ตอนที่ 28 ฝันร้ายที่แย่มาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 28 ฝันร้ายที่แย่มาก
ต๭นที่ 28 ฝันร้ายที่แย่มาก ในขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน กู้เหยาพยายามหลายครั้งที่จะพูดกับโม่ข่าย อยากจะบอกให้โม่ข่ายรับรู้ว่าเรื่องนี้มันร้ายแรงขนาดไหนแต่ว่าแค่อ้าปากก็ถูกสายตาเยือกเย็นของโม่ข่ายมองมาทำให้ตกใจจนกลืนคำพูดตัวเองลงไปในท้อง เมื่อถึงบ้านเธอดึงแขนเสื้อของโม่ข่าย และพูดอย่างระมัดระวัง “โม่ข่าย คุณฟังฉันสักครั้งนะคะ เรื่องนี้คุณไม่ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย เรื่องนี้คุณไม่สามารถควบคุมมันได้จริงๆ” โม่ข่ายมองกู้เหยา ใช้มือโอบไปจับที่หัวของกู้เหยาเพื่อให้เธอมองมาที่ดวงตาของเขา พูดเสียงอ่อนโยน “กู้เหยา เชื่อในตัวผมนะ” ประโยคสั้นๆไม่กี่คำ กลับเหมือนเติมพลังให้ไม่ขาดสายไหลเข้ามาทีละนิดละนิดสู่ภายในตัวของกู้เหยา ใบหน้าซีดเซียวของเธอค่อยๆกลับมามีเลือดฝาดขึ้น กู้เหยามองโม่ข่าย เม้มริมฝีปาก พูดอย่างระมัดระวัง “โม่ข่าย ทำไมคุณถึงไม่ถามว่าทำไมฉันถึงถูกจับไปขังไว้ที่สถานีตำรวจล่ะ” โม่ข่ายลูบใบหน้าของกู้เหยา พูดอย่างรักสงสาร “กู้เหยา ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไร คุณแค่จำไว้ว่าคุณยังมีผมอยู่ข้างหลังก็พอแล้ว” เรื่องของกู้เหยานั้น เขารู้ตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว นับได้ว่าเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนั้นด้วย เขาจำได้ว่าเมื่อสามปีก่อนนั้นพวกขี้แพ้ตระกูลเชี่ยวมันทำร้ายกู้เหยาแต่ในเวลานั้นกู้เหยายังไม่รู้จักหรือสนิทชิดเชื้อกับโม่ข่าย ทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปจัดการเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่เขาต้องเข้าไปจัดการเอง มาวันนี้กู้เหยาเป็นภรรยาของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครก็ตามมาทำให้กู้เหยาเสียใจต่อให้เป็นสายเลือดเดียวกันก็ยอมไม่ได้ กู้เหยามีคำพูดมากมายซ่อนเก็บไว้ในใจ หลายต่อหลายครั้งเธออยากจะพูดกับโม่ข่ายแต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกไป เรื่องสามปีก่อนนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอยู่ภายในใจของเธอ เธอไม่อยากจะเปิดเอาบาดแผลนั้นมาให้คนอื่นดู ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอพยายามที่จะลืมเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้น พยายามจะเดินไปข้างหน้า แต่มาวันนี้สิ่งที่เธอต้องทำก็คือทำตามที่โม่ข่ายพูด เชื่อมั่นในตัวเขา ไม่ว่าตระกูลเชี่ยวจะมีอิทธิพลขนาดไหน ไม่ว่าเชี่ยวหนานจิ่งจะใช้วิธีการอย่างไรก็ตามเธอก็จะใช้วิธีการอย่างนั้นรับมือ ตระกูลเชี่ยวจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ไม่สามารถใช้มือเดียวกีดขวางทางได้หมด เธอจะต้องเชื่อในตัวโม่ข่าย กู้เหยาถอนหายใจเงียบๆ เธอยังได้ยินเสียงทุ้มเซ็กซี่ของโม่ข่ายพูด “ผมให้คนเตรียมอาหารไว้ให้ ไปกินสักหน่อยเถอะ” กู้เหยาส่ายหัว “ฉันไม่หิวค่ะ” โม่ข่ายโอบกอดกู้เหยา “ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาบน้ำก่อน” กู้เหยาพยักหน้า กลับไปอาบน้ำที่ห้อง เมื่ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นโม่ข่ายยกถ้วยน้ำขิงเข้ามา “น้ำขิงนี้จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น คุณดื่มสักถ้วยนะ” กู้เหยารับน้ำขิงมาดื่มรวดเดียว หลังจากดื่มเสร็จจึงยิ้มอ่อนหวานส่งให้โม่ข่ายพูด “ขอบคุณนะคะ” โม่ข่ายนำถ้วยเปล่าไปวางไว้ที่ด้านข้าง ดึงผ้าห่มมาคลุมให้กู้เหยา “ดึกมากแล้ว รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้อย่าไปทำงานสายนะ” “ค่ะ กู้เหยาเชื่อฟังอย่างว่าง่ายสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม กระพริบตาดวงโตมองที่โม่ข่าย” “ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ ” โม่ข่ายนอนลงข้างๆกู้เหยา มือข้างหนึ่งจับมือของเธอไว้ อีกข้างหนึ่งตบเบาๆที่หลังของเธอ กล่อมเธอเข้านอน เดิมทีวันนี้เขากำลังคุยเรื่องโครงการที่หลินซื่อ ทันใดนั้นกลับมีสายเข้ามาบอกว่าเกิดเรื่องกับกู้เหยา ชั่วขณะนั้นเขาไม่เสียเวลารีรออะไร รีบกลับมาหาเธอ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาก็ยังคงมาช้าอยู่ดีทำให้กู้เหยาต้องถูกขังอยู่หลายชั่วโมง กู้เหยานั้นก็แค่เด็กผู้หญิงที่อายุยังไม่ครบยี่สิบปีเต็ม ตามปกติจะเข้มแข็งขนาดไหนแต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้ในใจคงจะตกใจสับสนและหวาดกลัวมาก แต่ว่าตอนที่เขาเจอกู้เหยานั้น แม้น้ำตาสักหยดเขาก็ไม่เห็นจากเธอยิ่งไปกว่านั้นยังพยายามยิ้มพูดคุยกับเขา ยิ่งกู้เหยาเข้มแข็งมากเท่าไหร่ภายในใจของโม่ข่ายก็ยิ่งอยากจะปกป้องเธอ ในฐานะที่เป็นสามีของเธอเขาหวังว่าตัวเองจะได้ดูแลกู้เหยาให้มีความสุขได้ตลอดชีวิตนี้จะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้แม้แต่น้อยอีก เมื่อแน่ใจว่ากู้เหยาหลับไปแล้วโม่ข่ายจึงค่อยๆลุกขึ้นเดินออกไปที่ห้องหนังสือเพื่อโทรศัพท์ “หลิวยอง จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ผมไม่อยากได้ยินเสียงซุบซิบนินทา” พูดจบ โม่ข่ายจึงวางโทรศัพท์ลงโดยไม่สนใจว่าคนอีกฝั่งฟังเข้าใจชัดเจนหรือไม่ กู้เหยาดูเหมือนกับจะนอนหลับไม่ค่อยสนิท ปากของเธอไม่หยุดที่จะขมุบขมิบจนทำให้ใบหน้าเล็กๆนั้นดูตึงเครียด เสียงพูดละเมอจากฝันร้ายของเธอดังขึ้นกู้เหยาฝันร้ายอีกแล้ว มันเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ในความฝันมีคนจำนวนมาชี้นิ้วมาที่ตัวเธอด่าว่าตระกูลปัญญาชนเก่าแก่ทำไมถึงเลี้ยงลูกสาวให้ไร้ยางอายขนาดนี้แม้กระทั่งแฟนของพี่สาวตัวเองก็จะแย่ง ครอบครัวที่ใกล้ชิดกับเธอที่สุดก็ยืนอยู่ข้างๆแต่กลับไม่มีใครออกมาช่วยเธอสักคน ที่ยิ่งน่ากลัวไปกว่านั้นข่าวพวกนี้ที่ออกมาก็เป็นฝีมือของคนในครอบครัวเธอเอง เธออ้าปากอยากจะอธิบายแต่พูดไม่ออกสักคำทำได้แค่มองสายตาดูถูกเหยียดหยามที่ส่งมาที่เธอฟังเสียงด่าทอเธอไม่หยุด “เหยาเหยา……” เสียงตะโกนเรียกเธอออกมาจากแม่ที่รักเธอมากที่สุด “แม่คะ……” กู้เหยาพยายามเรียกออกมาสุดเสียงเพื่อที่จะตะโกนคำนี้ออกมา ตอนนี้เหยาเหยายื่นมือออกมาอยากจะจับมือแม่ไว้ให้แน่นๆ แต่ทว่าในวินาทีต่อมาแม่ก็หันกลับมาพร้อมกับน้ำตา “ตั้งแต่เล็กจนโตลูกเป็นคนเฉลียวฉลาด พึ่งลำแข้งตัวเอง พี่สาวของลูก…..” “จะพูดมากไปทำไม ตระกูลเชี่ยวไม่มีลูกสาวที่ใช้ไม่ได้อย่างแก ” พ่อของกู้เหยาพูดประโยคนี่ออกมา ใบหน้าแต่ก่อนของพ่อกู้เหยาที่มักจะเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูเธอในเวลานี้กลับกลายเหมือนคนแปลกหน้า แปลกหน้าจนกู้เหยาคล้ายกับไม่เคยรู้จักเขามาก่อนวินาทีนี้เธอรู้สึกว่าสายใยที่บีบรัดในใจนั้นได้ขาดสะบั้นลง จิตใจเยียบเย็น เพียงเพราะว่าตั้งแต่เด็กจนโตเธอเป็นเด็กที่มีความเข้มแข็ง แค่เพราะว่าเธอตัดความสัมพันธ์กับคุณชายตระกูลเชี่ยวไปดังนั้นเธอจึงหมดประโยชน์และต้องถูกทอดทิ้งแบบนี้หรือ ทันใดนั้นกู้เหยารู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาราวกับว่าตัวเธอถูกขังอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็งมาหลายพันปีหนาวจนทำให้ตัวสั่นไหว เมื่อกู้เหยากำลังจะถูกความหนาวเย็นจากน้ำแข็งถมให้ตายมือใหญ่อบอุ่นคู่หนึ่งก็ยื่นลงมาดึงมือเธอไว้ ออกแรงดึงเธอขึ้นมาจากอุโมงค์น้ำแข็งกู้เหยาลืมตาขึ้นมาฉับพลัน ดวงตาของเธอสบเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและความรู้สึกอ่อนโยน “โม่ โม่ข่าย ”พึ่งจะตื่นจากฝันร้ายกู้เหยายังแยกไม่ค่อยออกว่าอันไหนคือความฝันอันไหนคือความจริง บางทีโลกใบนี้อาจจะไม่มีโม่ข่ายคนนี้อยู่เขาคนนี้เป็นคนที่ในจินตนาการที่เธอจินตนาการขึ้นมาเองเพื่อให้เขาอยู่ข้างๆเธอ โม่ข่ายประครองกู้เหยาเข้าสู้อ้อมกอดของตัวเองใช้ฝ่ามือตบเบาๆที่หลังของเธอท่าทางเหมือนกับกล่อมเด็ก “ผมจะเล่านิทานให้คุณฟังดีไหม” โม่ข่ายรู้ว่ากู้เหยาฝันร้ายและยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้ว่าเธอฝันถึงอะไร แต่เขากลับไม่พูดมันขึ้นมา ลองใช้วิธีของตัวเองเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ กู้เหยาอยู่ในอ้อมกอดของโม่ข่ายเงียบๆ พยักหน้าเบาๆไม่ว่าโม่ข่ายคนนี้มีอยู่จริงหรือไม่จริง ช่วงเวลานี่รู้แค่ว่าเขาทำให้เธอไม่ต้องกลัวขนาดนั้นอีกแล้ว โม่ข่ายลูบหัวของเธอ “คุณรู้ไหมว่าทำไมตาของกระต่ายจึงเป็นสีแดง” นิทานเรื่องนี้กู้เหยาเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้วแต่เธอกลับเลือกที่จะส่ายหัวอยากจะฟังเขาพูดเธอพึ่งจะส่ายหัวเสร็จก็ได้ยินโม่ข่ายใช้น้ำเสียงเซ็กซี่นั้นพูดต่อไป “เพราะว่าตอนที่ตาของกระต่ายแห้งมันไม่ได้ใช้น้ำตาเทียมดังนั้นตาจึงแดง”ต้นฉบับนิทานเปรียบเทียบเชิงสอน ถูกโม่ข่ายนำมาทำเป็นเรื่องขบขัน กู้เหยาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “สมัยก่อนตอนที่คุณเรียนหนังสือชอบนอนสัปหงกเป็นประจำใช่ไหมคะ” โม่ข่ายพยักหน้า เอาเรื่องจริงมาพูดเล่นไปเรื่อยเปื่อย “อาจะใช่”
已经是最新一章了
加载中