ตอนที่ 60 ประกาศอย่างเสียงดัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 60 ประกาศอย่างเสียงดัง
ต๭นที่ 60 ประกาศอย่างเสียงดัง “อาหารมาแล้ว นั่งลงทานเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” โม่เสียวเป่าเกือบลืมไปแล้วว่าตอนนั้นเธออยากจะใช้ข่าวลือเรื่องชู้สาวของโม่ข่ายมาเล่นเกมส์ เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่โยนความผิดให้จองคุน ตระกูลโม่ไม่อนุญาตให้เจ้านายและลูกน้องทานอาหารร่วมกัน จองคุนจึงไม่กล้าจะฝ่าฝืนกฎข้อนี้ ยืนอยู่นิ่งไม่ขยับ : “คุณผู้หญิงครับ คุณทานให้อร่อยเถอะ ผมขอทานทีหลังครับ” “คุณผู้หญิงอะไรกัน บอกให้แกนั่งลงกินเป็นเพื่อนฉันหน่อยก็นั่งๆไปเถอะน่า” โม่เสียวเป่ารีบหยิบตะเกียบขึ้นมาลงมือรับประทาน กินไปพูดไป “จะว่าไป เยอะขนาดนี้อร่อยๆทั้งนั้น ฉันกินคนเดียวไม่หมดหรอก แกไม่ช่วยกินเสียดายของ” จองคุนยังคงเตือนอยู่ข้างๆอีก : “ตระกูลโม่อบรมสั่งสอนมา เวลานอนไม่ให้พูดเวลาทานข้าวไม่ให้พูด คุณทำแบบนี้ถ้าคุณชายมาเห็นเข้า จะส่งคุณไปฝึกมารยาทใหม่นะครับ” โม่เสียวเป่าเกือบสำลักในสิ่งที่จองคุนเอ่ยเตือน ตระกูลโม่ก็มีกฎระเบียบของเขา แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านโม่ เธอจำเป็นต้องทำตามกฎด้วยหรือ? เธอกลอกตาไปมา พลางจ้องมองเขา : “ถ้าแกจะเอากฎของบ้านโม่มาคุยกับฉันอีกละก็ ฉันจะส่งแกไปอยู่แอฟริกาเลยดีไหม” เห็นจองคุนปิดปากเงียบ โม่เสียวเป่าตั้งหน้าตั้งตาทานอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความภูมิใจ Leo ร้ายกาจขนาดไหน เขายังสามารถจัดการเธอได้ทั้งชีวิต หลังจากนั้นผู้หญิงอ้วนทั้งหลายก็ยังรอเขาอยู่ ...... ผ่านมาสักพักหนึ่งแล้วที่ไม่มีการเซ็นสัญญาความร่วมมือใหม่ๆเกิดขึ้น บริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยีถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกคนจิตใจกระสับกระส่าย อนาคตไม่แน่นอน ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน จ้าวจูนฉิงไม่อยู่ ทั้งแผนกต่างก็อู้งานกันเป็นแถว น้อยคนที่ยังตั้งใจทำงานอยู่ หวางเว่ยหมิงคุยโทรศัพท์ทั้งวัน ราวกับกำลังจีบสาวอยู่ : “คิดถึงคุณนะครับ” คำหวานน่าสะอิดสะเอียนแบบนี้ได้ยินอยู่ไม่ขาดสาย กู้เหยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ขนลุกขึ้นมาทันที หลินเม่ยและเฟิงจิ้นจิ้นนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ด้วยกัน ทั้งสองเล่นไปวิพากษ์วิจารณ์ไป ราวกับลืมไปว่านี่เป็นเวลาทำงาน “ที่แท้ Leomo แห่งเซิ่งเทียนหน้าตาหล่อขนาดนี้เลยหรือนี่ แต่ว่ารูปร่างหน้าตาเท่ห์ชะมัดเลย ไม่เหมือนนักธุรกิจเลยเนอะ เหมือนทหารมากกว่า” “Leomo หล่อมากเลยล่ะ แต่ว่าเมื่อเทียบกับท่านประธานโม่ของพวกเราต่างกันนิดหน่อยนะ เธอว่าผู้ชายแซ่โม่คนนั้นเขาหล่อขนาดนี้เลยไหม?” “Leomo ดูแล้วเป็นคนตรงๆ แต่ว่าข่าวในนี้บอกว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้มากเลยล่ะ เมื่อเทียบกับประธานโม่ของพวกเราที่จงรักภักดีต่อภรรยาเขา ช่างแตกต่างกันกันลิบ” หลินเม่ยและเฟิงจิ้นจิ้นวิพากษ์วิจารณ์ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆเธอเลย ต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นต่อผู้ชายสองคนนั้น แต่เธอไม่รู้ความจริงเลยว่า Leomo ในรูปกับ Leomo ตัวจริงไม่ใช่คนเดียวกัน นั่นเป็นความคิดอันชั่วร้ายของโม่เสียวเป่า ตั้งใจสร้างข่าว หลังจากที่ Leomo มาที่เมืองเจียงเป่ย ทุกๆวันจะมีข่าวใหญ่บ้างเล็กบ้างเกี่ยวกับเขา ขนาดกู้เหยาไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ยังได้ยินข่าวของเขาผ่านหูเยอะแยะ บ้างก็บอกว่าคุณชายประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย บ้างก็ว่าเป็นจักรพรรดิผู้ปฏิวัติวงการธุรกิจ บ้างก็ว่าเขาบ้าผู้หญิง เปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ทุกวันไม่เหมือนกัน...... พูดความจริง คนแบบนี้อยู่ไกลเกินเอื้อม เทียบกับเจ้านายของกู้เหยาคนนี้แล้ว แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพียงแต่ กู้เหยาได้ยินข่าวของคนคนนี้แทบทุกวัน ทำให้เธอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์มากมายในอดีต......เฉียวหนานจิ่งในตอนนั้นไม่ได้โด่งดังขนาดนี้ แต่สุดท้ายล่ะ? เมื่อคิดถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาในอดีต กู้เหยาก็อดสะเทือนใจไม่ได้ อำนาจ เงินทอง ตำแหน่ง ชื่อเสียง......เธอเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น เธอในปัจจุบันต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับโม่ข่ายไปชั่วชีวิต นึกถึงโม่ข่าย ริมฝีปากของเธอก็รู้สึกหวานซึ้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เป็นผู้ชายน่ะ เทียบกับ Leomo คืนเดียวฟาดผู้หญิงไปเรียบ 6 คน แต่โม่ข่ายของเธอดำรงชีวิตอย่างกับนักพรต เมื่อนึกถึงว่าพวกเขานอนเตียงเดียวกันมาก็นานแล้ว จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เคย...... บอกตามตรง ทุกคืนเธอรู้สึกได้ถึงความต้องการของเขา ในตอนกลางคืนอันเงียบสงบ นอนร่วมเตียงกัน ไหล่อิงแอบแนบชิดกัน ถึงแม้ลมหายใจยังสะอาดก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไร...... แรงเสียดสีปะทะกันเป็นครั้งคราว ตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง มีเพียงแสงสว่างที่ส่องประกายเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางความมืดในเวลากลางคืน ในตอนนั้น กู้เหยาได้ยินอย่างชัดเจน ลมหายใจที่ลึกและรุนแรงขึ้นของเขา และหัวใจที่เต้นรัวไปทั่วร่างของเธอ กู้เหยาไม่อยากจะคิดแบบนั้น ราวกับคาดหวังไป แต่ก็ขี้อายไปด้วย เขาปรากฏตัวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น เข้ามาแต่งแต้มสีสันในชีวิตที่มัวหมองของเธอ...... นำมาซึ่งความสุขแบบกะทันหัน ความยินดีแบบกะทันหัน ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยวางใจ นี่เราฝันไปหรือเปล่านะ? ถึงแม้เขาจะหายใจแรงอยู่ข้างๆ หัวใจเธอก็กำลังเต้นรัว ถึงแม้กลางดึกเธอยังคงท่องชื่อของเขาซ้ำไปซ้ำมาอย่างตั้งใจ แต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะยอมรับความจริงแบบกะทันหันนั้นได้ ไม่ต้องพูดถึง ในความฝันนั้นยังมีเฉียวหนานจิ่งคอยถืออาวุธอยู่ฝั่งตรงข้าม คอยเปิดโปงแผลเป็นอันน่าเกลียดของเธอ หัวเราะเยาะเธอ “โม่ข่าย” คิดถึงเฉียวหนานจิ่งขึ้นมา กู้เหยาอดไม่ได้ที่จะท่องชื่อของเขาซ้ำไปซ้ำมาเบาๆ ริมฝีปากและปลายลิ้นยังคงร้องเรียกชื่อ 2 พยางค์นั้นออกมา สั้น กระชับ แต่กลับทำให้กู้เหยารู้สึกมั่นใจอย่างมาก ราวกับยิ่งท่อง ยิ่งฝังอยู่ในใจ ฮัมม...... ราวกับเรียกกู้เหยาให้ตื่นจากภวังค์ ทันใดนั้นโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานก็สั่นขึ้น จนทำให้มือที่จับเม้าส์อยู่สะดุ้งขึ้นทันที เวลาทำงาน เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ กู้เหยารู้สึกขัดใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นโม่ข่ายโทรมา เมื่อรับสายก็ได้ยินเสียงอันไพเราะของเขา : “ทำอะไรอยู่ครับ?” “เปล่า เปล่าคะ” น้ำเสียงของโม่ข่ายนุ่มลึกและน่าฟัง “อ่อ?” เสียงที่ออกมาจากหูโทรศัพท์ช่างน่ากลัวจริงๆ แค่พยางค์ง่ายๆ ยังต้องทวนหลายครั้ง ทำให้เธออดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ กู้เหยารู้สึกได้ถึงเลือดฝาด อดไม่ได้ที่จะแก้มแดงขึ้นมา แต่ต้องแกล้งทำเป็นสงบนิ่งไว้ : “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “คุณนายโม่ครับ ถึงเวลาทานข้าวแล้ว” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง แต่กู้เหยารู้สึกได้ถึงรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้น เขาเรียกเธอ คุณนายโม่ นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ไม่กล้าเปิดเผย กู้เหยาอดยิ้มไม่ได้ แววตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ น้ำเสียงพูดอย่างมีความสุข : “คุณโม่คะ รับทราบแล้วคะ” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง กู้เหยารู้สึกเกรงขึ้นมาทันที คิดว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ขณะที่กำลังจะอธิบายต่อ เสียงอันอบอุ่นก็ดังลอดเข้ามาในหู “อยากเดินไปพร้อมกันไหมครับ?” เขาพูดขึ้น ในน้ำเสียงนั้นปรากฏความอ่อนโยนและระมัดระวังในแบบที่กู้เหยาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขารอคอยคำตอบของเธออยู่ เขาหวังว่าเธอจะตอบรับ กู้เหยาคิด ทันใดนั้นเธอก็คิดว่าไม่สนใจอะไรแล้ว ไม่สนใจสายตาของคนอื่น ประกาศเสียงดังออกไปว่า......ฉันคือคุณนายโม่คะ 
已经是最新一章了
加载中