ตอนที่ 27 ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ
1/
ตอนที่ 27 ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ
ยัยตัวดี เอาหัวใจมาชดใช้หนี้ฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 27 ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ
ตนที่ 27 ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ โม่ข่ายออกแรงดึงกู้เหยาเข้ามาในอ้อมกอด ฝ่ามือหนาของเขาลูบเบาๆที่หลังของเธอ “ขอโทษครับที่ผมมาช้า” กู้เหยาคิดไม่ถึงว่าโม่ข่ายจะปรากฏตัวขึ้นมาในเวลานี้ ชั่วขณะหนึ่งเธอรู้สึกแสบจมูก น้ำตาคลอแต่ว่าเธอกลับไม่ยอมให้ตัวเองแสดงความอ่อนแอออกมา แหงนหน้ามองแล้วยิ้ม “คุณบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือคะ ทำไมถึงกลับมาก่อนกำหนดล่ะ” ในสายตาของโม่ข่ายรู้ดีว่ากู้เหยาฝืนแกล้งทำเหมือนเข้มแข็ง แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมา แค่เพิ่มน้ำหนักลงที่แขนเล็กน้อย “ผมมารับคุณกลับบ้านครับ” กู้เหยาผลักโม่ข่ายออก เงยหน้าที่อยู่ในอ้อมกอดมองเขา “ฉัน ฉันทำร้ายร่างกายคนอื่น ตอนนี้คงกลับบ้านกับคุณไม่ได้ค่ะ คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ ฉันไม่มีทางเป็นอะไรหรอกค่ะ”นิสัยของเชี่ยวหนานจิ่งนั้นกู้เหยานั้นค่อนข้างเข้าใจดี เขาสั่งให้ขังเธอสองวัน พอเขาหายโมโห ก็จะไม่สร้างเรื่องอะไรให้วุ่นวายขึ้นมาแต่ถ้าโม่ข่ายพาเธออกไป มันก็เหมือนกับตบหน้าเชี่ยวหนานจิ่ง ผลที่อาจจะเกิดขึ้นตามมากู้เหยาก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง โม่ข่ายพึ่งจะได้รับตำแหน่งประธานบริษัทช่วงซินเคอจี้เตำแหน่งของท่านประธานต้องการเสริมให้มั่นคงแข็งแรง ถ้าเชี่ยวหนานจิ่งออกมาก่อกวน อนาคตของโม่ข่ายอาจจะถูกทำลายลงได้ กู้เหยารู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาความบาดหมางส่วนตัวของเธอกับเชี่ยวหนานจิ่ง เธอไม่อยากที่จะดึงคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างโม่ข่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่อยากจะทำให้โม่ข่ายเดือดร้อนหรือได้รับอันตรายใดๆเมื่อเห็นสีหน้าโม่ข่ายเคร่งขรึม กู้เหยาจึงผลักเขาแล้วพูดอีก “โม่ข่าย ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ คุณรีบไปเถอะ” ใบหน้าเรียบเย็นของโม่ข่ายจ้องเขม็งไปที่กู้เหยา พูดเสียงทุ้มต่ำ “กู้เหยา คุณรู้จักคำว่า สามีหรือเปล่า ว่าคำว่าสามีนั้นมันแสดงถึงอะไร”บางทีในมุมมองของกู้เหยา “สามี” ก็แค่ชื่อที่อยู่ในทะเบียนสมรสแค่นั้นแต่สำหรับโม่ข่ายนั้นคำว่า “สามีมันคือหน้าที่ที่ต้องทำไปตลอดชีวิต” “ฉันรู้ค่ะว่าคุณเป็นสามีของฉัน” กู้เหยาไม่มีกะจิตกะใจมาคิดว่าโม่ข่ายอยากจะพูดอะไรกันแน่เธอจึงรีบสวนกลับไป ภายในรู้สึกแค่ว่ากลัวจะทำให้ให้โม่ข่ายเดือดร้อน เธอผลักให้เขาออกไป “โม่ข่าย คุณฟังฉันสักครั้งนะคะ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นเรื่อง”ดวงตาสีดำคู่นั้นภายใต้กรอบแว่นสีเงิน โม่ข่ายไม่ได้พูดอะไรอีก ใช้มือโอบไปที่เอวของกู้เหยาแล้วอุ้มหันตัวเดินออกไปด้านนอก หัวหน้าเฉินรีบเดินตามโม่ข่ายไป “คุณโม่ข่าย เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าคุณโม่ข่ายมีเรื่องอะไรให้ผมรับใช้เชิญพูดออกมาได้เลยนะครับ” โม่ข่ายไม่ได้หันกลับแต่พูดขึ้นว่า “หัวหน้าเฉิน ขอบคุณคุณที่ช่วยผมในคืนนี้ ไว้วันหลังผมจะเลี้ยวข้าวเป็นการตอบแทน”โม่ข่ายพูดออกมาได้น่าฟัง แต่ว่าผู้ชายคนที่ถูกเรียกว่า “หัวหน้าเฉิน” กับรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน เหงื่อไหล่แตกพลั่กๆ หัวหน้าเฉินพูด “คุณโม่ข่าย เรื่องในครั้งนี้ผมจะจัดการให้คุณพอใจอย่างแน่นอน” โม่ข่ายไม่ได้ตอบอะไรอีก อุ้มกู้เหยาเดินออกไปที่รถที่จอดอยู่หน้าประตู เมื่อใช้สายตาส่งโม่ข่ายที่อุ้มกู้เหยาขึ้นรถ สีหน้าของหัวหน้าเฉินก็เปลี่ยนไปทันที โมโหจนเอาเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆทุบลงบนผนัง “เรียกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาทุกคน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็หนีไม่พ้นความผิดนี้ไปได้” เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเรื่องดูไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย ทำใจกล้าถาม “หัวหน้าเฉินครับ ผู้หญิงคนนั้นก่อเรื่องไว้กับคุณชายเชี่ยวจากตระกูลเชี่ยว ถ้าปล่อยให้เขาพาเธอออกไปแบบนี้ พวกเราจะบอกกับคุณชายเชี่ยวว่าอย่างไรครับ” เจ้าหน้าที่คนนี้ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกฝ่ามือตบลงที่ใบหน้าอีกครั้ง หัวหน้าเฉินหน้าโกรธขึ้งด่าเสียงดัง “ตระกูลเชี่ยวน่ะหรอ ต่อหน้าคนคนนั้นตระกูลเชี่ยวก็ตระกูลเชี่ยวเถอะ ไม่รู้ซะแล้วว่ากำลังเล่นกับใครอยู่” ห้องวีไอพีโรงพยาบาลประชาชนเจียงเป่ย เชี่ยวหนานจิ่งได้รับการรายงานจากหลี่กังเสร็จ มือก็กวาดเอาเอกสารโยนใส่หน้าของหลี่กัง หลี่กังตกใจก้มหน้าต่ำพูดเสียงเบาๆ “คุณชายเชี่ยว ตาเฒ่าเฉินซื่อคนนั้นเป็นคนพาคนที่มาช่วยไปรับคุณกู้เหยาด้วยตัวเอง” “เฉินซื่อคนนั้นเป็นคนพาไปรับด้วยตัวเองหรือ มันเป็นใครใหญ่มาจากไหน” เชี่ยวหนานจิ่งกำหมัดแน่น แสดงสีหน้าโหดเหี้ยมออกมานึกถึงเฉินซื่อแล้วเขาเป็นคนรับผิดชอบดูแลเจียงเป่ยทั้งหมด แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเห็นตระกูลเชี่ยวจากจินดูอยู่ในสายตาครั้งนี้นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคนพาผู้บริหารบริษัทช่วงซินเคอจี้ไปรับกู้เหยาด้วยตัวเอง เชี่ยวหนานจิ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยว่ามันต้องมีลับลมคมในอยู่ในนั้นแน่นอน หลี่กังพูดอย่างระมัดระวัง “โม่ข่ายคนนี้…..”หลี่กังยังพูดไม่จบ เชี่ยวจิ่งหนานรีบพูดเข้าประเด็น “แกบอกว่าสกุลโม่หรือ หรือว่าจะเป็นลีโอคินจากบริษัทเซิ่งเทียน” หลี่กังรีบพูดเสริมเข้าไป “สกุลโม่นี่ก็แค่บังเอิญเฉยๆ เขาชื่อโม่ข่าย เมื่อเดือนที่แล้วพึ่งจะได้รับมอบตำแหน่งประธานบริษัทช่วงซินเคอจี้ ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ยังตรวจสอบไม่เจอว่ามีผู้มีอิทธิพลสนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่” พอได้ยินว่าคนสกุลโม่คนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเซิ่งเทียน เชี่ยวหนานจิ่งก็โมโหจนกระชากเข็มน้ำเกลือออกแล้วอาละวาดทุบทำลายเสาแขวนถุงน้ำเกลือ พร้อมกับพูดเสียงเยียบเย็น “ก็แค่ประธานบริษัทช่วงซินเคอจี้เล็กๆแห่งนั้น คิดอยากมาลองดีกับฉัน แล้วฉันจะทำให้มันไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป” หลี่กังพูดด้วยท่าทางระมัดระวังเป็นพิเศษ “คุณชายเชี่ยวที่หัวคุณยังมีแผล อย่าโมโหไปเลย ยังไงช่วงซินเคอจี้ก็ไม่รอด ถ้าคุณอยากจะจัดการไอ้โม่ข่ายนั้นมันก็ทำได้เพียงเวลาไม่ถึงนาที” “แกพูดถูก ถ้าฉันจะจัดการไอ้โม่ข่ายนั้นมันง่ายกว่าการบีบมดให้ตายสักตัวซะอีก” หัวคิ้วเชี่ยวหนานจิ่งกระตุกขึ้น พูดอย่างเย่อหยิ่ง “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะเล่นเป็นเพื่อนมันไปสักพักก่อนแล้วกัน” หลี่กังพูดขึ้นมาอีก “คุณชาย ถ้าอย่างนั้นผมจะปล่อยข่าวนี้ออกไป ว่าช่วงซินเคอจี้แอบกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎระเบียบ ตระกูลเชี่ยวกับบริษัทที่ภายใต้การบริหารของตระกูลเชี่ยวจะหยุดโครงการที่มีความร่วมมือด้วยทั้งหมด” เชี่ยวหนานจิ่งพยักหน้า “จัดเรื่องนี้ออกมาให้มันเรียบร้อย อย่าให้ใครจับได้”หลี่กังพูด “รับทราบครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย” “หลี่กัง ” เชี่ยวหนานจิ่งเรียกหลี่กังไว้ “แล้วทางเรื่องบริษัทเซิ่งเทียนจัดการไปถึงไหนแล้ว” พูดถึงบริษัทเซิ่งเทียนสีหน้าของหลี่กังก็ดูไม่จืดเลย “ลีโอคินจากบริษัทเซิ่งเทียนแต่ไหนแต่ไรมาเป็นบุคคลลึกลับอย่างยิ่ง ไม่มีใครสามารถสืบพบร่องรอยของเขาเลย ครั้งนี้มีคนพูดว่าเขามาเจียงเป่ยแต่มันก็แค่ข่าวลือ ไม่มีใครมีหลักฐานที่แน่ชัด”เชี่ยวหนานจิ่งลูบแผลที่หน้าผาก อารมณ์โมโหน้อยลงกว่าเมื่อสักครู่ไปมากกว่าครึ่งแล้ว “ส่งลูกน้องของแกออกไปตรวจสอบอีก จะต้องติดตามหาร่องรอยที่แน่ชัดของเขามาให้ได้ ครั้งนี้ถ้าไม่ได้เจอเขาอีก ฉันก็ไม่รู้จะไปบอกตาแก่ที่อยู่ทางนั้นได้ยังไง” บริษัทตระกูลเชี่ยวซื่อและบริษัทเย่ซื่อเป็นบริษัทอันดับต้นๆในประเทศจีน แต่ว่าบริษัทเซิ่งเทียนของตระกูลโม่นั้นเป็นบริษัทอันดับต้นๆของโลก สองปีมานี้ธุรกิจของบริษัทเชี่ยวซื่อไม่ค่อยกระเตื้องมาสักพัก ถ้าอยากจะทำธุรกิจขยายตัวขึ้นก็มีอยู่หนทางเดียวคือต้องไปเข้าหาตระกูลโม่ สองปีมานี้คนในตระกูลเชี่ยวต่างก็คิดหาวิธีที่จะติดต่อกับคนในตระกูลโม่ ไม่ว่าจะเป็นในต่างประเทศหรือในประเทศก็หามาตลอด แต่ว่าก็ยังคงไม่พบหนทางสองเดือนก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าลีโอคินผู้กุมบังเหียนของบริษัทเซิ่งเทียนจะกลับมาขยายกิจการในประเทศ เมืองที่เลือกจะมานั่นก็คือเมืองที่คึกคักอย่างเจียงเป่ย พอข่าวนี้แพร่ออกมา นักธุรกิจจำนวนมากก็ไหลมารวมตัวกันที่เจียงเป่ยจะเพราะด้วยความที่อยากจะเจอลีโอคินเพื่อที่จะได้ร่วมมือกับเขาหรือเหตุผลอะไรก็ตาม การได้ร่วมมือกับเขาหมายถึงการที่ไม่ต้องมากังวลเรื่องการหาเงินทุนอีกเลย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 27 ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A