ตอนที่ 13 อิจฉาริษยา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 13 อิจฉาริษยา
ต๭นที่ 13 อิจฉาริษยา ไม่มีทาง! กู้เหยาทำท่าฮึดสู้ขึ้นมาทันที เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองโม่ข่ายจริงจัง ใครกลัวใครกันแน่ พิธีกรประกาศ : “เริ่มได้!” สมาชิกของอีก 3 กลุ่มรีบลงมือทันที กองเชียร์ที่อยู่ข้างๆร้องตะโกน : “ประธานโม่สู้สู้! ประธานโม่สู้สู้! ” โม่ข่ายบอกกับกู้เหยาว่า : “คุณกัดแอ๊ปเปิ้ลเอาไว้นิ่งๆนะ ผมจะค่อยๆแทะเอง” นี่คือเทคนิคอย่างหนึ่ง เพื่อไม่ให้แอ๊ปเปิ้ลแกว่งไปมา ให้กู้เหยากัดเอาไว้แน่นๆ โม่ข่ายจะเป็นคนกินเอง กู้เหยาพยักหน้า เรื่องที่คิดไว้อย่างหนึ่ง เรื่องที่ทำจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ปากของกู้เหยายังไม่ทันโดนแอ๊ปเปิ้ล จมูกของเธอดันไปโดนลมหายใจที่หอมฟุ้งของโม่ข่ายเข้า เสียงของกองเชียร์ยิ่งดังขึ้นไปอีก : “ประธานโม่สู้สู้! ประธานต้องชนะ!” “อย่าเพิ่งตกใจ มีผมอยู่ ไม่ต้องกลัว!” ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนราวกับฟ้าร้องของกองเชียร์ น้ำเสียงของโม่ข่ายทุ้มต่ำจนกู้เหยายังได้ยิน กู้เหยาถอนหายใจเบาๆ อ้าปากกัดแอ๊ปเปิ้ลเอาไว้ นัยน์ตามองโม่ข่ายที่เข้ามาใกล้จนเธอตกใจรีบหลับตาลง ในใจเต้นตุบๆไม่เป็นจังหวะ ระหว่างแข่งขันอยู่ กู้เหยาไม่กล้าเปิดตามองโม่ข่ายเลย และไม่รู้ว่าเขามีท่าทีอย่างไร เธอรู้สึกว่าแอ๊ปเปิ้ลค่อยๆเบาลงๆ ในใจของกู้เหยายิ่งเต้นเร็วขึ้น ทันใดนั้นริมฝีปากของกุ้เหยาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอันแสนจะอบอุ่น นั่นคือริมฝีปากของโม่ข่ายแตะโดนเธอเข้าอย่างจัง “โอ๊ะโอ.....” กองเชียร์รอบข้างทั้งตบมือเสียงดังและกรีดร้อง กู้เหยาตกใจราวกับโดนไฟฟ้าช๊อต ปล่อยปากออก ถอยหลังไปก้าวใหญ่ หน้าแดงราวกับแอ๊ปเปิ้ลที่พวกเขาเพิ่งจะกินลงไป คราวนี้ พิธีกรประกาศว่า “กลุ่มสีน้ำเงิน กลุ่มสีเหลือง กลุ่มสีเขียวกินเสร็จแล้ว กลุ่มสีแดงแพ้ครับ!” สีแดงแพ้แล้ว กู้เหยาและโม่ข่ายต้องถูกราดด้วยน้ำแข็งเป็นการลงโทษ แต่ว่าคนที่ถูกลงโทษเป็นท่านประธานใหญ่ของบริษัท ไม่มีใครกล้าเทน้ำแข็งใส่เขา เมื่อเป็นแบบนี้ ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างคึกคัก ช่วงเวลาสำคัญ หลิวยองผู้ช่วยอีกคนหนึ่งของโม่ข่ายลุกขึ้น เขาพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอเป็นคนเทน้ำแข็งให้ก็แล้วกัน” ทุกคนต่างปรบมือด้วยความดีใจพลางร้องตะโกน หลิงยองยกถังน้ำขึ้นพยายามหลีกเลี่ยงกู้เหยา โม่ข่ายก็ดึงเสื้อออกมาปกป้องกู้เหยาไว้ในอ้อมแขน ผลสุดท้ายคือ โม่ข่ายเปียกปอนไปทั้งตัว แต่กู้เหยาไม่โดนน้ำราดใส่เลยแม้แต่นิดเดียว กู้เหยาเห็นโม่ข่ายเปียกโชกไปทั้งตัว จึงกังวลว่าเขาจะหนาว แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ต่อหน้าทุกคน ได้แต่ส่งสายตามองเขาด้วยความเป็นห่วง โม่ข่ายมองออกว่าเธอรู้สึกกังวล เขารับผ้าขนหนูมาจากพนักงาน ขณะที่เช็ดผมอยู่ก็เดินเข้ามาใกล้ๆกู้เหยา พลางกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า : “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไม่เป็นไร” เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดอยู่ 2 ครั้ง แล้วจึงยิ้มให้ทุกคนพลางกล่าวว่า : “พวกคุณสนุกกันไปก่อนนะครับ ผมขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน” ท่าทางที่โม่ข่ายปกป้องกู้เหยานั้น เป็นการกระทำที่สุภาพบุรุษคนหนึ่งมีต่อผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายควรจะปกป้องผู้หญิงแบบนั้น แต่ในสายตาของคนบางคนมองแล้วไม่ได้คิดแบบนั้น หม่าตันน่าที่อยู่แผนกลูกค้าสัมพันธ์มองกู้เหยาด้วยท่าทีอยากกินเลือดกินเนื้อ มือทั้งสองที่อยู่ข้างกายกำหมัดแน่น อดใจไว้ไม่ไหวที่จะเอาเรื่องกู้เหยาให้ถึงที่สุด เธออุตส่าห์แต่งตัวซะตั้งนาน ไม่เพียงไม่สะดุดตาโม่ข่ายเลย แถมยังถูกนังผู้หญิงกระจอกอย่างนั้นแย่งซีนไปอีก คนอย่างหม่าตันน่าในแผนกลูกค้าสัมพันธ์ได้รับการขนานนามว่ามีความสวยเป็นอันดับสอง ไม่มีใครกล้าขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่ง แต่ว่าในสายตาของบรรดาพนักงานผู้ชาย กู้เหยาในแผนกธุรกิจชนะหล่อนไปอีกขั้น ที่ผ่านมา หม่าตันน่าเห็นกู้เหยาเป็นขวากหนามและก้างขวางคอในสายตาเธอมาตลอด เธออยากจะกำจัดกู้เหยาให้พ้นจากบริษัทในเร็ววัน หลังจากโม่ข่ายปลีกตัวออกไปแล้ว หม่าตันน่ารีบปรี่เข้ามาทันที : “นี่กู้เหยา เมื่อกี้เห็นเธอหน้าแดงแบบนั้น เธอคิดอะไรกับท่านประธานของพวกเราหรือเปล่าเนี่ย?” กู้เหยากวาดสายตามองหม่าตันน่าอย่างเย็นชา เหลียงฮุ่ยอี๋ลุกขึ้นยืนพูดว่า : “ประธานโม่ให้ฉันส่งอีเมล์เรื่องที่เขาแต่งงานแล้วให้ทุกคนในบริษัทได้รับทราบ ก็เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องซุบซิบนินทากันให้ภรรยาของท่านเข้าใจผิดได้ ต่อไปทุกคนกรุณาอย่าเอาเรื่องส่วนตัวของท่านมาพูดลับหลังแบบนี้อีก” หม่าตันน่าถือว่าลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเป็นผู้จัดการของแผนกลูกค้าสัมพันธ์ เป็นเรื่องปกติที่เธอชอบคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ครั้งนี้เมื่อถูกเหลียงฮุ่ยอี๋เข้า กลับไม่กล้าเถียงแม้แต่คำเดียว ได้แต่เพิ่มความเกลียดชังไว้ที่ตัวกู้เหยาอย่างเงียบๆ หลังจากโม่ข่ายปลีกตัวออกไปแล้วเขาก็ไม่ได้ปรากฏกายอีก กู้เหยารู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมา หลังจากเล่นเกมส์ต่ออีก 2-3 เกมส์ เธอก็ออกมาหามุมสงบส่งข้อความให้โม่ข่าย : “คุณอย่าลืมอาบน้ำร้อนด้วยนะคะ ระวังเป็นหวัดนะคะ” “คนบางคนนิสัยเสียยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ มัวแต่ให้ท่าผู้ชายทั้งวี่ทั้งวัน ระลิกระลี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว” ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ข้างๆเธอ คำพูดของหม่าตันน่าช่างระคายหูยิ่งนัก ปกติกู้เหยาไม่เคยสนใจหม่าตันน่าเลย เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเธอมาตลอด แต่ยิ่งทำให้เธอชักได้ใจเอาใหญ่มากขึ้น กู้เหยาเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาหม่าตันน่า หม่าตันน่ารู้สึกหวาดกลัวกู้เหยาที่แผ่รังสีของความเลือดเย็นออกมาในทันที ก้าวถอยหลังด้วยความขี้ขลาด : “เธอ , เธอคิดจะทำอะไรน่ะ?” กู้เหยาก้าวเท้าอย่างหนักแน่น ต้อนหม่าตันน่าไปจนหลังชนกำแพง ยื่นมือออกมาเชยคางเธอ สายตาจ้องเขม็งพลางกล่าวว่า : “ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อย่าทำเหมือนหมาบ้าคอยเที่ยวกัดคนอื่นหน่อยเลย” หม่าตันน่าเยาะเย้ยกลับว่า : “อ๋อ ถ้าฉันเป็นหมาบ้าตัวหนึ่ง งั้นเธอก็เป็นผู้หญิงน่าไม่อายละสิ ดูสิเมื่อก่อนเธอก็เคยทำเรื่องหน้าไม่อาย ไอ้กระจอกอย่างเธอเนี่ยหรือคิดจะปีนเตียงของประธานโม่ ฝันไปเถอะ” กู้เหยายิ้มอย่างเย็นชา : “ได้ยินว่าเดือนที่แล้วเธอก็ถูกผู้ชายทิ้งมาไม่ใช่หรือ ร้องไห้แทบเป็นแทบตายนี่ ยังจะคิดปีนเตียงของท่านประธานอีก เธอก็น่าไม่อายพอกันแหละ” หม่าตันน่าโกรธตอบไปว่า : “ฉันถูกทิ้งแล้วมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนไม่ทราบ” กู้เหยายิ้มพลางตอบว่า : “แล้วฉันจะเป็นผู้หญิงแบบไหนมันเกี่ยวอะไรกับเธอหรือ? หม่าตันน่า ไม่ใช่เธอคนเดียวที่หาเรื่องคนอื่นได้นะ อย่าเอาเรื่องอื้อฉาวเมื่อหลายร้อยปีก่อนมาเป็นอาวุธ แผลเป็นของคนอื่นมันน่าเกลียดอยู่แล้วแต่คงเทียบไม่ได้กับกิริยาที่เธอแสดงออกมาหรอก” หม่าตันน่ายังคงไม่สลดพูดต่ออีกว่า : “ฮึ เธอยังมีหน้าพูดถึงเรื่องนั้นอีก เอาเชื่อไหมล่ะฉันจะเปิดเผยเรื่องราวของเธอทั้งหมด ให้คนทั้งบริษัทเขารู้กันไปเลยว่าที่แท้เธอเป็นคนแบบไหน?” “เธอเป็นคนของผม!” น้ำเสียงเรียบเฉยดังขึ้นมา กู้เหยาและหม่าตันน่าต่างก็กลัวจนตัวสั่น กู้เหยาไม่คิดเลยว่าโม่ข่ายจะปรากฏกายขึ้นเวลานี้ ในใจเธอรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ให้โม่ข่ายเห็นเธอในสภาพนี้ เขาจะมองเธอยังไงนะ? หม่าตันน่าตกใจหน้าซีด : “ท่าน ท่านประธาน เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแบบที่คุณเห็นนะคะ กู้เหยาเธอ......” โม่ข่ายไม่มองหม่าตันน่าแม้แต่หางตา พูดออกมาอย่างเย็นชา : “ออกไป!” สีหน้าของหม่าตันน่าจากแดงเปลี่ยนเป็นขาวทันที เธอยังคงยืนหยัดจะอธิบาย แต่ด้วยท่าทีเยือกเย็นของโม่ข่ายทำให้เธอตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่กัดฟันวิ่งออกไปด้วยความไม่เต็มใจ โม่ข่ายเดินไปหากู้เหยา มองดูเธอเงียบๆ กู้เหยารู้สึกตกใจเมื่อถูกเขาจ้องมอง อ้าปากกำลังจะเล่าว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น แต่โม่ข่ายกลับชิงตัดหน้าเธอ พูดขึ้นมาก่อนว่า : “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง” กู้เหยาเงยหน้าขึ้นมองเขา พูดว่า : “ถ้าฉันเป็นคนก่อเรื่องจริงๆ ฉันกำลังรังแกเธออยู่ละคะ?”
已经是最新一章了
加载中