห้องที่เงียบสงบแบบนี้นางเหมือนภูติตัวน้อยๆ เขามองไปที่นางอย่างเอ็นดู เขาไม่มีทางให้นางไปจากเขาแน่นอน เขาใช้มือค่อยๆเปิดผมอออก แล้วค่อยๆจูบลงที่หน้าผากของนาง ท่าทางการนอนของนางสวยมาก โม่ฉีหมิงถอดเสื้อคลุมของตัวเอง แล้วค่อยๆคลุมให้นาง เห็นนางหลับแบบนี้ สีหน้าของโม่ฉีหมิงเต็มไปด้วยหลากหลายอารณ์ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ภายในประตูเมืองหลวง ถนนเส้นหนึ่งทอดยาวเข้าสู่ตัวเมือง ตลอดเส้นทางมีแต่แผงขายของ แล้วก็ผู้คนมากมายเดินไปเดินมา คนในตอนเช้ามีไม่มาก แต่ว่าก็ยังแออัดอยู่ดี บนถนนทอดยาว คนๆหนึ่งสวมชุดสีเหลืองเด่นชัด ไม่ได้เป็นเพราะตัวนาง แต่เป็นเพราะนางกระโดดโลดเต้นอยู่หน้าแผงขายของ นางหยิบจับทั้งขนมและของไปเรื่อย ทำเอาผู้ชายที่อยู่ด้านหลังนางควักเงินจ่ายแทบไม่ทันเลย มีคนซื้อของแบบนี้ เจ้าของร้านมากมายแทบอยากจะเอาของมาเสนอให้กับผู้หญิงคนนี้ นางหยิบของไม่เลือกเลย “เย่เซียวหลัว เจ้าไม่ได้ออกมาเที่ยวนานแค่ไหนแล้วเนี้ย?” เวินอ๋องจ่ายเงินจนทนไม่ไหว เย่เซียวหลัวเหมือนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด นางตอบแค่อืมคำเดียว แล้วเดินของนางต่อไป “หอมจังเลย กลิ่นอะไรหอมจัง? เวินอ๋อง เราไปตรงนั้นกัน” เย่เซียวหลัวสูดหายใจเข้าลึกมาก เดินไปได้สองก้าว ก็ถูกกลิ่นหอมกลิ่นหนึ่งดึงดูดไป แผงขายของสีเขียวร้านหนึ่งมีขวดกระเบื้องสีเขียววางอยู่ เขาก้มตัวลงไปดู “เดินผ่านไปผ่านมาพลาดไม่ได้เลยนะ น้ำหอมจากตะวันตกชั้นดีมีที่นี่ที่เดียว มาดูกันได้เลย” เจ้าของร้านตะโกนเรียกลูกค้า แต่กลิ่นของมันก็โชยไปไกลกว่านั้นมากแล้ว เวินอ๋องจับไปที่หัว มองดูเงาน้อยๆที่กำลังวิ่งไปตรงนั้น ก็รู้สึกปวดหัว หลังจากกลับมาจากเมืองอู เย่เซียวหลัวว่างเมื่อไหร่ ก็จะไปหาเวินอ๋องที่จวนตลอด นางไม่ได้มีความกลัวใดๆ เหมือนกับว่าตั้งใจให้คนรู้เห็น แต่ว่าเขากลับกลัวท่าทีแบบนี้ของเย่เซียวหลัวมาก นางไม่กังวลเลย แต่ว่าเพราะนางคือว่าที่พระชายารัชทายาท เขาเป็นน้องชายของรัชทายาท อยู่กับนางแบบนี้คนอื่นจะพูดลับหลังได้ ดังนั้นเขาอยากจะออกห่างจากเย่เซียวหลัวมากกว่า แต่ว่านางกลับตัวติดกับเขามาก เหมือนกับว่านางลืมเรื่องรัชทายาทไปแล้ว “เซียวหลัว เจ้าช้าๆหน่อยได้ไหม” เวินอ๋องตามจนเหนื่อย เจ้าของร้านให้พวกเขาสองคนเดินมา ก็มองไปที่พวกเขา เห็นว่าพวกเขาน่าจะไม่ใช่คนธรรมดา บนตัวมีป้ายหยก หน้าตาก็ดูดีทั้งคู่ ในใจก็แอบคิดว่าจะทำยังไงถึงจะได้เงินจากพวกเขาดี “แม่นาง แม่นาง มาดูน้ำหอมตะวันตกนี่สิ มันหอมมากเลยนะ” เจ้าของร้านเห็นสีหน้าของเย่เซียวหลัวดูตะลึงอยู่ เขาเลยพยายามขายของ เย่เซียวหลัวยื่นมือไปรับขวดมาก แล้วเปิดฝาออก กลิ่นหอมภายในโชยออกมา นางดมกลิ่น มันมีกลิ่นของดอกไม้อ่อนๆ ไม่ได้ฉุนมาก แต่ว่ามันดมแล้วทำให้รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก “เจ้าลองดมดูสิ หอมมากเลยใช่ไหม” เย่เซียวหลัวเปิดขวดให้เวินอ๋องดม นางรู้สึกชอบมาก กลิ่นของมันลอยเข้าจมูกของเวินอ๋อง เขาคือเวินอ๋อง กลิ่นอะไรไม่เคยดมมาบ้าง เครื่องหอมในโลกนี้เขาดมมาแทบหมดแล้ว แต่ว่าน้ำหอมตะวันตกนี่ เขาก็รู้สึกว่าธรรมดา แต่ว่าเห็นเย่เซียวหลัวชอบมันมาก ก็ไม่อยากจะขัดใจนาง เขายิ้มแล้วพูดว่า “หอมมาก” พูดจบ เขาก็ควักเงินออกมาจากถุงเงิน แล้วยื่นให้เจ้าของร้านไป แล้วพูดว่า “ไม่ต้องถอน” เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ เจ้าของร้านเอาชายเสื้อมาเช็ด แล้วกัด กลัวว่าเวินอ๋องจะเล่นแง่ จากนั้นเขาก็เก็บเงินไป เขาแอบยิ้มร้ายๆออกมา “น้ำหอมนี่เป็นของแม่นางแล้ว คุณชายท่านนี้หน้าใหญ่มาก ข้าน้อยมีเครื่องหอมจากภูเขาดอกบัวหิมะ แถมให้แม่นางด้วยล่ะกัน” เจ้าของร้านหยิบขวดเล็กๆออกมา แล้วก็เอาใส่กล่องให้กับเย่เซียวหลัว เดินกับเวินอ๋องมาตั้งนาน เครื่องหอมนี่ถือว่าเป็นของที่นางรู้สึกว่าดีที่สุด นางถือเอาไว้อย่างดีใจ “ดีใจล่ะสิ? เราไปนั่งที่ร้านน้ำชาดีกว่า” เวินอ๋องมองไปที่เย่เซียวหลัวอย่างเอ็นดู สายตาของนางเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ตาของนางเป็นประกายมาก สมองของเขาเหมือนเบลอ เขานึกถึงสายตาคู่นั้นขึ้นมา สายตานั่นดูใสและเป็นประกายมาก เพียงแค่นางยิ้ม ก็สามารถทำให้เขายอมแพ้ได้เลย แต่ว่านิสัยของนางไม่เหมือนกับดวงตาคู่นั้น แค่นางพูดก็เหมือนปลาที่ถูกเบ็ดเกี่ยวขึ้นมา คนแบบนี้ เขาก็ไม่รู้ทำไมถึงได้เอาแค่คิดถึงแบบนี้ ทันใดนั้นเองก็มีมือๆหนึ่งจับมาที่แขนของเขา เย่เซียวหลัวจ้องเขาด้วยความโกรธนิดๆ แล้วพูดว่า “เจ้าคิดอะไรอยู่? ข้าเรียกเจ้าตั้งหลายครั้งแล้วนะ” เวินอ๋องกำหมัดแน่นอยู่ในชายเสื้อ จากนั้นเขาก็ผ่อนลง สีหน้าของเขามีรอยยิ้ม ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร เราไปกันเถอะ” ส่วยซินเก๋อเป็นร้านชาที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ชาชั้นดีจากทั่วทุกที่มีขายที่นี่ทั้งหมด เถ้าแก่ร้านนี้เปิดร้านมาได้ยี่สิบกว่าปีแล้ว คนในเมืองหลวงที่มาดื่มน้ำชาที่ร้านเขา ไม่มีคนไหนที่เขาจำไม่ได้ ทั้งคู่เดินเข้าไปในร้านส่วยซินเก๋อ เถ้าแก่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ก็รีบเดินมาต้อนรับ จากนั้นก็เลือกห้องส่วนตัวที่ชั้นสองให้ ห้องชั้นสองข้างๆส่วยซินเก๋อเป็นโรงเตี๊ยม เมื่อเปิดผ้าม่านออก ก็จะมีลมพัดเข้ามา บรรยากาศภายในยากจะบรรยายได้ ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดสีขาวยืนมองพวกเขาสองคนเดินเข้าห้องมาด้วยหน้าตาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ผู้ชายหน้าตาดีนั่งอยู่บนรถเข็นที่อยู่ข้างๆนาง กำลังดื่มเหล้าอยู่ กลิ่นเหล้าฟุ้งไปทั่วห้อง “เข้าห้องไปแล้ว ทุกอย่างราบรื่น” โล่หวินหลานพยักหน้าอย่างพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามที่พวกเขาคาดไว้ ขอแค่ไม่เกิดอะไรผิดพลาด พวกเขาสองคนจะต้องมีอะไรกันแน่นอน โม่ฉีหมิงมองไปที่นาง สายตาของเขาเหมือนมีอารมณ์ความรู้สึกมากมาย เขายิ้มแล้วพูดว่า “หวินหลาน นั่งลงสิ ลองชิมเหล้าดอกเหมยนี่ดู” เหตุการณ์กำลังคับขัน เขากลับยังมีอารมณ์มากินเหล้าดอกเหมย? โล่หวินหลานไม่รู้ว่าหลังจากนี้เขากำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่เขาสั่งการไปแล้ว แค่รอดูผลเท่านั้น นางยกแก้วเหล้าขึ้นมา ภายในเต็มไปด้วยเหล้าดอกเหมย แก้วเหล้าสีเขียวที่สวยงาม ด้านบนมีใบดอกเหมยลอยอยู่ ไม่แค่สวย กลิ่นมันยังหอมอีกด้วย โล่หวินหลานดมไปดมมา แล้วจิบ มันฝาดคอมาก ทำให้ทั้งตัวของนางร้อนไปหมด “เหล้านี้แรงจังเลย” โล่หวินหลานวางแก้วเหล้าลง แล้วใช้มือพัดที่ปาก ระดับแอลกอฮอล์น่าจะสูงมาก คิดไม่ถึงว่าคนโบราณหมักเหล้าแรงขนาดนี้ หน้าของนางแดง ริมฝีปากแดงๆของนางตอนนี้มันทำให้คนรู้สึกอยากจะพุ่งเข้าหา โม่ฉีหมิงจ้องไปที่นาง แล้วรีบเก็บสายตากลับมา เขากลัวว่าตัวเขาจะทนไม่ไหว มีคนมาเคาะประตู เริ่มจากเบาๆก่อน จากนั้นก็แรงขึ้น จากนั้นประตูก็เปิดออก สวินโม่เดินเข้ามาในห้อง “ท่านอ๋อง พระชายาพวกท่านอารมณ์ดีจังเลยนะ” สวินโม่ยังไม่ทันเข้ามาใกล้ ก็นั่งลง แล้วมองสีหน้าของทั้งคู่ เขายิ้มแล้วหยิบกระดาษออกมาใบหนึ่ง โม่ฉีหมิงรับกระดาษมา ด้านบนมีตัวอักษรเล็กๆ ดูก็รู้ว่าเป็นตัวอักษรของผู้หญิง สายตาของเขาไม่ได้มีท่าทีอะไรกับทางกระดาษ แค่พยักหน้า แล้วยื่นให้กับโล่หวินหลาน “ท่านอ๋อง ตัวอักษรนี่เป็นของชาวยุทธคนหนึ่ง มันเหมือนกับที่ท่านเอาให้ข้าเลย” สวินโม่ยิ้มแล้วพูด สีหน้าท่าทางมั่นใจมาก โล่หวินหลานมองแล้วก็ตกใจ ตัวอักษรเหมือนกันมาก แม้แต่ความอ่อนโยนของผู้หญิงก็ทำออกมาได้ “ดี ส่งไปได้เลย” โม่ฉีหมิงพูด “แต่ว่า รัชทายาทเหมือนจะไม่ได้อยู่ที่จวน เหมือนจะอยู่ในวังหลวง” สวินโม่ขมวดคิ้ว เขาส่งคนตามรัชทายาทวันนี้ตอนเช้ามีคนมารายงานเขา วันนี้ฮ่องเฮาเรียกรัชทายาทเข้าวังไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา ในวัง โม่ฉีหมิงคิด เรียกรัชทายาทเข้าวังไปตอนนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องของเย่เซียวหลัว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เห็นๆกันอยู่ แต่ว่ารัชทายาทไม่ไปพบเย่เซียวหลัวเลย มันน่าแปลกมาก ต่อให้ตอนนี้เขาจะอยู่ในวัง เรื่องที่ทำวันนี้ก็ต้องจบให้ได้ โม่ฉีหมิงเคาะโต๊ะสองที นิ้วของเขาเรียวยาว โล่หวินหลานมอง เหมือนจะอึ้งไป คิดไม่ถึงว่าตัวเขาจะมีจุดเด่นมากมายขนาดนี้ “สวินโม่ ในวังหลวงมีขันทีคนหนึ่งชื่อว่าหลี่ซุ่น เจ้าเอาของให้เขา เขารู้ว่าต้องทำยังไง” โม่ฉีหมิงพูด เขาทำเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด มีคนของเขาเต็มเมืองหลวงไปหมด เพียงแค่บอกมาว่าที่ไหน คิดว่าเขาคงมีคนทุกที่ โล่หวินหลานเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้ทำเหมือนง่ายไปทุกอย่าง สวินโม่ไม่แปลกใจ เขารับคำ แล้วเอาของออกไป เมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเขาก็แค่รอ 
已经是最新一章了
加载中