ตอนที่ 37 ภัยคุกคามของพี่สาว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 37 ภัยคุกคามของพี่สาว
ต๭นที่ 37 ภัยคุกคามของพี่สาว “ลีโอทำไมคุณไม่พูดอะไร”เธอพูดไปก็ทำปากยื่นปากงอทำตัวน่าสงสาร “ไม่ได้เจอฉันตั้งนานนึกไม่ถึงว่าคุณจะไม่คิดถึงฉันเลยฉันตัดสินใจแล้วว่าหลังจากนี้ไปฉันจะไม่ชอบคุณแล้วฉันจะทิ้งคุณ”พูดมาถึงตรงนี้เธอก็หัวเราะอย่างมีความสุขขึ้นมา “ลีโอถ้าหากว่าแม้กระทั่งคนอย่างฉันก็ไม่ชอบคุณแล้วคุณคิดดูคุณจะทำยังไงดูแล้วว่าคุณน่าจะโสดตลอดชีวิตแล้วล่ะเพราะว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะยอมมาอยู่กับผู้ชายเย็นชาเหมือนน้ำแข็งอย่างคุณหรอก” พูดเสร็จ เธอจึงทำเสียงจุ๊ปากสองสามครั้งและแสดงความเห็นใจอย่างลึกซึ้งต่อโชคชะตาของเขาโม่ข่ายก้าวเดินออกไปอย่างมั่นคงอุ้มเธอเข้าไปในลิฟต์และยังคงไม่สนใจเธอโพลาริสยังพูดต่อไปเรื่อยๆ “คุณดูตัวคุณสิอายุก็สามสิบปีแล้วทำไมยังไม่หาแฟนมาดูแลตัวเองอีกหรือว่าอยากทำให้ตระกูลโม่จบแค่นี้ไม่มีทายาทสืบสกุลหรือว่าคุณจะเชื่อฟังคุณปู่แล้วยอมแต่งงานกับฉัน” “หุบปาก”เสียงกัดฟันพูดลอดไรฟันออกมาอยากโยนคนขี้เมาแบบเธอไปอยู่กับคนจรจัดที่ข้างถนนจริงๆถึงแม้ว่าโม่ข่ายจะถูกเธอทำให้โมโหสุดๆแต่ก็ยังใช้แรงอุ้มโพลาริสไว้ “ลีโอคุณปล่อยฉันลงฉันเดินเองได้” พอเดินออกมาจากห้องโถงเหม่นซื่อโพลาริสก็บิดตัวจะลงจากอ้อมกอดโม่ข่ายและกระโดดลงมาโม่ข่ายก้มหน้ามองพูดเตือน “ถ้ายังไม่อยู่เฉยๆก็คอยดูละกัน” โพลาริสไม่สนคำเตือนของโม่ข่ายเงยหน้าขึ้นมองภายในอ้อมกอดของโม่ข่ายปากสีชมพูยื่นๆออกมา “มา จูบหน่อยสิ”โม่ข่ายขมวดคิ้ว มือคลายลงเตรียมจะโยนเธอออกไปโพลาริสรีบยื่นมือไปโอบรอบคอเขาไว้ “ลีโอถ้าคุณไม่จูบฉัน ฉันจะไปให้ผู้ชายคนอื่นจูบและฉันก็ยังจะไปมีความสัมพันธ์กับพวกเขาคุณคิดเอาเองละกันนะ”โม่ข่ายขมวดคิ้วกัดฟันโพลาริสยังคงพูดท้าทาย “ครั้งนี้คุณสามารถจับตัวฉันกลับไปได้ ถ้าคุณมีฝีมือก็มัดฉันไว้ดีๆไม่อย่างนั้นฉันจะหาโอกาสหนีออกไป ถึงเวลานั้นฉันจะไปทำเรื่องอะไรฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะ” ระหว่างที่พูดหางตางอนของโพลาริสไปทางด้านซ้ายเห็นกล้องถ่ายรูปที่อยู่ในระยะไกลปากโค้งงอขึ้น ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ โม่ข่ายที่อุ้มโพลาริสอยู่ต้องออกแรงลงไปอีกเล็กน้อยดวงตาแสดงออกมาว่ากำลังอดทนถ้าไม่เป็นเพราะกังวลว่าสุขภาพของเธอและจะทำกระทบกระเทือนจิตใจป่านนี้เขาจับเด็กคนนี้มัดแล้วส่งกลับอเมริกาไปแล้ว อีกทั้งเข้ารู้ดีเด็กคนนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นพูดออกมานั้นล้วนมีสิ่งไม่น่าพิศมัยแต่ว่าเธอก็กล้าทำจริงๆเขาไม่สามารถที่คอยดูเธออยู่ข้างๆได้ตลอดเวลาถ้าเธออาศัยช่วงที่เขาไม่อยู่ มันต้องแย่แน่ๆ “คุณจะไม่จูบใช่ไหม” โพลาริสยังคงวุ่นวายก่อกวน ฉวยโอกาสจังหวะที่เขาไม่ได้ระวังตัวเงยหน้าจูบที่แก้มเขา และชำเลืองมองไปที่ด้านซ้าย เห็นทางนั้นทำสัญลักษณ์มือว่าโอเคเธอจึงสบายใจเธอรู้ดีจากการพิจารณาของคนที่เธอเชิญมา พรุ่งนี้พาดหัวข่าวเธอจะกลายเป็นนักแสดงสาวโพลาริสกับผู้ชายที่คบกันลับๆทำอะไรต่อมิอะไรกันคำที่ไม่น่าฟังขนาดไหนก็คงจะเขียนออกมาหมด เธอแค่อยากจะอาศัยข่าวรักๆใคร่เหล่านี้ปล่อยออกไปอยากจะดูปฏิกิริยาของคนๆนั้นว่าจะเป็นอย่างไร ในวันนี้เธอลงทุนแสดงขนาดนี้จนสำเร็จตามเป้าหมาย โพลาริสก็อยู่นิ่งๆขยับเข้าไปในอ้อมกอดของโม่ข่ายสักพักก็หลับไปเมื่อโพลาริสเข้าไปในรถโม่ข่ายก็รีบเข้าไปนั่งลงที่ด้านข้างของเธอเขาพึ่งจะเข้ามานั่งในรถโพลาริสก็มุดเข้ามาในอ้อมกอดเขาอีกทำท่าทางเหมือนกำลังหาที่ฟุบสบายๆในอ้อมกอดเขาเหมือนกับตอนที่เธอยังอยู่กับเขาเมื่อตอนเป็นเด็กดูใบหน้านี้แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนดูภาพแมวน้อยอย่างไงอย่างงั้นสายตาที่มองโพลาริสนั้นอ่อนโยนขึ้นมาก “เด็กคนนี้ชอบทำให้คนเป็นห่วงจริงๆ”เหล่าเว่ยคนขับรถมองจากกระจกหลัง ในใจคิดว่าจะมีก็แต่คุณหนูคนนี้แหละที่ทำให้เจ้านายผู้สุขุมของเขาต้องตระหนกวุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก คนขับรถถาม “คุณชาย ไปที่ไหนครับ” โม่ข่ายพูด “กลับเซิ่งเทียนหยู้จิ๋นวัน” แต่ก่อนที่พักหลักๆของตระกูลโม่ไม่ได้อยู่ที่เจียงเป่ย เจียงเป่ยจึงไม่มีที่พักอาศัยที่แน่นอนคอนโดที่โม่ข่ายกับกู้เหยาพักอยู่ คือที่ที่ซื้อไว้ก่อนที่จะมาเจียงเป่ยใช้อยู่อาศัยชั่วคราวเซิ่งเทียนหยู้จิ๋นคืออสังหาริมทรัพย์ของเซิ่งเทียนที่พัฒนามาเป็นวิลล่าระดับสูง ตั้งอยู่ในเขตปินไห่ของเจียงเป่ยใกล้ทะเลเพราะที่อยู่นั้นอยู่ในทำเลที่ดีบวกกับสภาพแวดล้อมที่สวยงามที่จริงตอนที่ก่อสร้างวิลล่าราคาก็สูงมากอยู่แล้วแต่ก็มีคนจำนวนมากแย่งกันซื้อแต่ว่าอยากซื้อก็ใช่ว่าจะซื้อได้บริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทเซิ่งเทียนก่อสร้างโครงการไรขึ้นมา แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยขาดคนซื้อและพวกเขายังเป็นคนเลือกคนที่มาซื้อมีแค่เงินก็ซื้อไม่ได้จำเป็นต้องมีประวัติและพื้นหลังที่ดีในเซิ่งเทียนหยู้จิ๋นวันนั้นมีวิลล่าอยู่ชุดหนึ่งที่ลึกลับ มันเป็นชุดที่ชื่อโน่เยียนจู โน่เยียนจูเป็นที่ลึกลับเพราะว่าโม่ข่ายเป็นคนออกแบบด้วยตัวเองแล้วให้คนพัฒนาก่อนหนึ่งปีครึ่งโน่เยียนจูเริ่มตกแต่งใช้เวลาเกือบหนึ่งปีถึงซ่อมเสร็จตอนนี้พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว เดิมทีโม่ข่ายวางแผนจะพากู้เหยาย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน นึกไม่ถึงว่าตอนนี้กลับได้เด็กคนในอ้อมกอดนี้ที่มักก่อปัญหามา หลังจากมาถึงเซิ่งเทียนหยู้จิ๋นวัน คนรับใช้จำนวนหนึ่งก็ทยอยเข้ามาต้อนรับ “คุณชาย คุณหนูเธอ….” “ไปเตรียมชุดใหม่มาให้แล้วก็ทำความสะอาดห้องของคุณหนู” โม่ข่ายพูดจบจึงอุ้มโพลาริสเดินไปที่สระว่ายน้ำภายในห้อง เขายืนอยู่ริมสระปล่อยมือทั้งสองข้าง โยนโพลาริสที่อยู่ในอ้อมกอดลงไปในสระว่ายน้ำ เสียงตูม “ช่วยด้วย ช่วยด้วย” โพลาริสกำลังหลับสบายแหวกว่ายน้ำไปด้วยตะโกนขอความช่วยเหลือไปด้วย ผ่านไปสักพักจึงว่ายไปจุดที่น้ำตื้น เงยหน้าขึ้นมาตาเหมือนหงส์คู่นั้นแสดงความโกรธออกมา “จะฆ่าคนชิงทรัพย์หรือไง”โม่ข่ายนั่งลงที่เก้าอี้ริมสระนั่งไขว่ห้างอย่างสง่า “เธอดูเธอตอนนี้สิ ทำให้ตัวเองดูเหมือนคนก็ไม่ใช่ ผีก็ไม่ใช่ วันทั้งวันคิดแต่ก่อเรื่อง” โพลาริสไม่สนใจจับราวบันไดเพื่อจะขึ้นจากน้ำโม่ข่ายพูดเสียงเข้ม “ยืนอยู่ตรงนั้นใครให้เธอขึ้นมา” โพลาริสเริ่มแบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “ฉันอายุครบสิบแปดปีแล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับฉัน”โม่ข่ายชำเลืองจ้องไปที่เธอ “เธออายุครบสิบแปดปีแล้วเธอก็เป็นผู้ใหญ่แล้วหรือแล้วก็ใส่เสื้อผ้าแบบนั้นออกไปมั่วสุมได้หรือ” ถึงแม้ว่าโพลาริสจะไม่พอใจแต่กลับไม่กล้าที่จะปืนขึ้นมาอีกทำได้แค่เดินถอยลงไปยืนในสระว่ายน้ำอีก “ฉันหนาว” “ใส่เสื้อผ้าแบบนั้นยังรู้จักหนาวหรือ” “พี่” “เธอยังรู้หรือว่าฉันเป็นพี่ ฉันเข้าใจว่าเธอลืมไปแล้วว่าเธอนามสกุลโม่” พูดถึงน้องสาวคนนี้โม่ข่ายก็ปวดหัวมีแต่เรื่องวุ่นวาย “พี่คะ” โพลาริสเงยหน้าทำตาอ่อนหวาน ปากเล็กๆแบะออก น้ำตาเริ่มไหลหยดลงมา “หนูหนาวจริงๆนะคะ”โม่ข่ายพูดอย่างอารมณ์ดี “บอกพี่ก่อนว่ารู้สึกผิดแล้วหรือยัง”โพลาริสก้มหน้าลงกัดริมฝีปากไม่อยากยอมรับผิดโม่ข่ายเลิกคิ้วขึ้นพูดเด็ดขาด “ตอนที่เรียนเกี่ยวกับเรื่องมารยาทคงจะลืมไปหมดแล้ว ผู้ใหญ่พูดด้วยไม่ตอบได้หรือ” 
已经是最新一章了
加载中