ตอนที่ 29 ยุติความร่วมมือ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 29 ยุติความร่วมมือ
ต๭นที่ 29 ยุติความร่วมมือ แน่นอนว่ากู้เหยาไม่รู้ว่าผลการเรียนตั้งแต่เด็กของโม่ข่ายอยู่ลำดับที่หนึ่งเสมอ เขาจบจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ซึ่งตั้งอยู่ในกลุ่มคอนเฟอเรนซ์ไอวี่ลีคและยังจบการศึกษาระดับปริญญาเอกโดยใช้เวลาน้อยกว่าคนอื่นๆหนึ่งปี “ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงถูกตีบ่อยๆ” กู้เหยารู้สึกสงสารโม่ข่ายขึ้นมา “ไม่รู้จริงๆว่าพวกผู้ชายคิดอะไรกันอยู่”เธอยังพูดอีกว่า “ตอนฉันยังเด็กฉันสอบวิชาวิทยาศาสตร์ได้ที่หนึ่งของโรงเรียน ในปีนั้นจึงถูกส่งไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของจินดู” แต่กลับไม่ได้สนใจทั้งยังไม่ได้ไปรายงานที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในจินดูนั่นกลับเลือกสาขาศิลปะที่ตัวเองชอบเรียนความฝันสูงสุดของเธอคือการออกแบบชุดแต่งงานที่สวยที่สุดในโลก อยากให้ให้ผู้หญิงทุกคนสวมชุดแต่งงานที่เธอออกแบบให้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด แต่ทว่าความฝันนี้กลับยุติลงในวันที่เธอวาดร่างการออกแบบงานชุดแต่งงานของเธอเองเมื่อสามปีก่อน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็ไม่เคยได้จับปากกาวาดภาพอีกเลยพอคิดมาถึงตรงนี้สีหน้าของกู้เหยาก็ขรึมลงชีวิตที่สงบสุขที่กว่าจะได้มานั้นถูกคนทำลายลงไปมาวันนี้เธอขลาดกลัวและน่าสมเพช แม้กระทั่งความกล้าที่จะเล่าเรื่องแต่ก่อนนั้นให้โม่ข่ายฟังยังไม่กล้าเลย เธอไม่มั่นใจถ้าว่าโม่ข่ายรู้เรื่องแล้วเขาจะยังทำตัวสบายๆเหมือนเดิมอยู่ไหม จะไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมาของเธอและสนใจแค่วันข้างหน้าจริงๆหรือ กู้เหยาหลับตาลงอยากจะออกจากอ้อมกอดของโม่ข่าย แต่ทว่าพอเริ่มขยับตัวกลับถูกโม่ข่ายกอดไว้และได้ยินเขาพูด “กู้เหยา ผมเป็นสามีของคุณนะ” เรื่องนี้โม่ข่ายเน้นย้ำอยู่หลายครั้ง กู้เหยาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองเขาภายใต้แสงไฟสีส้มใบหน้าของโม่ข่ายไม่ได้เรียบเย็นเหมือนปกติแต่เปลี่ยนเป็นมีความอ่อนโยนน้อยๆทำให้คนรู้สึกสบายใจ กู้เหยาพยักหน้าคลี่ริมฝีปากยิ้มออกมา“ฉันรู้แล้วค่ะ” “ผมเป็นสามีของคุณ” ประโยคนี้มันง่ายมาก อยากจะทำทำให้กู้เหยาเข้าใจแม้จะไม่มีความรักเขาก็จะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปในอ้อมกอดของโม่ข่ายในเวลาไม่นาน กู้เหยาก็หลับไปอย่างง่ายดายคืนนี้กู้เหยาหลับสนิทไม่นอนฝันร้ายอีกทั้งยังตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อตอนตื่นนอนโม่ข่ายก็ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างหน้าต่าง เขาได้ยินเสียงเธอตื่นนอน จึงเงยหน้าหันมามอง และยังคงพูดเหมือนปกติทุกวัน “ตื่นแล้วหรือ” ช่วงเวลาเดือนกว่าก็เป็นแบบนี้เสมอ เป็นการใช้ชีวิตแบบเรียบๆและเป็นการใช้ชีวิตแบบที่กู้เหยาต้องการมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็จะมีคนอีกคนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างตัวเอง ใช้ชีวิตเรียบง่ายค่อยๆแก่ไปด้วยกันเธอรีบลุกขึ้นมานั่ง ยิ้มอย่างเบิกบาน “คุณโม่ข่าย สวัสดีตอนเช้าค่ะ”พวกเขาทั้งสองต่างก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าเรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บางทีอาจจะเป็นแค่ฝันร้าย พอตื่นขึ้นมาก็ไม่มีอะไร บนโต๊ะอาหารเช้า กู้เหยาถามโม่ข่าย “วันนี้จะไปทำงานต่างจังหวัดหรือคะ” ในปากของโม่ข่ายยังเคี้ยวอาหารอยู่จึงไม่ได้ตอบแค่ส่ายหน้า ทุกวันนี้งานของโม่ข่ายกองเป็นภูเขาคนธรรมดาๆคงบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถจัดการได้แต่ว่าวันนี้เขาจำเป็นต้องรีบไปจัดการเรื่องของบริษัทก่อน เหมียนเหมียนเห่าขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของแม่ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้เหมียนเหมียนเหมือนถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีใครสนใจมันจึงรู้สึกไม่พอใจกู้เหยาอุ้มเหมียนเหมียนขึ้นมาเอาหน้าเข้าไปถูไถ “เหมียนเหมียน เมื่อคืนแม่ลืมซื้อของอร่อยๆมาให้ วันนี้แม่จะต้องซื้อมาให้หนูแน่ๆ” เหมียนเหมียนตอบรับด้วยการถูไถกู้เหยาหลายครั้งทั้งยังส่งเสียงอือออ น่าจะเป็นการแสดงออกมาว่าให้อภัยคุณแม่ โม่ข่ายวางตะเกียบลงหันมองมาหรี่ตาลงเล็กน้อยในใจมีมีความคิดขึ้นมาว่าหมาตัวนี้ช่างดูขัดหูขัดตาจริงๆ กู้เหยายังคงไม่ยอมนั่งรถไปทำงานกับโม่ข่าย เขาก็ไม่ได้บังคับทั้งสองคนมาถึงบริษัทด้วยเวลาไล่เลี่ยกันช่วงเช้าในเวลาทำงานประตูหน้าลิฟต์มีคนรอขึ้นลิฟต์จำนวนมากแค่เห็นโม่ข่ายสายตาของทุกคนก็พร้อมใจกันมองไปที่เขา “สวัสดีค่ะท่านประธาน” “อืมครับ” ทุกครั้งโม่ข่ายโม่ข่ายก็จะตอบขรึมๆแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับเหลียงฮุ่ยอี๋และหลิวยอง เหลือไว้แคเงาของแผ่นหลังที่ดูเย็นชาพอโม่ข่ายเดินไป ทุกคนก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ “ว้าย ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าท่านประธานนับวันยิ่งหล่อขึ้นเรื่อยๆกันนะ” อีกคนหนึ่งก็พูดตอบขึ้นอีกว่า “เมื่อกี้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าท่านประธานมองมาที่ฉันด้วยรู้สึกตื้นเต้นมากเลย”และยังมีคนพูดต่อ “พวกเธอคิดว่าภรรยาของท่านประธานจะเป็นคนยังไง จะมีเสน่ห์ขนาดไหนสามารถทำให้ท่านประธานชอบได้แถมยังขอเธอแต่งงาน” “ฉันคิดว่าจะต้องสวยและสง่ามากแน่ๆและน่าจะต้องเป็นลูกสาวของครอบมั่งมีทั้งเงินทองละชื่อเสียง” กู้เหยาได้ยินเสียงพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่พวกเขาคุยกันล้วนเป็นข่าวซุบซิบเกี่ยวกับโม่ข่ายทั้งนั้น ไม่มีใครสักคนพูดถึงเรื่องที่เธอไปทำร้ายคนตระกูลเชี่ยวแถมยังถูกจับไปขังไว้ที่สถานีตำรวจกว่าครึ่งค่อนวัน เรื่องนี้ทำให้กู้เหยาประหลาดใจมากแต่พอมาคิดดีๆอีกทีก็เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นเชี่ยวหนานจิ่งไม่มีทางใจดีที่จะช่วยเธอปิดข่าวนี้แน่นอนถ้าอย่างนั้นคนที่ทำเรื่องนี้ก็มีแค่โม่ข่ายเท่านั้นโม่ข่ายเป็นประธานของบริษัทช่วงซินเคอจี้นั้นมันถูกต้องอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าต้องเอาบริษัทช่วงซินเคอจี้มาเทียบกับบริษัทเชี่ยวซื่อมันไม่สมควรยกขึ้นมาเลย ถ้าหากว่าเชี่ยวหนานจิ่งลงมือจัดการโม่ข่ายคงไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับไปได้ เธอไม่ใช่ไม่เชื่อความสามารถของโม่ข่ายแต่รู้ถึงอิทธิพลของตระกูลเชี่ยวและวิธีจัดการของเชี่ยวหนานจิ่งเป็นอย่างดี พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้กู้เหยาก็สูดหายใจลึกๆเอาอากาศเย็นเข้าไป ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเธอจะต้องคิดหาวิธีทางไม่ให้โม่ข่ายถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้อง ในขณะที่กู้เหยากำลังเป็นกังวลก็มีข้อความส่งเข้ามาที่โทรศัพท์ เขียนว่า “ตั้งใจทำงานดีๆเรื่องทั้งหมดผมจัดการเอง” อ่านข้อความเสร็จ กู้เหยาก็กำโทรศัพท์แน่นโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่าทำแบบนี้จะสามารถรับพลังที่โม่ข่ายส่งมาให้เธอได้ หลังจากมาถึงที่ห้องทำงาน กู้เหยาถึงได้รู้ว่าช่วงซินเคอจี้ถูกยกเลิกโครงการที่ได้มาจากบริษัทซิงฮุยด้วยเหตุผลว่าบริษัทช่วงซินเคอจี้ได้โครงการนี้มาด้วยความไม่โปร่งใส เป็นอย่างที่คาดไว้กู้เหยารู้ว่าเชี่ยวหนานจิ่งไม่มีทางที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆโดยไม่ทำอะไรเลย แต่แค่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะรวดเร็วขนาดนี้สายตาของเพื่อนในห้องทำงานที่มองกู้เหยานั้นดูแปลกๆคนอื่นอาจไม่รู้ว่าเมื่อวานเธอไปที่บริษัทซิงฮุยแต่ว่าคนในห้องทำงานที่ทำอยู่นี้รู้ บางทีอาจจะมีคนรู้เรื่องแล้วก็ได้ว่าเธอทำร้ายคุณชายใหญ่ของตระกูลเชี่ยว ดังนั้นจึงใช้สายตามองเธอเหมือนเป็นคนผิดสายตาว่าร้ายเธอที่ยิ่งกว่านี้กู้เหยาก็เคยเจอมาแล้ว ดังนั้นสายตาเหล่านี้จึงไม่สามารถทำอะไรเธอได้ หลินเม่ยใช้เท้ายันที่โต๊ะทำงานทำให้เก้าอี้ก็เลื่อนมาที่ข้างกู้เหยา “กู้เหยา เมื่อวานมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” กู้เหยาบิดริมฝีปากยิ้มออกมา “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือ” “กู้เหยาพวกเราเป็นเพื่อนนร่วมงานและเพื่อนที่ดีต่อกัน ถ้าเธอไม่อยากจะพูดกับคนอื่นแต่พูดกับฉันได้นะ ฉันรับรองว่าฉันจะไม่บอกใคร” หลินเม่ยกระซิบถามเบาๆที่ข้างหูของกู้เหยา “เมื่อวานนี้เธอไปคุยเรื่องโครงการกับประธานหลิว ทำไมแค่แป๊บเดียวเขาถึงยุติความร่วมมือกับพวกเราได้”
已经是最新一章了
加载中