ตอนที่ 88 ไม่สนใจ
1/
ตอนที่ 88 ไม่สนใจ
ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 88 ไม่สนใจ
ตนที่ 88 ไม่สนใจ ฉินหยิ่นตัวสั่น เขายื่นมือไปดึงเย่หวิน เพื่อบอกให้นางหยุดพูด คำพูดแบบนี้แม้แต่เขาก็ไม่กล้าพูด เพราะมันเกี่ยวข้องกับโล่หวินหลาน เขาถึงเลือกที่จะไม่พูด แต่ว่าเย่หวินทนไม่ได้ นางไม่อยากให้ฉินหยิ่นปกป้องโล่หวินหลาน จนตัวเองกลายเป็นคนผิด “ฉินหยิ่น ที่เย่หวินพูดมันจริงหรือเปล่า?” โม่ฉีหมิงย้อนถามฉินหยิ่นอีกครั้ง ฉินหยิ่นสืบได้เรื่องมาแล้ว เพราะรัชทายาทเข้าห้องของโล่หวินหลาน เขาเลยไม่พูด ตอนนี้ เขาได้ยินเรื่องนี้จากปากของเย่หวินแล้ว เขาไม่กล้าที่จะไม่พูดความจริง เสือสองตัว ฉินหยิ่นไม่รู้ว่าควรจะเลือกฝ่ายไหน สุดท้ายก็ยอมพยักหน้า เมื่อเห็นฉินหยิ่นยืนยันแล้ว โม่ฉีหมิงกำหมัดแน่น เส้นเลือดของเขาโผล่ออกมา ตัวของเขามีแต่ความโกรธ เหมือนว่าท่ามีใครเข้าใกล้เขาอีกนิดเดียว เขาก็สามารถทำร้ายคนได้ทันที คนที่เขาทั้งรักทั้งหวง ปกป้องเอ็นดู ทุกอย่าง กลับแอบเจอรัชทายาทโดยที่ไม่ยอมบอกเขา ความเชื่อใจระหว่างพวกเขามันหายไปไหนหมด? “ท่านอ๋อง ที่จริงแล้ว รัชทายาทมาแค่ครู่เดียวก็ออกไปแล้ว ......” ฉินหยิ่นพูด ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม รอบตัวของโม่ฉีหมิงตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย ฉินหยิ่นเพราะอยู่กับเขามานานก็เลยกล้าพูด แม้แต่เย่หวินที่อยู่ข้างๆก็ดึงชายเสื้อเขา ทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก เพิ่งจะช่วยเขามาจากกองเพลิงเมื่อกี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะเลือกจะกระโดดลงไปอีก อีกทั้งท่านอ๋องดีกับพระชายาขนาดนั้น คงไม่ตำหนินางเพราะเรื่องรัชทายาทหรอก? “พวกเจ้าออกไปเถอะ” โม่ฉีหมิงกัดฟังพูดออกมา ทั้งสองคนรีบเดินออกจากห้องไป โม่ฉีหมิงจับไปที่หน้าอกของตัวเอง สายตาของเขาจ้องไปที่หน้าต่าง เขากลัวว่าตัวเขาจะทนไม่ได้ ที่จะคิดทำร้ายโล่หวินหลาน บรรยากาศในจวนกดดันมาก โล่หวินหลานออกมาจากห้องก็รู้สึกได้ ปกติสาวใช้จะทำงานของตัวเอง เมื่อเห็นนาง ก็ก้มหน้า ทักนาง แล้วก็ไปทันที โล่หวินหลานคิดจะเรียกนาง แต่พวกนางเดินไปเร็วมาก ก็เลยล้มเลิกความคิดไป พอไปที่ห้องหนังสือเพื่อไปหาโม่ฉีหมิง ฉินหยิ่นก็ขวางเอาไว้ “เย่หวิน เจ้าว่าโม่ฉีหมิงกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมแม้แต่ข้าก็ไม่ให้เข้าไป” โล่หวินหลานนั่งอยู่ตรงทางเดิน มองไปรอบๆตัวรู้สึกโดดเดี่ยวมาก เย่หวินเหมือนจะรู้สึกกลัวนางส่ายหัว ไม่กล้าสบตาของนาง “ข้าน้อยไม่ทราบ” อาหารค่ำก็ยังไม่เห็นโม่ฉีหมิง นางกินข้าวคนเดียว จากนั้นก็ไปที่ห้องหนังสืออีกครั้งแต่ก็ถูกขวางไว้เหมือนเดิม ฉินหยิ่นไม่กล้าสบตานาง พูดแค่สองสามคำให้นางกลับไป ต่อให้เป็นคนใจเย็นแค่ไหนก็มีขีดจำกัด โล่หวินหลานออกจากประตูห้องมาแล้วสาบานว่านางจะไม่เหยียบมาที่ห้องหนังสือนี้อีก จากนั้นก็เดินไปที่เรือริมน้ำในจวน เมื่อเห็นนางขึ้นเรือไป เย่หวินก็รีบห้ามนางไว้ “พระชายา ท่านขึ้นเรือไปทำไม? มันอันตรายนะ” เย่หวินร้อนใจมาก โล่หวินหลานสะบัดมือนาง ขมวดคิ้ว โม่ฉีหมิงไม่สนใจนาง แม้แต่เย่หวินยังจะมาห้ามนางอีก นางเหมือนนกที่ถูกขังในกรง “อันตรายที่ไหนกัน? บนเรือมีปีศาจหรือไง? จะมีใครมาลอบสังหารข้าหรือปลาในน้ำจะทำให้เรือล่มหรือไง? ข้าว่ายน้ำเป็นนะ” โล่หวินหลานจ้องไปที่เย่หวินด้วยความหงุดหงิด ความอดทนของเย่หวินที่ดี สีหน้าของนางยังคงมองโล่หวินหลานเหมือนเดิม นางจับมือของนางเอาไว้แน่น ยังไงก็ยังไม่ยอมให้นาขึ้นเรือไป มีคนมาขัดขวาง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่มีความสุขทั้งนั้น โล่หวินหลานมองไปที่เย่หวินที่จับมือนางไม่ยอมปล่อย ในใจก็รู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของนาง แต่ว่าเรือนี่มันก็อยู่ในจวน สระน้ำก็อยู่ในจวน นางจะห่วงอะไร? โล่หวินหลานไม่ได้คิดจะทำให้เย่หวินลำบากใจ ปล่อยมือแล้วก็เดินไปที่สะพาน ค่ำคืนที่เงียบเหงา แสงจันทร์ส่องมาที่นาง เย่หวินเองก็ไม่ได้พูดอะไรนางเดินอยู่คนเดียว ทันใดนั้นเองก็มีคนวิ่งหน้าตาตื่นมา “พระชายา พระชายา” เสียงของพ่อบ้านดังขึ้น เมื่อโล่หวินหลานหันหน้าไป เขาก็พูดว่า “พระชายา องครักษ์ของรัชทายาทส่งจดหมายมาให้ท่าน สั่งให้ข้าน้อยเอามาให้ท่านถึงมือ” จดหมายจากรัชทายาท? โล่หวินหลานสีหน้าเปลี่ยนไป ที่เขามาในคืนนั้นมันไม่พออีกหรอ ยังจะให้คนมาส่งจดหมายมาให้นางอีก? เขากล้ามากเกินไปแล้ว หากโม่ฉีหมิงรู้เข้า เขาคงตัดขาดจากรัชทายาทแน่นอน เมื่อคิดอย่างนี้ โล่หวินหลานรีบเก็บจดหมายไว้กับตัว แล้วดึงเสื้อพ่อบ้านมา แล้วพูดเบาๆว่า “จดหมายนี่มีใครรู้อีกบ้าง?” พ่อบ้านส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ไม่มี นอกจากข้าน้อยแล้ว ก็มีแม่นางเย่หวินกับท่าน ไม่มีคนอื่น” โล่หวินหลานถอนหายใจ เขาไม่กลัวเย่หวินที่อยู่ข้างๆ แค่ย้ำพ่อบ้านว่า “เรื่องนี้ห้ามพูดออกไปเด็ดขาด” พ่อบ้านพยักหน้า แล้วทำท่าทางไม่พูด โล่หวินหลานมองเขาจากไปอย่างพอใจ ส่วนตัวนางก็กลับห้องไป ตอนที่เปิดจดหมายนางรู้สึกไม่สบายใจเลย นางลังเลอยู่นาน ว่าจะเปิดดีไหม สุดท้ายก็ตัดสินใจเปิด จากนั้นค่อยส่งจดหมายกลับให้รัชทายาท ให้เขาอย่ามายุ่งกับนางอีก แสงเทียนในห้องไม่ได้สว่างมาก นางให้เย่หวินเฝ้าอยู่หน้าห้อง นางเปิดจดหมายด้วยมือที่สั่น ด้านในมีพียงแค่คำง่ายๆว่า “ขอโทษ” เมื่อเห็นคำนี้ โล่หวินหลานถอนหายใจ เขาไม่ได้พูดอะไรมาก หรือว่าเขารู้ว่าส่งจดหมายมาจวนหมิงอ๋องมันไม่ปลอดภัย ถึงได้เขียนมาแค่นี้ โล่หวินหลานส่ายหน้า แล้วเผาจดหมายทิ้งไป วันต่อมา ตอนอาหารเช้า ก็ยังไม่เห็นโม่ฉีหมิงอีก ถามเย่หวิน นางก็ตอบแค่ว่าไม่รู้ หรือว่าเขาตั้งใจหลบหน้านาง? มีอะไรเขาก็บอกนางก็ได้นี่นา ต่อให้นางทำอะไรผิด เขาก็แค่พูดมันออกมา นางพร้อมจะแก้ไข แล้วนี่มันอะไรกัน? นางอึดอัดมาวันหนึ่งเต็มๆ โล่หวินหลานไม่ได้ระบายความในใจออกมารู้สึกอึดอัดมาก ก็เลยไปที่หน้าห้องหนังสือของโม่ฉีหมิง เห็นไฟด้านในสว่างอยู่ ที่แท้เขาก็หลบอยู่ในนั้นตลอดเวลา ไม่พูดอะไรเลย นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดประตูเข้าไป เสียงของประตูทำให้คนที่อยู่ข้างในตกใจ นอกจากสวินโม่แล้วยังมีคนที่นางไม่เคยเจออีกหันหน้ามามองนาง โม่ฉีหมิงขมวดคิ้ว มองไปที่โล่หวินหลานแล้วตะคอกว่า “เจ้าเข้ามาทำไม? ออกไป” โล่หวินหลานเองก็จ้องเขากลับไปโดยไม่กระพริบตา ไม่เจอหลายวัน สายตาของเขา สีหน้าของเขามันเหมือนเปลี่ยนแปลงไป เขาแทบจะไม่มองมาที่โล่หวินหลานเลย ไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาไม่เคยพูดจากับนางแบบนี้เลย โล่หวินหลานรู้สึกว่าเขาเหมือนคนแปลกหน้า “โม่ฉีหมิง ......” สายตาของนางรู้สึกเจ็บปวด พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็พูดไม่ออกอีก สายตาหลายคู่กำลังมองมาที่นาง เหมือนนางเป็นตัวตลก “พวกเจ้าออกไปก่อน” โม่ฉีหมิงออกคำสั่ง พวกเขาไม่กล้าถามมาก ต่างก็ออกไป ภายในห้องเงียบลง โล่หวินหลานเหมือนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองร้อนรน โม่ฉีหมิงไม่มองมาที่นางเลย มองแต่นอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “เจ้ากำลังหลบหน้าข้า? เจ้าเอาแต่คุยงานอยู่กับคนอื่นในห้องหนังสือ เพราะไม่อยากเห็นหน้าข้าใช่ไหม?” โล่หวินหลานถึงแม้จะถาม แต่ไม่ได้เป็นการคาดคั้น โม่ฉีหมิงยังคงมองออกไปที่นอกหน้าต่าง แต่ว่าความรั้นของเขามันกระจายออกมา เขากัดปาก เงียบอยู่นาน สุดท้ายก็พูดออกมาว่า “ไม่ใช่” เขาพูดจบ โล่หวินหลานก็ยิ้มแห้ง แล้วเดินเข้าใกล้เขา แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “ข้าไม่รู้จริงๆว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดีใจก็มาคุยกับข้า ให้ของขวัญข้า ไม่พอใจก็ทิ้งข้า ไม่สนใจข้า ทุกอย่างต้องทำตามใจเจ้าหมด เจ้าคิดอยากจะทำอะไรก็ทำ ใช่ไหม?” คำพูดของนางเหมือนดาบที่ทิ่มแทงเขา นางสงสัยถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของพวกเขา เหมือนกำลังทิ้งความรู้สึกกับความเชื่อมั่นที่สร้างมาด้วยกันออกไปจนหมด โม่ฉีหมิงค่อยๆหันมามองนาง ใบหน้าของนางเหมือนคนแปลกหน้า มันดูห่างเหิน เหมือนเขาแตะต้องมันไม่ถึงเลย เขาโกรธมาก ที่แท้ในสายตาของโล่หวินหลานเขาเป็นคนแบบนี้นี่เอง ความรู้สึกที่ให้นางมันไม่ดีขนาดนี้เลยหรอ เขากวาดของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะทิ้งกระจัดกระจาย ไม่ว่าจะเอกสาร ถ้วยชา หรือว่าของเก่าต่างๆ ทำจนห้องเละเทะไปหมด “ข้าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายหรอ?? ไม่ได้สนใจความรู้สึกของเจ้าหรอ? โล่หวินหลาน ทำไมเจ้าไม่ถามตัวเองล่ะว่า ข้าดีกับเจ้าไม่พอหรือไง? ทำไมเจ้าต้องเจอกับรัชทายาทด้วย? ทำไมเขาถึงได้มาหาเจ้าถึงในห้องกลางดึกแบบนั้นด้วย?” โม่ฉีหมิงโกรธจนไม่มีสติแล้ว สุดท้ายเขาก็พูดทุกอย่างออกมาจนหมด คำพูดของเขาทำให้โล่หวินหลานตัวสั่น สายตาที่เย็นชาของเขามันมองทะลุเข้าไปในตัวนาง นางคิดว่านางเก็บความลับได้ดีแล้ว แต่จู่ๆก็ถูกเขาเปิดเผย นางเหมือนเด็กที่แอบกินขนมแล้วถูกจับได้ ลมพัดเข้ามาในห้องทางหน้าต่าง มันทำให้โล่หวินหลานรู้สึกหนาวหน็บ “ข้า ข้า ที่แท้ เจ้าไม่สนใจข้าเพราะเรื่องนี้หรอ?” โล่หวินหลานค่อยๆจับไปที่ขอบโต๊ะ นางพยายามอธิบาย “วันนั้นรัชทายาทมาหาข้าจริง แต่ว่าเราไม่ได้ทำอะไร ตอนกลางวันเขาเจอเรื่องของเย่เซียวหลัวแล้วอารมณ์ไม่ดี ก็เลยมาหาข้า ข้าไม่บอกเจ้า เพราะว่า เพราะว่าข้ากลัวเจ้าโกรธ” โม่ฉีหมิงหันหลังใส่นาง ปล่อยให้นางพูดอธิบายไป ไม่มีใครเห็นว่าพวกเขาทำอะไร ต่อให้นางอธิบายก็ไม่มีใครเชื่อ เขาพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “เจ้าพูดมาไม่ผิด ที่เจ้าอธิบายมันสมเหตุสมผลทุกอย่าง แต่ว่า แล้วจดหมายนั่นล่ะมันหมายความว่ายังไง?” จดหมาย? ที่แท้เขารู้ทุกอย่าง โล่หวินหลานรู้สึกเหมือนถูกล้อเล่นกับความรู้สึก ในเมื่อเขารู้ทุกอย่างอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงไม่มาถามนางให้รู้เรื่อง ทำไมถึงยังต้องให้นางมาถามเขาอีก?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 88 ไม่สนใจ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A