ตอนที่ 4 ต่อไปคุณจะมีฉัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4 ต่อไปคุณจะมีฉัน
ต๭นที่ 4 ต่อไปคุณจะมีฉัน “ผม.....” โม่ข่ายขยับปากเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่อยู่หลังกรอบแว่นสีทองเหม่อมองมา เขาจ้องมองเบื้องหลังของกู้เหยาหยุดคิดอยู่ราว2-3วินาทีแล้วจึงหันหลังเดินเข้าห้องหนังสือไป 3 ปีที่ผ่านมานี้ กู้เหยาออกมาเช่าบ้านอยู่ข้างนอกคนเดียว เธอทำกับข้าวได้คล่องมือมาก ไม่นานนักกับข้าว 2 อย่างพร้อมน้ำซุป 1 อย่างก็วางพร้อมอยู่บนโต๊ะ “โม่ข่าย ทานข้าวได้แล้วคะ” กู้เหยาเคาะประตูห้องหนังสืออย่างระมัดระวัง เธอไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ จึงถือวิสาสะผลักประตูเข้าไปเบาๆ โม่ข่ายที่อยู่ในนั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ได้ยินเขาพูดว่า : “เรื่องพวกนี้คุณพิจารณาแล้วตัดสินใจไปได้เลย ไม่ต้องรายงานผมทุกเรื่องก็ได้ครับ” พูดจบเขาก็ตัดสายทิ้งทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นสายตาก็พลันปะทะเข้ากับกู้เหยาทันที เขาถามเสียงเบาว่า : “มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “ทานข้าวได้แล้วคะ” กู้เหยาส่งยิ้มให้ ไม่ค่อยกล้าสบตาเขา “ไปเดี๋ยวนี้ครับ” น้ำเสียงของเขาเรียบเฉยตามปกติ ทั้งสองนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีใครเอ่ยปากพูดเพื่อทำลายความเงียบ บรรยากาศขณะนั้นค่อนข้างอึมครึม กู้เหยาพยายามอยู่หลายครั้งที่จะเอ่ยปากชวนคุย แต่ด้วยท่าทีอันเงียบขรึมของโม่ข่ายเอง เธอจึงจำต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป หลังจากทานอาหารเสร็จ โม่ข่ายอาสาเป็นคนล้างจานให้ กู้เหยาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขายินดีที่จะแบ่งเบาภาระงานในบ้านบ้าง เธอจึงรู้สึกดีใจ เห็นท่าทางอึดอัดใจของโม่ข่ายแบบนั้น สมัยก่อนเขาคงไม่เคยทำงานพวกนี้เลย แต่ก็ช่างเถอะ เขาเป็นถึงท่านประธานใหญ่ของบริษัท ทำไมจะต้องมาทำหน้าที่ล้างจานอะไรนี่ด้วย เพล้ง....... เสียงของภาชนะพอร์ชเลนแตกกระจายดังมาจากในห้องครัว กู้เหยารีบลุกขึ้นเดินไปทันที ที่เธอเห็นคือในมือของโม่ข่ายถือชามอยู่ใบหนึ่งกำลังมองชิ้นส่วนที่แตกกระจายอยู่บนพื้น “ให้ฉันช่วยดีไหมคะ” กู้เหยาเดินเข้าไปอยากจะถือชามที่อยู่ในมือของโม่ข่าย “ไม่ต้องครับ ผมจัดการเอง” โม่ข่ายแสดงท่าทีปฏิเสธมือของกู้เหยาที่ยื่นออกไป ด้วยน้ำเสียงเหมือนเดิม “โม่ข่ายคะ ที่จริง.....” กู้เหยาเห็นสายตาอันแน่วแน่ของโม่ข่ายแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดต่ออีก ได้แต่พยักหน้าถอยออกจากห้องครัวไป ปล่อยให้เขาจัดการต่อ ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่สำหรับกู้เหยาแล้วโม่ข่ายนับว่าเป็นผู้ชายที่เธอยังไม่ค่อยคุ้นเคยอะไรมาก เธออยากเข้าใจเขาให้มากกว่านี้ เข้าใจในตัวเขาทั้งหมด เธอตั้งใจจะทำหน้าที่ของภรรยาของตนให้ดีที่สุด เพียงแต่ ท่าทีของเขาแบบนั้น เธอจะสามารถใกล้ชิดกับเขาเหมือนตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆได้ไหม? กู้เหยานั่งลงในห้องรับแขก หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดู เธอเลือกช่องรายงานข่าว ขณะที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่นั้น เธอเอียงศีรษะมองไปทางห้องครัวเป็นครั้งคราว เธอมองผ่านประตูกระจกเข้าไปเห็นโม่ข่ายกำลังตั้งอกตั้งใจล้างจานชามอยู่ เธอพึมพำอยู่ในใจว่า อีตาผู้ชายคนนี้ขนาดล้างจานยังมีเสน่ห์ขนาดนี้ อาจเพราะสายตาของกู้เหยามีพลังมากจนเกินไป โม่ข่ายหันหลับมามองเธอทันที สายตา 2 คู่ที่ประสานกัน กู้เหยาเห็นว่าสายตาของโม่ข่ายค่อนข้างเย็นชา จึงยิ้มให้ตามมารยาทไม่ได้พูดอะไร เธอถูกจับได้อย่างจัง ใบหน้าของกู้เหยาเริ่มแดง จึงต้องส่งยิ้มกลับไปตามมารยาท กู้เหยาหันกลับมาดูที่จอภาพของโทรทัศน์เหมือนเดิม ในสมองกลับคิดถึงแต่เรื่องโม่ข่าย ผู้ชายคนนี้ตอนทำงานดูท่าทางเอาจริงเอาจังดีแฮะ ขนาดล้างจานยังมุ่งมั่นขนาดนั้น เมื่อไหร่จะมีโอกาสได้เห็นสีหน้าที่แสดงความเขินอายบ้างนะ? เมื่อเขาทำความสะอาดห้องครัวเรียบร้อยแล้ว โม่ข่ายจึงเข้ามาในห้องรับแขก เห็นกู้เหยานั่งนิ่ง เขาจ้องมองใบหน้าที่สวยงามและละเอียดอ่อนของเธออยู่ 2-3 วินาที แล้วจึงเอ่ยปากเรียก : “กู้เหยา” “คะ.....” น้ำเสียงอันสุภาพของโม่ข่ายเรียกชื่อเธอ กู้เหยารู้สึกว่ามันไพเราะกว่าปกติ ครู่หนึ่งใบหน้าของเธอเริ่มร้อนผ่าว โม่ข่ายนั่งอยู่บนโซฟาอีกด้านหนึ่ง : “ผมมีเรื่องบางเรื่อง อยากจะคุยกับคุณตามตรง” “ได้คะ” กู้เหยารับคำ เธอก็มีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเหมือนกัน ถือโอกาสนี้บอกเขาเลยดีกว่า โม่ข่ายกวาดสายตามองกู้เหยาครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเอ่ยขึ้นว่า : “กู้เหยาครับ วันนี้ตอนอยู่ที่บริษัท.....” “เราแบ่งแยกเรื่องส่วนตัวออกจากงาน อันนี้ผมเข้าใจ ความจริงผมก็ไม่อยากให้คนในบริษัทเอาเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวของเราไปพูดกันลับหลัง” โม่ข่ายยังพูดไม่ทันจบ กู้เหยาก็ชิงตัดบทซะก่อน เธอทำงานที่นี่อย่างตั้งอกตั้งใจมาเป็นเวลา 3 ปีแล้วถึงได้รับตำแหน่งมาอยู่ทุกวันนี้ เธออยากจะใช้ความสามารถของตัวเองโดยแท้จริงพยายามต่อไป ไม่อยากให้โม่ข่ายมาเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น สีหน้าของโม่ข่ายดูเรียบเฉย มีเพียงแววตาเป็นประกายหลังแว่นกรอบทองคู่นั้นที่ส่องสว่างขึ้นมาอย่างยากที่จะเห็นได้ : “เรื่องที่ผมดำรงตำแหน่งประธานบริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังคุณเลย วันนี้ที่ผมได้พบคุณที่นั่น ผมไม่รู้ว่าในใจคุณคิดอะไรอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้เปิดเผยสู่ภายนอก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องการที่จะปิดบังเรื่องนี้นะครับ” “ฉันรู้แล้วคะ” กู้เหยาพยักหน้า พูดต่อว่า “สำหรับฉันแล้ว เรื่องงานและเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกัน ฉันก็ไม่อยากจะเอาเรื่องส่วนตัวไปปะปนกับเรื่องงานด้วย” เธอและโม่ข่ายแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องระหว่างเขาทั้งสองคน กู้เหยารู้สึกว่าไม่จำเป็นจะต้องป่าวประกาศให้คนในบริษัทรับรู้ อย่างแรกคือเธอไม่อยากให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน อย่างที่สองคือเธอยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้ชีวิตคู่กับโม่ข่ายได้นานเท่าไหร่ เห็นท่าทางมุ่งมั่นของกู้เหยาที่เข้าใจดี โม่ข่ายพูดต่ออีก : “เรื่องที่พวกเราแต่งงานกัน คุณได้บอกกับทางบ้านบ้างไหมครับ?” กู้เหยาส่ายหน้า ไม่อยากพูดถึงเรื่องครอบครัว “ผมเพิ่งจะมารับช่วงงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีนี้ ช่วงนี้อาจจะยุ่งๆหน่อย ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ขอเวลาผมเคลียร์งานสักพัก แล้วเราค่อยไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ของคุณกันดีไหมครับ” เขากล่าวด้วยท่าทางและน้ำเสียงเรียบง่ายราวกับคาดหวังว่ากู้เหยาน่าจะบอกเรื่องนี้กับที่บ้านแล้ว “ไม่จำเป็นหรอกคะ” กู้เหยาปฏิเสธทันควัน แต่เพิ่งคิดได้ว่าไม่ควรพูดออกไปแบบนั้น รีบอธิบายต่อทันที “ฉันมีเรื่องบาดหมางกับที่บ้านนิดหน่อย ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว เรื่องนี้เอาไว้ค่อยบอกทีหลังก็ได้คะ” บ้าน? ทุกครั้งที่คิดถึงคำนี้ หัวใจของกู้เหยารู้สึกเจ็บปวดทุกที ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ เมื่อ 3 ปีก่อน บ้านหลังนั้นไม่ใช่ครอบครัวเธออีกต่อไป เธอคงไม่กลับไปอีกแล้ว “กู้เหยา” โม่ข่ายเรียกชื่อเธออีกครั้ง พลางพูดต่อว่า “ต่อไปคุณไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะครับ คุณยังมีผมอยู่” น้ำเสียงของโม่ข่ายยังเหมือนเดิม แต่แฝงความหมายอันลึกซึ้งไว้ในทุกคำที่พูด ประโยคนี้ไม่ใช่เพื่อแสดงความรัก แต่กลับทำให้หัวใจของกู้เหยาเบ่งบานจนพูดอะไรไม่ออก ถึงแม้หลายปีที่ผ่านมานี้เธอกัดฟันอดทนจนผ่านมาได้ แต่ตอนกลางคืนเมื่อเธอนึกถึงเรื่องนั้นทีไรก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ ร้องไห้ออกมาเงียบๆ “กู้เหยา” หลังจากเงียบกันไปครู่หนึ่ง โม่ข่ายจึงเอ่ยขึ้นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ผมพูดด้วยความจริงใจว่าผมอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับคุณไปตลอดกาล” ทันใดนั้นเธอนึกไม่ถึงว่าโม่ข่ายจะพูดอย่างนี้ออกมา กู้เหยาตกตะลึงชั่วครู่ เงยหน้าขึ้นมองเขา สบสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของเขา แล้วตอบรับว่า : “ฉันก็ตกลงปลงใจแล้วว่าจะอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดชีวิตคะ” โม่ข่ายจ้องมองใบหน้าอันสวยงามของเธอ ไม่กี่วินาทีถัดมา : “ถ้าอย่างนั้นกู้เหยา คุณรับปากผมได้ไหมว่า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เราจะไม่ยอมเลิกรากันง่ายๆ?” “ได้คะ!” กู้เหยาพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ฉันจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุดคะ” ไม่ยอมเลิกรากันโดยง่ายเป็นสิ่งที่กู้เหยาตั้งใจมาโดยตลอด สิ่งที่โม่ข่ายพูดออกมาในวันนี้ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก
已经是最新一章了
加载中