ตอนที่ 22 ผู้ชายที่ปากไม่ตรงกับใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 22 ผู้ชายที่ปากไม่ตรงกับใจ
ต๭นที่ 22 ผู้ชายที่ปากไม่ตรงกับใจ ก่อนที่โม่ข่ายจะขับรถออกเขาเอามือยกขึ้นมาคลึงเบาๆที่ริมฝีปากของกู้เหยา ภายนัยน์ตาเขาแสนเยียบเย็นยิ้มน้อยๆ ท่าทีของกู้เหยาในตอนนี้ในที่สุดก็หลุดออกมาให้เห็นเหมือนในครั้งเมื่อตอนสามปีก่อน เมื่ออกมาจากลานจอดรถ ความเร็วของรถก็ช้าลงเมื่อขับเข้าไปรวมอยู่ในตัวเมือง มีรถราแล่นไปมาเสียงดังวุ่นวาย แต่ว่าภายในรถนั้นกลับเงียบสงัด ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของทั้งสองคน กู้เหยานั่งหลังตรงติดเบาะ สายตาทั้งสองข้างมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ไม่กล้าจะมองไปที่โม่ข่าย อย่างไรก็ตามก็ยังอดไม่ได้ที่จะแอบมองไปที่เขาบ้าเป็นครั้งคราว เวลาขับรถโม่ข่ายดูตั้งใจมาก สายตาไม่วอกแวกเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ไม่เคยได้เกิดขึ้นมาก่อนอย่างไงอย่างนั้น กู้เหยาเหลือบไปมองที่ปากของชายคนนี้ พูดด้วยความหมั่นไส้ในใจ “ผู้ชายเย็นชา” หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถจึงจอดลงที่ด้านหน้าตึกโม๋เทียน โม่ข่ายเอากุญแจรถยื่นให้พนักงานรับรถแล้วก็เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่พร้อมกับกู้เหยา ตึกโม๋เทียนนี้มีความสูง69ชั้น เมื่อครั้งเริ่มก่อสร้างเคยเป็นตึกที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นแลนมาร์คของเจียงเป่ยมาหลายปี ตึกโม๋เทียนตั้งอยู่ในบริเวณเขตเศรษฐกิจการค้าที่คึกคักที่สุดในเจียงเป่ย สถานที่นี้คนเยอะ รถก็มาก ตึกก็ทั้งสูงแล้วยังสร้างเรียงรายกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะการเที่ยวชมวิวบนยอดตึกโม๋เทียนนั้นขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก คนที่มาจากต่างถิ่นจำนวนมากยอมจ่ายเงินซื้อตั๋วเพื่อให้ได้เข้ามาลองนั่งดูวิวทิวทัศน์ สั่งกาแฟมาดื่ม นั่งเงียบๆชื่นชมความงามของแม่น้ำเจียงเป่ยที่ทอดยาวคั่นกลางเชียงเจียงเฉิน ครั้งก่อนนั้นกู้เหยามาที่เจียงเป่ยพร้อมกับหลินเช่นเช่น แค่บัตรเข้าตึกนี้อย่างเดียวก็ปาเข้าไปแล้วสี่ร้อยบาท ค่าอาหารในบริเวณร้านอาหารสำหรับชมบรรยากาศยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ว่าถึงแม้ว่าจะแพงเพียงใด จำนวนลูกค้าที่หลั่งไหลกันมาในแต่ละวันยังคงทยอยมาอย่างไม่ขาดสาย คล้ายกับไม่เคยมีวันไหนที่เงียบเหงาเลย แต่ในวันนี้กลับทำให้กู้เหยาแปลกใจ เธอมองนาฬิกายังไม่ถึงสองทุ่มเลย แต่ทำไมตอนที่รอลิฟต์กลับไม่เห็นมีคนอื่น ในขณะที่กู้เหยากำลังคิดอยู่มือของเธอก็ถูกฝ่ามืออุ่นๆจับไว้ โม่ข่ายจูงมือกู้เหยาเข้าไปในลิฟต์ที่ใช้เฉพาะแขกวีไอพี ตรงดิ่งไปที่ชั้น69 มือของโม่ข่ายนั้นอุ่นมากจริงๆหรือบางทีอาจจะเป็นเพราะมือของกู้เหยานั้นเย็นมากก็เป็นได้ พอถูกจับมือไว้จึงเกิดความรู้สึกไม่อยากจะปล่อยให้ความอบอุ่นที่โม่ข่ายมีให้หลุดหายไป กู้เหยาแหงนหน้ามองไปที่โม่ข่าย ยิ้มแล้วยิ้มอีก “โม่ข่าย คุณจะเลี้ยงข้าวฉันหรือ” โม่ข่ายหันหน้าเข้าประตู ยืนตัวตรง ในตอนที่กู้เหยาเข้าใจว่าโม่ข่ายคงจะไม่ตอบคำถามของเธอกลับได้ยินเสียงเขาตอบว่า “อืม” แค่ตอบรับอืมเบาๆเท่านั้น แต่ในใจกู้เหยากลับรู้สึกว่าเพียงพอแล้ว เรื่องโม่ข่ายไม่ค่อยพูดนั้นไม่ใช่เรื่องที่เธอพึ่งจะมารู้ในวันนี้ เวลาผ่านไปไม่นาน ลิฟต์ก็มาถึงชั้น69 ภาพคนมากมายจนปวดหัวเหมือนแต่ก่อนในความคิดนั้น วันนี้กลับเงียบสงัด นอกจากพนักงานแล้วก็ไม่มีคนอื่นๆเลย บริเวณโดยรอบภัตตาคารเลิฟถูกจัดวางด้วยดอกกุหลาบสีต่างๆ ตรงกลางมีโต๊ะอาหารหนึ่งตัว บนโต๊ะมีดอกกุหลาบถูกวางเป็นรูปหัวใจ แสงโคมไฟสีส้มส่องประกายลงมายิ่งเพิ่มสีคล้ายดั่งภาพฝัน พนักงานสาวสวยออกมาต้อนรับ พูดอย่างมีมารยาท แต่ว่าสายตานั้นกลับไม่ได้มองมาที่กู้เหยาแม้แต่น้อย สายตาของพนักงานแทบจะมองตามติดไปที่โม่ข่าย เหมือนจะไม่ได้สนใจคนที่อยู่ข้างๆโม่ข่ายอย่างกู้เหยาเลย ภายในใจกู้เหยาคิดอย่างเซ็งๆ ผู้หญิงหน้าตาดีกลายเป็นภัยต่อตัวเอง แต่ผู้ชายหน้าตาดีกลับดูน่าหลงใหล สายตาผู้หญิงคนนี้เมื่อมองผู้ชายหล่อๆอย่างโม่ข่ายดูแสดงออกชัดเจนว่าสนใจและหลงใหลกว่าเมื่อเวลาที่ผู้ชายมองผู้หญิงสวยเสียอีก โม่ข่ายหยุดเดิน มองที่พนักงานด้วยสายตาเย็นชา “ไปเรียกคนดูแลรับผิดชอบพวกคุณมาหน่อย” พนักงานสาวยิ้ม “คุณโม่ข่ายคะ ฉันเป็นคนดูแลรับผิดชอบภัตตาคารแห่งนี้เองค่ะ” หัวคิ้วโม่ข่ายกระตุก น้ำเสียงเรียบขรึม “ภัตตาคารนี้น่าจะเปลี่ยนผู้ดูแลได้แล้ว” แค่ชั่วพริบตารอยยิ้มของพนักงานสาวของเปลี่ยนเป็นกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกแล้วพูด “คุณโม่ข่าย คุณผู้หญิง เชิญทางนี้ค่ะ ดิฉันจะเรียกพนักงานคนอื่นเข้ามาให้บริการนะคะ” หลังจากนั่งลงแล้ว กู้เหยาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา โม่ข่ายมองกู้เหยาอย่างแปลกใจ “มีเรื่องน่าหัวเราะอะไรขนาดนั้น” กู้เหยาพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองหัวเราะ แหงนหน้ามองโม่ข่าย “คุณชอบทำแบบนี้กับผู้หญิงที่มาชอบคุณหรือคะ” “ชอบผมหรอ” โม่ข่ายกระตุกคิ้ว พูดอย่างตรงไปตรงมา “แต่ผมไม่ได้ชอบเธอ” พนักงานผู้หญิงเมื่อสักครู่รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลว หุ่นก็ดี ผู้ชายทั่วไปก็ไม่น่าจะปฏิเสธเธอได้ตรงๆ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เธอถูกปฏิเสธชัดเจนขนาดนี้ สีหน้าของเธอจึงได้ดูแย่ขึ้นมาทันใด จู่ๆกู้เหยาก็นึกถึงคำพูดที่หลินเช่นเช่นพูดไว้ มองไปที่โม่ข่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ชายธรรมดาล้วนใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธสาวสวย หรือว่าโม่ข่ายไม่ชอบผู้หญิง คิดมาถึงตรงนี้ สายตาของกู้เหยาก็มองสำรวจโม่ข่าย ถ้าหากว่าโม่ข่ายไม่ชอบผู้หญิงจริงๆนี่มันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีสำหรับเธอกันนะ เสียงบรรเลงเพลงดังขึ้นมา กู้เหยารู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดีอีกทั้งเป็นทำนองเพลงที่เธอชอบมาก กู้เหยาฟังไปเรื่อยๆ ห้ามใจไม่อยู่ต้องคลอไปตามเพลง ขนคิ้วเฉียงขึ้น ดวงตาใสแวววาว ดูไปแล้วเหมือนกับเอลฟ์ยังไงอย่างนั้น คลอเพลงไปเรื่อยๆ กู้เหยาจึงรู้สึกตัวว่ามีสายตาอ่อนโยนผิดปกติส่งมาที่เธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองจึงพบว่าโม่ข่ายจ้องมองเธอเงียบๆ กู้เหยายิ้มให้โม่ข่าย “นี่เป็นเพลงที่ฉันชอบค่ะ” โม่ข่ายส่งสัญญาณให้บริกรรินไวน์ให้พวกเขา ชูแก้วขึ้นมาเบาๆ “อยากดื่มสักหน่อยไหม” กู้เหยาชำเลืองมอง ไวน์สัญชาติฝรั่งเศสเฟิร์ทเลเบิลปี82 สำหรับกู้เหยาแล้วไวน์ชนิดนี้ เงินเดือนระดับเธอแล้วมันแพงเกินไปจนซื้อไม่ได้ ปกติก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ดื่ม ครั้งนี้เจ้านายใจดีเลี้ยงทั้งทีแน่นอนเธอไม่มีทางเกรงใจแน่ๆ เธอชูแก้วขึ้นมาชนกับโม่ข่าย “เชียร์ส”คิ้วรูปดาบของโม่ข่ายคลายออกเล็กน้อย “เชียร์ส” กู้เหยายกแก้วขึ้นเงยหน้าดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วด้วยท่าทางองอาจไม่กลัว โม่ข่ายส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ไวน์ไม่ได้ดื่มอย่าที่คุณดื่มแบบนั้นนะ” ไม่ใช่ว่าโม่ข่ายเสียดายไวน์ที่เธอดื่มไปแต่เป็นเพราะว่าการดื่มแบบที่กู้เหยาดื่มนั้นจะทำให้เมาได้ง่ายอีกทั้งท่าทางนั้นดูไม่เหมือนผู้หญิงเลย กู้เหยากลับเหมือนซ่อนความแหลมคม เต็มไปด้วยความบ้าระห่ำ กู้เหยาเมื่อสามปีก่อนเต็มไปด้วยพละกำลังที่โหยหาไม่มีอะไรมาเทียบได้ เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตชีวา กู้เหยาวันนี้นั้นซ่อนเก็บมุมทุกมุมเมื่อสามปีก่อนไว้และยังเพิ่มความเงียบขึ้นมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นกู้เหยาเมื่อสามปีก่อนหรือกู้เหยาสามปีให้หลังนี้ สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือการมองโลกในแง่ดีรวมทั้งความกระตือรือร้นในการทำงาน กู้เหยาดูยังไม่พอใจ ด้วยสัญชาตญาณจึงเลียริมฝีปากแวววามเหมือนริมฝีปากทารกนั้นอีก แท้จริงการกระทำนี้ทำโดยไม่ได้คิดอะไรแต่ทว่าในสายตาของโม่ข่ายนั้นกลับมีเสน่ห์ที่สุด นัยน์ตาของโม่ข่ายมีประกายแวววับขึ้นมานิดหน่อยไม่เหมือนทุกครั้ง กู้เหยาไม่รู้สึกเลยสักนิด รีบร้อนพูดด้วยความสนใจ “ไวน์นี้รสชาติไม่เลว ขออีกหนึ่งแก้วก่อนกินข้าวนะ” ครั้งนี้โม่ข่ายไม่ได้เรียกบพนักงานมา เขารินไวน์ให้กู้เหยาด้วยตัวเอง พูดว่า “ดื่มช้าๆ” “ตกลง” ปากกู้เหยาบอกตกลงแต่ว่าตัวนั้นกับไม่เชื่อฟังดื่มไวน์ในแก้วรวดเดียวหมดอีกครั้ง “ท้องว่างจะทำให้เมาง่ายนะ” “โม่ข่ายส่งสัญญาณเรียกพนักงานให้เอาอาหารมาเสิร์ฟ” โม่ข่ายให้คนจัดเตรียมสลัดผลไม้และสเต็กเนื้อสันในระดับมิเดียมเวลสองเซท ตอนนี้เวลาเกือบจะสามทุ่มแล้ว เมื่อตอนกลางวันกู้เหยาไม่ได้ทานข้าว พอสเต็กถูกนำมาเสิร์ฟเธอจึงอดใจต่อไม่ไหวเริ่มลงมือทานอาหาร แต่ว่า ตอนที่เธอทำมีดกับซ่อมกระทบกันเกิดเสียงดัง ทางด้านโม่ขายกลับเงียบเหมือนไม่ได้ลงมือทำอะไร 
已经是最新一章了
加载中